"สติ๊กเกอร์" เป็น 1 ใน 3 ธุรกิจที่สร้างรายได้หลักให้กับ "LINE" ประเทศไทย อีก 2 ธุรกิจ คือ เกม และโฆษณา โดย "ไลน์" (LINE) ประกาศว่า มีความตั้งใจที่จะส่งเสริมให้อาชีพ "ครีเอเตอร์" (ผู้ออกแบบสติ๊กเกอร์) เป็นที่รู้จัก และได้รับการยอมรับ โดยจะมีกิจกรรมหลายอย่างเพื่อส่งเสริมอาชีพครีเอเตอร์ เช่น การส่งเสริมทางด้านช่องทางจำหน่าย การทำเวิร์กช็อปในต่างจังหวัด และเปลี่ยนจากเงินรางวัลสำหรับผู้ออกแบบที่ได้รับความนิยมในแต่ละเดือน มาเป็นการนำแคแร็กเตอร์ทำเป็นสินค้าและช่วยทำตลาดให้ด้วย มีเป้าหมายสร้างครีเอเตอร์เพิ่มขึ้นจาก 1 แสนราย เป็น 1.5 แสนรายภายในสิ้นปีนี้
"กณพ ศุภมานพ" หัวหน้าธุรกิจสติ๊กเกอร์ LINE ประเทศไทย กล่าวว่า อยากให้มองว่า ครีเอเตอร์ เป็นอีกหนึ่งอาชีพที่สามารถสร้างรายได้ โดยไลน์จะพยายามสนับสนุนอย่างเต็มที่ เพราะมองว่าแคแร็กเตอร์ที่ทำขึ้นมาไม่ได้จบแค่บนจอโทรศัพท์มือถือเท่านั้น แต่จะส่งเสริมทำให้เป็นสินค้า โดยเริ่มจากแคแร็กเตอร์ที่ขายดีในแต่ละเดือน คาดว่าจะได้เห็นภายในเดือน มิ.ย.นี้
ปัจจุบันยอดขาย "สติ๊กเกอร์" ในประเทศไทยอยู่อันดับ 3 รองจากประเทศไต้หวัน และญี่ปุ่น แต่อัตราคนซื้อใหม่จะเยอะกว่า โดยปี 2559 ที่ผ่านมา ผู้ดาวน์โหลดสติ๊กเกอร์ไลน์ในไทย มีถึง 500 ล้านครั้ง โดยสติ๊กเกอร์ที่มีค่าใช้จ่ายโตขึ้น 10% และตั้งเป้าว่าสติ๊กเกอร์ที่จำหน่ายในปีนี้จะเติบโตราว 35% นอกจากคนเริ่มคุ้นเคยกับการซื้อของออนไลน์แล้ว ยังมีสติ๊กเกอร์รูปแบบใหม่ออกมากระตุ้นการซื้อ ล่าสุด "มิวสิกสติ๊กเกอร์" ที่ใส่เสียงเพลงลงไปได้ 8 วินาที จากเดิมใส่ได้เพียง 4 วินาที นับเป็นสติ๊กเกอร์รูปแบบที่ 5 จากที่มีแบบภาพนิ่ง, ภาพเคลื่อนไหว, ภาพเคลื่อนไหวพร้อมเสียงและพ็อปอัพ
ปัจจุบันรูปแบบภาพเคลื่อนไหวพร้อมเสียง และพ็อปอัพเป็นรูปแบบที่ได้รับความนิยมสูงสุด "เราเห็นผู้ซื้อใหม่เยอะขึ้นชัดเจน เนื่องจากคนคุ้นเคยกับการซื้อของผ่านช่องทางออนไลน์ และเข้าถึงสมาร์ทโฟนเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังมีคอนเทนต์หรือแคแร็กเตอร์ที่โด่งดังมาทำเป็นไลน์สติ๊กเกอร์มากขึ้น"
