*** เรื่องที่เราจะเล่าต่อจากนี้เป็นเรื่องจริงทั้งหมดที่เราได้พบเจอมา หากเพื่อนที่ได้อ่านแล้วจะเชื่อหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับบุคคลน้าา***
เหตุการณ์แรกที่ทำให้เราต้องเห็นสิ่งแปลกๆแล้วเห็นจากเบาๆก็หนักขึ้นเรื่อยๆ
เรื่องนี้ผ่านมาเป็นเวลาหลายปีแล้วแหละ ตอนนั้นเราไปอยู่ ตจว. กับตากับยาย คือเป็นช่วงปิดเทอมพอดี ตอนนั้นเราอายุประมาณ12ปี คือมีคุณยายซึ่งอายุราวๆ80ปีได้แหละ บ้านห่างกับเราแค่หลังเดียว ป่วยหนักจนเดินไม่ไหว ต้องมีคนคอยดูแลท่านอยู่ตลอดก็เป็นลูกหลานของท่านน่ะแหละ ตอนแรกใครๆก็พากันนึกว่าคุณยายท่านป่วยเป็นโรคคนชราธรรมดาๆ แต่ร่างกายของคุณยายนั้นผอม แห้ง ลงทุกวัน เหมือนคนจะไม่เหลือไส้เหลือพุงอะไรแล้ว บางคนก็บอกว่าคุณยายท่านโดนปอบกิน หรือเป็นปอบบ้าง พอผ่านไปไม่กี่วันคุณยายก็เหมือนกับทนกับร่างกายตัวเองไม่ไหวเหมือนจะสิ้นลมหายใจ ก็มีคนในหมู่บ้านพากันไปดู ไปเป็นกำลังใจให้ วันนั้นยายเราก็ไป แต่ไม่ได้ชวนเราไปด้วย แต่เราน่ะแอบตามไป เราส่องดูภายในบ้านคุณยายท่านนอนอยู่ที่เตียง ร่างกายท่านดูแย่มากก (คนแก่คนเฒ่าบอกว่าถ้าคนใกล้จะตายห้ามไปจ้องตาเขา) แต่สายตาเรานั้นดันไปประจบที่ตาของคุณยายพอดี คุณยายท่านมองเรานิ่งมาก จ้องเรา เราก็แปลกใจ แต่ที่แปลกไปมากกว่านั้นคุณยายท่านเลียปากเหมือนหิวอะไรสักอย่างเลียปากอยู่อย่างงั้นแล้วก็มองเราไปด้วย คือนี่เรางงค่ะ แต่ก็ยังยืนจ้องตากับคุณยายคนนั้นอยู่ พอดียายเราเลยเดินมาสะกิตหลังเราแล้วเรียกเรากลับบ้านโดยด่วน พอเรากลับถึงบ้านยายว่าเราเลยค่ะ ว่าไปทำไม คนใกล้จะตายแล้วไม่ต้องไปดู(คือเราเผือก)แล้วเราเลยเล่าเหตุการณ์ที่เราเจอมาให้ยายเราฟังยายเราเลยเอาพระมาให้เราใส่ไว้ ผ่านไปไม่นานหลังจากที่เรากลับมาบ้านคุณยายท่านก็เสีย
แล้วหลังจากที่เราไปเจอเหตุการณ์อันน่าสงสัยนั้นทำให้เราเจออะไรแปลกๆมากขึ้น บ่อยขึ้น ตามมาฟังกันได้เลย👇🏼👇🏼
1. เสียงเกิดขึ้นได้ไง
หลังจากที่ผ่านเหตุการณ์นั้นไปประมาณ3-4วันได้ เราก็เจออะไรที่มันแปลก วันนั้นเราอยู่กันครบบ้านค่ะ ตายาย น้า เรา และก็น้องชาย บ้าน ตายายเราเป็นบ้านสองชั้น ข้างล่างเป็นปูน ข้างบนเป็นไม้มีห้องนอนข้างบน3ห้อง แต่น้าเรานอนห้องข้างล่าง ข้างบนเลยมี่ ตายาย เรา น้องชายที่นอน เรานอนคนเดียว แยกห้องกับน้อง ตายายก็นอนอีกห้องนึง ช่วงนั้นก็ดึกมากแล้วกลังจากดูทีวีด้วยกันเสร็จก็แยกย้ายกันไปนอน