ฉลาดเกมส์โกง (2017)
6.5/10
ผิดหวังกับท่าทีสอนสั่งราวกับศาสดาของหนังจังเลยจ้า TT

-----------------------
บอกข้อดีก่อน
- ไม่ว่าใครจะว่ายังไง การตัดต่อของเรื่องนี้คือดีมาก ระทึกมาก มันสามารถเปลี่ยนท่าทีหนังดราม่าให้กลายเป็นหนังธริลเลอร์สุดระทึกได้ในพริบตา ประกอบกับดนตรีประกอบที่โหมกันแบบไม่ให้หายใจ นี่นับเป็นจุดแข็งมากๆ ของหนังไปเลย
- การแสดงของนักแสดงนำ ทั้งสี่คนทำให้หนังไหลไปได้จนจนเรื่องอย่างน่าประทับใจ แต่ที่ชอบที่สุดคือการแสดงของ นน ที่รับบทเป็นแบงค์ อาการน้อยอกน้อยใจ ถ่ม

ชะตาชีวิตตัวเองแบบเงียบๆ หรือการกราดเกรี้ยวและการเอาคืนอย่างเจ็บแสบของเขา ดีมากๆ กลายเป็นการแสดงที่เราชอบไปเลย
สิ่งที่ไม่ชอบ
- ก่อนหน้านี้ หนังเคาท์ดาวน์จาก ผกก. คนเดียวกัน ก็มีท่าทีสั่งสอนคนดูมาแล้วราวกับศาสดา อันนี้ก็มีท่าทีสั่งสอน แต่เบากว่ามาก และถือว่ากลมกว่าเคาท์ดาวน์
- ตัวละคร ลิน-แบงค์ เรียนดีทั้งคู่ เป็นลูกชนชั้นกลาง ลินเป็นลูกครูโรงเรียนกลางๆ ส่วนแบงค์เป็นลูกคนรับจ้างซักรีดที่เครื่องซักผ้าพัง หนังฉายให้เห็นชีวิตยากๆ ของแบงค์ที่ต้องซักผ้าแทนแม่ หนังสือไว้อ่านทีหลัง ขับรถไปส่งผ้าให้ลูกค้า ฯลฯ
- และแบงค์นี่เอง ที่เป็นตัวละครที่ถูกปูมาอย่างขาวสะอาดอย่าง "ไม่น่าเชื่อ" คุณธรรมค้ำจุนหัวใจที่ปรากฏในตอนต้นเรื่องทำให้เราไม่เชื่อเลย หนังอาจไม่ได้บอกเราก็จริงว่าทำไมแบงค์เป็นคนอย่างนั้น แต่เท่าที่เรารู้สึกคือหนังมันพยายามทำให้ตัวละครดูน็อนเซ้นต์ และมีหน้าที่เป็นตัวสะท้อนความเฉยเมยที่รัฐหรือผู้ปกครองมีต่อนักเรียนหรือคนในปกครอง (ซึ่งคือต้นตอของการคอร์รัปชั่น)
- ที่พังมากๆ คือหนังทำให้เราเชื่อ "ไม่ ได้ เลย" ว่าอุปสรรคในหนังมันสามารถกลายร่างตัวละครได้อย่างหมดจด หน้ามือเป็นหลังมือแบบนั้น (ถ้าอยากจะให้เปลี่ยนถอดด้ามแบบนี้ แนะนำว่าถ้าจะเอาชะตากรรมโบยตี ยำตีนตัวละครก็อย่าไปยั้งมือ เพราะถ้ายั้งแล้วมันจะทำให้คนดูไม่เชื่อแบบนี้)
สุดท้ายแล้วเรามานั่งทบทวนกับตัวเองว่า ทำไมหนังที่มีพล็อตแบบ "ท่ายาก" แบบนี้มันถึงมีท่าทีสั่งสอน (ไม่ว่าจะหนักหรือเบา) ซะอย่างนั้น ทั้งที่จริงๆ ไม่ต้องสอนอะไรก็ได้ไหม หรือให้คนดูมันไปนั่งขบคิดกันต่อถึงชะตากรรมตัวละครที่ต้นทุนไม่ได้เท่ากันแต่เริ่มไปเองก็ยังได้-และอาจจะดีกว่า