จุดเริ่มต้นของ "มิวสิกสติ๊กเกอร์" มาจากการที่ "ไลน์" พยายามหารูปแบบสติ๊กเกอร์ใหม่ ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ และพบว่าน่าจะใช้เพลงเป็นส่วนประกอบได้ ซึ่งไทยเป็นประเทศที่ 2 รองจากญี่ปุ่นที่เริ่มให้บริการ เม.ย.ที่ผ่านมา
"สติ๊กเกอร์ชุดแรกเป็นตัวอักษรพร้อมเพลง ล่าสุดที่ทำกับ "สิงโต นำโชค" เป็นสติ๊กเกอร์ศิลปินพร้อมเพลงชุดแรก สิงโต เป็นศิลปินที่มีแคแร็กเตอร์ชัดเจน มีเพลงติดหู เชื่อว่าจะได้รับการตอบรับในวงกว้าง"
"มิวสิกสติ๊กเกอร์" เป็นสติ๊กเกอร์รูปแบบใหม่ที่ค่ายเพลงให้ความสนใจมาก โดยมองว่าตอบโจทย์ธุรกิจเพลงได้และไลน์กำลังทำงานร่วมกับหลายค่ายเพลง และพร้อมเปิดรับพันธมิตรค่ายเพลงใหม่ แต่ยังไม่ให้ "ครีเอเตอร์" ทั่วไป จากปัญหาลิขสิทธิ์
"สติ๊กเกอร์เป็นสินค้าที่ราคาไม่สูง ทำให้คนตัดสินใจซื้อง่าย แต่ละเดือนจึงมีผู้ซื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นหลักแสนราย"
จากการสำรวจกลุ่มตัวอย่าง 50,000 คน พบว่าโดยเฉลี่ยมีสติ๊กเกอร์อย่างน้อย 15 ชุด/คน และซื้อเฉลี่ย 1 ชุด/เดือน ปัจจุบันลูกค้าซื้อสติ๊กเกอร์ผ่าน 2 ช่องทางหลัก คือ สติ๊กเกอร์ช็อปบนสมาร์ทโฟน และหน้าเว็บไซต์ store.line.me โดยจ่ายเงินผ่านบัตรเครดิต หรือหักจากค่าโทรศัพท์ และในอนาคตจะเพิ่มช่องทางเงินสด
การสำรวจยังพบว่า ผู้บริโภคให้ความสนใจ และมองหาคอนเทนต์ที่มีความหลากหลายขึ้น เช่น สติ๊กเกอร์แนวสนุกสนาน ตลกขบขัน จากเดิมที่สนใจสติ๊กเกอร์แนวน่ารักเป็นหลัก
"ผู้หญิงเลือกสติ๊กเกอร์จากความน่ารักของแคแร็กเตอร์ ส่วนผู้ชายชอบตลกขบขัน ช่วงอายุที่มีการซื้อมากที่สุดอยู่ระหว่าง 25-35 ปี"
"สติ๊กเกอร์ ไลน์" มี 2 รูปแบบ คือ 1.สปอนเซอร์ สติ๊กเกอร์ ที่แบรนด์นำแคแร็กเตอร์ของแบรนด์มาทำเป็นสติ๊กเกอร์ เพื่อเป็นเครื่องมือทางการตลาดสื่อสารกับผู้บริโภคผ่าน Official Account ให้ดาวน์โหลดฟรี มี 2,000 ชุด ออกใหม่สัปดาห์ละ 4-8 ชุด และ 2.สติ๊กเกอร์เพื่อจำหน่าย มี 40,000 ชุด แบ่งเป็นจากครีเอเตอร์ทั่วไป 38,000 ชุด สัดส่วนการขายเป็นครีเอเตอร์ 60% และ Official Stickers หรือสติ๊กเกอร์ที่ทำร่วมกับศิลปิน และเซเลบริตี้ มี 2,000 ชุด
ข่าวจาก : ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1494069565
