ผมตั้งกำแพงขึ้นมาจากปมวัยเด็กของผม อยากแก้ไขครับ

สวัสดีครับ แนะนำตัวก่อนครับ ผมชื่อท้อป อายุ 30++ คือ เรื่องที่ผมจะเล่า + ปรึกษา ผมคิดมาค่อนข้างนานสักระยะ เพราะทีแรกเหมือนมันจะดีขึ้นแต่ตอนนี้มันเริ่มแย่ลงอีกแล้วครับ

ผมเป็นคนที่ดูเผินๆ เหมือนคบง่าย ใจดี สนุกสนานเฮฮา แต่จริงๆ ลึกๆ ผมมีเพื่อนสนิทและที่ไว้ใจน้อยมาก และในบรรดาเพื่อนสนิท ก็จะมีแค่ไม่กี่คนที่รู้ลึกรู้จริงเรื่องของผม ในอีกมุมนึงผมเหมือนคนเก็บตัว ไม่ค่อยชอบไปสังสรรค์กับคนที่ไม่สนิท ไปกินตามงานจำเป็น บวช แต่ง เลี้ยงส่ง เลี้ยงรับ อะไรพวกนี้ไปนะ แต่จะมาแบบเลิกงานไปกินกันแบบนี้ไม่ค่อยไปครับ และอีกอย่าง ในหน่วยงานในองค์กรผม ผมมีเพื่อนกลุ่มสนิทอยู่ 4 คน 1 ในนั้นย้ายสังกัดไปแล้วแต่ยังติดต่อกันอยู่ แต่ 4 คนนี้ก็ยังไม่สนิท level ลึกซึ้งมากนัก ส่วนคนอื่นๆ ผมคบได้ คุยได้ทุกคน แต่ไม่ลงลึก ไม่ชอบคบเป็นกลุ่ม หรือเข้ากลุ่มเข้าพวกกับใคร ชอบไปดินข้าวคนเดียว กลับบ้านคนเดียว

ลืมบอกว่าผมมีแฟน แฟนผมเป็นผู้ชาย สถานะผมคือไงดีละ เป็นไบมั้ง เพราะผมเคยคบผู้หญิง ยังความรู้สึกดีๆเวลาเห็นผู้หญิงสวยๆ รวมถึงมีอารมณ์ทางเพศกับผู้หญิงด้วย กับผู้ชายก็มีครับ แต่ผมจะเลือกคบคนที่อยู่กันแล้วคลิ้ก ไม่สนเพศ (ผมคบกับแฟนมา 10 ปีแล้วครับ แรกๆเหมือนจะไปกันไม่รอด แต่อยู่ๆไปก็เหมือนเป็นเพื่อนคู่คิดกัน) ผมใช้เวลาหลังเลิกงาน กลับบ้าน ใช้เวลาอยู่กับแฟน ทำอาหารกินกัน ดูทีวีด้วยกัน คุยกัน ชีวิตคู่บ้านๆ ไม่หวือหวา แฟนผมทำธุรกิจส่วนตัว พอเลี้ยงตัวได้ครับ ไม่ได้ร่ำรวยอะไร

ชีวิตวัยเด็กผม โตมาในครอบครัวข้าราชการ และอยู่เป็นระบบครอบครัวใหญ่ ตายายผมมีลูกเยอะ แม่ผมมีพี่น้องรวม 12 คน แต่จะกระจัดกระจายไปอยู่ตามจังหวัดต่างๆบ้าง มีบ้านผม บ้านลุง ป้าอีก 3 ครอบครัวที่อยู่จ.เดียวกัน และอยู่ในอาณาบริเวณเดียวกัน ตอนเด็กๆ ผมเป็นเด็กเงียบๆ ไม่ใช่แนวช่างเจรจา ไม่ซน ชอบอ่านหนัง เล่นหุ่นยนต์ เล่นคนเดียวบ้าง เล่นกับพี่สาวบ้าง (ผมเคยเอาหุ่นชิริว เซนต์ดราก้อน ต่อยหน้าบาร์บี้ของพี่จนแหก พี่เลยไม่ค่อยชอบเล่นกับผมเท่าไหร่ 5555) ตอนเด็กๆ ผมรูปร่างอ้วนท้วน เวลาไปกินข้าวกับญาติๆ มักโดนพูดดักบ่อยๆ "กินน้อยๆหน่อย", "อ้วนแล้วเบาๆหน่อย", "แบ่งคนอื่นเขาบ้าง", "สั่งมาเยอะแยะเลย ถ้าไม่หมดเดี๋ยวให้ท้อปจัดการ" ทำให้ทุกครั้งที่รวมญาติกินข้าวกัน ผมจะกินน้อยมากๆ (ถึงกินน้อยแล้วก็ไม่วายโดนแหย่แบบเดิมๆ) จนบางทีกลับบ้านไปผมยังหิวเพราะกินไม่อิ่ม บางทีก็แอบต้มมาม่า ทอดไข่ดาวกินบ้าง

