[CR] กระทู้อวดดี ตอนที่ 2 : เรียนรู้ที่จะ “นก”

ด้วยวลีที่ว่า “เด็ดยอดไม้ สะเทือนถึงปีกนก” ที่ยังไม่มีปราชญ์ท่านไหนเคยกล่าวไว้ และถึงมีก็ไม่รู้ว่าใครกล่าวไว้บ้างแล้ว
เราคงเห็นความสัมพันธ์ของสิ่งหนึ่งสิ่งที่ผกผันและ ส่งผลกระทบต่ออีกหนึ่งสิ่งไม่โดยตรงก็ทางใดทางหนึ่ง   วันนี้กระทู้อวดดี
อยากเชิญทุกท่านมาร่วมกิจกรรม BIRD WALK ซึ่งจัดโดยสมาคมอนุรักษ์นกและธรรมชาติแห่งประเทศไทย โดยทั้งปีสมาคม
จะจัดกิจกรรมศึกษาดูนแบบนี้ตลอดใครสนใจลองไปติดตามกันได้  วันที่ไปร่วมกิจกรรมที่ ผมเลือกไปที่สวนวชิรเบญจทัศหรือ
สวนรถไฟ  ด้วยความตั้งใจว่า ถ้าเรารู้จักเรียนรู้เรื่องของนก ...เราจะไม่มีวัน นก ในทางความสัมพันธ์ ! (ฟังดูไม่เข้ากันใช่ไหม - -)



     กิจกรรมเดินชมนกในสวนรถไฟ นี้เริ่มเปิดให้ลงทะเบียนตั้งแต่ 07.30 น. โดยจะมีคณะกรรมการบริหารสมาคม ฯ ช่วยอำนวย
ความสะดวกและคอยเป็นพี่เลี้ยงในการให้ความรู้เรื่องนก กับผู้เข้าร่วมกิจกรรม แต่ว่าวันที่ผมไปนั้นก็wม่รู้อิโหน่อิเหน่ เดินท่อม ๆ
ไปเข้าร่วมซึ่งเห็นว่าแต่ละคนที่มาร่วมกิจกรรมพกพาทั้งเลนส์กล้องถ่ายรูปที่เรียกว่าโคตะระยาว  กับกล้องสองตาดูนกมากันหมด
เหลือเพียงผมแค่คนเดียวที่ไม่มีอุปกรณ์ ก็ได้ความว่าผู้ที่มาร่วมกิจกรรมสามารถขอยืมอุปกรณ์ในการดูนกที่โต๊ะลงทะเบียนได้
(จะบอกหนุ่ม ๆ เถอะว่าวันที่ไปนะ สาว ๆ มาเดินดูนกเยอะมาก ! หนุ่มไหนเคยนกไปร่วมกิจกรรมนี้เลยเชื่อผม ปล.มีหลักฐาน !)



สำหรับหนุ่มสาวที่กลัวแดด สมาคมเขาก็จะแนะนำให้ใส่เสื้อแขนยาวมา เพราะว่าไม่มีครีมกันแดดแจกนะจ๊ะ ตลอดเส้นทางศึกษา
ดูนกรอบสวนรถไฟ ผมสังเกตว่าจะมีเด็ก ๆ ให้ความสนใจในการเข้าร่วมกิจกรรมโดยมีพ่อแม่ผู้ปกครองพามา เอาเข้าจริงผมก็มอง
แต่ผู้ปกครองนั่นแหละครับ เพราะหลายท่านยังสาวยังสวย อะแฮ่ม !!! ระยะเวลาของกิจกรรมก็แล้วแต่ใครก้าวช้าก้าวเร็ว วันที่ไป
นั้นใช้เวลาราว ๆ สามชั่วโมงก็แยกย้ายกลับบ้านได้


มาที่เรื่องของ “นก” คุณวัทธิกร โสภณรัตน์ ครูผู้สอนดูนกและเป็นหนึ่งในกรรมการสมาคมบริหารสมาคมอนุรักษ์นกและธรรมชาติ
แห่งประเทศไทย บอกกับผมว่า “นกเป็นสิ่งสำคัญ เป็นเหมือนทำนองความสุขในเสียงเพลงของคนเมือง  แล้วนกก็ยังเป็นสัตว์ที่
ชี้วัดสิ่งแวดล้อมอย่างหนึ่ง ถ้าตรงไหนไม่มีนกก็เป็นส่งสัญญาณได้ว่าสภาพแวดล้อมตรงนั้นกำลังมีปัญหา”
(มาดูบรรยากาศกันครับ)






