“อาชีพนักแสดง เป็นเหมือนศาสตร์อย่างหนึ่ง ถ้าทำได้แล้ว ต่อให้ไม่ได้ทำอีกเป็นเวลานาน แต่เมื่อกลับมาลองทำอีกครั้ง ยังไงก็ทำได้”
นาทีนี้ต้องบอกเลยว่า กบ-สุวนันท์ คงยิ่ง นั้นสามารถทวง “บัลลังก์นางเอกเจ้าน้ำตา” ตลอดกาลของเธอกลับมาครองได้อีกครั้ง แม้จะห่างหายจากวงการบันเทิงไปนานกว่า 7 ปี เพื่อทำหน้าที่ดูแลครอบครัว เมื่อสบโอกาสเจอบทถูกใจ มีหรือนางเอกมากฝีมือคนนี้จะปฏิเสธ รีบตบปากรับคำกลับมาปล่อยของด้านการแสดงให้นางเอกรุ่นน้องในวงการได้เห็นอีกครั้ง ในละคร “น้ำเซาะทราย” ของค่ายดาราวิดีโอ ที่แซ่บตั้งแต่บทละครยันฝีไม้ลายมือการแสดงที่ยังคงแรงดีไม่มีตก กับบทนางเอกเจ้าน้ำตาทำคนดูอินบ่อน้ำตาแตกท่วมจอไปตามๆ กัน
หรือจะเถียง! กบ-สุวนันท์ คงยิ่ง เธอคือ...ตำนาน “นางเอกเจ้าน้ำตา” เบอร์ 1 ของไทย
++ เพราะคิดถึง...จึงกลับมา
วันนี้ในวัยใกล้เลข 4 ทว่า กบ-สุวนันท์ ยังคงสวยสะพรั่งใบหน้าดูอ่อนกว่าวัย บอกว่า ไม่ได้รับงานละครมานานมาก กว่า 7 ปี เพราะทันทีที่เธอเข้าพิธีแต่งงานกับ บรู๊ค-ดนุพร ปุณณกันต์ เธอก็ผันตัวเองไปทำหน้าที่แม่บ้านที่แสนดีคอยดูแลเอาใจใส่คุณสามี และลูกๆ ทั้ง 2 คนของเธอ เมื่อเวลาเหมาะ ทุกอย่างลงตัว ประกอบกับเจอบทที่ชอบเธอจึงกลับมาแสดงละครอีกครั้งด้วยความคิดถึง
“กบรู้สึกว่ากบไม่ได้เล่นละครมานานพอมารับเล่นละครเรื่องน้ำเซาะทราย ตอนแรกที่ละครออกอากาศยอมรับเลยว่าตื่นเต้นมาก รอลุ้นว่าละครจะเป็นยังไง และเนื่องจากละครเรื่องนี้เป็นละครเฉพาะกลุ่มสำหรับผู้ใหญ่หน่อย ตัวเราเองก็รอลุ้นว่ากระแสจะเป็นอย่างไร คนดูจะชอบมั้ย แต่เมื่อละครออนแอร์แล้วเสียงตอบรับดีมาก เราก็ดีใจ”
แต่กว่าจะได้หวนมารับงานแสดงอีกครั้งของ กบ-สุวนันท์ ไม่ใช่จู่ๆ มีบทมาเสนอ เธอตอบรับ จากนั้นเปิดกล้องแสดงเลย เพราะกว่าจะตกลงเรื่องเวลา เรื่องคิวกันได้ต้องผ่านการพูดคุยและวางแผนมาเป็นปีๆ
“ต้องบอกว่าการที่กบเลือกรับละครในช่วงนี้เป็นจังหวะที่พอดีมากกว่า สำหรับละครเรื่องน้ำเซาะทราย ได้มีการพูดคุยกันมาเป็นปีๆ แล้ว แต่เนื่องจากช่วงนั้นจังหวะในเรื่องของการเลี้ยงลูกยังไม่ลงตัว พอได้มีการพูดคุยกันอีกครั้งหนึ่ง เราก็มานั่งคิดว่าจังหวะตอนนี้ลูกชายคนเล็กเริ่มจะโตสามารถไปโรงเรียนได้แล้ว ดังนั้นจึงมีเวลามากขึ้น ประกอบกับตัวกบเองได้มีการพูดคุยกับพี่หลุยส์-สยม สังวริบุตร ว่ากบสามารถถ่ายละครได้เฉพาะวันเสาร์กับวันอาทิตย์เท่านั้น และละครที่กบจะรับเล่นพี่หลุยส์ต้องเป็นผู้กำกับให้ด้วย เมื่อทุกอย่างลงตัวจึงรับเล่น ”
สำหรับการเลือกรับละครน้ำเซาะทราย เป็นละครเรื่องแรกในการคัมแบควงการบันเทิง นักแสดงมากฝีมือ บอกว่า เธอรู้สึกว่าด้วยวัยของเธอในขณะนี้สามารถเข้ากันได้พอดีกับบทบาทของตัวละครในเรื่อง รวมถึงตัวละครที่ส่งมาให้รับเล่นในลักษณะแบบนี้นั้นไม่ได้มีเยอะ เมื่อมีบทดีๆ ผ่านเข้ามา และทุกอย่างลงตัวจึงเลือกรับเล่น ประกอบกับตัวกบเองและตัวละครนั้นมีส่วนที่ใกล้เคียงกันอยู่บ้าง เธอจึงไม่ต้องปรับอะไรเยอะมาก เพียงแต่จะโฟกัสในเรื่องของอารมณ์ให้ดูเป็นผู้ใหญ่สมวัย ดูผ่านอะไรมามากขึ้น