เรื่องการเรียนผมก็ไม่โดดเด่น ผลการเรียนปานกลาง แต่ไปเก่งพวกวิชาศิลปะ ดนตรี คหกรรม ซึ่งคนสมัยก่อนก็ไม่ค่อยชื่นชมเท่าไหร่ และความเป็นตัวตนของผมก็ไม่ค่อยได้รับความยินดีอะไรมากมาย หลายทีที่รู้สึกถูกกระแนะกระแหน่ จากลุงๆป้าๆ รวมถึงลูกพี่ลูกด้วยกัน เช่น ผมเป็นโรคความดัน (ตามประสาคนอวบ หุ่นหมี) เลยพยายามควบคุมอาหารรสจัด ผมหันไปกินคลีนอยู่พักนึง ลูกพี่ลูกน้องผมก็แซว "นี่ขนาดกินคลีนนะ ยังตัวขนาดนี้" (คืออาหารคลีน ผมคลีนเรื่องการปรุงแต่งและผมไม่ได้กินเพื่อลดความอ้วน) หรือผมทำอะไร แต่งตัวอะไรแบบไหน ก็จะถูกแซวจนหมดความมั่นใจ หรือไม่อยากจะพูดจะเล่าอะไรเลยครับ เอาง่ายๆว่า เวลาอยู่ในวงญาติพี่น้องผมเป็น "ลูกไล่" เขาตลอด

แต่ผมก็รู้นะว่าญาติเขาก็ไม่กลียดอะไรผม ผมมองว่าเขาแค่แหย่ แค่แซวหนัก แซวแรง แต่บางทีมันทำผมหมดความมั่นใจ จะพูดจะเล่าอะไรผมก็ไม่ค่อยอยากเล่า ผมเองเป็นเก็บอารมณ์ด้วย โกรธก็ไม่แสดงออก แต่กับแฟนผม (ผมขอสงวนนามไว้แล้วกันครับ ให้นามสมมุติว่า "พี่เอส") ครอบครัวผม ไม่แน่ใจว่าเขารู้สถานะพี่เอสไหม พ่อไม่รู้ เพราะแกเป็นคนเฉยๆ เหมือนไม่ค่อยสนใจลูกเพราะโตแล้ว พี่สาวผมเขาก็มีสังคมของเขา แต่แม่ไม่แน่ใจเพราะค่อนข้างสนิทกับผม และแม่ก็เอ็นดูแฟนผมมาก พี่เอสเข้าในครอบครัวผม ในฐานะ เพื่อนสนิทและหุ้นส่วนธุรกิจ ซึ่งนานๆทีพี่เอสก็จะกลับมาบ้านกับผมบ้าง ญาติๆรู้จักพี่เอส และด้วยความที่แฟนผมเป็นคนน่ารัก บางทีผมกลับบ้านมาก็เขาก็จะถามถึงพี่เอสตลอด "เอสไม่มาเหรอ" "ทำไมไม่ชวนเอสมาด้วย" แต่ผมและแฟน เราเคยคุยกันว่าต่างคนต่างมีระยะห่างในครอบครัวแต่ละคน เพราะเราไม่สามารถแต่งงานกันได้ ไม่สามารถจะมาเป็นครอบครัวเดียวกันได้ ฉะนั้นผมจะไม่เคยบอกใคร ยกเว้นเพื่อนสนิทมากจริงๆ ถึงรู้ว่าพี่เอสคือแฟน ไม่เคยออกงานคู่กัน กับกลุ่มเพื่อน ในวงญาติๆ นานๆก็จะพาไปที

