เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงของชาวจีนคนหนึ่ง ลุงเค้าเป็นหัวหน้าหมู่บ้าน เห็นลูกบ้านไม่มีน้ำทำนาแล้วจะอดอยาก ด้วยหัวอกความเป็นผู้นำประกอบกับมีจิตเมตตา ประกอบกับลุงเค้าเคยได้ยินว่ามีคนเคยเจาะภูเขาทำทางเดินให้ลูกบ้านได้ลุงก็เลยอยากจะลองซักตั้ง ตอนแรกขุดเป็นโพรงใหญ่เลยแต่มันไม่ใช่ทางน้ำไหล (แต่โพรงที่ขุดก็ใหญ่มากถ้าเทียบกับเครื่องมือธรรมดา) ลุงเลยไปดูเส้นทางน้ำใหม่จากต้นน้ำที่ลุงไปค้นพบกับหมู่บ้านมีภูเขากั้นถึง 3 ลูก ซึ่งระยะทางถนนคงไม่ไกลมากแต่นี่ ต้องขุดร่องน้ำตามไหล่เขา (จะมีภาพให้ดู) มันไกลและอันตรายมาก ด้วยวิสัยทัศน์และความมีจิตเมตตาของลุงที่เป็นหัวหน้าบ้าน (อยากให้มีมากๆ ในสมัยนี้)



ลุงจึงชวนลูกบ้านออกมาช่วยกันทำ คอยให้กำลังใจตลอด
และสุดท้ายก็สำเร็จ (ปรบมือให้ลุง!!)




มีน้ำไหลมาให้ใช้ถึงหมู่บ้าน ทำให้สามารถทำนาได้และมีผลผลิตที่มากกว่าเดิม
ช่วงท้ายชีวิตคุณลุงก็เป็นครูไปสอนที่โรงเรียน ไปสอนแนวคิดและการใช้ชีวิตให้กับเด็กในหมู่บ้านต่อไป (ซาบซึ้งมาก)

เรื่องราวจะเป็นอย่างไร ติดตามรายละเอียดด้านล่างได้เลยจ้า


ลุงสมาร์ทมาก
หวง ต้าฟา หัวหน้าหมู่บ้าน พยายามที่จะพัฒนาหมู่บ้านของตนเองซึ่งเป็นหมู่บ้านเล็กๆ ชื่อ ฉ่าวหวางป้า บนเขาในมณฑลกุ้ยโจว เขาใช้เวลากว่า 36 ปีในการขุดสร้างธารน้ำผ่านภูเขา 3 ลูก ระยะทางกว่า 10 กิโลเมตร
จากตำนานเล่าขานของจีนโบราณที่ว่าด้วยเรื่องความเพียรของชายชรา ที่ตั้งใจขุดภูเขาทั้งลูกไปทิ้งเพื่อให้คนในครอบครัวเดินทางเข้าเมืองได้ง่ายขึ้น เป็นแรงผลักดันให้ หวง ต้าฟาง เริ่มต้นที่จะทำตามและมีความหวังว่าเขาจะสามารถสร้างช่องธารน้ำผ่านภูเขา 3 ลูกได้จนสำเร็จ ซึ่งโปรเจคใหญ่นี้ของเขาเริ่มต้นในปี ค.ศ. 1959 และใช้เวลา 36 ปี ในการทำให้มันเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา ในปัจจุบันนี้ชาวบ้านต่างรู้สึกซาบซึ้งต่อความพยายามของเขา
ดูทางขุดร่องน้ำแล้วน่าหวาดเสียวมากยืนจริงจะเป็นลมกลัวความสูง
