[CR] มินิทริปจากหาดใหญ่สู่วัดช้างให้...ไปกับพี่ฟรีค่ารถไฟ

สวัสดีชาวพันทิปทุกคนค่ะ ได้แต่ส่องกระทู้ที่คนอื่นตั้งมานาน วันนี้ฤกษ์งามยามดีวันพระใหญ่ วิสาขบูชาเดย์ ก็เลยอยากจะลองมาตั้งกระทู้รีวิวกับเค้าดูบ้าง และเนื่องจากวันนี้เป็นวันพระ และเป็นวันหยุดก็เลยคิดกันกับครอบครัวว่าจะเดินทางไปไหนดีน้าาา ที่ชิคๆ คูลๆ ไปเช้าเย็นกลับได้แบบไม่เหนื่อยเกินไป จนสุดท้ายก็เลยมาลงเอยที่วัดช้างให้ จริง ๆ เมื่อวานนี้ที่ปัตตานีมีข่าวระเบิดที่บิ๊กซี แต่...แล้วไง? ใครแคร์? ก็ยังสตรวองยืนยันที่จะไปเช่นเดิม อย่างที่ภาษาใต้เค้าเรียกกันว่า "แถก"

ว่าแล้วก็มาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า เริ่มต้นการเดินทางด้วยการไปจองตั๋วรถไฟ "ฟรี" ออกจากบ้านตั้งแต่  6 โมงเช้า ล้างหน้า แปรงฟัน แต่ยังไม่ได้อาบน้ำ แฮร่ๆ
ก็แค่จะไปเช็คตั๋วเองนี่เนอะ ค่อยกลับมาอาบละกัน พอดีว่าบ้านเรากับสถานีรถไฟอยู่ไม่ไกลกันมากสามารถเดินไปถึง ปรากฏว่าพอไปถึงก็มีรถเที่ยว 7 โมงเช้ามาจอดรออยู่พอดี เป็นรถดีเซลรางที่น่าจะมาจาก กทม. แต่รอบนี้คงไม่ทันค่ะ เพราะสมาชิกที่บ้านยังไม่พร้อม เลยเลือกเป็นเที่ยว 10.18 น. ขบวน 451 นครศรีธรรมราช - สุไหงโกลกแทน แต่ยังไม่สามารถจองตั๋วล่วงหน้าได้นะคะ เพราะตั๋วรถไฟฟรีนั้น ต้องมารับครึ่งชั่วโมงก่อนเวลารถออกค่ะ ถ้ามาก่อนเจ้าหน้าที่เค้าก็จะไม่จ่ายตั๋วให้ถ้ายังไม่ถึงเวลา ก็เลยกลับบ้านไปเตรียมตัว อาบน้ำ กินข้าว เตรียมเสบียงไปกินบนรถไฟ พอเกือบ 9 โมง ก็ได้ฤกษ์ออกจากบ้านเดินไปสถานีรถไฟเพื่อไปรับตั๋วฟรี

พอถึงสถานีรถไฟก็ไปติดต่อเค้าท์เตอร์ขายตั๋วโดยยื่นบัตรประชาชนให้เจ้าหน้าที่พร้อมด้วยแจ้งสถานีปลายทางที่เราจะลง ซึ่งก็คือ "วัดช้างให้" นั่นเองค่ะคุณ และนี่ก็คือหน้าตาตั๋วที่ได้รับมาค่ะ

ในตั๋วบอกเวลาถึงคือ 11.59 น. เดี๋ยวเรามาดูกันค่ะ ว่าความเป็นจริงจะถึงกี่โมง

หลังจากนั้นก็มานั่งรอรถไฟ ซึ่งเมื่อใกล้เวลา พี่เจ้าหน้าที่ก็บอกให้ย้ายไปรอที่ชานชาลาที่ 3

