[CR] ชำแหละวิเคราะห์ ฉลาดเกมส์โกง ภาพยนตร์ไทยที่มาไกลเกินคาด [ละเอียดยิบ]

ฉลาดเกมส์โกง
คะแนน 8/10
--เขตปลอดสปอยส์—
สรุปส่วนตัว
ทำออกมาได้ โคตรดี ดีงามมากๆนานแล้วที่ไม่ได้เจอหนังถูกใจแบบนี้ ตอนแรกกระแสดูเงียบๆยอมรับเลยว่าไม่คิดจะดูจนโดนลากไปดูด้วยความจำเป็นแต่พอได้รับชมคิดว่าคงโกรธตัวเองมากๆถ้าไมได้มาดูเรื่องนี้ในโรงภาพยนตร์ ถามว่าข้อเสียมันมีไหม มันมีและเยอะพอสมควร แต่ความสนุกที่หนังมันให้เรามันทดแทนข้อเสียไปได้หมดเลย ทั้งความตื่นเต้น ความกดดัน ความอินกับเรื่อง นักแสดงที่ดึงดูด (ลินหุ่นดีมาก) มันเอาเราอยู่ตลอดทั้งเรื่องจริงๆ แนะนำว่าถ้าไม่ได้ติดขัดอะไรแล้วละก็ลองไปดูกันประสบการณ์สุดมันส์รอคุณอยู่ มันมีทั้งความเข้มข้นของเนื้อเรื่อง กิมมิคต่างๆที่แทรกมาตลอดเรื่อง อรรถรสของภาพยนตร์ที่สุดจริงๆ บทเขียนมาได้ดีพอตัว บอกได้ว่าต้องลอง

ไม่อยากอ่านสปอยส์แบบละเอียดยิบอย่ากด

--เขตมีสปอยส์--

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เนื้อเรื่อง
ลิน เด็กสาวเรียนดีดรีกรีโอลิมปิคคณิตศาสตร์เหรียญทองกำลังย้ายโรงเรียนจากมอต้นไปสู่มอปลาย


โดยมีคุณพ่อชื่อวิทย์ที่เป็นครู พาไปเข้าโรงเรียนชื่อดังของประเทศ ซึ่งแน่นอนว่า ลิน ผ่านฉลุยในการเข้าเรียน



แต่ตัวของลินเองติดปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายของโรงเรียนที่แพงเหลือเกินทั้งค่าเทอมและค่าบำรุงอื่นๆ จึงมีการปะทะคารมกับ ผอ เล็กน้อยจน ผอ ยอมเสนอให้ ลิน ได้ทุนเรียนฟรีพร้อมแถมค่าอาหารกลางวันให้จน ลิน ยอมตอบตกลงเรียน วันแรกของการเรียนที่ต้องถ่ายรูปติดบัตรนักเรียน เกรซช ได้เข้ามาช่วย ลิน จัดแจงเสื้อผ้าหน้าผมด้วยความเป็นมิตร และหลังจากนั้นทั้งสองก็กลายมาเป็นเพื่อนกัน ในห้องสมุดเกรซบ่นถึงเรื่องละครเวที ของ โรงเรียนถ้าเกรดไม่ถึง 3.00 จะไม่สามารถขึ้นแสดงได้ เกรซทั้งพยายามเรียนพิเศษกับครูประจำวิชาคณิตศาสตรเพิ่มแล้วก็ไม่เป็นผล จนมาขอร้องให้ลินช่วยติวให้ โดยเรียกลินว่า ครูพี่ลิน ในวันสอบจริง เมื่อลินเห็นข้อสอบจริงซึ่งเหมือนกับข้อสอบที่เกรซได้มาจากการติวพิเศษนอกรอบกับครูประจำวิชา


จึงเกิดความไม่พอใจในความไม่ถูกต้องและเห็นเกรซทำข้อสอบไม่ได้


จึงได้ทำการเขียนคำตอบลงในยางลบช่วยเกรซให้สอบผ่านมาได้จนได้แสดงละครเวที เกรซเล่าเรื่องการช่วยเหลือของลินให้แฟนหนุ่ม พัฒน์ฟัง พัฒน์จึงได้เสนอให้ลินโกงข้อสอบให้กับตนเองและเพื่อนๆ