อีกทั้งการได้กลับมาเล่นละครคู่กับคู่ขวัญสุดฟินอย่าง หนุ่ม-ศรราม เทพพิทักษ์ อีกครั้งหลังจากไม่เจอกันนาน พอได้มาทำงานร่วมกันอีกยิ่งทำงานง่ายขึ้นเพราะจังหวะการเล่นละครเข้ากันได้ดี
หรือจะเถียง! กบ-สุวนันท์ คงยิ่ง เธอคือ...ตำนาน “นางเอกเจ้าน้ำตา” เบอร์ 1 ของไทย
++ เคาะสนิมการแสดง ประกอบร่างด้วยจิตวิญญาณ
เพราะว่างเว้นการเล่นละครไปนาน เมื่อกลับมาทำงาน กบ-สุวนันท์ เผยว่า ไม่ใช่ง่ายๆ เลยในช่วงแรก เพราะการแสดงต้องทำต่อเนื่องกัน ในช่วงวินาทีเดียวกันนั้นต้องพูดทั้งบท ดูบล็อกกิ้งว่าต้องมูฟจากตรงไหนไปตรงไหน รวมถึงต้องมีอารมณ์ร่วมด้วย โดยวันแรกที่เข้าฉาก ด้วยความตื่นเต้นมาก ส่งผลให้ทำไม่ได้เลยถูกสั่งคัทเป็น 10 กว่าเทก ไม่รู้จะทำยังไงดี รู้สึกยากและบทค่อนข้างยาว อีกทั้งตัวเราเองก็ไม่ได้เล่นละครมานานจึงพยายามรวบรวมสมาธิ ค่อยๆ ประกอบร่าง ใจเย็นๆ สู้ไปทีละส่วน
แต่เนื่องจากอาชีพนักแสดง เป็นเหมือนศาสตร์อย่างหนึ่ง คล้ายการขี่จักรยาน หรือ การขับรถ ถ้าทำได้แล้ว ต่อให้ไม่ได้ทำอีกเป็นเวลานาน เมื่อกลับมาลองทำอีกครั้ง ยังไงก็ทำได้อยู่แล้ว ดังนั้นเมื่อกลับมารับเล่นละครอีกครั้ง แน่นอนว่ากบทำได้ เพียงแต่ต้องค่อยๆ เกลา ค่อยๆ หาหนทาง
จากความตั้งใจ ทุ่มเทในการทำงานมาแต่ไหนแต่ไรของนักแสดงมากฝีมือ ส่งผลให้ชื่อของ กบ-สุวนันท์ ถูกพูดถึงหนาหูอีกครั้งในโลกโซเชียลฯ ถึงฝีมือการแสดงซีนอารมณ์ที่กบสามารถสื่ออารมณ์ออกมาได้ทั้งสีหน้า แววตา ความเจ็บปวด ความเสียใจ ความโกรธ ผสมปนกันแล้วกลั่นออกมาในซีนเดียว ถึงขนาดหลายคนยกให้เป็น The Best scene ดรามากันเลยทีเดียว พร้อมคำชมเชยว่าฝีมือการแสดงของเธอยังคงแรงดีไม่มีตกเลย
“ต้องขอบคุณผู้กำกับและนักแสดงร่วมคนอื่นๆ ด้วย การทำงานมันไม่ได้มีแค่เราคนเดียว เราต้องทำงานกับทุกฝ่ายที่เกิดขึ้น ณ เวลานั้น แล้วผู้กำกับช่วยได้มากในเรื่องของการอธิบายอารมณ์ รวมถึงนักแสดงคนอื่นๆ ก็ช่วยรับส่งอารมณ์กันเป็นอย่างดี”
สำหรับตัวกบเองคิดว่า เราโชคดีที่ไม่ได้รับงานละครมานาน ทำให้เราลืมเทคนิคการแสดงไป บางครั้งการที่เราทำงานเยอะ ถ่ายละครติดกันเป็นเวลานาน ร่างกายความรู้สึกจะทำงานแบบออร์โตเมติก คือทำให้เราชินกับตรงนั้น ส่งผลให้แสดงได้โดยที่ไม่ต้องมีอารมณ์อะไรเลย ไม่ต้องคิด ไม่ต้องนึก
แน่นอนละครเก่าๆ ที่ผ่านมา กบ-สุวนันท์ เล่าว่า เวลาทำงานเราทำเต็มที่ตลอดทุกครั้งและใส่อารมณ์แบบจัดเต็ม แต่ในบางทีเราเองอาจจะไม่รู้ตัว ดังนั้นเมื่อหยุดทำงานไป 7 ปี สิ่งต่างๆ เหล่านี้ได้หายไปหมด เมื่อกลับมาทำใหม่ สิ่งที่เกิดขึ้นมันคือความสมจริง การที่เราเอาความรู้สึกตอนนี้ใส่ลงไปว่าตอนนี้รู้สึกแบบนี้ เห็นภาพแบบนี้ แล้วก็ทำมันออกไป ส่งผลให้ได้ความสมจริงมากขึ้น