และนี่ก็คือข้าวเหนียวไก่ ซึ่งเหมือนจะเป็นของกินที่ต้องมีขายตามสถานีรถไฟทุกที่

ยืนรอได้ซักพักรถไฟก็มาค่ะ ทีแรกนึกว่าจะมาเลท แต่ไม่เลยจ้าาาา เที่ยวนี้มาตรงเวลาดีมาก จะประทับใจรถไฟไทยก็วันนี้แหละ ฮ่าๆๆ

และนี่ก็คือโฉมหน้าผู้ร่วมชะตากรรมค่ะ พวกเราเลือกขึ้นตู้ท้ายๆ เพราะตู้แรกๆ จะเป็นเก้าอี้ไม้แบบที่นั่งเป็นคู่ คนจะค่อนข้างเต็ม ไม่มีที่นั่ง  ก็เลยเดินมาเรื่อยๆเจนจอตู้ว่างและที่นั่งเป็นเบาะด้วย ก็รีบกระโดดขึ้นเลยจ้า ก็นั่งสบายไปตามราคาอ่ะเนอะ เฮ้ยยย แต่เราโอเคอ่ะแกร๊

พอขึ้นรถไฟมาซักพัก เวลา 10.30 น. รถไฟก็ออกจากชานชาลา

ใช้เวลาประมาณ 15 นาที ก็ถึงสถานีแรก คือ สถานีนาม่วงค่ะ และ
Next Station >> ควนมีด ถึง ณ เวลา 11.15 น.

สถานีที่ 3 จะนะ ถึง ณ เวลา 11.30 น.

สถานีที่ 4 ท่าแมงลัก ถึง ณ เวลา 11.40 น.

รถออกมาได้ซักพักก็เริ่มหลับกันบ้างอะไรบ้างอมยิ้ม12

สถานีที่ 5 เกาะสะบ้า ถึง ณ เวลา 11.55 น.

ปู๊นนน ปู๊นนนนอมยิ้ม17อมยิ้ม01

สถานีที่ 6 เทพา ถึง ณ เวลา 12.10 น.

มาเจอแม่ค้าขายข้าวที่สถานีนี้ แกงเขียวหวานในหม้อใบนั้นน่ากินมาก ไม่รู้ว่าเพราะหิวด้วยรึเปล่า เพราะตอนนี้ก็เที่ยงแล้วด้วยได้เวลากินข้าวพอดี ฮ่าๆๆๆ แต่เสียดายที่รถจอดแค่แปปเดียว ซื้อไม่ทัน เลยอดกิน ก็ต้องทนหิว หิ้วท้องกันต่อไปจ้าาา เดินทางต่อ ปู๊น ปู๊นนนนน และแล้วก็มาถึง....
สถานีที่ 7 ตาแปด ถึง ณ เวลา 12.20 น.

สถานีนี้เป็นสถานีสุดท้ายก่อนที่เราจะเดินทางเข้าสู่ จ.ปัตตานี เมืองงามสามวัฒนธรรม นั่นเองคร๊าบบบ ท่านผู้ชม

ตอนนี้เราก็เริ่มตื่นเต้นนิดนึง เพราะอีกไม่กี่สถานีก็ใกล้จะถึงจุดหมายปลายทางของเราแล้ว ใช้เวลาเดินทางประมาณ 15 นาทีเราก็มาถึง
สถานีที่ 8 สถานีปัตตานี หรือ เดิมมีชื่อว่า สถานีโคกโพธิ์  ซึ่งถึง ณ เวลา 12.35 น.

เข้าเมืองตาหลิ่ว ก็ต้องหลิ่วตาตามสินะ เจ้าหลานตัวดีก็เลยหยิบผ้าขนหนูที่พกมาด้วยไปโพกหัวเล่น คงนึกสนุกตามประสาเด็กๆอมยิ้ม02

และแล้วเราก็มาถึงสถานีรองสุดท้าย ก่อนที่จะถึงวัดช้างให้
สถานีที่ 9 สถานีนาประดู่ ซึ่งถึง ณ เวลา 12.45 น.