โดยเสนอให้วิชาละ 3000 ในทีแรกลินไม่ยอมตกลงจนพัฒน์พูดถึงเรื่องเงิน แป๊ะเจี๊ยะ หรือค่าน้ำชาในการเข้าเรียน ลินจึงได้รู้ว่าสุดท้ายพ่อของตัวเองก็ได้เสียค่าเข้าเรียนให้กับโรงเรียนสองแสนบาท ลินจึงคิดจะโกงการสอบ ด้วยกจัดทำคอร์สเปียนโน


ด้วยการเปลี่ยนคำตอบ A B C D เป็น โน๊ตเปียนโนตามเพลงของ บีโทเฟ่นในแต่ละหมายเลข โดยให้ทุกคนที่เข้าร่วมมาจำการเล่นเปียนโนของลิน


การโกงผ่านไปได้ด้วยดีลินมีเงินเข้ามามากมายเฉียดล้านและสามารถซื้อเสื้อใหม่ให้พ่อได้และภูมิใจกับการกระทำของตัวเองอย่างมาก ตัดมาที่แบงค์เด็กเรียนดีที่มีความจำเป็นเลิศได้เข้าร่วมแข่งขันตอบปัญหาเชิงคณิตศาสตร์กับลิน


ด้วยความสามารถที่มีความจำเป็นเลิศทำให้เขาจำค่าเฉลี่ยนของค่า Pi ได้จนได้รับแชมป์มา ผอจึงเสนอทุนการศึกษาไปศึกษาต่อที่สิงคโปร์ให้แต่ได้แค่โควต้าเดียวจึงได้พูดเหมือนยุให้สองคนแข่งกันเพื่อแย่งทุนนี้ แต่แบงค์ก็มีภาระที่บ้านต้องดูแลแม่และช่วยกิจการซักผ้าจนอ่านหนังสือสอบไม่ทัน วันรุ่งขี้นเป็นการสอบใหญ่รวมห้อง แบงค์ได้เร่งอ่านหนังสือในตอนเช้าอย่างเต็มที่ขณะที่แบงค์กำลังจะไปเข้าห้องสอบก็มีเพื่อนแว่นหัวเกรียนมาขอลอกช้อสอบแต่ด้วยความเป็นคนไม่ชอบการโกงจึงได้สปฏิเสธไปด้วยความโมโห


ในห้องสอบปัญหาได้เกิดขึ้นเมื่อข้อสอบมีสองชุดทำให้ยากที่จะลอกกันได้ นายแว่นหัวเกรียนคนนั้นก็พยายามจะลอกข้อสอบลินจนแบงค์เห็นจึงได้เดินไปฟ้องอาจารย์แต่เหมือนจะไม่สนใจอะไรเพราะอาจารย์ก็จับไม่ได้


ลินจึงได้ให้สัญญาณสำหรับข้อสอบชุดแรกและทำให้สำหรับข้อสอบชุดแรกลอกผ่านไปได้สำเร็จและทำการสลับข้อสอบกับนายแว่นหัวเกรียนที่ได้ชุดที่สอง ลินเร่งทำข้อสอบจนเกินเวลาแต่ก็ได้ส่งสัญญาณให้เพื่อนทั้งหมดทันและเสี่ยงถูกจับได้มากๆ


ลินรอดออกจากห้องสอบมาอย่างหวุดวิด แต่สุดท้ายทั้งลินและนายแว่นหัวเกรียนก็ได้ถูกเรียนไปพบ กับ ผอ เนื่องจากแบงค์ได้ไปฟ้อง ผอ ว่า นายแว่นลอกข้อสอบและให้นายแว่นทำข้อสอบใหม่เป็นการพิสูจน์ ลินและนายแว่นมาถึงก็ได้ทำการปฏิเสธ ผอจึงเช็คกระดาษทดดูและพบว่าลินทโจทย์ในข้อสอบชุดที่สองซึ่งไม่ใช่ชุดของลิน


ทำให้ความแตกลินถูกเรียกผู้ปกครองมาพบ และถูกไต่สวนว่าทำเพื่ออะไร แบงค์จึงเผลอพูดออกมาว่าลินทำเพื่อเงินค่าจ้าง ผอ จึงตัดสิทธิ์เรียนฟรีและทุนไปเรียนต่อสิงค์โปรที่ลินมีโอกาสสอบได้ พร้อมทั้งดุด่าว่ากล่าวว่า โรงเรียนไม่ใช่ที่หาเงิน ลินจึงพูดสวนขึ้นมาว่า ผอ ก็ใช้โรงเรียนเป็นที่หาเงินจากนักเรียน ผอ จึงขู่ไล่ลินออก จนพ่อของลินต้องขอร้องไว้และพาตัวลินกลับบ้าน ลินถูกพ่อดุด่าว่ากล่าว ลินอ้างว่าโรงเรียนโกงเราก่อน


