เสาร์]อาทิตย์นี้กะว่าจะนอนผึ่งพุงอยู่ในห้องดูทีวี แต่สัญญาณเคเบิลทีวีที่คอนโดมีปัญหาประกอบกับมีพี่ที่ทำงานเข้ากรุงตอนเช้าวันเสาร์ เลยคิดว่าไม่อยู่แล้วศรีราชา เข้ากรุงเดินเที่ยวดีกว่า จุดเริ่มต้นเมืองกรุงของเราตามที่พี่เขาสะดวกมาส่งอยู่ที่ BTS จตุจักร เรานั่ง BTS ไปที่สถานีสะพานตากสิน ถึงตอน 9.00 น. เดินมาตรงทางออกที่ 4 จากสถานีเห็นหลังคาวัดสวยๆ อยู่ใกล้ๆ สถานี ที่แรกของเราวันนี้
ทางออกที่ 4
วัดยานนาวา
หน้าวัด
วัดยานนาวา เป็นวัดโบราณมีมาตั้งแต่สมัยอยุธยา ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา แถวถนนเจริญกรุง เดิมชื่อ วัดคอกควาย ต่อมาในสมัยกรุงธนบุรีได้รับการยกฐานะเป็นพระอารามหลวง มีชื่อใหม่ว่า วัดคอกกระบือ ในสมัยรัชกาลที่ 3 โปรดเกล้าฯ ให้ปฏิสังขรณ์วัด และสร้างสำเภาพระเจดีย์แทนพระสถูปเจดีย์ทั่วไป และเรียกชื่อใหม่ว่า วัดยานนาวา
เราเข้าไปครั้งแรกนึกว่าอยู่เมืองจีน คนจีนเต็มวัด มีรถบัสหลายคันจอดอยู่ภายในวัด เราเดินขึ้นด้านบนของอาคารแรกทางด้านขวามือ อาคารมหาเจษฏาบดินทร์ ด้านบนมีพระพุทธรูปปางห้ามสมุทร บนอาคารนี้เงียบสงบดี มีคนมานั่งสมาธิหน้าพระพุทธรูปด้วย เราเดินกราบแบบเบาๆ แล้วก็ลงจากมา
อาคารมหาเจษฏาบดินทร์
พระพุทธรูปปางห้ามสมุทร
อาคารด้านล่างอีกหลัง มีพระธาตุ มีพระพุทธรูป ให้กราบไหว้บูชา ภายในอาคารหลังนี้มีวัตถุมงคลให้เช่า คนจีนก็เช่า บางคนเช่าแล้วให้พระสงฆ์สวดมนต์ให้ แล้วก็สวมใส่เลยทันทีก็มี
สำเภาเจดีย์ แล้วก็เข้าไปในพระอุโบสถที่อยู่ด้านหลังสำเภาเจดีย์ ออกมากราบพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ประทับยืนหน้าพระสำเภาพระเจดีย์ ตรงกันข้ามกับสำเภาเจดีย์มีพระโพธิสัตว์กวนอิมหยกขาว เราใช้เวลาอยู่ในวัดยานนาวา 1 ชั่วโมง เราหิวข้าวมาก ตั้งแต่เช้ามีแค่อเมริกาโน่แก้วเดียวลงท้อง เราเลยรีบเดินออกไปหาของกิน แว่วมาว่าของกินละแวกนั้นขึ้นชื่อเรื่องความอร่อยเป็นอย่างมาก เรางี้รีบเดินไวไวเลย
พระประธานในพระอุโบสถ เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ หน้าตักกว้าง 3 ศอก 8 นิ้ว สูง 4 ศอก 10 นิ้ว
ภาพจิตรกรรมด้านหลังบานประตูในพระอุโบสถขึ้น คือรูปกระทงใหญ่ ตามแบบที่ทำในพระราชพิธีลอยพระประทีป