ประกอบกับการเป็นคนทำอะไรด้วยความ “ตั้งใจขั้นขีดสุดในการทำงาน” ทุกครั้ง เฉกเช่นละครเรื่องน้ำเซาะทราย เมื่อเราใส่ความตั้งใจลงไปสุดๆ ทำเต็มที่ ใส่สุดพลังที่มี ภาพ อารมณ์ ความรู้สึกจึงถูกส่งออกมาอย่างที่ทุกคนได้เห็นกัน
“ ดีใจมากที่คนดูชอบละคร และเอ่ยชม ใครชมเราก็ต้องดีใจทั้งนั้น ช่วยให้เราหายเหนื่อยในสิ่งที่เราทุ่มเท และตั้งใจทำลงไป แต่ก็อยากจะบอกว่าสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นมาเหล่านี้ กบทำด้วยตัวกบเองคนเดียวไม่ได้ ต้องรวมถึงนักแสดง ทีมงาน ผู้กำกับ มีส่วนร่วมมากที่จะทำให้มันเกิดขึ้น”
หรือจะเถียง! กบ-สุวนันท์ คงยิ่ง เธอคือ...ตำนาน “นางเอกเจ้าน้ำตา” เบอร์ 1 ของไทย
หรือจะเถียง! กบ-สุวนันท์ คงยิ่ง เธอคือ...ตำนาน “นางเอกเจ้าน้ำตา” เบอร์ 1 ของไทย
++ อย่าดูแต่ดูละคร ต้องสะท้อนดูตัวเองด้วย
เป็นอีกหนึ่งละครไทยที่สะท้อนสังคมปัจจุบันได้เป็นอย่างดี สำหรับละครน้ำเซาะทราย โดยกบมองว่า ในละครไม่มีใครผิดหรือถูกไปซะหมด เพราะทุกคนมีส่วนร่วมที่จะทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นตัวคุณวรรณนรี (กบ-สุวนันท์) ที่จู้จี้ จุกจิก เจ้ากี้เจ้าการ เป็นครูตลอดเวลา หรือว่าจะเป็นคุณภีม (ศรราม) ที่ไม่รู้จักยับยั้งชั่งใจ รวมถึงตัวพุดกรอง (เจี๊ยบ-โสภิตนภา) ที่ไม่รู้จักยับยั้งชั่งใจ ไม่รู้จักอดทน
สิ่งต่างๆ เหล่านี้เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วทำให้เห็นได้เลยว่า ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นองค์ประกอบทุกคนมีส่วนทั้งนั้น ฉะนั้นถ้าเราจะสะท้อนไปถึงสังคมในสมัยนี้ก็ต้องบอกว่า ไม่มีใครที่จะถูกไปหมด และไม่มีใครที่จะผิดหมดเช่นกัน เกิดอะไรขึ้นเราต้องย้อนกลับมาดูตัวเรา ว่าเราทำได้ดีมากน้อยแค่ไหนมีส่วนไหนที่เราต้องปรับปรุงตัวเราเองบ้าง ต้องมีการพูดคุยกัน
ดังนั้นในสังคมที่เกิดขึ้นทุกวันนี้นั้นมีอยู่แล้วว่า การที่ผู้ชายจะไปมีคนอื่นเพราะสาเหตุอะไร ตัวผู้หญิงเองก็ต้องกลับมามองตัวเราเองว่าเรามีอะไรบกพร่อง ควรแก้ไขตรงไหน อย่างไรดี เพราะปัญญาที่เกิดขึ้นมาในสังคมตอนนี้ค่อนข้างเยอะ และผลกระทบที่เกิดขึ้นมานั้นจะตกไปอยู่ที่ลูก เพราะปัญหาที่เกิดทำให้ทุกคนนั้นจมอยู่แต่ในความทุกข์ ทำให้สังคมทั่วไปอยู่ในอารมณ์ อึนๆ เทาๆ หม่นๆ
ฉะนั้นแล้ว กบอยากให้คนที่ดูละครเรื่องนี้แล้วลองกลับไปดูครอบครัวของตัวเอง คนที่ยังไม่มีครอบครัวก็สามารถดูเป็นตัวอย่าง แม้กระทั่งคนที่มีแฟนก็ดูไว้เพราะผลกระทบเหล่านี้สามารถทำให้เกิดปัญหาต่างๆ มาได้ หรือว่ายังเด็กอยู่สามารถดูไว้เป็นตัวอย่างเมื่อวันใดที่เรามีครอบครัวเราควรที่จะทำตัวอย่างไร น้ำเซาะทรายเป็นละครที่สะท้อนสังคมได้ดีมาก
