คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
ความสุขของการนั่งรถไฟ ... ผมมักจะเรียกมันว่า "เสน่ห์" มากกว่า ...
สำหรับเสน่ห์ที่น่าลุ่มหลงของรถไฟไทยที่อยากให้หลายๆท่านได้มาสัมผัสนั้นก็คือ...
เสน่ห์ที่ 1 คือเรื่องของเวลาครับ
...ผมมักจะบอกกับคนรอบตัว เสมอๆว่า "ถ้าคุณเร่งรีบ คุณมีธุระการงาน ผมแนะนำให้คุณหายานพาหนะอื่นเดินทางไปเถอะครับ ...
สำหรับการเดินทางท่องเที่ยวโดยรถไฟคุณต้องว่างจริงๆ และคุณต้องไม่มีความรีบร้อนใดๆหลังจากที่คุณก้าวเท้าขึ้นบันไดรถไฟไป"
เหตุที่ผมพูดแบบนี้ออกไปเพราะ ทุกชั่วโมง ทุกนาที ที่เดินทางโดยรถไฟ คือคุณต้องทำให้ชีวิตมีความผ่อนคลาย
แม้ในหลายๆครั้ง รถไฟมักจะล่าช้า เสียเวลาในการทำขบวนถึงที่หมาย ... คนอื่นๆ จะถึอว่ามันเป็นความผิดพลาดของรถไฟ น่าก่นด่าสาปแช่ง
ไม่พัฒนาซักที ...
แต่สำหรับผม ผมถือว่า ความล่าช้าของขบวนรถไฟนั้น "เป็นกำไรของชีวิต" ครับ
ยิ่งถ้าได้โดยสารบนรถนอน แล้วขบวนรถล่าช้า 120, 150 นาที ขึ้นไปนี่ ถือว่า "ฟิน" เลยล่ะ
คือได้นอนต่อ ได้ชมวิวทิวทัศน์ข้างทาง บางคนบอกว่า "โลกสวย" ไปรึเปล่า?
อ่ะแน่นอน ความสุขของกระผมคือการเดินทางโดยใช้ชีวิตอยู่บนรถไฟ อย่าได้แคร์~ อันนี้ไม่ได้ประชดนะครับผมชอบจริงๆ
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เสน่ห์ที่ 2 คือ "มนุษย์ปุถุชนที่ร่วมเดินทางกันบนขบวนรถไฟ"
...ไม่ว่าจะเป็นพนักงานห้ามล้อ(พหล.) พนักงานรักษารถ (พรร.) ผู้โดยสาร พนักงานปูเตียงรถนอน
หรือแม้กระทั่ง พ่อค้า แม่ค้า ที่หอบหิ้วนำสินค้าอาหารมาขาย บนขบวนรถไฟ ...
อย่างน้อย บุคคลต่างๆ เหล่านี้ บนขบวนรถไฟ คุณจะต้องมีปฏิสัมพันธ์ พูดคุยกับเขาไม่มากก็น้อย ...
เดินทางโดยรถไฟ มักได้เพื่อนร่วมเดินทาง ยิ่งเดินทางคนเดียว ถ้าไม่มีเพลงฟังจากไอโฟน ไม่มีหนังสือการ์ตูนอ่าน ไม่มีเกมกดในมือถือให้เล่น ...
สิ่งที่คลายเหงาก็คือ บุคคลเหล่านี้แหละครับ ได้พูดคุยกับเพื่อนร่วมเดินทางซักนิด ขอซื้ออาหารบนขบวนรถไฟจากแม่ค้าท้องถิ่นนิดหน่อย ...
แค่นี้ก็เพลิดเพลินไปกับการเดินทางท่องเที่ยวด้วยรถไฟแล้วล่ะครับ
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เสน่ห์ที่ 3 คือ "วิวทิวทัศน์ข้างทางระหว่างเดินทางด้วยรถไฟ"
... แน่นอนว่า ถ้าคุณเดินทางด้วย "เครื่องบิน" ... คุณก็เห็นแค่ รันเวย์สนามบิน ก่อนเทคออฟ-กับแลนดิ้ง แค่นั้น
นอกนั้นก็อยู่บนฟ้าละ มองลงมาเห็นเกาะ เห็นภูเขา กระจิ๊ดนึง แล้วก็ เมฆกับขอบฟ้าสีสด - -" บินไม่กี่ชั่วโมง ก็ลงเครื่องละ ...