สำเภาเจดีย์
พระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว
พระโพธิสัตว์กวนอิมหยกขาว
ของกิน ถิ่นบางรัก
โหมงหวอ น้ำขมในตำนาน ไหนไหนก็มาแล้ว ต้องลอง เราเลยบอกทางร้านว่าเอามาลองแก้วหนึง เจ้าของร้านเห็นเรามุ่งมั่นขนาดนั้นเลยบอกว่า มันขมจริงๆ นะครับ เอาแบบผสมกับน้ำเก๊กฮวยจะดื่มง่ายกว่า แต่ถ้ากินได้เพียวๆ เลยก็ดี เพราะน้ำขมช่วยในเรื่องแก้ร้อนใน ปกติเราเป็นคนกินง่าย น้ำใบบัวบก น้ำใบย่านาง แบบไม่ใส่น้ำตาลก็เคยกินมาแล้ว แค่นี้คงไม่เท่าไหร่ เราเลยบอกว่า เอามาชิมนิดเดียวก่อน จิบเข้าไป 1 อึก เท่านั้นแหล่ะ ขมจริงๆ ขมยันลำไส้ใหญ่ เราเลยบอกให้เขาผสมกินจะดีกว่า ขนาดผสมแล้วยังขม เราเลยกลั้นใจกระดกกินทีเดียว เพื่อสุขภาพ จัดไป 8 บาท และเพื่อดับความขมที่ยังอวลอยู่ในปาก เราเลยซื้อน้ำสมุนไปมาดื่มอีก 1 ขวด ราคา 20 บาท
ร้านอยู่เยื้องๆ กับโรบินสัน
ประจักษ์เป็ดย่าง ถัดจากร้านน้ำขมมาไม่เท่าไหร่ เจอร้านเป็ดย่างที่เคยอ่านรีวิวผ่านๆ ตามาว่ามีมานานมาก แล้วก็อร่อยมาก ไปถึงเราสั่งบะหมี่เป็ดพิเศษ 70 บาท ต้องพิเศษ เพราะ 10 โมงกว่าแล้ว มีแต่กาแฟกับน้ำขมที่อยู่ในท้อง เรานั่งรออยู่พักหนึง นั่งมองดูคนในร้านทำงานเพลินๆ ก็ได้บะหมี่เป็ดมาเชยชม กินคู่กับน้ำสมุนไพรโหมงหวอ เข้ากันพอดีเลย
[CR] บางรัก เยิฟ เยิฟ
เสาร์]อาทิตย์นี้กะว่าจะนอนผึ่งพุงอยู่ในห้องดูทีวี แต่สัญญาณเคเบิลทีวีที่คอนโดมีปัญหาประกอบกับมีพี่ที่ทำงานเข้ากรุงตอนเช้าวันเสาร์ เลยคิดว่าไม่อยู่แล้วศรีราชา เข้ากรุงเดินเที่ยวดีกว่า จุดเริ่มต้นเมืองกรุงของเราตามที่พี่เขาสะดวกมาส่งอยู่ที่ BTS จตุจักร เรานั่ง BTS ไปที่สถานีสะพานตากสิน ถึงตอน 9.00 น. เดินมาตรงทางออกที่ 4 จากสถานีเห็นหลังคาวัดสวยๆ อยู่ใกล้ๆ สถานี ที่แรกของเราวันนี้
วัดยานนาวา เป็นวัดโบราณมีมาตั้งแต่สมัยอยุธยา ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา แถวถนนเจริญกรุง เดิมชื่อ วัดคอกควาย ต่อมาในสมัยกรุงธนบุรีได้รับการยกฐานะเป็นพระอารามหลวง มีชื่อใหม่ว่า วัดคอกกระบือ ในสมัยรัชกาลที่ 3 โปรดเกล้าฯ ให้ปฏิสังขรณ์วัด และสร้างสำเภาพระเจดีย์แทนพระสถูปเจดีย์ทั่วไป และเรียกชื่อใหม่ว่า วัดยานนาวา