ดังเช่นครอบครัวของกบ สิ่งสำคัญเลย คือ การพูดคุยกัน เพราะกบกับพี่บรู๊คมีอะไรจะคุยกันค่อนข้างเยอะ และเราก็พูดกันเสมอว่า “มีอะไรต้องบอกกัน” เพราะบางครั้งเราไม่สามารถเดาใจกับอีกฝ่ายหนึ่งได้ มีอะไรต้องพูด อย่าเก็บ เพราะมันจะสะสม ปัญหาที่เกิดขึ้นมาในเรื่องนั้นเกิดขึ้นมาจากการที่ตัวคุณภีมไม่พูดอะไรเลย เก็บสะสมมาเรื่อยๆ จนถึงจุดที่มีใครสักคนสาดของเข้ามาใส่ แล้วระเบิดออกมา ทำให้พร้อมที่จะไปทันที เหมือน “กองทรายโดนน้ำก็กระจายไป”
“ถ้าวันหนึ่งเป็นครอบครัวกบ และพี่บรู๊คเกิดไปมีคนใหม่จริงๆ เราต้องพอใจซึ่งกันและกันก่อน ไม่ต้องถึงขนาดรักกันดี จับมือกันแน่น แฮปปี้ เมื่อมีคนอื่นเข้ามาแล้วไปซะอย่างนั้น อันนี้ก็คงเป็นนิสัยส่วนตัว เราไปว่าอะไรเขาคงไม่ได้ อยากไปก็ เชิญ!! แต่กบคิดว่าหากพี่บรู๊คจะไปมีคนอื่นจริงๆ ก่อนอื่นเราต้องมาคุยกันก่อน เพราะอย่างที่บอกว่าเราสองคนมีอะไรจะเปิดใจคุยกัน เคลียร์ปัญหากันเลย แต่หากคุยกันแล้ว ปรับปรุงได้มั้ย ถ้าปรับปรุงไม่ได้ หลังจากนั้นเราค่อยว่ากัน”
++ ไม่คิดเสียดาย20 กว่าปีเลือกเป็น “นักแสดง”
เส้นทางการเป็นนักแสดงของ กบ-สุวนันท์ เริ่มจากการที่ภรรยาเพื่อนของคุณพ่อ (ภาวิต นักเขียนบทโทรทัศน์) เผอิญเห็นรูปของเธอจากการทำกิจกรรมตอนเรียนอยู่ ม.2 อายุเพียง 13 ปี ได้ชักชวนให้เธอมาลองเป็นนักแสดงดู
จากจุดเริ่มต้นในครั้งนั้นทำให้เธอโลดแล่นบนเส้นทางมายาสร้างชื่อเสียงเป็นที่รู้จักมากว่า 20 ปี เริ่มต้นจากการแสดงละครพื้นบ้านจักรๆ วงศ์ๆ ต่อมาได้เริ่มแสดงละครเรื่องแรกคือ ผยอง ในปี พ.ศ. 2536 ตามมาด้วย ดาวพระศุกร์ ที่ถือได้ว่าสร้างชื่อเสียงให้กับ กบ-สุวนันท์ ถึงขนาดถูกขึ้นทำเนียบ “นางเอกยอดนิยม” คนใหม่ตั้งแต่นั้นมา รวมทั้ง สายโลหิต, ด้วยแรงอธิษฐาน, ทัดดาวบุษยา, ลูกตาลลอยแก้ว นางทาส ศิลมณี และเรือนซ่อนรัก เป็นต้น
เพราะรักในการเป็นนักแสดง แม้การเดินทางในเส้นทางสายนี้ของนางเอกตลอดกาลจะไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ หลายครั้งหลายคราเธอต้องฟันฝ่าอุปสรรคกว่าจะเจอปลายทาง
จนวันนี้เมื่อเธอได้ลองคิดย้อนกลับไปถึงอดีตวัยเยาว์ เธอยังคงตอบด้วยเสียงหนักแน่นเช่นเคยว่า “ไม่เสียดาย” เลย ที่ยอมเหนื่อยทำงานตั้งแต่เด็ก ทำงานทุกวันตลอด 7 วัน ถ่ายละครตั้งแต่ 7 โมงเช้ายันตี 5 ไม่เคยได้ไปไหน ไม่เคยไปเที่ยวห้าง ไม่เคยไปเที่ยวต่างจังหวัด หรือไม่เคยได้ไปเที่ยวกับเพื่อนๆ เลย แต่สิ่งที่เราเลือกทำนั้น “มันคุ้มค่ามาก” เพราะ “โอกาส” ที่เธอได้รับมานั้นไม่ใช่ทุกคนจะมี และไม่ได้ทุกคนจะทำได้ ฉะนั้นสิ่งที่ผ่านมาเธอรู้สึกว่าเป็นสิ่งที่ดีมากในชีวิตเรา ไม่คิดเสียดายเวลาที่เราไม่ได้ใช้ในตอนนั้นเลย
“กบเป็นคนหนึ่งที่มีความรู้สึกว่าเป็นคนไม่ทิ้งโอกาส เมื่อมีใครหยิบยื่นโอกาสมาให้ก็พร้อมที่จะลองอยู่เสมอ เมื่อลองแล้วชอบก็ทำต่อ แต่หากไม่ชอบก็ไม่เป็นไร เมื่อได้ลองมาแสดงดูก็สนุกดี พอทำแล้วมีชื่อเสียง จึงทำต่อเนื่องมาเรื่อยๆ เท่านั้นเอง”
หรือจะเถียง! กบ-สุวนันท์ คงยิ่ง เธอคือ...ตำนาน “นางเอกเจ้าน้ำตา” เบอร์ 1 ของไทย
หรือจะเถียง! กบ-สุวนันท์ คงยิ่ง เธอคือ...ตำนาน “นางเอกเจ้าน้ำตา” เบอร์ 1 ของไทย