นั่งรถต่อไปอีกนิดนึง ในที่สุดพวกเราก็มาถึง "วัดช้างให้" ซักที เย้ๆๆๆ ได้ลงจากรถไฟแล้ว
สถานีที่ 10 Final Destination สถานีวัดช้างให้ ถึง ณ เวลา 12.50 น. จากที่หน้าตั๋วลงเวลาถึง 11.59 น. ก็ถือว่าเลทไปประมาณหนึ่งชั่วโมง
แต่ก็โอเคนะ นั่งรถไฟตากลมชมวิวมาเรื่อยๆ ก็ไม่ได้รู้สึกเบื่ออะไรค่ะ สนุกดี อีกอย่างวันนี้อากาศดีด้วย ไม่ค่อยมีแดด แต่ก็เริ่มมีฝนโปรยนิดหน่อยตอนใกล้ถึงสถานีนี้

พอลงจากสถานี ก็ต้องเดินข้ามทางรถไฟ

และเดินต่อไปยังวัดอีกนิดหน่อย

ถึงแว้วววววจ้าาาาาา

เสียดายที่ตอนนี้มีการบูรณะพระเจดีย์ ก็เลยอดเก็บรูปสวยๆ แต่ไม่เป็นไร ครั้งหน้าเราจะมาใหม่ แบบนี้ก็ดูมีเสน่ห์ไปอีกแบบเนอะ หรอ? ฮ่าๆ

ตอนนี้เราจะเข้าไปสักการะหลวงปู่ทวดกันค่ะ ซึ่งถือได้ว่าเป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีผู้ศรัทธาจำนวนมาก รวมทั้งตัวเราเองด้วย
ตรงนี้เป็นบริเวณหน้าโบสถ์

ก็จะมีแก๊งค์เด็กๆ คอยนั่งจัดเรียงรองเท้าหน้าโบสถ์ให้วางเป็นระเบียบเรียบร้อย

พอเข้าไปด้านในโบสถ์ ก็จะเจอช้าง แบบนี้ 2 ตัวซ้ายขวาก่อนเป็นอันดับแรก

เดินเข้าไปอีกนิดหน่อย ก็จะเจอรูปหล่อหลวงปู่ทวดค่ะ ก็ทำการสักการะท่าน พร้อมเสี่ยงเซียมซีซักหน่อยละกัน


ทางด้านขวามือก็จะมีโอ่งน้ำมนต์ โอ่งใหญ่มาก เราก็พรมหัว ปะหน้า แล้วก็เอาใส่ขวดกลับบ้านไป 1 ขวดเล็ก เพื่อความเป็นสิริมงคล

มะกี้เสี่ยงเซียมซีไป ได้หมายเลข 1 ก็เดินออกมาหาคำทำนายที่ลิ้นชักด้านหน้า แต่หมายเลข 1 หมดอ่ะ อดดูคำทำนาย แต่แม่ชีท่านนี้บอกว่าเบอร์ 1 ดี ฟันธงเลย ไม่ต้องอ่านก็ได้ ก็เลยรู้สึกดีใจเล็กน้อยแต่ก็ยังไม่เท่าที่ควร เพราะยังไม่เห็นคำทำนายของจริง เลยมีแอบกังวลบ้าง มีงมงายเล็กน้อย ฮ่าๆๆๆ

พอทำบุญ สักการะหลวงปู่ทวดเสร็จแล้ว ออกมาก็จะเจอเจ้าเด็กกลุ่มนี้อีกรอบ น้องๆ กลุ่มนี้เองที่คอยวางเรียงรองเท้าให้หน้าโบสถ์ ตอนออกมาน้องๆ เค้าก็จะคอยบอกคนที่เข้าออกโบสถ์ว่าขอตังค์หน่อยค่ะซัก 5 บาท 10 บาทก็ได้ เราเลยติ๊บไป 10 บาท เพราะแม่สอนว่าทำบุญแล้วต้องทำทานด้วย แต่พอมาถามแม่ทีหลังว่าได้ให้ตังค์น้องเค้ารึเปล่า แม่บอกไม่ได้ให้ เอ้าาา แล้วที่เคยสอนมานั่นคืออาร๊ายยย 5555 ก็ไม่มีอะไรมาก แค่แม่ไม่รู้ค่ะ ว่าน้องๆ เค้าขอตังค์

