เที่ยวยุโรป 10วัน อิตาลี-สวิต-ฝรั่งเศสแบบไปกับทัวร์ Part2

กระทู้สนทนา
หวัดดีค่ะเพื่อนๆ มาทำตามสัญญา ที่จะมาเล่าเรื่องราวการไปเที่ยวยุโรป partแรก แอนนาได้แชร์เกี่ยวกับการเดินทางในอิตาลี (โรม>ฟลอเรนซ์>ปิซ่า>เวนิช>มิลาน)กันไปแล้ว วันนี้เราจะมาต่อกันที่ ประเทศที่หลายคนใฝ่ฝัน คือสวิตเซอร์แลนด์นั้นเองค่ะ
https://pantip.com/topic/36410445
เราเดินทางจากมิลาน มาอิเทอร์ลาเคน เมืองแห่ง4ขุนเขาและ 2 ทะเลสาบ อ่ะลืมบอกไปว่าประเทศสวิตไม่มีทะเลนะค่ะ  อุณหภูมิ เฉลี่ย 16-7 องศาเซลเซียสในเดือน เมษายน ฤดูใบไม้ผลิ


วันที่ห้าของการเดินทาง มิลาน-อินเทอร์ลาเคน
ภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นภูเขา เราใช้เวลาเดินทางกันเกือบ 4 ชม. เมื่อข้ามด่านจากอิตาลี มาสวิตจะสัมผัสได้เลยว่าเส้นทางการเดินทางเริ่มคดเคี้ยว มีอุโมงค์ลอดมากมายที่ตัดผ่านภูเขา ระหว่างข้ามพรมเดินคุณยังจะเจอกับอุโมงส์ที่ยาวที่สุดของโลกด้วยค่ะ สองข้างทางเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียวสุดลูกหูลูกตา


ประชาชนมีความร่วมมือกัน ในการตกแต่งทัศนีย์ภาพ โดยการปลูกหญ้าเต็มพื้นที่


แวะพักรถ ถึงแล้วสวิตเซอร์แลนต์ วิวหลังปั๊มน้ำมันยังสวย



อีกไอเดียเจ๋งๆของที่นี้ห้องน้ำปั๊มน้ำมันที่สวิตเกือบทุกที่ต้องเสียเงินก่อนเข้าประมาณ 1 สวิตฟรังส์ พอเข้าแล้วจะมีสลิปให้ ให้เราเอาสลิปนี้ไปซื้อของในมินิมาร์ท เท่ากับไม่ได้เสียเงินเข้าห้องน้ำฟรีๆ แลกไอติมได้ 1 อัน

ชื่อ original ของโอวันตินจิงๆ


และแล้วเราก็มาถึงเมืองอินเทอร์ลาเคน เมืองนี้เป็นเมืองในฝันที่แอนนาอยากมาที่สุด สาเหตุที่อยากมาเพราะได้มีโอกาสดูละครเรื่องหนึ่งที่ดีมาก นั้นคือเรื่อง รัตนาวดี เรื่องนี้เปิดกรอบทำให้อยากเดินทางมาเที่ยวยุโรปอีกครั้งค่ะ


ธรรมชาติที่สวยงามของที่นี้ ดอกไม้หลากหลายสีสัน ปลูกเต็มริม ถนน สอง ข้างทาง ในตัวเมือง


เหมือนสนามหลวงบ้านเรา ผู้คนจะมารวมตัวกัน เป็นพื้นที่ในการเล่นพารามอเตอร์


เครื่องดื่มแอลกอฮออล์เปิดขายทั้งวัน ต่างกับบ้านเราคือ เค้าจะดื่มคุยกันเหงียบๆ เมืองนี้เลยเป็นเมืองที่เหงียบ ไม่วุ่นวาย


แวะถ่ายรูปก่อนทานข้าวเย็นค่ะ สองทุ่มกว่าแล้ว ยังสว่างอยู่เลยค่ะ กลางวันนานกว่ากลางคืน