"หรือจะเถียง! กบ-สุวนันท์ คงยิ่ง เธอคือ...ตำนาน “นางเอกเจ้าน้ำตา” เบอร์ 1 ของไทย"
นาทีนี้ต้องบอกเลยว่า กบ-สุวนันท์ คงยิ่ง นั้นสามารถทวง “บัลลังก์นางเอกเจ้าน้ำตา” ตลอดกาลของเธอกลับมาครองได้อีกครั้ง แม้จะห่างหายจากวงการบันเทิงไปนานกว่า 7 ปี เพื่อทำหน้าที่ดูแลครอบครัว เมื่อสบโอกาสเจอบทถูกใจ มีหรือนางเอกมากฝีมือคนนี้จะปฏิเสธ รีบตบปากรับคำกลับมาปล่อยของด้านการแสดงให้นางเอกรุ่นน้องในวงการได้เห็นอีกครั้ง ในละคร “น้ำเซาะทราย” ของค่ายดาราวิดีโอ ที่แซ่บตั้งแต่บทละครยันฝีไม้ลายมือการแสดงที่ยังคงแรงดีไม่มีตก กับบทนางเอกเจ้าน้ำตาทำคนดูอินบ่อน้ำตาแตกท่วมจอไปตามๆ กัน
หรือจะเถียง! กบ-สุวนันท์ คงยิ่ง เธอคือ...ตำนาน “นางเอกเจ้าน้ำตา” เบอร์ 1 ของไทย
++ เพราะคิดถึง...จึงกลับมา
วันนี้ในวัยใกล้เลข 4 ทว่า กบ-สุวนันท์ ยังคงสวยสะพรั่งใบหน้าดูอ่อนกว่าวัย บอกว่า ไม่ได้รับงานละครมานานมาก กว่า 7 ปี เพราะทันทีที่เธอเข้าพิธีแต่งงานกับ บรู๊ค-ดนุพร ปุณณกันต์ เธอก็ผันตัวเองไปทำหน้าที่แม่บ้านที่แสนดีคอยดูแลเอาใจใส่คุณสามี และลูกๆ ทั้ง 2 คนของเธอ เมื่อเวลาเหมาะ ทุกอย่างลงตัว ประกอบกับเจอบทที่ชอบเธอจึงกลับมาแสดงละครอีกครั้งด้วยความคิดถึง
“กบรู้สึกว่ากบไม่ได้เล่นละครมานานพอมารับเล่นละครเรื่องน้ำเซาะทราย ตอนแรกที่ละครออกอากาศยอมรับเลยว่าตื่นเต้นมาก รอลุ้นว่าละครจะเป็นยังไง และเนื่องจากละครเรื่องนี้เป็นละครเฉพาะกลุ่มสำหรับผู้ใหญ่หน่อย ตัวเราเองก็รอลุ้นว่ากระแสจะเป็นอย่างไร คนดูจะชอบมั้ย แต่เมื่อละครออนแอร์แล้วเสียงตอบรับดีมาก เราก็ดีใจ”
แต่กว่าจะได้หวนมารับงานแสดงอีกครั้งของ กบ-สุวนันท์ ไม่ใช่จู่ๆ มีบทมาเสนอ เธอตอบรับ จากนั้นเปิดกล้องแสดงเลย เพราะกว่าจะตกลงเรื่องเวลา เรื่องคิวกันได้ต้องผ่านการพูดคุยและวางแผนมาเป็นปีๆ
“ต้องบอกว่าการที่กบเลือกรับละครในช่วงนี้เป็นจังหวะที่พอดีมากกว่า สำหรับละครเรื่องน้ำเซาะทราย ได้มีการพูดคุยกันมาเป็นปีๆ แล้ว แต่เนื่องจากช่วงนั้นจังหวะในเรื่องของการเลี้ยงลูกยังไม่ลงตัว พอได้มีการพูดคุยกันอีกครั้งหนึ่ง เราก็มานั่งคิดว่าจังหวะตอนนี้ลูกชายคนเล็กเริ่มจะโตสามารถไปโรงเรียนได้แล้ว ดังนั้นจึงมีเวลามากขึ้น ประกอบกับตัวกบเองได้มีการพูดคุยกับพี่หลุยส์-สยม สังวริบุตร ว่ากบสามารถถ่ายละครได้เฉพาะวันเสาร์กับวันอาทิตย์เท่านั้น และละครที่กบจะรับเล่นพี่หลุยส์ต้องเป็นผู้กำกับให้ด้วย เมื่อทุกอย่างลงตัวจึงรับเล่น ”
สำหรับการเลือกรับละครน้ำเซาะทราย เป็นละครเรื่องแรกในการคัมแบควงการบันเทิง นักแสดงมากฝีมือ บอกว่า เธอรู้สึกว่าด้วยวัยของเธอในขณะนี้สามารถเข้ากันได้พอดีกับบทบาทของตัวละครในเรื่อง รวมถึงตัวละครที่ส่งมาให้รับเล่นในลักษณะแบบนี้นั้นไม่ได้มีเยอะ เมื่อมีบทดีๆ ผ่านเข้ามา และทุกอย่างลงตัวจึงเลือกรับเล่น ประกอบกับตัวกบเองและตัวละครนั้นมีส่วนที่ใกล้เคียงกันอยู่บ้าง เธอจึงไม่ต้องปรับอะไรเยอะมาก เพียงแต่จะโฟกัสในเรื่องของอารมณ์ให้ดูเป็นผู้ใหญ่สมวัย ดูผ่านอะไรมามากขึ้น