ขุมทรัพย์ไลน์สติ๊กเกอร์ สร้าง "ครีเอเตอร์" เงินล้าน
"สติ๊กเกอร์" เป็น 1 ใน 3 ธุรกิจที่สร้างรายได้หลักให้กับ "LINE" ประเทศไทย อีก 2 ธุรกิจ คือ เกม และโฆษณา โดย "ไลน์" (LINE) ประกาศว่า มีความตั้งใจที่จะส่งเสริมให้อาชีพ "ครีเอเตอร์" (ผู้ออกแบบสติ๊กเกอร์) เป็นที่รู้จัก และได้รับการยอมรับ โดยจะมีกิจกรรมหลายอย่างเพื่อส่งเสริมอาชีพครีเอเตอร์ เช่น การส่งเสริมทางด้านช่องทางจำหน่าย การทำเวิร์กช็อปในต่างจังหวัด และเปลี่ยนจากเงินรางวัลสำหรับผู้ออกแบบที่ได้รับความนิยมในแต่ละเดือน มาเป็นการนำแคแร็กเตอร์ทำเป็นสินค้าและช่วยทำตลาดให้ด้วย มีเป้าหมายสร้างครีเอเตอร์เพิ่มขึ้นจาก 1 แสนราย เป็น 1.5 แสนรายภายในสิ้นปีนี้
"กณพ ศุภมานพ" หัวหน้าธุรกิจสติ๊กเกอร์ LINE ประเทศไทย กล่าวว่า อยากให้มองว่า ครีเอเตอร์ เป็นอีกหนึ่งอาชีพที่สามารถสร้างรายได้ โดยไลน์จะพยายามสนับสนุนอย่างเต็มที่ เพราะมองว่าแคแร็กเตอร์ที่ทำขึ้นมาไม่ได้จบแค่บนจอโทรศัพท์มือถือเท่านั้น แต่จะส่งเสริมทำให้เป็นสินค้า โดยเริ่มจากแคแร็กเตอร์ที่ขายดีในแต่ละเดือน คาดว่าจะได้เห็นภายในเดือน มิ.ย.นี้
ปัจจุบันยอดขาย "สติ๊กเกอร์" ในประเทศไทยอยู่อันดับ 3 รองจากประเทศไต้หวัน และญี่ปุ่น แต่อัตราคนซื้อใหม่จะเยอะกว่า โดยปี 2559 ที่ผ่านมา ผู้ดาวน์โหลดสติ๊กเกอร์ไลน์ในไทย มีถึง 500 ล้านครั้ง โดยสติ๊กเกอร์ที่มีค่าใช้จ่ายโตขึ้น 10% และตั้งเป้าว่าสติ๊กเกอร์ที่จำหน่ายในปีนี้จะเติบโตราว 35% นอกจากคนเริ่มคุ้นเคยกับการซื้อของออนไลน์แล้ว ยังมีสติ๊กเกอร์รูปแบบใหม่ออกมากระตุ้นการซื้อ ล่าสุด "มิวสิกสติ๊กเกอร์" ที่ใส่เสียงเพลงลงไปได้ 8 วินาที จากเดิมใส่ได้เพียง 4 วินาที นับเป็นสติ๊กเกอร์รูปแบบที่ 5 จากที่มีแบบภาพนิ่ง, ภาพเคลื่อนไหว, ภาพเคลื่อนไหวพร้อมเสียงและพ็อปอัพ
ปัจจุบันรูปแบบภาพเคลื่อนไหวพร้อมเสียง และพ็อปอัพเป็นรูปแบบที่ได้รับความนิยมสูงสุด "เราเห็นผู้ซื้อใหม่เยอะขึ้นชัดเจน เนื่องจากคนคุ้นเคยกับการซื้อของผ่านช่องทางออนไลน์ และเข้าถึงสมาร์ทโฟนเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังมีคอนเทนต์หรือแคแร็กเตอร์ที่โด่งดังมาทำเป็นไลน์สติ๊กเกอร์มากขึ้น"