พอออกมานอกโบสถ์ เดินไปข้างนอกวัด ทางด้านข้างก็จะเจอหลวงปู่ทวดอีกองค์ ตรงนี้ก็สามารถจุดธูปเทียน สักการะท่านได้เหมือนกันค่ะ


ด้านข้างก็จะมีช้างตัวใหญ่หน่อย ตรงนี้ก็จะมีคนไปลอดใต้ท้องช้าง ซื้อพวงมาลัยไปคล้องได้ เป็นมาลัยเวียน แต่ไม่น่าใจว่าพวงละกี่บาท

เดินไปข้างในอีกเล็กน้อย จะเจอกองประทัดใหญ่มาก ก็คงจะมีการแก้บนกันบ่อยๆ เพราะระหว่างเดินอยู่ในวัดก็ได้ยินเสียงประทัดดังอยู่เรื่อยๆ

ลืมบอกว่าห้องน้ำในวัด โอเคดีค่ะ สะอาด

เมื่อเดินทั่ววัดแล้ว ก็เดินกลับไปสถานีรถไฟ เพื่อรอรถไฟเที่ยวกลับ พอเดินไปถึงสถานีรถไฟ เอาตั๋วปุ๊บ รถไฟมาพอดี เป็นรถไฟเที่ยว 13.47 น. แต่มาเทียบชาลาตอน 14.30 น. ซึ่งเที่ยวนี้คนแน่นมากถึงมากที่สุดทุกตู้ แน่นชนิดที่ยืนก็ยังไม่มี เลยขอบายค่ะ คืนตั๋วให้นายสถานี แล้วรอไปขบวนหลังแทน ก็นั่งรอต่อไป

ที่สถานีก็มีพี่ทหารประจำสถานีอยู่ จริงๆ อยากขอถ่ายด้านหน้า แต่ใจไม่กล้าพอ เลยแอบถ่ายด้านหลัง ฮ่าๆๆๆ แต่หน้าตาพี่เค้าใจดีนะ ถ้าขอถ่ายดีๆ ก็น่าจะได้ค่ะ

นายสถานีบอกว่ารถไฟเที่ยวถัดไปจะมาประมาณ 4 โมงเย็น ตอนนี้ยังไม่บ่าย 3 เลย ข้าวเที่ยงก็ยังไม่ตกถึงท้อง เลยเดินย้อนไปหน้าวัดฝั่งตรงข้ามมีร้านข้าวแกง ร้านขายผลไม้อยู่ ก็ไปแวะนั่งกินกันซักพัก แกง 2 อย่างราดข้าว จานละ 40 บาท รสชาติพอทานได้ค่ะ มีผักสดและน้ำพริกแถมมาให้อีก 1 ถ้วยจิ๋ว อิ่มแล้วก็แวะซื้อผลไม้กับขนมเตรียมไว้เป็นเสบียงขากลับ
กลับมาถึงสถานี ยังมีเวลาเหลือ ที่สถานีมีบ่อเลี้ยงเต่า ก็เลยแวะไปทักทายเจ้าเต่าน้อยคอยรักซักนิดนึงก่อนกลับ ในบ่อมีทั้งเต่าน้อยตัวเล็ก

และเต่าแก่แบบลุงมะตูม

รูปนี้ไม่เกี่ยว แต่ไปเจอปาร์ตี้ห่อจิ๋วที่ร้านขนมน่ารักดี เลยเอามาถ่ายรูปเล่น ระหว่างนั่งรอรถไฟ

ข้อความเต็มซะแล้ว ไปต่อในคอมเม้นท์ที่ 3 นะคะ ใกล้จะจบแล้วจ้า
ชื่อสินค้า:   รถไฟฟรี หาดใหญ่ วัดช้างให้ จ.ปัตตานี
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่