อีกทั้งการได้กลับมาเล่นละครคู่กับคู่ขวัญสุดฟินอย่าง หนุ่ม-ศรราม เทพพิทักษ์ อีกครั้งหลังจากไม่เจอกันนาน พอได้มาทำงานร่วมกันอีกยิ่งทำงานง่ายขึ้นเพราะจังหวะการเล่นละครเข้ากันได้ดี
หรือจะเถียง! กบ-สุวนันท์ คงยิ่ง เธอคือ...ตำนาน “นางเอกเจ้าน้ำตา” เบอร์ 1 ของไทย
++ เคาะสนิมการแสดง ประกอบร่างด้วยจิตวิญญาณ
เพราะว่างเว้นการเล่นละครไปนาน เมื่อกลับมาทำงาน กบ-สุวนันท์ เผยว่า ไม่ใช่ง่ายๆ เลยในช่วงแรก เพราะการแสดงต้องทำต่อเนื่องกัน ในช่วงวินาทีเดียวกันนั้นต้องพูดทั้งบท ดูบล็อกกิ้งว่าต้องมูฟจากตรงไหนไปตรงไหน รวมถึงต้องมีอารมณ์ร่วมด้วย โดยวันแรกที่เข้าฉาก ด้วยความตื่นเต้นมาก ส่งผลให้ทำไม่ได้เลยถูกสั่งคัทเป็น 10 กว่าเทก ไม่รู้จะทำยังไงดี รู้สึกยากและบทค่อนข้างยาว อีกทั้งตัวเราเองก็ไม่ได้เล่นละครมานานจึงพยายามรวบรวมสมาธิ ค่อยๆ ประกอบร่าง ใจเย็นๆ สู้ไปทีละส่วน
แต่เนื่องจากอาชีพนักแสดง เป็นเหมือนศาสตร์อย่างหนึ่ง คล้ายการขี่จักรยาน หรือ การขับรถ ถ้าทำได้แล้ว ต่อให้ไม่ได้ทำอีกเป็นเวลานาน เมื่อกลับมาลองทำอีกครั้ง ยังไงก็ทำได้อยู่แล้ว ดังนั้นเมื่อกลับมารับเล่นละครอีกครั้ง แน่นอนว่ากบทำได้ เพียงแต่ต้องค่อยๆ เกลา ค่อยๆ หาหนทาง
จากความตั้งใจ ทุ่มเทในการทำงานมาแต่ไหนแต่ไรของนักแสดงมากฝีมือ ส่งผลให้ชื่อของ กบ-สุวนันท์ ถูกพูดถึงหนาหูอีกครั้งในโลกโซเชียลฯ ถึงฝีมือการแสดงซีนอารมณ์ที่กบสามารถสื่ออารมณ์ออกมาได้ทั้งสีหน้า แววตา ความเจ็บปวด ความเสียใจ ความโกรธ ผสมปนกันแล้วกลั่นออกมาในซีนเดียว ถึงขนาดหลายคนยกให้เป็น The Best scene ดรามากันเลยทีเดียว พร้อมคำชมเชยว่าฝีมือการแสดงของเธอยังคงแรงดีไม่มีตกเลย
“ต้องขอบคุณผู้กำกับและนักแสดงร่วมคนอื่นๆ ด้วย การทำงานมันไม่ได้มีแค่เราคนเดียว เราต้องทำงานกับทุกฝ่ายที่เกิดขึ้น ณ เวลานั้น แล้วผู้กำกับช่วยได้มากในเรื่องของการอธิบายอารมณ์ รวมถึงนักแสดงคนอื่นๆ ก็ช่วยรับส่งอารมณ์กันเป็นอย่างดี”
สำหรับตัวกบเองคิดว่า เราโชคดีที่ไม่ได้รับงานละครมานาน ทำให้เราลืมเทคนิคการแสดงไป บางครั้งการที่เราทำงานเยอะ ถ่ายละครติดกันเป็นเวลานาน ร่างกายความรู้สึกจะทำงานแบบออร์โตเมติก คือทำให้เราชินกับตรงนั้น ส่งผลให้แสดงได้โดยที่ไม่ต้องมีอารมณ์อะไรเลย ไม่ต้องคิด ไม่ต้องนึก
แน่นอนละครเก่าๆ ที่ผ่านมา กบ-สุวนันท์ เล่าว่า เวลาทำงานเราทำเต็มที่ตลอดทุกครั้งและใส่อารมณ์แบบจัดเต็ม แต่ในบางทีเราเองอาจจะไม่รู้ตัว ดังนั้นเมื่อหยุดทำงานไป 7 ปี สิ่งต่างๆ เหล่านี้ได้หายไปหมด เมื่อกลับมาทำใหม่ สิ่งที่เกิดขึ้นมันคือความสมจริง การที่เราเอาความรู้สึกตอนนี้ใส่ลงไปว่าตอนนี้รู้สึกแบบนี้ เห็นภาพแบบนี้ แล้วก็ทำมันออกไป ส่งผลให้ได้ความสมจริงมากขึ้น