รวดเร็วก็จริง แต่ไม่ได้ซึมซับความสุนทรีย์ใดๆ เลย
... ถ้าคุณเดินทางโดยรถยนต์ ท่องเที่ยวด้วย "รถทัวร์" ... ฝ่าการจราจรอันติดขัดในเมืองหลวง
ก่อนที่รถทัวร์ที่คุณโดยสารนั้น จะไปซิ่งฉวัดเฉวียนกันบนท้องถนน นั่งหลังขดหลังแข็ง บนเก้าอี้ปรับเอน ไม่ถึง 180 องศา แบบวีไอพี
แถมยังต้องไปเสี่ยงกับอุบัติเหตุบนท้องถนนอีก โอ้ววว เพลีย ...
... วิวข้างทางของเส้นทางรถไฟในประเทศไทย นี่ผมถือว่า เป็นการท่องเที่ยวแบบเบ็ดเสร็จ
คุณจ่ายค่าตั๋วรถไฟคุณก็เที่ยวได้ตั้งแต่ กรุงเทพ ยัน ปลายทาง ในตั๋วแล้วล่ะครับ ...
มีหรือ? รถยนต์พาวิ่งเลียบแม่น้ำยม ข้ามเหวด้วยหมู่สะพาน คอมโพสิต ลอดอุโมงค์ขุนตาน ข้ามสะพานทาชมภู แบบในเส้นทางสายเหนือ ...
มีหรือ? เครื่องบินบินต่ำๆ เลียบชายหาด หัวหิน ประจวบฯ ทุ่งมะเม่า บ้านกรูด ให้ตอนกลางคืน เห็นเรือไดหมึก ด้วย...
ไม่มีอะ ... !!!!
แต่รถไฟทำให้ได้หมดเลยจ่ะ
แค่จ่ายค่าตั๋วรถไฟไปเชียงใหม่ ได้นั่งรถไฟเลียบแม่น้ำยม แก่งหลวง ข้ามสะพานคอมโพสิต ลอดอุโมงค์ขุนตาน ครบ!!
จ่ายค่าตั๋วรถไฟนั่งรถไฟลงใต้ ขบวนรถวิ่งเลียบวิวทะเลประจวบฯ ลอดอุโมงค์ช่องเขา ที่นครศรีธรรมราช ทิวทัศน์สวนปาล์ม สวนยาง ริมทางรถไฟ สัมผัสวิถีชีวิต พี่น้องมุสลิม สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ออกจะมีชีวิตชีวาสวยงาม...
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เสน่ห์ที่ 4 คือ "อาหารชวนชิมทั้งบนขบวนรถและริมราง"
... ของอร่อยรสชาติเด็ดๆ ไม่จำเป็นต้องถ่อสังขารไปกินถึงร้านดัง แค่บนขบวนรถไฟ ก็มีของอร่อยให้ลองลิ้มชิมรส กันสนุกปากแล้วล่ะครับ ...
ยกตัวอย่างเช่น ลงใต้กับ ขบวนรถธรรมดาหลังสวน หรือไปกาญจนบุรี ...