เราเข้าห้องล็อคประตูเรียบร้อยปิดไฟ เปิดเพลงฟังแล้วก็นอนตามปกติค่ะ เราเป็นคนที่นอนแล้วชอบรู้สึกตัวตอนตี2ไม่ก็ตี3ทุดครั้งเลย ไม่รู้เป็นอะไร เราก็รู้สึกตัวตอนตี3แล้วก็ปิดเพลงทันที แล้วก็หลับตาลงเพื่ิจะหลับต่อ แต่แล้วหูเราก็ได้ยินเสียงเหมือนคนเปิดฝาโอ่งน้ำ(โอ่งมังกรอะ ที่บ้านนอกจะเป็นฝาสังกะสีนะ)เราก็ลองฟังดูดีๆ เห็ยจริงเสียงฝาโอ่งน้ำ แล้วเสียงมันมาจากข้างบ้านนะ เสียงนี้เราเคนได้ยินบ่อยเหมือนกันเวลาที่ยายเราจะตักน้ำใส่กระติก เราเลยคิดในใจว่า 'เห้ย ตี2ใครจะบ้ามาตักน้ำกันว่ะเนี่ย' และอีกอย่างข้างบ้านก็ไม่มีคนอยู่ด้วยเพราะเจ้าของบ้านยังไม่กลับจาก กทม. แล้วเสียงนั้นก็หายไป เราเลยหลับตา แต่เสียงนั้นก็เหมือนมีคนเอาอะไรไปตีฝาโอ่งนั้นเสียงมันดังมาก ดังจนเราตกใจ รอบแรกเราคิดว่าอะไรตกใส่ แต่พอรอบที่2 คือเสียงรัวเลยค่ะ เราก็เลยลุกขึ้นไปเปิดหน้าต่างดูเปิดนิดเดียวนะแล้วก็เอาไฟฉายส่องเลยจ้า แต่เราไม่เห็นใครเลย ไม่มีอะไร ฝาโอ่งปิดสนิทเหมือนเดิม หากคนตักน้ำต้องมีคาบน้ำสิทำไมไม่มีล่ะ เราเลยปิดหน้าต่างแล้วนอนทันที เช้ามาเราเลยถามตาว่า "ตาข้างบ้านเราเค้ากลับบมาแล้วหรอ ? " ตาตอบว่า "ไม่มี ไม่มีใครมา มีอะไรหรือเปล่า" เราก็เลยตอบแค่ว่าอ๋อ นึกว่าน้องแบมมา(น้องแบมเคยเล่นด้วยกันตอนเด็ก) เราเลยหันหน้าไปมองบ้านหลังนั้น แล้วคิดว่าเสียงเกิดขึ้นได้ยังไง
2. ตากลอง
หลังจากที่เกิดเหตุการณ์นั้นขึ้นไม่นาน เราก็เจออีกแล้ว เราไม่เคยกินไข่เป็ดนะ แต่พอมาอยู่ที่นี่เราได้ลองกินไข่เป็ดเพราะตาคนนึงที่ชื่อว่า "ตากลอง" ตากลองท่านเป็นคนน่ารักๆ รักเด็ก ชั่งพูดชั่งคุย ใจดี ตากลองกับภรรยายชอบไปขายข้าวเหนียวปิ้ง(ข้าวจี่)ที่ตลาดสดตอนเช้า เราก็ซื้อกินบ่อยๆ ตากลองใช้ไข่เป็ดในการชุบข้าว คืออร่อยอ่ะ อีกอย่างบ้านตากลองก็มีไข่เป็ดขายด้วยนะ วันนั้นตากลองเดินมาคุยกับตาเราอยู่ที่บ้านแล้วก็เอาไข่เป็ดมาขายด้วย ตาเราเลยซื้อไว้ ตากลองยิ้มให้เราแล้วบอกว่าไข่เป็ดอร่อยนะ (55555ช่ายยอร่อยจริง) เราเลยยิ้มตอบ พอวันต่อมาเราป่วยแล้วเราก็ไม่ได้ออกไปไหนมาไหนเลยเป็นเวลาหลายวันเกือบอาทิตย์เลยแหละ อยู่แต่ในบ้าน พอเราหายไข้เราเลยให้น้องพาเราไปซื้อขนมอีกหมู่บ้านหนึ่งซึ่งต้องขับรถผ่านหน้าบ้านตากลองอยู่แล้ว พอขับรถผ่านเราก็มองไปที่บ้านตากลองเราเห็นตากลองยืนอยู่หน้าบ้านพอดี