ประกอบกับการเป็นคนทำอะไรด้วยความ “ตั้งใจขั้นขีดสุดในการทำงาน” ทุกครั้ง เฉกเช่นละครเรื่องน้ำเซาะทราย เมื่อเราใส่ความตั้งใจลงไปสุดๆ ทำเต็มที่ ใส่สุดพลังที่มี ภาพ อารมณ์ ความรู้สึกจึงถูกส่งออกมาอย่างที่ทุกคนได้เห็นกัน
“ ดีใจมากที่คนดูชอบละคร และเอ่ยชม ใครชมเราก็ต้องดีใจทั้งนั้น ช่วยให้เราหายเหนื่อยในสิ่งที่เราทุ่มเท และตั้งใจทำลงไป แต่ก็อยากจะบอกว่าสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นมาเหล่านี้ กบทำด้วยตัวกบเองคนเดียวไม่ได้ ต้องรวมถึงนักแสดง ทีมงาน ผู้กำกับ มีส่วนร่วมมากที่จะทำให้มันเกิดขึ้น”
หรือจะเถียง! กบ-สุวนันท์ คงยิ่ง เธอคือ...ตำนาน “นางเอกเจ้าน้ำตา” เบอร์ 1 ของไทย
หรือจะเถียง! กบ-สุวนันท์ คงยิ่ง เธอคือ...ตำนาน “นางเอกเจ้าน้ำตา” เบอร์ 1 ของไทย
++ อย่าดูแต่ดูละคร ต้องสะท้อนดูตัวเองด้วย
เป็นอีกหนึ่งละครไทยที่สะท้อนสังคมปัจจุบันได้เป็นอย่างดี สำหรับละครน้ำเซาะทราย โดยกบมองว่า ในละครไม่มีใครผิดหรือถูกไปซะหมด เพราะทุกคนมีส่วนร่วมที่จะทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นตัวคุณวรรณนรี (กบ-สุวนันท์) ที่จู้จี้ จุกจิก เจ้ากี้เจ้าการ เป็นครูตลอดเวลา หรือว่าจะเป็นคุณภีม (ศรราม) ที่ไม่รู้จักยับยั้งชั่งใจ รวมถึงตัวพุดกรอง (เจี๊ยบ-โสภิตนภา) ที่ไม่รู้จักยับยั้งชั่งใจ ไม่รู้จักอดทน
สิ่งต่างๆ เหล่านี้เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วทำให้เห็นได้เลยว่า ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นองค์ประกอบทุกคนมีส่วนทั้งนั้น ฉะนั้นถ้าเราจะสะท้อนไปถึงสังคมในสมัยนี้ก็ต้องบอกว่า ไม่มีใครที่จะถูกไปหมด และไม่มีใครที่จะผิดหมดเช่นกัน เกิดอะไรขึ้นเราต้องย้อนกลับมาดูตัวเรา ว่าเราทำได้ดีมากน้อยแค่ไหนมีส่วนไหนที่เราต้องปรับปรุงตัวเราเองบ้าง ต้องมีการพูดคุยกัน
ดังนั้นในสังคมที่เกิดขึ้นทุกวันนี้นั้นมีอยู่แล้วว่า การที่ผู้ชายจะไปมีคนอื่นเพราะสาเหตุอะไร ตัวผู้หญิงเองก็ต้องกลับมามองตัวเราเองว่าเรามีอะไรบกพร่อง ควรแก้ไขตรงไหน อย่างไรดี เพราะปัญญาที่เกิดขึ้นมาในสังคมตอนนี้ค่อนข้างเยอะ และผลกระทบที่เกิดขึ้นมานั้นจะตกไปอยู่ที่ลูก เพราะปัญหาที่เกิดทำให้ทุกคนนั้นจมอยู่แต่ในความทุกข์ ทำให้สังคมทั่วไปอยู่ในอารมณ์ อึนๆ เทาๆ หม่นๆ
ฉะนั้นแล้ว กบอยากให้คนที่ดูละครเรื่องนี้แล้วลองกลับไปดูครอบครัวของตัวเอง คนที่ยังไม่มีครอบครัวก็สามารถดูเป็นตัวอย่าง แม้กระทั่งคนที่มีแฟนก็ดูไว้เพราะผลกระทบเหล่านี้สามารถทำให้เกิดปัญหาต่างๆ มาได้ หรือว่ายังเด็กอยู่สามารถดูไว้เป็นตัวอย่างเมื่อวันใดที่เรามีครอบครัวเราควรที่จะทำตัวอย่างไร น้ำเซาะทรายเป็นละครที่สะท้อนสังคมได้ดีมาก