ก่อนที่จะได้ชื่นชมกับช่องธารน้ำนี้ เมื่อก่อนหมู่บ้านแห่งนี้ต้องเผชิญกับปัญหาภัยแล้งเป็นอย่างมาก แทบไม่มีน้ำสำหรับทั้งดื่มและใช้ ถึงขนาดที่ต้องมีกฎว่าทุกคนจะต้องหยุดใช้น้ำอย่างสิ้นเปลือง หากใครสักคนใช้อย่างสิ้นเปลือง บางคนก็จะไม่มีน้ำสำหรับมื้อเช้า ซึ่งนอกนั้นทางหมู่บ้านยังมีนาข้าวที่ต้องดูแลอีก ทำให้ทุกคนต้องหาทางออกอะไรสักอย่าง
แต่ที่แห่งนี้ไม่มีทางเลือกมากมายนัก นอกจากย้ายไปจากที่นี่หรือไม่ทำอะไรเลย และทั้งสองข้อก็ไม่ใช่ตัวเลือก นั่นจึงกลายเป็นเหตุผลที่ทำให้ หวง ต้าฟา พยายามจะโน้มน้าวชาวบ้านให้นำน้ำมาจากแหล่งน้ำอีกแห่งหนึ่งซึ่งห่างออกไปไม่กี่กิโลเมตร แต่ต้องข้ามเขาไปถึง 3 ลูก
ในตอนแรก ชาวบ้านต่างบอกกับเขาว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่จะเอาน้ำจากที่นั่นมาใช้ แต่มันก็ไม่มีทางเลือกอื่น และ หวง ต้าฟา เองก็มั่นใจว่าจะต้องทำได้อย่างแน่นอน เขาพยายามที่จะโน้มน้าวหนุ่มๆ จำนวนหนึ่งให้มาช่วยงานเขาเมื่อปี 1959 ซึ่งในตอนนั้นเขาอายุเพียง 23 ปีเท่านั้น แต่ว่างานนี้ค่อนข้างยากและเสี่ยงจึงเป็นเรื่องยากในการขอแรงจากคนอื่นๆ มาช่วยเพิ่ม
หวง เล่าว่าเขาเป็นคนแรกที่ลองผูกตัวเองไว้กับต้นไม้บนหน้าผาสูง 300 เมตรและหย่อนตัวลงมาที่หน้าผาเพื่อทำงาน “ถ้าฉันไม่เริ่มทำก่อน จะมีใครกล้า” แต่ถึงจะอย่างนั้น อีกหลายคนก็ยังลังเลที่จะทำอยู่ดี
ชาวบ้านใช้เวลา 10 ปีในการขุดทำช่องธารน้ำยาว 100 เมตร ด้วยแรงมือของพวกเอง เขาผ่านภูเขา แต่ก็ไม่ได้อะไรเพราะน้ำไม่ไหลมาตามที่คาดหวังไว้ หวง จึงตระหนักได้ว่าแค่ความมุ่งมั่นไม่เพียงพอต่อการใหญ่ครั้งนี้ พวกเขาจะเป็นจะต้องมีความรู้เกี่ยวกับการชลประทานด้วย เขาจึงใช้เวลาสองสามปีในเมืองเพื่อการศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับระบบน้ำ
เขากลับมาดำเนินโปรเจคต่อในช่วงต้นปี 1990 อีกครั้ง ชาวบ้านต่างพร้อมใจร่วมมือที่จะกลับมาทำโปรเจคนี้ต่ออีกครั้งกับเขา งานมีการดำเนินมากขึ้นจากการศึกษางานอย่างละเอียดของหวง แต่งานนี้ส่งผลกระทบต่อชีวิตของเขาอย่างรุนแรง ขนาดที่ลูกสาวและหลานชายของเขาเสียชีวิตขณะที่เขากำลังทำงานนี้