เราว่าจะทักแต่ก็ไม่ทันน้องบิดรถเร็วเกิ๊นนน น้องก็ถามเราว่า"เห้ย มองไรว่ะ มองไรมากมาย" เราก็เงียบ พอกับมาเราก็เห็นตากลองยืนอยู่ที่เดิมหันหน้ามาทางถนน มองเราด้วยเราเลยมองกลับ กะจะยิ้มก็ยิ้มไม่ทันอีกน้องเลี้ยวรถเข้าบ้านเร็วเกิ๊นน เรานึกขึ้นได้ว่าป่วยมาหลายวันแล้วไม่ได้กินไข่เป็ดอีกต่างหาก เลยไปถามยายว่า"ไข่เป็ดเหลือมั้ย" ยายบอก"ไม่มีแล้วหมดแล้ว" เราเลยบอกยายว่า"งั้นขอตังค์ไปซื้อไข่เป็ดหน่อยจิ" ยายรีบถามเลยว่า"หนูจะไปซื้อที่ไหน" เราเลยบอก "ก็บ้านตากลองไงยาย" ยายทำหน้าแปลกๆแล้วบอกว่า"ตากลองเค้าไม่อยู่แล้ว" เรานิโต้คืนทันใด "จะไม่อยู่ได้ไงล่ะยายตอนออกไปซื้อของกับน้องตากลองก็ยืนอยู่หน้าบ้าน ตอนกลับมาตากลองก็อยู่ที่เดิม แถมยังมองหนูด้วย หนูก็มองกลับแต่ไม่ได้ยิ้มว่าจะยิ้ม ยิ้มไม่ทัน555" ยายร้องเลยจ้า "โอ้ยยยย ตากลองเค้าตายไป3วันแล้วนะ" เรานิ งงเลย เราเดินไปถามตาอีก ตาก็บอก "ตาก็เพิ่งไปงานศพกลับมานี่แหละ เค้าไปจัดงานที่บ้านเกิดตากลองกันก็ไม่ไกลจากนี่เท่าไหร่หรอก" เราก็เลยไม่พูดอะไรต่อ เราเงียบเลย แล้วได้แต่คิดว่าที่เราเห็นนั่นตากลองจริงๆนะ ตาเค้ามองเราด้วยนะ ตาเค้าใส่เสื้อลายทางสีฟ้านะตาเค้าใส่กางเกงสีขาวนะ ทำไมจะไม่ใช่ตากลองล่ะ โอ้ยยยยย อะไรกันเนี่ยยย
3.คืนหลอน ฝันเป็นจริง หรือเกิดขึ้นจริง
คืนนั้นเราเพลียมาก เพลียจากการที่เราไปเล่นบาสจนถึง2ทุ่ม กลับมาก็อาบน้ำทานข้าวเรียบร้อยก็เกือบจะ5ทุ่มพอดี 'ช่วงนี้เราก็อยู่ที่ ตจว. อยู่นะ'
คือมันดึกมากแล้วตากับยายก็ง่วงมากแล้วเลยแยกย้ายกันไปนอน เรานอนแล้วก็ฝันว่า มีตาคนนึงซึ่งร่างผอมบาง ผมรองทรง ไม่ใส่เสื้อ ใส่กางเกงสีเทาเข้ม จมูกโด่งหน้าเรียว ผิวดำ แล้วก็ยายอีกคนนึงรูปร่างอวบๆ ผิวขาวนิดๆอะ ใส่เสื้อลูกไม้สายเดี่ยวที่คนแก่เค้าชอบใส่กัน นุ้งผ้าถุงสีส้มแซมด้วยสีเขียวเล็กน้อย ตานั่งอยู่ด้านซ้ายเรา ยายนั่งอยู่ประมาณปลายเท้าเรา ตาเอามือลูบหัวเราแล้วบอกว่านอนฝันดีนะ เป็นเด็กดีนะ ตาเค้าห่มผ้าให้เรา แล้วยายเค้าก็ปิดพัดลมให้เราเพราะช่วงนั้นอากาศจะเย็นพอสมควร เราสะดุ้งตื่น ผ้าห่มขึ้นมาปิดถึงคอ ทั้งๆที่เราชอบห่มแค่ครึ่งตัว พัดลมก็ปิด เห้ยยยย! เรานิรีบเปิดประตูแล้วก็วิ่งไปเคาะประตูขอนอนกับตายายเลยจ้าาา แต่เราก็ไม่ได้เล่าให้ตายายฟัง