เรามาทานกันที่ ภัตตาคาร อาหารพื้นเมือง ได้มีโอกาสเป่าเครื่องเล่นที่มีชื่อว่าAlphorn ซึ่งเป็นเครื่องเป่าทำจากไม้ ใช้แรงมากจิงๆค่ะคือถ้าใครออกกำลังกายมาดีรับลองว่าเป่าดัง


ชีสสวิสฟองดูร์ นี้เลยอยากลองกินมาก มันเป็นยังไงนะเหรอ เฉลย เอาซ้อมยาวๆมาจิ้มขนมปังที่มีลักษณะแข็งถ้าไม่ชอบก็เอาขอบด้านนอกออก และเอาจุ้มลงในชีส ที่ตั้งให้เดือด( กลิ่นชีสแรงมากเทียบกับปลาร้าของบ้านเรา) รสชาติมันๆเค็มๆ อย่าลืมมาลองนะค่ะ สักครั้งในชีวิต




วันที่หกของการเดินทาง ยอดเขาจุงเฟรา-สตาบูร์ก
เดินทางไปยังเมืองกรินเดอร์วาลด์ ซึ่งเราจะขึ้นรถไฟที่สูงที่สุดในยุโรป



มีพาสปอร์ต ภาษาไทยแจกให้ด้วย และที่สำคัญสามารถนำไปปั๊มประทับวันที่ วันที่เดินทางขึ้นไปบนจุงเฟรา ได้อีกด้วย


สามารถเปิดหน้าต่างได้ด้วยนะค่ะ วิวสองข้างทางสวยสุดๆไปเลย อุณหภูมิอยู่ที่ 3  ถึง -7 องศา


ภูเขาที่มีหิมะปกคลุม จะสวยกว่าภูเขาที่ไม่มีหิมะค่ะ


tip ยิ่งสูง อากาศยิ่งบาง อุณหภูมิยิ่งต่ำ ความกดอากาศยิ่งลดน้อยตามไปด้วย เพราะฉะนั้น ความกดอากาศบนยอดเขา จึงน้อยกว่าความกดอากาศที่เชิงเขา
ควรที่จะพักผ่อนให้เพียงพอ และพกลูกอมของหวานไปด้วยเพื่อให้พลังงานทันที ลดกิจกรรม วิ่ง กระโดด เพราะขึ้นไปจะรู้สึกหูอือ เหนื่อยง่ายกว่าปกติ แนะนำก่อนเดินทางควรฟิตร่างกายให้พร้อม ออกกำลังกาย เพราะหากร่างกายอ่อนแอ จะไม่สามารถอยู่บนยอดเขาได้นาน อาจเป็นลมได้

ถึงแล้วค่ะ top of Europe สูงกว่าระดับน้ำทะเล 3,454 เมตร


จุดชมวิว


จุงเฟรา ลมแรงมากกกค่ะ


ใส่แว่นตากันลม และแดดที่กระทบหิมะ แสงวาวมาก


ร้านชอคโกแลตที่สูงที่สุดในยุโรป อร่อยมาก


ภัตตาคารบนยอดเขา ต้องจองคิวก่อนเป็นเดือน


ไอติมอร่อยมาก


ประเทศที่สวยไปทุกมุม ธรรมชาติ อากาศที่บริสุทธ์ ผู้คนมีระเบียบวินัย ขึ้นชื่อเรื่องเวลา แม้ว่าสวิตจะมีหินปูนเยอะที่สุดก็ตาม มาcheck list สักครั้งให้ได้ในชีวิต กับประเทศที่มีชื่อว่า สวิตเซอร์แลนต์
ครั้งต่อไปอย่าลืมติดตามนะค่ะ เราจะไปกันต่อ ที่เมืองสตาร์บูร์ก  ประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่องน้ำหอม นั้นคือฝรั่งเศสนั้นเองค่ะ ^^

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่