ดังเช่นครอบครัวของกบ สิ่งสำคัญเลย คือ การพูดคุยกัน เพราะกบกับพี่บรู๊คมีอะไรจะคุยกันค่อนข้างเยอะ และเราก็พูดกันเสมอว่า “มีอะไรต้องบอกกัน” เพราะบางครั้งเราไม่สามารถเดาใจกับอีกฝ่ายหนึ่งได้ มีอะไรต้องพูด อย่าเก็บ เพราะมันจะสะสม ปัญหาที่เกิดขึ้นมาในเรื่องนั้นเกิดขึ้นมาจากการที่ตัวคุณภีมไม่พูดอะไรเลย เก็บสะสมมาเรื่อยๆ จนถึงจุดที่มีใครสักคนสาดของเข้ามาใส่ แล้วระเบิดออกมา ทำให้พร้อมที่จะไปทันที เหมือน “กองทรายโดนน้ำก็กระจายไป”
“ถ้าวันหนึ่งเป็นครอบครัวกบ และพี่บรู๊คเกิดไปมีคนใหม่จริงๆ เราต้องพอใจซึ่งกันและกันก่อน ไม่ต้องถึงขนาดรักกันดี จับมือกันแน่น แฮปปี้ เมื่อมีคนอื่นเข้ามาแล้วไปซะอย่างนั้น อันนี้ก็คงเป็นนิสัยส่วนตัว เราไปว่าอะไรเขาคงไม่ได้ อยากไปก็ เชิญ!! แต่กบคิดว่าหากพี่บรู๊คจะไปมีคนอื่นจริงๆ ก่อนอื่นเราต้องมาคุยกันก่อน เพราะอย่างที่บอกว่าเราสองคนมีอะไรจะเปิดใจคุยกัน เคลียร์ปัญหากันเลย แต่หากคุยกันแล้ว ปรับปรุงได้มั้ย ถ้าปรับปรุงไม่ได้ หลังจากนั้นเราค่อยว่ากัน”
++ ไม่คิดเสียดาย20 กว่าปีเลือกเป็น “นักแสดง”
เส้นทางการเป็นนักแสดงของ กบ-สุวนันท์ เริ่มจากการที่ภรรยาเพื่อนของคุณพ่อ (ภาวิต นักเขียนบทโทรทัศน์) เผอิญเห็นรูปของเธอจากการทำกิจกรรมตอนเรียนอยู่ ม.2 อายุเพียง 13 ปี ได้ชักชวนให้เธอมาลองเป็นนักแสดงดู
จากจุดเริ่มต้นในครั้งนั้นทำให้เธอโลดแล่นบนเส้นทางมายาสร้างชื่อเสียงเป็นที่รู้จักมากว่า 20 ปี เริ่มต้นจากการแสดงละครพื้นบ้านจักรๆ วงศ์ๆ ต่อมาได้เริ่มแสดงละครเรื่องแรกคือ ผยอง ในปี พ.ศ. 2536 ตามมาด้วย ดาวพระศุกร์ ที่ถือได้ว่าสร้างชื่อเสียงให้กับ กบ-สุวนันท์ ถึงขนาดถูกขึ้นทำเนียบ “นางเอกยอดนิยม” คนใหม่ตั้งแต่นั้นมา รวมทั้ง สายโลหิต, ด้วยแรงอธิษฐาน, ทัดดาวบุษยา, ลูกตาลลอยแก้ว นางทาส ศิลมณี และเรือนซ่อนรัก เป็นต้น
เพราะรักในการเป็นนักแสดง แม้การเดินทางในเส้นทางสายนี้ของนางเอกตลอดกาลจะไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ หลายครั้งหลายคราเธอต้องฟันฝ่าอุปสรรคกว่าจะเจอปลายทาง
จนวันนี้เมื่อเธอได้ลองคิดย้อนกลับไปถึงอดีตวัยเยาว์ เธอยังคงตอบด้วยเสียงหนักแน่นเช่นเคยว่า “ไม่เสียดาย” เลย ที่ยอมเหนื่อยทำงานตั้งแต่เด็ก ทำงานทุกวันตลอด 7 วัน ถ่ายละครตั้งแต่ 7 โมงเช้ายันตี 5 ไม่เคยได้ไปไหน ไม่เคยไปเที่ยวห้าง ไม่เคยไปเที่ยวต่างจังหวัด หรือไม่เคยได้ไปเที่ยวกับเพื่อนๆ เลย แต่สิ่งที่เราเลือกทำนั้น “มันคุ้มค่ามาก” เพราะ “โอกาส” ที่เธอได้รับมานั้นไม่ใช่ทุกคนจะมี และไม่ได้ทุกคนจะทำได้ ฉะนั้นสิ่งที่ผ่านมาเธอรู้สึกว่าเป็นสิ่งที่ดีมากในชีวิตเรา ไม่คิดเสียดายเวลาที่เราไม่ได้ใช้ในตอนนั้นเลย
“กบเป็นคนหนึ่งที่มีความรู้สึกว่าเป็นคนไม่ทิ้งโอกาส เมื่อมีใครหยิบยื่นโอกาสมาให้ก็พร้อมที่จะลองอยู่เสมอ เมื่อลองแล้วชอบก็ทำต่อ แต่หากไม่ชอบก็ไม่เป็นไร เมื่อได้ลองมาแสดงดูก็สนุกดี พอทำแล้วมีชื่อเสียง จึงทำต่อเนื่องมาเรื่อยๆ เท่านั้นเอง”
หรือจะเถียง! กบ-สุวนันท์ คงยิ่ง เธอคือ...ตำนาน “นางเอกเจ้าน้ำตา” เบอร์ 1 ของไทย
หรือจะเถียง! กบ-สุวนันท์ คงยิ่ง เธอคือ...ตำนาน “นางเอกเจ้าน้ำตา” เบอร์ 1 ของไทย