“พ่อไม่กลับบ้านเลย แม้ตอนที่พี่สาวของผมใกล้เสียชีวิตบนเตียง พ่อก็ยังคงทำงาน เพราะหากเขาลงมาจากที่นั่น คนงานก็จะไม่รู้ว่าจะต้องดำเนินงานต่ออย่างไร” หวง ปินฉวน ลูกชายวัย 53 ปี เล่าให้สื่อฟัง
ในปี 1995 ช่องธารน้ำไหลความยาว 7,200 เมตร ก็เสร็จในที่สุด และน้ำเริ่มไหลมายังหมู่บ้านฉ่าวหวางป้าบ้างแล้ว มันไหลผ่านทั้งหมด 3 หมู่บ้าน ช่วยให้ชาวบ้านได้มีน้ำกินใช้กันทั่วถึง ซึ่งช่องธารน้ำนี้ถูกตั้งชื่อว่าทางน้ำไหล “ต้าฟา” เพื่อเป็นเกียรติให้กับผู้ที่เป็นคนคิดริเริ่ม
“ผมมีความมุ่งมั่นที่จะทำให้หมู่บ้านแห่งนี้มีน้ำกินน้ำใช้ เมื่อท้องอิ่มก็หมายถึงมีสันติสุข หากเรามีอะไรที่เราพอจะทำได้ เราก็อยากจะลองทำ ถ้ามันแต่รอปาฏิหารย์ฉันอาจจะใช้ชีวิตผ่านไปแบบไม่มีอะไรเกิดขึ้นไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลยก็ได้” หวง ต้าฟา ในวัย 82 ปีกล่าว
ECNS รายงานว่าช่องธารน้ำแห่งนี้ ทำให้ชาวบ้านกว่า 1,200 คนได้มีน้ำกินใช้ และเพิ่มผลผลิตข้าวจาก 25,000 เป็น 400,000 กิโลกรัมต่อปีเลยทีเดียว
ในปี 1995 ปีที่ช่องธารน้ำนี้สร้างสำเร็จ ก็ได้มีไฟฟ้าและถนนถูกตัดเข้ามาที่หมู่บ้านแห่งนี้ ซึ่งถือว่าทุกๆ การเปลี่ยนแปลงมาจากความมุ่งมั่นของผู้เฒ่าหวงทั้งสิ้นแม้ว่าตอนนี้เขาจะมีอายุมากกว่า 80 ปีแล้ว แต่เขาก็ยังคงทำหน้าที่ผู้นำหมู่บ้านที่ทำงานอย่างหนักเช่นเดิม รวมถึงตรวจช่องธารน้ำอย่างสม่ำเสมอเช่นเดิม
ทุกวันนี้ ลุงหวง ต้าฟา ก็ยังเดินสำรวจรางน้ำที่ขุดเรื่อยๆ เพื่อดูว่าจะมีอะไรที่ไปขวางทางน้ำหรือไม่
และก็แบ่งปันประสบการณ์ความรู้ การใช้ชีวิตให้กับเด็กๆ ในหมู่บ้าน
+++Huang Dafa ผู้นำหัวใจจิตเมตตาใช้เวลา 36 ปี ขุดร่องน้ำข้ามภูเขา 3 ลูกให้ลูกบ้านมีน้ำใช้+++
* กระทู้นี้สามารถใช้งานได้เฉพาะผู้ที่มี Link นี้เท่านั้นค่ะและสุดท้ายก็สำเร็จ (ปรบมือให้ลุง!!)