พอผ่านไปสองคืน เราก็ฝันเห็นตากับยายคู่นี้อีก รอบนี้ก็มารูปแบบเดิมแหละ 'อย่างที่บอกเราเป็นคนชอบรู้สึกตัวตี2ตี3อยู่แล้ว ' แต่รอบนี้คือเราไม่ได้แค่ฝันอย่างเดียวไง คือเรารู้สึกตัวก็ลืมตาขึ้นมา เราก็เห็นตากับยายทั้งสองนั่งอยู่ที่ตำแหน่งเดิมเลย แต่นั่งนิ่งๆเฉยๆ เราเลยทำเป็นไม่สนใจหลับตาลงสักพักก็ลองลืมตาขึ้นมาใหม่ตายาก็ยังนั่งอยู่ แต่ภาพที่เรามองนั้นเริ่งรางๆๆไปเรื่อยๆจนสุดท้ายก็หายไปต่อหน้าต่อตาเราเลย เรามั่นใจ100%เลยว่าเราไม่ได้ตาฝาด แต่เราก็เริ่มไม่กลัวแล้วเพราะรู้ว่าท่านไม่ทำร้ายเราไม่ได้หลอกเราท่านมาดูแลเรา
4. น้องกุมาร
วันนั้นเราได้ออกไปนอนร้านซึ่งเป็นร้านอลูมิเนียมอยู่ประชาอุทิศ90เป็นร้านป้าเราเอง (เรื่องเกิดที่ กทม.) เราไปนอนกับพี่2คนและน้องอีกคน รวมทั้งหมด4คน พวกเราตกลงกันว่าจะนอนที่ออฟฟิสเพราะจะได้เปิดแอร์นอนกันสบายๆ ช่วงนั้นเป็นเวลาเกือบๆ4ทุ่มได้ เราเลยทยอยกันอาบน้ำ พอทุกคนอาบเสร็จ ก็ปิดไฟทุกดวงในตัวร้านแล้วก็นอนกัน ระหว่างนั้นเราก็นอนเล่นๆกันไปเรื่อยทุกคนต่างเผลอหลับกันไปตอนไหนไม่รู้รวมทั้งเราด้วย เราฝันว่ามีเด็กผู้ชาย2คนอายุคิดว่าไม่ถึง10ขวบ เดินเอาขนมลูกกลมๆขาวๆมาให้เรา แต่เราบอกเด็ก2คนนั้นไปว่า ไม่เป็นไรพี่ไม่กิน เด็ก2สองคนนั้นไม่ยอมจะให้เรากินให้ได้เราเลยลุกเดินหนี เด็ก2คนก็เดินตาม เราเลยวิ่ง เด็ก2คนนั้นก็วิ่งพร้อมกับยื่นขนมมาให้แล้วพูดว่า"พี่เอาไป เอาไป หนูให้กิน เอาไปกิน"
เราจำคำพูดได้แม่นเลย) แล้วเราเลยสะดุ้งตื่นเรารู้สึกเหนื่อยมาก เหงื่อไหล ปวดขา เราคิดว่ามันแค่ฝัน เราเลยปิดตาหลับต่อ เเต่ทว่าเราเผลอไปได้ยินเสียง เป็นเสียงรถวิทยุบังคับ ใช่เลยมันเป็นเสียงรถวิทยุบังคับจริงๆ เพราะเราเล่นมันอยู่บ่อยๆ แต่เรายังไม่ลืมตานะ เราฟังไปเรื่อยๆ แล้วคิดว่าใครกันจะมาเล่นเพราะทุกคนหลับสนิทเลย ไม่นานเสียงก็เริ่มมาดังข้างหูของเรา แล้วเสียงก็เหมือนกับไปวิ่งตามกระจกกำแพง เราก็ตาปี๋ทำเป็นไม่สนใจ เราคิดว่าเราหูฝาด แล้วเราก็เผลอหลับไป เช้ามาเราเลยเล่าให้ป้าฟังทั้งเรื่องฝันและเรื่องที่ได้ยิน ป้าเราเลยเดินแล้วไปหยิบขนมก้อนกลมๆขาวๆคล้ายกับที่เราฝันออกมาจากหิ้ง ป้าบอกว่า "อ๋อ สงสัยจะลาขนมไม่หมด ป้าน่ะเลี้ยงกุมารไว้นะป้าลืมบอกเป็นเด็กชาย" เรานิชัดเจนเลย แล้วเสียงที่เราได้ยินป้าบอกว่า "55555 มันก็เสียงรถวิทยุบังคับจริงๆแหละ เพราะป้าไม่ได้เปิดสวิทช์ไว้ แต่นี่มันติดเองได้ไง" เรายิ่งชัดเจนเข้าไปใหญ่