จุดเริ่มต้นของ "มิวสิกสติ๊กเกอร์" มาจากการที่ "ไลน์" พยายามหารูปแบบสติ๊กเกอร์ใหม่ ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ และพบว่าน่าจะใช้เพลงเป็นส่วนประกอบได้ ซึ่งไทยเป็นประเทศที่ 2 รองจากญี่ปุ่นที่เริ่มให้บริการ เม.ย.ที่ผ่านมา
"สติ๊กเกอร์ชุดแรกเป็นตัวอักษรพร้อมเพลง ล่าสุดที่ทำกับ "สิงโต นำโชค" เป็นสติ๊กเกอร์ศิลปินพร้อมเพลงชุดแรก สิงโต เป็นศิลปินที่มีแคแร็กเตอร์ชัดเจน มีเพลงติดหู เชื่อว่าจะได้รับการตอบรับในวงกว้าง"
"มิวสิกสติ๊กเกอร์" เป็นสติ๊กเกอร์รูปแบบใหม่ที่ค่ายเพลงให้ความสนใจมาก โดยมองว่าตอบโจทย์ธุรกิจเพลงได้และไลน์กำลังทำงานร่วมกับหลายค่ายเพลง และพร้อมเปิดรับพันธมิตรค่ายเพลงใหม่ แต่ยังไม่ให้ "ครีเอเตอร์" ทั่วไป จากปัญหาลิขสิทธิ์
"สติ๊กเกอร์เป็นสินค้าที่ราคาไม่สูง ทำให้คนตัดสินใจซื้อง่าย แต่ละเดือนจึงมีผู้ซื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นหลักแสนราย"
จากการสำรวจกลุ่มตัวอย่าง 50,000 คน พบว่าโดยเฉลี่ยมีสติ๊กเกอร์อย่างน้อย 15 ชุด/คน และซื้อเฉลี่ย 1 ชุด/เดือน ปัจจุบันลูกค้าซื้อสติ๊กเกอร์ผ่าน 2 ช่องทางหลัก คือ สติ๊กเกอร์ช็อปบนสมาร์ทโฟน และหน้าเว็บไซต์ store.line.me โดยจ่ายเงินผ่านบัตรเครดิต หรือหักจากค่าโทรศัพท์ และในอนาคตจะเพิ่มช่องทางเงินสด
การสำรวจยังพบว่า ผู้บริโภคให้ความสนใจ และมองหาคอนเทนต์ที่มีความหลากหลายขึ้น เช่น สติ๊กเกอร์แนวสนุกสนาน ตลกขบขัน จากเดิมที่สนใจสติ๊กเกอร์แนวน่ารักเป็นหลัก
"ผู้หญิงเลือกสติ๊กเกอร์จากความน่ารักของแคแร็กเตอร์ ส่วนผู้ชายชอบตลกขบขัน ช่วงอายุที่มีการซื้อมากที่สุดอยู่ระหว่าง 25-35 ปี"
"สติ๊กเกอร์ ไลน์" มี 2 รูปแบบ คือ 1.สปอนเซอร์ สติ๊กเกอร์ ที่แบรนด์นำแคแร็กเตอร์ของแบรนด์มาทำเป็นสติ๊กเกอร์ เพื่อเป็นเครื่องมือทางการตลาดสื่อสารกับผู้บริโภคผ่าน Official Account ให้ดาวน์โหลดฟรี มี 2,000 ชุด ออกใหม่สัปดาห์ละ 4-8 ชุด และ 2.สติ๊กเกอร์เพื่อจำหน่าย มี 40,000 ชุด แบ่งเป็นจากครีเอเตอร์ทั่วไป 38,000 ชุด สัดส่วนการขายเป็นครีเอเตอร์ 60% และ Official Stickers หรือสติ๊กเกอร์ที่ทำร่วมกับศิลปิน และเซเลบริตี้ มี 2,000 ชุด
ข่าวจาก : ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1494069565