มีครั้งนึง ผมกลับบ้านแล้วเราจะไปเที่ยวกัน ก็แบ่งว่าใครจะนั่งรถไปกับใคร ผมเลยบอกว่า เดี๋ยวผม และลูกพี่ลูกน้องอีกคนไปรถพี่เอส ตาผมได้ยินเลยถามว่า "พี่เอสคือใคร" ลูกพี่ลูกน้องผมดันรีบตอบทันควันว่า "แฟนท้อป" ผมคืออึ้ง แก้แทบไม่ทัน "เพื่อนครับตา พอดีเขาขับรถมา" คือลูกพี่ลูกน้องผมคนนี้เกิดปีเดียวกัน เป็นผู้หญิงและคงพอดูผมออก ด้วยความที่วัยเดียวกัน โตมาด้วยกัน แต่ผมก็ไม่ปลื้มที่เขาบอกตาไปแบบนั้นคือตาผมบุคคลรุ่นสงครามโลก แกจะเข้าใจไหมเรื่อง ชรช บางทีป้าผมก็ชอบแซว เวลาที่รวมญาติจะถ่ายรูปรวม บางทีที่บ้านผมชอบแบบ เอ้าหลานชาย หลานสาว ตอนถ่ายรวมหลานสาว ป้าผมบอก "ท้อปไปถ่ายด้วยสิ เป็นหลานสาวนี่" .....บางทีผมก็โกรธนะ จริงๆผมก็ไม่ได้มีอาการตุ้งติ้งอะไรเลย คนดูผมไม่ออกด้วยซ้ำ แล้วคือแซวผมแบบนี้แสดงว่าลับหลังต้องวิพากษ์วิจารณ์อะไรผมใช่ไหม บางทีผมรู้ตัวนะว่าเหมือนคิดมาก แต่ก็อดไม่ได้

ผมกลายเป็นคนปิดตัว ไม่ค่อยเปิดเผยชีวิตส่วนตัว มีกำแพง มีระยะ คนเข้าถึงความเป็นตัวตนผมยาก สาเหตุเพราะรู้สึกว่า ในความเป็นผมมันไม่ค่อยเข้าท่าสำหรับคนอื่นๆ ผมเลยคบคนแค่ผิวเผิน พูดคุยสนุกสนานได้ ร่วมงานกันได้ แต่ไม่ลงลึกจบแค่เรื่องงาน เรื่องส่วนตัวแบบผิวเผิน จนบางทีเหมือนคนเย็นชา เวลารับรู้เรื่อของใครผมจะเฉยๆ ถ้าช่วยได้ก็ช่วย

ล่าสุด ผมดันไปคอมเม้นท์เพจบันเทิงเพจนึง ซึ่งผมไม่รู้ว่าการที่เราคอมเม้นมันจะไปเด้งที่หน้าฟีดคนอื่น และในเพจนั้นมีแอดมินที่ชอบใช้สำนวนจิกกัด ผมไปเม้นท์แนวขำๆ ออกแนวเกย์ๆนิดนึงเพื่ออรรถรส ปรากฏว่า ญาติผมมากดไลค์ และ reply ด้วยว่า "จริงสุดค่ะเจ้" ผมอึ้ง อึ้ง และอึ้ง ลบเม้นท์ออกมันที และจนตอนนี้ผมแทบไม่เคลื่อนไหวอะไรในเฟสบุ้คเลย คือส่องอย่างเดียว ไม่โพส ไม่ไลค์ ไม่เม้น เพราะผมรู้สึกว่าเฟสบุ้คมันละลาบละล้วงความเป็นส่วนตัวไปหน่อย

ผมพูดเรื่องนี้ให้แฟนฟัง แฟนผมบอกผมคิดมาก มาขนาดนี้เขารู้กันหมดแล้ว ผมก็เข้าใจนะ แต่นึกออกไหมครับ ภาพเก่าๆเมื่อตอนเด็กๆ ที่ผมทำอะไรก็มีแต่คนว่า ทำอะไรก็ไม่เข้าท่า ทำอะไรก็ถูกแซว (ชีวิตวัยเด็กผม โดนแซวมากกว่าถูกชื่นชมซะอีก) ผมกลัวครับ เพราะผมรู้สึกว่าตัวตนผมมันไม่ค่อยเป็นที่ถูกใจใคร

ผมไม่รู้จะแก้ปมปัญหาตรงนี้ยังไง พอเจอแบบนี้ผมยิ่งสร้างกำแพง ยิ่งมีระยะกับคนอื่นๆ แฟนผมบอกอาการหนักแล้ว

อีกอย่าง เฟสบุ้คมันตั้งค่าได้ไหมครับ เวลาเราคอมเม้นท์แล้วไม่ต้องไปขึ้นฟีดคนอื่น
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่