*********หลังจากนั้นก็มีเรื่องมากมายที่เราได้พบได้เจอ คอยติดตามกระทู้เราต่อได้เลยนะ********
[SR] เรื่องเล่าหลอนๆ ป.5ถึงม.5 ที่ต้องเจอมากับตัวเอง จนกล้ายเป็นคนไม่กลัวผีอีกเลย
เหตุการณ์แรกที่ทำให้เราต้องเห็นสิ่งแปลกๆแล้วเห็นจากเบาๆก็หนักขึ้นเรื่อยๆ
เรื่องนี้ผ่านมาเป็นเวลาหลายปีแล้วแหละ ตอนนั้นเราไปอยู่ ตจว. กับตากับยาย คือเป็นช่วงปิดเทอมพอดี ตอนนั้นเราอายุประมาณ12ปี คือมีคุณยายซึ่งอายุราวๆ80ปีได้แหละ บ้านห่างกับเราแค่หลังเดียว ป่วยหนักจนเดินไม่ไหว ต้องมีคนคอยดูแลท่านอยู่ตลอดก็เป็นลูกหลานของท่านน่ะแหละ ตอนแรกใครๆก็พากันนึกว่าคุณยายท่านป่วยเป็นโรคคนชราธรรมดาๆ แต่ร่างกายของคุณยายนั้นผอม แห้ง ลงทุกวัน เหมือนคนจะไม่เหลือไส้เหลือพุงอะไรแล้ว บางคนก็บอกว่าคุณยายท่านโดนปอบกิน หรือเป็นปอบบ้าง พอผ่านไปไม่กี่วันคุณยายก็เหมือนกับทนกับร่างกายตัวเองไม่ไหวเหมือนจะสิ้นลมหายใจ ก็มีคนในหมู่บ้านพากันไปดู ไปเป็นกำลังใจให้ วันนั้นยายเราก็ไป แต่ไม่ได้ชวนเราไปด้วย แต่เราน่ะแอบตามไป เราส่องดูภายในบ้านคุณยายท่านนอนอยู่ที่เตียง ร่างกายท่านดูแย่มากก (คนแก่คนเฒ่าบอกว่าถ้าคนใกล้จะตายห้ามไปจ้องตาเขา) แต่สายตาเรานั้นดันไปประจบที่ตาของคุณยายพอดี คุณยายท่านมองเรานิ่งมาก จ้องเรา เราก็แปลกใจ แต่ที่แปลกไปมากกว่านั้นคุณยายท่านเลียปากเหมือนหิวอะไรสักอย่างเลียปากอยู่อย่างงั้นแล้วก็มองเราไปด้วย คือนี่เรางงค่ะ แต่ก็ยังยืนจ้องตากับคุณยายคนนั้นอยู่ พอดียายเราเลยเดินมาสะกิตหลังเราแล้วเรียกเรากลับบ้านโดยด่วน พอเรากลับถึงบ้านยายว่าเราเลยค่ะ ว่าไปทำไม คนใกล้จะตายแล้วไม่ต้องไปดู(คือเราเผือก)แล้วเราเลยเล่าเหตุการณ์ที่เราเจอมาให้ยายเราฟังยายเราเลยเอาพระมาให้เราใส่ไว้ ผ่านไปไม่นานหลังจากที่เรากลับมาบ้านคุณยายท่านก็เสีย
แล้วหลังจากที่เราไปเจอเหตุการณ์อันน่าสงสัยนั้นทำให้เราเจออะไรแปลกๆมากขึ้น บ่อยขึ้น ตามมาฟังกันได้เลย👇🏼👇🏼
1. เสียงเกิดขึ้นได้ไง
หลังจากที่ผ่านเหตุการณ์นั้นไปประมาณ3-4วันได้ เราก็เจออะไรที่มันแปลก วันนั้นเราอยู่กันครบบ้านค่ะ ตายาย น้า เรา และก็น้องชาย บ้าน ตายายเราเป็นบ้านสองชั้น ข้างล่างเป็นปูน ข้างบนเป็นไม้มีห้องนอนข้างบน3ห้อง แต่น้าเรานอนห้องข้างล่าง ข้างบนเลยมี่ ตายาย เรา น้องชายที่นอน เรานอนคนเดียว แยกห้องกับน้อง ตายายก็นอนอีกห้องนึง ช่วงนั้นก็ดึกมากแล้วกลังจากดูทีวีด้วยกันเสร็จก็แยกย้ายกันไปนอน