เราเข้าไปครั้งแรกนึกว่าอยู่เมืองจีน คนจีนเต็มวัด มีรถบัสหลายคันจอดอยู่ภายในวัด เราเดินขึ้นด้านบนของอาคารแรกทางด้านขวามือ อาคารมหาเจษฏาบดินทร์ ด้านบนมีพระพุทธรูปปางห้ามสมุทร บนอาคารนี้เงียบสงบดี มีคนมานั่งสมาธิหน้าพระพุทธรูปด้วย เราเดินกราบแบบเบาๆ แล้วก็ลงจากมา
อาคารด้านล่างอีกหลัง มีพระธาตุ มีพระพุทธรูป ให้กราบไหว้บูชา ภายในอาคารหลังนี้มีวัตถุมงคลให้เช่า คนจีนก็เช่า บางคนเช่าแล้วให้พระสงฆ์สวดมนต์ให้ แล้วก็สวมใส่เลยทันทีก็มี
สำเภาเจดีย์ แล้วก็เข้าไปในพระอุโบสถที่อยู่ด้านหลังสำเภาเจดีย์ ออกมากราบพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ประทับยืนหน้าพระสำเภาพระเจดีย์ ตรงกันข้ามกับสำเภาเจดีย์มีพระโพธิสัตว์กวนอิมหยกขาว เราใช้เวลาอยู่ในวัดยานนาวา 1 ชั่วโมง เราหิวข้าวมาก ตั้งแต่เช้ามีแค่อเมริกาโน่แก้วเดียวลงท้อง เราเลยรีบเดินออกไปหาของกิน แว่วมาว่าของกินละแวกนั้นขึ้นชื่อเรื่องความอร่อยเป็นอย่างมาก เรางี้รีบเดินไวไวเลย
โหมงหวอ น้ำขมในตำนาน ไหนไหนก็มาแล้ว ต้องลอง เราเลยบอกทางร้านว่าเอามาลองแก้วหนึง เจ้าของร้านเห็นเรามุ่งมั่นขนาดนั้นเลยบอกว่า มันขมจริงๆ นะครับ เอาแบบผสมกับน้ำเก๊กฮวยจะดื่มง่ายกว่า แต่ถ้ากินได้เพียวๆ เลยก็ดี เพราะน้ำขมช่วยในเรื่องแก้ร้อนใน ปกติเราเป็นคนกินง่าย น้ำใบบัวบก น้ำใบย่านาง แบบไม่ใส่น้ำตาลก็เคยกินมาแล้ว แค่นี้คงไม่เท่าไหร่ เราเลยบอกว่า เอามาชิมนิดเดียวก่อน จิบเข้าไป 1 อึก เท่านั้นแหล่ะ ขมจริงๆ ขมยันลำไส้ใหญ่ เราเลยบอกให้เขาผสมกินจะดีกว่า ขนาดผสมแล้วยังขม เราเลยกลั้นใจกระดกกินทีเดียว เพื่อสุขภาพ จัดไป 8 บาท และเพื่อดับความขมที่ยังอวลอยู่ในปาก เราเลยซื้อน้ำสมุนไปมาดื่มอีก 1 ขวด ราคา 20 บาท
ประจักษ์เป็ดย่าง ถัดจากร้านน้ำขมมาไม่เท่าไหร่ เจอร้านเป็ดย่างที่เคยอ่านรีวิวผ่านๆ ตามาว่ามีมานานมาก แล้วก็อร่อยมาก ไปถึงเราสั่งบะหมี่เป็ดพิเศษ 70 บาท ต้องพิเศษ เพราะ 10 โมงกว่าแล้ว มีแต่กาแฟกับน้ำขมที่อยู่ในท้อง เรานั่งรออยู่พักหนึง นั่งมองดูคนในร้านทำงานเพลินๆ ก็ได้บะหมี่เป็ดมาเชยชม กินคู่กับน้ำสมุนไพรโหมงหวอ เข้ากันพอดีเลย
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น