ระหว่างสถานี คลองบางตาล - หนองปลาดุก อย่าพลาดที่จะได้ลองกิน "ข้าวแกงกระทงใบตอง"
ขึ้นเหนือ ของดัง ต้อง ไอศกรีม ณ ชุมทางบ้านภาชี ดับร้อนได้ดีนักแล
และจากเมืองเหนือ เข้ากรุงเทพกับรถเร็วเชียงใหม่ ขอให้ลอง ผัดไทห่อใบตอง ศิลาอาสน์
ไปอีสาน ถ้าผ่านจตุรัส ไก่ย่างที่นี่ก็อร่อยไม่เบาครับ แถมยังมี ไก่ย่างเขาสวนกวางอันเลื่องชือให้ลองชิมด้วย
เดี๋ยวภาคตะวันออกจะน้อยใจ ... นั่งรถไฟไปฉะเชิงเทรา คงเป็นขนมจาก
ปราจีนบุรี หลังสถานีนี่ หมูสะเต๊ะ ต้มตือฮวนเกี้ยมฉ่าย ต้องยกนิ้วให้เลย
ลงไปสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ... ผ่านไปสถานี เทพา ข้าวแกงเขียวหวานไก่ทอดชิ้นโต จะพลาดได้ยังไง
หรือถ้าไม่ไหวจะรอ แนะนำ อาหารบนตู้เสบียงของแต่ละขบวนเลยครับ อร่อยและดีขึ้นจากในอดีตมากๆ
นี่แค่ยกตัวอย่างมาให้ลองเดินทางไปชิม ครับ ... แล้วจะรู้ว่า เสน่ห์ของการทานอาหารบนขบบวนรถไฟนั้นได้ให้อารมณ์อีกอารมณ์หนึ่งเลยล่ะ
ทั้งๆที่มีหลายวิธีในการเดินทางท่องเที่ยวที่น่าจะให้ความสะดวกและรวดเร็วกว่า
แต่การนั่งรถไฟ สามารถตอบโจทย์ความต้องการในการเดินทางของผมเองได้ แถมความปลอดภัยนี่ มีมากกว่าซะอีก
ผมจึงขอรวบปัจจัย ในเรื่องวิวทิวทัศน์ มนุษย์ปุถุชน อาหารการกิน และ เรื่องของเวลา
ถือเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของการเดินทางท่องเที่ยวโดยรถไฟที่ทำให้ผมประทับใจ และติดใจในการนั่งรถไฟ เพื่อการท่องเที่ยวแบบอิสระ
นั่นเอง ...
สำหรับเสน่ห์ที่น่าลุ่มหลงของรถไฟไทยที่อยากให้หลายๆท่านได้มาสัมผัสนั้นก็คือ...
เสน่ห์ที่ 1 คือเรื่องของเวลาครับ
...ผมมักจะบอกกับคนรอบตัว เสมอๆว่า "ถ้าคุณเร่งรีบ คุณมีธุระการงาน ผมแนะนำให้คุณหายานพาหนะอื่นเดินทางไปเถอะครับ ...
สำหรับการเดินทางท่องเที่ยวโดยรถไฟคุณต้องว่างจริงๆ และคุณต้องไม่มีความรีบร้อนใดๆหลังจากที่คุณก้าวเท้าขึ้นบันไดรถไฟไป"
เหตุที่ผมพูดแบบนี้ออกไปเพราะ ทุกชั่วโมง ทุกนาที ที่เดินทางโดยรถไฟ คือคุณต้องทำให้ชีวิตมีความผ่อนคลาย
แม้ในหลายๆครั้ง รถไฟมักจะล่าช้า เสียเวลาในการทำขบวนถึงที่หมาย ... คนอื่นๆ จะถึอว่ามันเป็นความผิดพลาดของรถไฟ น่าก่นด่าสาปแช่ง
ไม่พัฒนาซักที ...
แต่สำหรับผม ผมถือว่า ความล่าช้าของขบวนรถไฟนั้น "เป็นกำไรของชีวิต" ครับ
ยิ่งถ้าได้โดยสารบนรถนอน แล้วขบวนรถล่าช้า 120, 150 นาที ขึ้นไปนี่ ถือว่า "ฟิน" เลยล่ะ
คือได้นอนต่อ ได้ชมวิวทิวทัศน์ข้างทาง บางคนบอกว่า "โลกสวย" ไปรึเปล่า?