เราเข้าห้องล็อคประตูเรียบร้อยปิดไฟ เปิดเพลงฟังแล้วก็นอนตามปกติค่ะ เราเป็นคนที่นอนแล้วชอบรู้สึกตัวตอนตี2ไม่ก็ตี3ทุดครั้งเลย ไม่รู้เป็นอะไร เราก็รู้สึกตัวตอนตี3แล้วก็ปิดเพลงทันที แล้วก็หลับตาลงเพื่ิจะหลับต่อ แต่แล้วหูเราก็ได้ยินเสียงเหมือนคนเปิดฝาโอ่งน้ำ(โอ่งมังกรอะ ที่บ้านนอกจะเป็นฝาสังกะสีนะ)เราก็ลองฟังดูดีๆ เห็ยจริงเสียงฝาโอ่งน้ำ แล้วเสียงมันมาจากข้างบ้านนะ เสียงนี้เราเคนได้ยินบ่อยเหมือนกันเวลาที่ยายเราจะตักน้ำใส่กระติก เราเลยคิดในใจว่า 'เห้ย ตี2ใครจะบ้ามาตักน้ำกันว่ะเนี่ย' และอีกอย่างข้างบ้านก็ไม่มีคนอยู่ด้วยเพราะเจ้าของบ้านยังไม่กลับจาก กทม. แล้วเสียงนั้นก็หายไป เราเลยหลับตา แต่เสียงนั้นก็เหมือนมีคนเอาอะไรไปตีฝาโอ่งนั้นเสียงมันดังมาก ดังจนเราตกใจ รอบแรกเราคิดว่าอะไรตกใส่ แต่พอรอบที่2 คือเสียงรัวเลยค่ะ เราก็เลยลุกขึ้นไปเปิดหน้าต่างดูเปิดนิดเดียวนะแล้วก็เอาไฟฉายส่องเลยจ้า แต่เราไม่เห็นใครเลย ไม่มีอะไร ฝาโอ่งปิดสนิทเหมือนเดิม หากคนตักน้ำต้องมีคาบน้ำสิทำไมไม่มีล่ะ เราเลยปิดหน้าต่างแล้วนอนทันที เช้ามาเราเลยถามตาว่า "ตาข้างบ้านเราเค้ากลับบมาแล้วหรอ ? " ตาตอบว่า "ไม่มี ไม่มีใครมา มีอะไรหรือเปล่า" เราก็เลยตอบแค่ว่าอ๋อ นึกว่าน้องแบมมา(น้องแบมเคยเล่นด้วยกันตอนเด็ก) เราเลยหันหน้าไปมองบ้านหลังนั้น แล้วคิดว่าเสียงเกิดขึ้นได้ยังไง
2. ตากลอง
หลังจากที่เกิดเหตุการณ์นั้นขึ้นไม่นาน เราก็เจออีกแล้ว เราไม่เคยกินไข่เป็ดนะ แต่พอมาอยู่ที่นี่เราได้ลองกินไข่เป็ดเพราะตาคนนึงที่ชื่อว่า "ตากลอง" ตากลองท่านเป็นคนน่ารักๆ รักเด็ก ชั่งพูดชั่งคุย ใจดี ตากลองกับภรรยายชอบไปขายข้าวเหนียวปิ้ง(ข้าวจี่)ที่ตลาดสดตอนเช้า เราก็ซื้อกินบ่อยๆ ตากลองใช้ไข่เป็ดในการชุบข้าว คืออร่อยอ่ะ อีกอย่างบ้านตากลองก็มีไข่เป็ดขายด้วยนะ วันนั้นตากลองเดินมาคุยกับตาเราอยู่ที่บ้านแล้วก็เอาไข่เป็ดมาขายด้วย ตาเราเลยซื้อไว้ ตากลองยิ้มให้เราแล้วบอกว่าไข่เป็ดอร่อยนะ (55555ช่ายยอร่อยจริง) เราเลยยิ้มตอบ พอวันต่อมาเราป่วยแล้วเราก็ไม่ได้ออกไปไหนมาไหนเลยเป็นเวลาหลายวันเกือบอาทิตย์เลยแหละ อยู่แต่ในบ้าน พอเราหายไข้เราเลยให้น้องพาเราไปซื้อขนมอีกหมู่บ้านหนึ่งซึ่งต้องขับรถผ่านหน้าบ้านตากลองอยู่แล้ว พอขับรถผ่านเราก็มองไปที่บ้านตากลองเราเห็นตากลองยืนอยู่หน้าบ้านพอดี เราว่าจะทักแต่ก็ไม่ทันน้องบิดรถเร็วเกิ๊นนน น้องก็ถามเราว่า"เห้ย