คือกำลังจะต่อภาษีรถประจำปีครับ เลยหาข้อมูลเรื่องที่ได้ยินมาเป็นสิบปีแต่ไม่ได้สนใจสักที ซึ่งผมยังไม่ชัวร์เรื่องข้อมูลเท่าไรนะครับ พอได้ข้อมูลมาก็เลยนำมาให้อ่านกันครับ
คือจากที่อ่านมาถึงความหมายของคำว่า พ.ร.บ. ที่เราถูกบังคับให้ทำถ้าไม่ทำก็จ่ายภาษีรถประจำปีไม่ได้ เห็นในเว็บเขาอธิบายดังนี้ครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้คำว่า "พ.ร.บ." ที่เราพูดกันติดปาก ที่จริงแล้วคืออะไรกันแน่ เคยสงสัยกันบ้างมั้ยครับ
"พ.ร.บ." คือ การประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ ซึ่งกฏหมายบังคับให้รถทุกคันต้องทำประกัน พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535 ที่กฎหมายกำหนดให้ยานพาหนะทางบกทุกประเภทที่จดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบก ต้องทำประกันภัยประเภทนี้เพื่อให้ความคุ้มครองกับตัวบุคคลที่ได้รับผลจากอุบัติเหตุ โดยไม่คำนึงถึงว่าบุคคลที่ได้รับผลกระทบจากอุบัติเหตุเหล่านั้นจะเป็นผู้ที่กระทำความผิดหรือไม่ ซึ่งกฎหมายจะให้ความคุ้มครองต่อตัวคู่กรณีและผู้เอาประกันเมื่อเกิดอุบัติเหตุในรูปแบบของเงินชดเชยและค่ารักษาพยาบาลตามที่กฎหมายกำหนด
เพื่อนๆ เคยสงสัยเหมือนผมมั้ยครับว่า "แล้วถ้าไม่ซื้อ พ.ร.บ. ล่ะจะได้มั้ย"
ไม่ได้ครับ เพราะต้องใช้ประกอบการต่อทะเบียนรถยนต์ หรือ การต่อภาษีรถยนต์ประจำปี ตามที่กฏหมายบังคับให้รถทุกคันต้องทำ โดยสามารถต่อก่อนล่วงหน้าได้ไม่เกิน 3 เดือนครับ
หากรถยนต์ของเราไม่มี พ.ร.บ. มีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท และเจ้าของรถต้องเก็บรักษาหลักฐานการมีประกันนี้ไว้พร้อมแสดงต่อเจ้าหน้าที่ทุกเวลาที่ใช้รถยนต์ด้วย
"เอ้า! ... แล้วเราจะได้อะไรจากการซื้อ พ.ร.บ. บ้างล่ะ"
พ.ร.บ. ให้ความคุ้มครองความเสียหายที่เกิดขึ้นกับบุคคลเท่านั้น ไม่คุ้มครองความเสียหายอื่นใด ทั้งสิ้น พูดง่ายๆ คือ คุ้มครอง "คน" ไม่คุ้มครอง "รถ" นั่นเองครับ
โดย มีวงเงินคุ้มครอง ดังนี้
1. ค่ารักษาพยาบาล ไม่เกิน 80,000 บาท ต่อคน
2. กรณีเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ หรือทุพพลภาพถาวร ไม่เกิน 300,000 บาท ต่อคน
3. เงินชดเชยรายวัน (ผู้ป่วยใน) ไม่เกิน 200 บาท ต่อวัน (ระยะเวลารวมไม่เกิน 20 วัน)
4. วงเงินความคุ้มครองต่อครั้ง ไม่เกิน 5,000,000 บาท
"แล้วๆ ถ้าจะเคลมล่ะ ยุ่งยากมั้ย?"
เคลมง่าย เซฟขั้นตอนไว้เลยนะครับ (จะได้ไม่พลาด)
1. แจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อลงบันทึกประจำวัน
2. เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล (เมื่อการรักษาเรียบร้อยแล้ว อย่าลืมขอเอกสารจากโรงพยาบาลด้วยนะ)
2.1 ใบรับรองแพทย์
2.2 ใบเสร็จรับเงิน
3. นำส่งเอกสารต่อบริษัท ประกันภัยที่ซื้อ พ.ร.บ. เพื่อขอเบิกค่ารักษาพยาบาล ดังนี้
3.1 บันทึกประจำวันของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
3.2 ใบรับรองแพทย์
3.3 ใบเสร็จรับเงิน
3.4 สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ
อ้างอิงจาก
https://www.tipinsure.com/NewsAndActivities/news_content_v2/39
ผมอ่านแล้วมาสะดุดตรงคำว่า
" โดยไม่คำนึงถึงว่าบุคคลที่ได้รับผลกระทบจากอุบัติเหตุเหล่านั้นจะเป็นผู้ที่กระทำความผิดหรือไม่ "
พออ่านความหมายแล้ว ผมมีคำถามในใจเลยว่า