พ่อก็บอกว่าไม่ได้โกงพ่อเต็มใจให้ ลินจึงสวนไปว่าเพื่อนหนูก็เต็มใจจ่าย พ่อจึงสะอึกไปพักนึง และเสียใจอย่างมาก ลินก็เสียใจกับการกระทำเช่นกัน
เวลาผ่านไปลินกลับไปตั้งใจเรียนตามปกติ ด้วยผลการเรียนที่ดีขึ้นของ พัฒน์ ทำให้พ่อแม่คิดว่าเป็นเพราะคบกับเกรซ จึงคิดจะส่งทั้งคู่ไปเรียนต่อที่ต่างประเทศจนเรื่องต้องมาเดือดร้อนลินอีกครั้งให้ทำการช่วยเหลือการโกงข้อสอบ STIC ที่ใช้ยื่นมหาลัยต่างประเทศ ลินที่กำลังว่าวุ่นคิดช่วยเพราะต้องการจะไปเรียนต่อกับทั้งคู่ ระหว่างคิดแผนการลินได้ปิ๊งไอเดียเรื่องเวลาที่ต่างกันของแต่ละประเทศขึ้นมา


ทำให้เริ่มวางแผนการโกงข้อสอบที่โรงพิมพ์ซื่อตรงพาณิชย์บ้านของเกรซ ด้วยการ บินไปสอบที่ซิดนียส์ซึ่งเวลาเร็วกว่าไทยและจำคำตอบออกมาส่งผ่านมาทาง Line และให้ พัฒน์ กับ เกรซ พิมพ์คำตอบเป็นบาร์โค้ดแปะลงในดินสอสองบีเพื่อนำเข้าสอบ โดยที่ต้องหาลูกค้าให้ได้สามสิบคนเพื่อที่จะคุ้มกับค่าลงทุนทั้งหมด และลินจะได้ค่าตอบแทนทั้งหมด สองล้านบาท แต่ลินต้องการให้แบงค์ที่มีความจำดีเลิศด้วยในการจำข้อสอบครึ่งหนึ่ง
ทำให้เป็นปัญหาที่คิดไม่ตก แบงค์ที่กำลังกลับจากซักผ้าก็โดนนักเลงสองคนขับรถตามมากระทืบโดยอ้างว่าแบงค์ขี่มอเตอร์ไซค์ชนกระจก แบงค์ตื่นมาที่กองขยะห่างไกลตัวเมืองทำให้ไปสอบชิงทุนไปสิงคโปรไม่ทัน ลินไปหาแบงค์และพูดว่าถึงแบงค์จะไม่โกงชีวิตมันก็โกงแบงค์อยู่ดีและที่ลินต้องหมดสิทธิ์แบบนี้ไม่คิดว่าต้องรับผิดชอบบ้างหรอ


แบงค์ที่หมดอาลัยตายอยากจึงได้เข้าร่วมแผนการของลินและเมื่อรู้ว่าจะได้รับค่าตอบแทน 1 ล้านบาทก็เข่าอ่อนแทบทรุด หระหว่างซักซ้อมแผนการทีละขั้นตั้งแต่การแอบซ่อนโทรศัพท์ไว้ที่ห้องน้ำใต้ฝาถังน้ำของชักโครก และการจำออกมาพร้อมทำเวลาให้ดีที่สุดโดยไม่ให้ถูกจับได้รวมทั้งให้เตรียมอ้วกในช่วงการสอบสุดท้ายเพื่อที่จะได้ออกจากห้องสอบได้ก่อนเวลาทำให้มีเวลาส่งคำตอบมาที่ไทยมากขึ้น


ส่วนพัฒน์ก็ทำการพูดจูงใจจนหาลูกค้าที่ต้องการคะแนนสอบ STIC มาได้จนครบ 30 คนและเก็บค่าใช้จ่ายคนละแสนกว่าบาท
แผนการซ้อมได้ดำเนินมาถึงวันสุดท้าย ลิน ได้ขอนัดซ้อมครั้งสุดท้ายเรื่องการโดนจับได้ให้ทุกคนซักทอดมาที่ลินเพียงคนเดียว และหากแบงค์เป็นคนโดนจับได้ก็ให้ทำเหมือนว่าไม่เคยรู้จักกับแบงค์มาก่อน