มองไรว่ะ มองไรมากมาย" เราก็เงียบ พอกับมาเราก็เห็นตากลองยืนอยู่ที่เดิมหันหน้ามาทางถนน มองเราด้วยเราเลยมองกลับ กะจะยิ้มก็ยิ้มไม่ทันอีกน้องเลี้ยวรถเข้าบ้านเร็วเกิ๊นน เรานึกขึ้นได้ว่าป่วยมาหลายวันแล้วไม่ได้กินไข่เป็ดอีกต่างหาก เลยไปถามยายว่า"ไข่เป็ดเหลือมั้ย" ยายบอก"ไม่มีแล้วหมดแล้ว" เราเลยบอกยายว่า"งั้นขอตังค์ไปซื้อไข่เป็ดหน่อยจิ" ยายรีบถามเลยว่า"หนูจะไปซื้อที่ไหน" เราเลยบอก "ก็บ้านตากลองไงยาย" ยายทำหน้าแปลกๆแล้วบอกว่า"ตากลองเค้าไม่อยู่แล้ว" เรานิโต้คืนทันใด "จะไม่อยู่ได้ไงล่ะยายตอนออกไปซื้อของกับน้องตากลองก็ยืนอยู่หน้าบ้าน ตอนกลับมาตากลองก็อยู่ที่เดิม แถมยังมองหนูด้วย หนูก็มองกลับแต่ไม่ได้ยิ้มว่าจะยิ้ม ยิ้มไม่ทัน555" ยายร้องเลยจ้า "โอ้ยยยย ตากลองเค้าตายไป3วันแล้วนะ" เรานิ งงเลย เราเดินไปถามตาอีก ตาก็บอก "ตาก็เพิ่งไปงานศพกลับมานี่แหละ เค้าไปจัดงานที่บ้านเกิดตากลองกันก็ไม่ไกลจากนี่เท่าไหร่หรอก" เราก็เลยไม่พูดอะไรต่อ เราเงียบเลย แล้วได้แต่คิดว่าที่เราเห็นนั่นตากลองจริงๆนะ ตาเค้ามองเราด้วยนะ ตาเค้าใส่เสื้อลายทางสีฟ้านะตาเค้าใส่กางเกงสีขาวนะ ทำไมจะไม่ใช่ตากลองล่ะ โอ้ยยยยย อะไรกันเนี่ยยย
3.คืนหลอน ฝันเป็นจริง หรือเกิดขึ้นจริง
คืนนั้นเราเพลียมาก เพลียจากการที่เราไปเล่นบาสจนถึง2ทุ่ม กลับมาก็อาบน้ำทานข้าวเรียบร้อยก็เกือบจะ5ทุ่มพอดี 'ช่วงนี้เราก็อยู่ที่ ตจว. อยู่นะ'
คือมันดึกมากแล้วตากับยายก็ง่วงมากแล้วเลยแยกย้ายกันไปนอน เรานอนแล้วก็ฝันว่า มีตาคนนึงซึ่งร่างผอมบาง ผมรองทรง ไม่ใส่เสื้อ ใส่กางเกงสีเทาเข้ม จมูกโด่งหน้าเรียว ผิวดำ แล้วก็ยายอีกคนนึงรูปร่างอวบๆ ผิวขาวนิดๆอะ ใส่เสื้อลูกไม้สายเดี่ยวที่คนแก่เค้าชอบใส่กัน นุ้งผ้าถุงสีส้มแซมด้วยสีเขียวเล็กน้อย ตานั่งอยู่ด้านซ้ายเรา ยายนั่งอยู่ประมาณปลายเท้าเรา ตาเอามือลูบหัวเราแล้วบอกว่านอนฝันดีนะ เป็นเด็กดีนะ ตาเค้าห่มผ้าให้เรา แล้วยายเค้าก็ปิดพัดลมให้เราเพราะช่วงนั้นอากาศจะเย็นพอสมควร เราสะดุ้งตื่น ผ้าห่มขึ้นมาปิดถึงคอ ทั้งๆที่เราชอบห่มแค่ครึ่งตัว พัดลมก็ปิด เห้ยยยย! เรานิรีบเปิดประตูแล้วก็วิ่งไปเคาะประตูขอนอนกับตายายเลยจ้าาา แต่เราก็ไม่ได้เล่าให้ตายายฟัง