ช่วงท้ายชีวิตคุณลุงก็เป็นครูไปสอนที่โรงเรียน ไปสอนแนวคิดและการใช้ชีวิตให้กับเด็กในหมู่บ้านต่อไป (ซาบซึ้งมาก)
เรื่องราวจะเป็นอย่างไร ติดตามรายละเอียดด้านล่างได้เลยจ้า
หวง ต้าฟา หัวหน้าหมู่บ้าน พยายามที่จะพัฒนาหมู่บ้านของตนเองซึ่งเป็นหมู่บ้านเล็กๆ ชื่อ ฉ่าวหวางป้า บนเขาในมณฑลกุ้ยโจว เขาใช้เวลากว่า 36 ปีในการขุดสร้างธารน้ำผ่านภูเขา 3 ลูก ระยะทางกว่า 10 กิโลเมตร
จากตำนานเล่าขานของจีนโบราณที่ว่าด้วยเรื่องความเพียรของชายชรา ที่ตั้งใจขุดภูเขาทั้งลูกไปทิ้งเพื่อให้คนในครอบครัวเดินทางเข้าเมืองได้ง่ายขึ้น เป็นแรงผลักดันให้ หวง ต้าฟาง เริ่มต้นที่จะทำตามและมีความหวังว่าเขาจะสามารถสร้างช่องธารน้ำผ่านภูเขา 3 ลูกได้จนสำเร็จ ซึ่งโปรเจคใหญ่นี้ของเขาเริ่มต้นในปี ค.ศ. 1959 และใช้เวลา 36 ปี ในการทำให้มันเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา ในปัจจุบันนี้ชาวบ้านต่างรู้สึกซาบซึ้งต่อความพยายามของเขา
ก่อนที่จะได้ชื่นชมกับช่องธารน้ำนี้ เมื่อก่อนหมู่บ้านแห่งนี้ต้องเผชิญกับปัญหาภัยแล้งเป็นอย่างมาก แทบไม่มีน้ำสำหรับทั้งดื่มและใช้ ถึงขนาดที่ต้องมีกฎว่าทุกคนจะต้องหยุดใช้น้ำอย่างสิ้นเปลือง หากใครสักคนใช้อย่างสิ้นเปลือง บางคนก็จะไม่มีน้ำสำหรับมื้อเช้า ซึ่งนอกนั้นทางหมู่บ้านยังมีนาข้าวที่ต้องดูแลอีก ทำให้ทุกคนต้องหาทางออกอะไรสักอย่าง
แต่ที่แห่งนี้ไม่มีทางเลือกมากมายนัก นอกจากย้ายไปจากที่นี่หรือไม่ทำอะไรเลย และทั้งสองข้อก็ไม่ใช่ตัวเลือก นั่นจึงกลายเป็นเหตุผลที่ทำให้ หวง ต้าฟา พยายามจะโน้มน้าวชาวบ้านให้นำน้ำมาจากแหล่งน้ำอีกแห่งหนึ่งซึ่งห่างออกไปไม่กี่กิโลเมตร แต่ต้องข้ามเขาไปถึง 3 ลูก
ในตอนแรก ชาวบ้านต่างบอกกับเขาว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่จะเอาน้ำจากที่นั่นมาใช้ แต่มันก็ไม่มีทางเลือกอื่น และ หวง ต้าฟา เองก็มั่นใจว่าจะต้องทำได้อย่างแน่นอน เขาพยายามที่จะโน้มน้าวหนุ่มๆ จำนวนหนึ่งให้มาช่วยงานเขาเมื่อปี 1959 ซึ่งในตอนนั้นเขาอายุเพียง 23 ปีเท่านั้น แต่ว่างานนี้ค่อนข้างยากและเสี่ยงจึงเป็นเรื่องยากในการขอแรงจากคนอื่นๆ มาช่วยเพิ่ม
หวง เล่าว่าเขาเป็นคนแรกที่ลองผูกตัวเองไว้กับต้นไม้บนหน้าผาสูง 300 เมตรและหย่อนตัวลงมาที่หน้าผาเพื่อทำงาน “ถ้าฉันไม่เริ่มทำก่อน จะมีใครกล้า” แต่ถึงจะอย่างนั้น อีกหลายคนก็ยังลังเลที่จะทำอยู่ดี