ด้วยการเล่นที่สมจริงเกินไปของพัฒน์ทำให้เผลอหลุดปากถึงเรื่องที่แบงค์โดนกระทืบและไปทิ้งไว้ที่กองขยะ ซึ่งไม่มีใครรู้มาก่อนทำให้พัฒน์ต้องยอมพูดความจริงว่าเป็นคนส่งคนไปกระทืบแบงค์เพื่อจะได้หมดสิทธิ์สอบและมาเข้าร่วมแผนการ แบงค์โมโหมากจนจะชกพัฒน์แต่ลินห้ามไว้จนโดนชกเอง แบงค์จึงถอนตัวจากแผนการ ลินเสียงใจกับสิ่งที่พัฒน์ทำมากจนขอถอนตัวจากแผนการเช่นกัน ในระหว่างที่แบงค์กำลังจะเดินกลับบ้านก็ได้เห็นป้ายโฆษณาฝงซักฟอกและคิดถึงร้านที่แม่ต้องทนลำบากจึงเดินกลับไปเข้าแผนตามเดิม


พร้อมลากลินที่ไม่อยากทำต่อกลับเข้าแผนด้วยคำพูดที่ว่า แกไม่คิดหรอว่าแกก็มีส่วนที่ต้องรับผิดชอบ แผนการดำเนินขึ้นเมื่อไปถึงซิดนีย์ก่อนเวลาสอบลินได้ถ่ายรูปกับแบงค์เพื่อให้ผ่อนคลายกับเรื่องที่จะทำต่อไปนี้


ก่อนการสอบเริ่มขึ้นได้มีการโกงข้อสอบในรอบที่ผ่านมา ทำให้รอบนี้กรรมการคุมสอบกวดขันการโกงกันอย่างเข้มข้นขึ้น แต่แผนการของทั้งคู่ก็ดำเนินไปได้ด้วยดีในช่วงแรก หลังมีเวลาพักลินก็ได้ส่งคำตอบของตัวเอง แต่แบงค์ยื่นข้อเสนอว่าให้เพิ่มเงินเป็น 2 ล้าน เพื่อชดเชยค่าถูกกระทืบ จนพัฒน์ต้องยอมโอนเงินให้สี่แสนก่อน แบงค์จึงเริ่มทำแผนการต่อ ช่วงที่สองสามสอบติดกันและเมื่อสอบเสร็จลินและพัฒน์ต้องรีบออกไปส่งคำตอบที่เหลือ


แบงค์เผลอทำฝารองชักโครกหล่นแตกจนถูกจับได้แต่ก่อนถูกจับก็ได้ออกจากกลุ่มที่ส่งคำตอบและอ้างว่าแอบดูคำศัพท์


ลินยังไม่ทันได้ส่งคำตอบก็ต้องออกจากห้องน้ำก่อนเพราะโดนคนคุมสอบมาตามทำให้เธอต้องเอามือถือซ่อนในรองเท้าก่อนนำมาซ่อนที่ตู้กดน้ำดื่มโดยที่ยังไม่ได้ส่งคำตอบ ลินเข้าห้องสอบไปพร้อมจำคำตอบของชุดที่2และ3 พร้อมเริ่มทำข้อสอบในช่วงที่ 4 เมื่อทำเสร็จลินพยายามจำข้อสอบทั้ง


และเอาดินสอล้วงคอตัวเองและอ้วกออกมาเพื่อจะขอกลับบ้านก่อน ในขณะนั้นที่ไทยพ่อของลินมาตามลินที่โรงพิมพ์จนทำให้แบงค์ต้องโกหกไปว่า ลินหนีไปเที่ยวกับแฟนที่ซิดนีย์


และผู้ร่วมโกงสามสิบคนมายืนรอดินสอเฉลยคำตอบเริ่มจะโวยวายว่าจะไปสอบไม่ทัน


รวมทั้งวินมอไซที่รอรับส่งก็จะกลับกันจนพัฒน์ต้องจ่ายเงินเพิ่มให้วินมอไซคนละ500

ฝากเพจด้วยนะครับ
https://www.facebook.com/%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%9F%E0%B9%89%E0%B8%B2-Legendary-1808489442736150/

รูปแบบข่าวบนเว็ป https://goo.gl/gHF3ln