ด้วยความที่ไม่ค่อยอินในอารมณ์ว่าการแค่เฝ้ามองดูนกมันจะมีความสุขตรงไหน(วะ) ? จึงอยากรู้ก็ได้มีโอกาสคนที่มาร่วมกิจกรรม
ซึ่งหลายคนเล่าให้ฟังในทำนองว่า การดูนกไม่ต่างจากการเลี้ยงสัตว์ แต่ปราศจากความเป็นเจ้าเข้าเจ้าของ แล้วก็ไม่ใช่การเอานก
มาอยู่ในบ้านของเรา แต่เราต้องเข้าไปอยู่ในบ้านของนก เพื่อจะได้มองเห็นชีวิตเขา แล้วจะเกิดความประหลาดใจกับบ้านกับสีสันต์
ที่สวยงามของนกที่มีมากมายหลากหลายชนิด ผมจึงสงสัยว่า  ถ้าหากนกบางประเภทบางสายพันธุ์หายไปจากกรุงเทพฯ คนเมือง
อย่างเราจะรู้ตัวไหม แล้วมันจะไปสำคัญอะไรกับพวกเรา  คุณวัทธิกร ก็ให้ความเห็นที่น่าสนใจว่า


“การหายไปของนกหนึ่งสายพันธุ์ สองสายพันธุ์ไม่อาจสร้างหายนะกับระบบนิเวศน์เราอยู่แล้ว แต่เราจะเสียใจไหมถ้าวันหนึ่งคนที่
เคยเห็น คนที่เคยรักจากไปโดยไม่รู้ว่าจะกลับมาเมื่อไหร่”  พอได้ฟังอะไรแบบนี้ผมรู้สึกอยากรู้เรื่องนกขึ้นมาทันทีจึงตั้งหน้าตั้งตา
เรียนรู้อย่างเต็มที่ จนวันนั้นได้รู้จักนกหลายตัวมากขึ้น มาดูกันว่าผมเจอนกอะไรบ้าง !






แต่ตัวสำคัญคือเจ้าตัวนี้ครับ ! เรียกได้ว่าเป็ฯพระเอกของวัน คือ นกยางกรอกพันธุ์อินเดีย (India pond heron)
ที่วิทยากรบอกว่าไม่มาปรากฏตัวที่กรุงเทพนานมากแล้ว !!  เรียกได้ว่าใครเห็นก็ต้องคว้ากล้องออกมาถ่ายให้ไว





จนจบกิจกรรม ผมได้ถามรับรู้ความเคลื่อนไหวของสมาคมอนุรักษ์นกและธรรมชาติแห่งประเทศไทย มากขึ้นและรู้สึกถึง
ความน่าสนใจในตัวสมาคม ก็อดไม่ได้ที่จะสงสัยว่าทำไมเขาต้องมารวมตัวกันเป็นสมาคม จนได้รับคำตอบว่า “การที่คน
จะเรียงร้อยกันมารวมเป็นสมาคม เป็นภาคประชาสังคมไม่ใช่เรื่องยากเพียงแค่รักในเรื่องเดียวกันแล้วมีกิจกรรมที่คล้าย ๆ
กันก่อน พอมันมีความรักความชอบในสิ่งเดียวกัน   มันก็จะเกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้  การติดตามการเปลี่ยนแปลงของ
สภาพแวดล้อม แล้วถ้าเกิดความเปลี่ยนแปลงที่กระทบต่อสิ่งแวดล้อมมาก ๆ ก็ต้องกระทบกับนก มันก็จะมีกลุ่มคนที่คอย
ศึกษาเรื่องผลกระทบ เป็นคนศึกษาข้อมูลช่วยรัฐเพื่อให้เกิดข้อมูลอย่างรอบด้าน”


มาถึงตรงนี้น่าสนใจว่าโครงการเมกะโปรเจคท์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นแบบบนลงล่างในบ้านเมืองนี้กระทบต่อ นก ไปแล้วกี่ชีวิต
แต่ผมเชื่อได้ว่าการรวมตัวกันเป็นสมาคม หรือภาคประชาสังคม  แบบตัวอย่างของสมาคมอนุรักษ์นกและธรรมชาติแห่ง
ประเทศไทยคงไม่ใช่การรวมกันเพื่อขัดขวางการพัฒนาของรัฐเป็นแน่นอน



ตลอดหนึ่งวันของการดูนก ผมรู้สึกว่าอย่างน้อยการที่เราจะเริ่มหลงรักอะไร มันคงไม่ใช่ถูกบังคับให้รัก หรือรักโดยที่ยังไม่รู้จัก
...ที่สำคัญใครจะไปรู้ว่าใจกลางเมืองอย่างสวนรถไฟเดินทางไปมาสะดวก อย่างนี้ก็ยังมีกิจกรรมที่มากกว่าปั่นจักรยาน หรือ
ออกกำลังกาย ที่สำคัญยังพากันมาเป็ฯครอบครัวโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายได้ ขึ้น มันน่าชื่นใจจริง ๆ สุดท้ายหนึ่งสิ่งที่อยากจะบอก
ว่าใคร ๆ ก็ทำดีได้ และที่สำคัญภาคประชาสังคมใคร ๆ ก็เป็นได้ !




ชื่อสินค้า:   thai civil society
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่