ชาวบ้านใช้เวลา 10 ปีในการขุดทำช่องธารน้ำยาว 100 เมตร ด้วยแรงมือของพวกเอง เขาผ่านภูเขา แต่ก็ไม่ได้อะไรเพราะน้ำไม่ไหลมาตามที่คาดหวังไว้ หวง จึงตระหนักได้ว่าแค่ความมุ่งมั่นไม่เพียงพอต่อการใหญ่ครั้งนี้ พวกเขาจะเป็นจะต้องมีความรู้เกี่ยวกับการชลประทานด้วย เขาจึงใช้เวลาสองสามปีในเมืองเพื่อการศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับระบบน้ำ
เขากลับมาดำเนินโปรเจคต่อในช่วงต้นปี 1990 อีกครั้ง ชาวบ้านต่างพร้อมใจร่วมมือที่จะกลับมาทำโปรเจคนี้ต่ออีกครั้งกับเขา งานมีการดำเนินมากขึ้นจากการศึกษางานอย่างละเอียดของหวง แต่งานนี้ส่งผลกระทบต่อชีวิตของเขาอย่างรุนแรง ขนาดที่ลูกสาวและหลานชายของเขาเสียชีวิตขณะที่เขากำลังทำงานนี้
“พ่อไม่กลับบ้านเลย แม้ตอนที่พี่สาวของผมใกล้เสียชีวิตบนเตียง พ่อก็ยังคงทำงาน เพราะหากเขาลงมาจากที่นั่น คนงานก็จะไม่รู้ว่าจะต้องดำเนินงานต่ออย่างไร” หวง ปินฉวน ลูกชายวัย 53 ปี เล่าให้สื่อฟัง
ในปี 1995 ช่องธารน้ำไหลความยาว 7,200 เมตร ก็เสร็จในที่สุด และน้ำเริ่มไหลมายังหมู่บ้านฉ่าวหวางป้าบ้างแล้ว มันไหลผ่านทั้งหมด 3 หมู่บ้าน ช่วยให้ชาวบ้านได้มีน้ำกินใช้กันทั่วถึง ซึ่งช่องธารน้ำนี้ถูกตั้งชื่อว่าทางน้ำไหล “ต้าฟา” เพื่อเป็นเกียรติให้กับผู้ที่เป็นคนคิดริเริ่ม
“ผมมีความมุ่งมั่นที่จะทำให้หมู่บ้านแห่งนี้มีน้ำกินน้ำใช้ เมื่อท้องอิ่มก็หมายถึงมีสันติสุข หากเรามีอะไรที่เราพอจะทำได้ เราก็อยากจะลองทำ ถ้ามันแต่รอปาฏิหารย์ฉันอาจจะใช้ชีวิตผ่านไปแบบไม่มีอะไรเกิดขึ้นไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลยก็ได้” หวง ต้าฟา ในวัย 82 ปีกล่าว
ECNS รายงานว่าช่องธารน้ำแห่งนี้ ทำให้ชาวบ้านกว่า 1,200 คนได้มีน้ำกินใช้ และเพิ่มผลผลิตข้าวจาก 25,000 เป็น 400,000 กิโลกรัมต่อปีเลยทีเดียว
ในปี 1995 ปีที่ช่องธารน้ำนี้สร้างสำเร็จ ก็ได้มีไฟฟ้าและถนนถูกตัดเข้ามาที่หมู่บ้านแห่งนี้ ซึ่งถือว่าทุกๆ การเปลี่ยนแปลงมาจากความมุ่งมั่นของผู้เฒ่าหวงทั้งสิ้นแม้ว่าตอนนี้เขาจะมีอายุมากกว่า 80 ปีแล้ว แต่เขาก็ยังคงทำหน้าที่ผู้นำหมู่บ้านที่ทำงานอย่างหนักเช่นเดิม รวมถึงตรวจช่องธารน้ำอย่างสม่ำเสมอเช่นเดิม
ทุกวันนี้ ลุงหวง ต้าฟา ก็ยังเดินสำรวจรางน้ำที่ขุดเรื่อยๆ เพื่อดูว่าจะมีอะไรที่ไปขวางทางน้ำหรือไม่
และก็แบ่งปันประสบการณ์ความรู้ การใช้ชีวิตให้กับเด็กๆ ในหมู่บ้าน