อ่ะแน่นอน ความสุขของกระผมคือการเดินทางโดยใช้ชีวิตอยู่บนรถไฟ อย่าได้แคร์~ อันนี้ไม่ได้ประชดนะครับผมชอบจริงๆ
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เสน่ห์ที่ 2 คือ "มนุษย์ปุถุชนที่ร่วมเดินทางกันบนขบวนรถไฟ"
...ไม่ว่าจะเป็นพนักงานห้ามล้อ(พหล.) พนักงานรักษารถ (พรร.) ผู้โดยสาร พนักงานปูเตียงรถนอน
หรือแม้กระทั่ง พ่อค้า แม่ค้า ที่หอบหิ้วนำสินค้าอาหารมาขาย บนขบวนรถไฟ ...
อย่างน้อย บุคคลต่างๆ เหล่านี้ บนขบวนรถไฟ คุณจะต้องมีปฏิสัมพันธ์ พูดคุยกับเขาไม่มากก็น้อย ...
เดินทางโดยรถไฟ มักได้เพื่อนร่วมเดินทาง ยิ่งเดินทางคนเดียว ถ้าไม่มีเพลงฟังจากไอโฟน ไม่มีหนังสือการ์ตูนอ่าน ไม่มีเกมกดในมือถือให้เล่น ...
สิ่งที่คลายเหงาก็คือ บุคคลเหล่านี้แหละครับ ได้พูดคุยกับเพื่อนร่วมเดินทางซักนิด ขอซื้ออาหารบนขบวนรถไฟจากแม่ค้าท้องถิ่นนิดหน่อย ...
แค่นี้ก็เพลิดเพลินไปกับการเดินทางท่องเที่ยวด้วยรถไฟแล้วล่ะครับ
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เสน่ห์ที่ 3 คือ "วิวทิวทัศน์ข้างทางระหว่างเดินทางด้วยรถไฟ"
... แน่นอนว่า ถ้าคุณเดินทางด้วย "เครื่องบิน" ... คุณก็เห็นแค่ รันเวย์สนามบิน ก่อนเทคออฟ-กับแลนดิ้ง แค่นั้น
นอกนั้นก็อยู่บนฟ้าละ มองลงมาเห็นเกาะ เห็นภูเขา กระจิ๊ดนึง แล้วก็ เมฆกับขอบฟ้าสีสด - -" บินไม่กี่ชั่วโมง ก็ลงเครื่องละ ...
รวดเร็วก็จริง แต่ไม่ได้ซึมซับความสุนทรีย์ใดๆ เลย
... ถ้าคุณเดินทางโดยรถยนต์ ท่องเที่ยวด้วย "รถทัวร์" ... ฝ่าการจราจรอันติดขัดในเมืองหลวง
ก่อนที่รถทัวร์ที่คุณโดยสารนั้น จะไปซิ่งฉวัดเฉวียนกันบนท้องถนน นั่งหลังขดหลังแข็ง บนเก้าอี้ปรับเอน ไม่ถึง 180 องศา แบบวีไอพี
แถมยังต้องไปเสี่ยงกับอุบัติเหตุบนท้องถนนอีก โอ้ววว เพลีย ...
... วิวข้างทางของเส้นทางรถไฟในประเทศไทย นี่ผมถือว่า เป็นการท่องเที่ยวแบบเบ็ดเสร็จ
คุณจ่ายค่าตั๋วรถไฟคุณก็เที่ยวได้ตั้งแต่ กรุงเทพ ยัน ปลายทาง ในตั๋วแล้วล่ะครับ ...
มีหรือ? รถยนต์พาวิ่งเลียบแม่น้ำยม ข้ามเหวด้วยหมู่สะพาน คอมโพสิต ลอดอุโมงค์ขุนตาน ข้ามสะพานทาชมภู แบบในเส้นทางสายเหนือ ...
มีหรือ? เครื่องบินบินต่ำๆ เลียบชายหาด หัวหิน ประจวบฯ ทุ่งมะเม่า บ้านกรูด ให้ตอนกลางคืน เห็นเรือไดหมึก ด้วย...
ไม่มีอะ ... !!!!