พอผ่านไปสองคืน เราก็ฝันเห็นตากับยายคู่นี้อีก รอบนี้ก็มารูปแบบเดิมแหละ 'อย่างที่บอกเราเป็นคนชอบรู้สึกตัวตี2ตี3อยู่แล้ว ' แต่รอบนี้คือเราไม่ได้แค่ฝันอย่างเดียวไง คือเรารู้สึกตัวก็ลืมตาขึ้นมา เราก็เห็นตากับยายทั้งสองนั่งอยู่ที่ตำแหน่งเดิมเลย แต่นั่งนิ่งๆเฉยๆ เราเลยทำเป็นไม่สนใจหลับตาลงสักพักก็ลองลืมตาขึ้นมาใหม่ตายาก็ยังนั่งอยู่ แต่ภาพที่เรามองนั้นเริ่งรางๆๆไปเรื่อยๆจนสุดท้ายก็หายไปต่อหน้าต่อตาเราเลย เรามั่นใจ100%เลยว่าเราไม่ได้ตาฝาด แต่เราก็เริ่มไม่กลัวแล้วเพราะรู้ว่าท่านไม่ทำร้ายเราไม่ได้หลอกเราท่านมาดูแลเรา
4. น้องกุมาร
วันนั้นเราได้ออกไปนอนร้านซึ่งเป็นร้านอลูมิเนียมอยู่ประชาอุทิศ90เป็นร้านป้าเราเอง (เรื่องเกิดที่ กทม.) เราไปนอนกับพี่2คนและน้องอีกคน รวมทั้งหมด4คน พวกเราตกลงกันว่าจะนอนที่ออฟฟิสเพราะจะได้เปิดแอร์นอนกันสบายๆ ช่วงนั้นเป็นเวลาเกือบๆ4ทุ่มได้ เราเลยทยอยกันอาบน้ำ พอทุกคนอาบเสร็จ ก็ปิดไฟทุกดวงในตัวร้านแล้วก็นอนกัน ระหว่างนั้นเราก็นอนเล่นๆกันไปเรื่อยทุกคนต่างเผลอหลับกันไปตอนไหนไม่รู้รวมทั้งเราด้วย เราฝันว่ามีเด็กผู้ชาย2คนอายุคิดว่าไม่ถึง10ขวบ เดินเอาขนมลูกกลมๆขาวๆมาให้เรา แต่เราบอกเด็ก2คนนั้นไปว่า ไม่เป็นไรพี่ไม่กิน เด็ก2สองคนนั้นไม่ยอมจะให้เรากินให้ได้เราเลยลุกเดินหนี เด็ก2คนก็เดินตาม เราเลยวิ่ง เด็ก2คนนั้นก็วิ่งพร้อมกับยื่นขนมมาให้แล้วพูดว่า"พี่เอาไป เอาไป หนูให้กิน เอาไปกิน"
เราจำคำพูดได้แม่นเลย) แล้วเราเลยสะดุ้งตื่นเรารู้สึกเหนื่อยมาก เหงื่อไหล ปวดขา เราคิดว่ามันแค่ฝัน เราเลยปิดตาหลับต่อ เเต่ทว่าเราเผลอไปได้ยินเสียง เป็นเสียงรถวิทยุบังคับ ใช่เลยมันเป็นเสียงรถวิทยุบังคับจริงๆ เพราะเราเล่นมันอยู่บ่อยๆ แต่เรายังไม่ลืมตานะ เราฟังไปเรื่อยๆ แล้วคิดว่าใครกันจะมาเล่นเพราะทุกคนหลับสนิทเลย ไม่นานเสียงก็เริ่มมาดังข้างหูของเรา แล้วเสียงก็เหมือนกับไปวิ่งตามกระจกกำแพง เราก็ตาปี๋ทำเป็นไม่สนใจ เราคิดว่าเราหูฝาด แล้วเราก็เผลอหลับไป เช้ามาเราเลยเล่าให้ป้าฟังทั้งเรื่องฝันและเรื่องที่ได้ยิน ป้าเราเลยเดินแล้วไปหยิบขนมก้อนกลมๆขาวๆคล้ายกับที่เราฝันออกมาจากหิ้ง ป้าบอกว่า "อ๋อ สงสัยจะลาขนมไม่หมด ป้าน่ะเลี้ยงกุมารไว้นะป้าลืมบอกเป็นเด็กชาย" เรานิชัดเจนเลย แล้วเสียงที่เราได้ยินป้าบอกว่า "55555 มันก็เสียงรถวิทยุบังคับจริงๆแหละ เพราะป้าไม่ได้เปิดสวิทช์ไว้ แต่นี่มันติดเองได้ไง" เรายิ่งชัดเจนเข้าไปใหญ่
*********หลังจากนั้นก็มีเรื่องมากมายที่เราได้พบได้เจอ คอยติดตามกระทู้เราต่อได้เลยนะ********