กรณีดีเจเชาเชานั้น ถ้าความหมายที่อธิบายข้างต้นมาเป็นจริง เขาก็ไม่ต้องไปตามรับผิดชอบอะไรแม่เด็กมากไปกว่านี้แล้ว ให้แม่เด็กไปเรียกร้องต่อบริษัทที่เราไปซื้อ พ.ร.บ. เอาเองได้เลย
คือบอกตรงๆว่าแต่ละปีที่จ่ายค่า พ.ร.บ ผมไม่ได้สนใจสักเท่าไรว่าไอ้ที่เราจ่ายทุกปีๆแบบโดนบังคับเนี่ย มันมีไว้ทำอะไรบ้าง เพราะว่าส่วนตัวทำประกันภัยแยกต่างหากอยู่แล้ว เลยไม่เคยใช้บริการส่วนนี้มาตลอด รู้แต่ว่ากฎหมายบังคับให้ทำ แต่ทำไปทำไมทำแล้วได้อะไรไม่เคยสนใจจริงจังสักที
ไม่รู้ว่าเรื่องนี้ดีเจเชาเชา(และอีกหลายๆคน) จะรู้เรื่องเปล่า เพราะเห็นดราม่าที่กำลังเกิดเหมือนกับว่าแม่เด็กก็ไม่รู้ว่าตัวเองมีสิทธิเรียกร้อง ดีเจเชาๆก็ต้องมากลุ้มเพราะว่ากำลังโดนให้ชดใช้เงินโดยที่ตัวเองไม่จำเป็นต้องไปชดใช้เลย(ผู้ตายเป็นฝ่ายผิด) ถ้าให้เดาก็น่าจะเหมือนกับผมแหละว่าเราสามารถเรียกร้องส่วนนี้จากได้ ถ้าใครพอแจ้งเรื่องนี้ให้แม่เด็กหรือดีเจเชาๆได้ก็น่าจะบอกสักหน่อยนะครับ
เพราะผมเชือว่าแต่ละปี รายได้ของบริษัทเอกชนจากการที่ภาครัฐบังคับประชาชนให้จ่ายค่า พ.ร.บ. แต่ละปีมันมีมากมายมหาศาลตามจำนวนรถยนต์ที่จดทะเบียนทั่วประเทศแต่เงินตรงนี้ไม่รู้ว่ามีประชาชนที่เข้าเงื่อนไขไปเรียกร้องกันแค่ไหน เพราะน่าจะมีคนที่ทำแต่ไม่รู้ว่าตัวเองมีสิทธิอย่างผมมากมายมหาศาลครับ ส่วนใหญ่จะไปเคลมประกันภาคสมัครใจกันอย่างเดียวซะมากกว่า
ในกรณีดีเจเชาเชา เห็นว่าแม่ของเด็กกำลังเรียกร้องค่าใช้จ่ายอย่างต่อเนื่อง แต่เรากำลังลืมสิ่งที่เรียกว่า พ.ร.บ. ?
คือจากที่อ่านมาถึงความหมายของคำว่า พ.ร.บ. ที่เราถูกบังคับให้ทำถ้าไม่ทำก็จ่ายภาษีรถประจำปีไม่ได้ เห็นในเว็บเขาอธิบายดังนี้ครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
อ้างอิงจาก https://www.tipinsure.com/NewsAndActivities/news_content_v2/39
ผมอ่านแล้วมาสะดุดตรงคำว่า " โดยไม่คำนึงถึงว่าบุคคลที่ได้รับผลกระทบจากอุบัติเหตุเหล่านั้นจะเป็นผู้ที่กระทำความผิดหรือไม่ "
พออ่านความหมายแล้ว ผมมีคำถามในใจเลยว่า
กรณีดีเจเชาเชานั้น ถ้าความหมายที่อธิบายข้างต้นมาเป็นจริง เขาก็ไม่ต้องไปตามรับผิดชอบอะไรแม่เด็กมากไปกว่านี้แล้ว ให้แม่เด็กไปเรียกร้องต่อบริษัทที่เราไปซื้อ พ.ร.บ. เอาเองได้เลย
คือบอกตรงๆว่าแต่ละปีที่จ่ายค่า พ.ร.บ ผมไม่ได้สนใจสักเท่าไรว่าไอ้ที่เราจ่ายทุกปีๆแบบโดนบังคับเนี่ย มันมีไว้ทำอะไรบ้าง เพราะว่าส่วนตัวทำประกันภัยแยกต่างหากอยู่แล้ว เลยไม่เคยใช้บริการส่วนนี้มาตลอด รู้แต่ว่ากฎหมายบังคับให้ทำ แต่ทำไปทำไมทำแล้วได้อะไรไม่เคยสนใจจริงจังสักที
ไม่รู้ว่าเรื่องนี้ดีเจเชาเชา(และอีกหลายๆคน) จะรู้เรื่องเปล่า เพราะเห็นดราม่าที่กำลังเกิดเหมือนกับว่าแม่เด็กก็ไม่รู้ว่าตัวเองมีสิทธิเรียกร้อง ดีเจเชาๆก็ต้องมากลุ้มเพราะว่ากำลังโดนให้ชดใช้เงินโดยที่ตัวเองไม่จำเป็นต้องไปชดใช้เลย(ผู้ตายเป็นฝ่ายผิด) ถ้าให้เดาก็น่าจะเหมือนกับผมแหละว่าเราสามารถเรียกร้องส่วนนี้จากได้ ถ้าใครพอแจ้งเรื่องนี้ให้แม่เด็กหรือดีเจเชาๆได้ก็น่าจะบอกสักหน่อยนะครับ
เพราะผมเชือว่าแต่ละปี รายได้ของบริษัทเอกชนจากการที่ภาครัฐบังคับประชาชนให้จ่ายค่า พ.ร.บ. แต่ละปีมันมีมากมายมหาศาลตามจำนวนรถยนต์ที่จดทะเบียนทั่วประเทศแต่เงินตรงนี้ไม่รู้ว่ามีประชาชนที่เข้าเงื่อนไขไปเรียกร้องกันแค่ไหน เพราะน่าจะมีคนที่ทำแต่ไม่รู้ว่าตัวเองมีสิทธิอย่างผมมากมายมหาศาลครับ ส่วนใหญ่จะไปเคลมประกันภาคสมัครใจกันอย่างเดียวซะมากกว่า