แต่รถไฟทำให้ได้หมดเลยจ่ะ
แค่จ่ายค่าตั๋วรถไฟไปเชียงใหม่ ได้นั่งรถไฟเลียบแม่น้ำยม แก่งหลวง ข้ามสะพานคอมโพสิต ลอดอุโมงค์ขุนตาน ครบ!!
จ่ายค่าตั๋วรถไฟนั่งรถไฟลงใต้ ขบวนรถวิ่งเลียบวิวทะเลประจวบฯ ลอดอุโมงค์ช่องเขา ที่นครศรีธรรมราช ทิวทัศน์สวนปาล์ม สวนยาง ริมทางรถไฟ สัมผัสวิถีชีวิต พี่น้องมุสลิม สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ออกจะมีชีวิตชีวาสวยงาม...
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เสน่ห์ที่ 4 คือ "อาหารชวนชิมทั้งบนขบวนรถและริมราง"
... ของอร่อยรสชาติเด็ดๆ ไม่จำเป็นต้องถ่อสังขารไปกินถึงร้านดัง แค่บนขบวนรถไฟ ก็มีของอร่อยให้ลองลิ้มชิมรส กันสนุกปากแล้วล่ะครับ ...
ยกตัวอย่างเช่น ลงใต้กับ ขบวนรถธรรมดาหลังสวน หรือไปกาญจนบุรี ...
ระหว่างสถานี คลองบางตาล - หนองปลาดุก อย่าพลาดที่จะได้ลองกิน "ข้าวแกงกระทงใบตอง"
ขึ้นเหนือ ของดัง ต้อง ไอศกรีม ณ ชุมทางบ้านภาชี ดับร้อนได้ดีนักแล
และจากเมืองเหนือ เข้ากรุงเทพกับรถเร็วเชียงใหม่ ขอให้ลอง ผัดไทห่อใบตอง ศิลาอาสน์
ไปอีสาน ถ้าผ่านจตุรัส ไก่ย่างที่นี่ก็อร่อยไม่เบาครับ แถมยังมี ไก่ย่างเขาสวนกวางอันเลื่องชือให้ลองชิมด้วย
เดี๋ยวภาคตะวันออกจะน้อยใจ ... นั่งรถไฟไปฉะเชิงเทรา คงเป็นขนมจาก
ปราจีนบุรี หลังสถานีนี่ หมูสะเต๊ะ ต้มตือฮวนเกี้ยมฉ่าย ต้องยกนิ้วให้เลย
ลงไปสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ... ผ่านไปสถานี เทพา ข้าวแกงเขียวหวานไก่ทอดชิ้นโต จะพลาดได้ยังไง
หรือถ้าไม่ไหวจะรอ แนะนำ อาหารบนตู้เสบียงของแต่ละขบวนเลยครับ อร่อยและดีขึ้นจากในอดีตมากๆ
นี่แค่ยกตัวอย่างมาให้ลองเดินทางไปชิม ครับ ... แล้วจะรู้ว่า เสน่ห์ของการทานอาหารบนขบบวนรถไฟนั้นได้ให้อารมณ์อีกอารมณ์หนึ่งเลยล่ะ
ทั้งๆที่มีหลายวิธีในการเดินทางท่องเที่ยวที่น่าจะให้ความสะดวกและรวดเร็วกว่า
แต่การนั่งรถไฟ สามารถตอบโจทย์ความต้องการในการเดินทางของผมเองได้ แถมความปลอดภัยนี่ มีมากกว่าซะอีก
ผมจึงขอรวบปัจจัย ในเรื่องวิวทิวทัศน์ มนุษย์ปุถุชน อาหารการกิน และ เรื่องของเวลา
ถือเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของการเดินทางท่องเที่ยวโดยรถไฟที่ทำให้ผมประทับใจ และติดใจในการนั่งรถไฟ เพื่อการท่องเที่ยวแบบอิสระ
นั่นเอง ...
แสดงความคิดเห็น
ความสุขของการนั่งรถไฟที่มันต่างจากการนั่งรถโดยสาร รถยนต์ที่ใช้ถนนคืออะไร ทำไมหลายคนชอบนั่งรถไฟ?