ฝากบล็อก-เพจ สำหรับติดตามข่าวสาร-แลกเปลี่ยนกันเรื่องภาพยนตร์กันนะคะ
Page:
https://www.facebook.com/llkhimll
Blog:
http://llkhimll.wordpress.com/
(Review แบบลัดๆ ฉบับเข้าใจง่าย) ฉลาดเกมส์โกง - ผิดหวังกับท่าทีสอนสั่งราวกับศาสดาของหนังจังเลยจ้า TT
6.5/10
ผิดหวังกับท่าทีสอนสั่งราวกับศาสดาของหนังจังเลยจ้า TT
-----------------------
บอกข้อดีก่อน
- ไม่ว่าใครจะว่ายังไง การตัดต่อของเรื่องนี้คือดีมาก ระทึกมาก มันสามารถเปลี่ยนท่าทีหนังดราม่าให้กลายเป็นหนังธริลเลอร์สุดระทึกได้ในพริบตา ประกอบกับดนตรีประกอบที่โหมกันแบบไม่ให้หายใจ นี่นับเป็นจุดแข็งมากๆ ของหนังไปเลย
- การแสดงของนักแสดงนำ ทั้งสี่คนทำให้หนังไหลไปได้จนจนเรื่องอย่างน่าประทับใจ แต่ที่ชอบที่สุดคือการแสดงของ นน ที่รับบทเป็นแบงค์ อาการน้อยอกน้อยใจ ถ่ม
สิ่งที่ไม่ชอบ
- ก่อนหน้านี้ หนังเคาท์ดาวน์จาก ผกก. คนเดียวกัน ก็มีท่าทีสั่งสอนคนดูมาแล้วราวกับศาสดา อันนี้ก็มีท่าทีสั่งสอน แต่เบากว่ามาก และถือว่ากลมกว่าเคาท์ดาวน์
- ตัวละคร ลิน-แบงค์ เรียนดีทั้งคู่ เป็นลูกชนชั้นกลาง ลินเป็นลูกครูโรงเรียนกลางๆ ส่วนแบงค์เป็นลูกคนรับจ้างซักรีดที่เครื่องซักผ้าพัง หนังฉายให้เห็นชีวิตยากๆ ของแบงค์ที่ต้องซักผ้าแทนแม่ หนังสือไว้อ่านทีหลัง ขับรถไปส่งผ้าให้ลูกค้า ฯลฯ
- และแบงค์นี่เอง ที่เป็นตัวละครที่ถูกปูมาอย่างขาวสะอาดอย่าง "ไม่น่าเชื่อ" คุณธรรมค้ำจุนหัวใจที่ปรากฏในตอนต้นเรื่องทำให้เราไม่เชื่อเลย หนังอาจไม่ได้บอกเราก็จริงว่าทำไมแบงค์เป็นคนอย่างนั้น แต่เท่าที่เรารู้สึกคือหนังมันพยายามทำให้ตัวละครดูน็อนเซ้นต์ และมีหน้าที่เป็นตัวสะท้อนความเฉยเมยที่รัฐหรือผู้ปกครองมีต่อนักเรียนหรือคนในปกครอง (ซึ่งคือต้นตอของการคอร์รัปชั่น)
- ที่พังมากๆ คือหนังทำให้เราเชื่อ "ไม่ ได้ เลย" ว่าอุปสรรคในหนังมันสามารถกลายร่างตัวละครได้อย่างหมดจด หน้ามือเป็นหลังมือแบบนั้น (ถ้าอยากจะให้เปลี่ยนถอดด้ามแบบนี้ แนะนำว่าถ้าจะเอาชะตากรรมโบยตี ยำตีนตัวละครก็อย่าไปยั้งมือ เพราะถ้ายั้งแล้วมันจะทำให้คนดูไม่เชื่อแบบนี้)
สุดท้ายแล้วเรามานั่งทบทวนกับตัวเองว่า ทำไมหนังที่มีพล็อตแบบ "ท่ายาก" แบบนี้มันถึงมีท่าทีสั่งสอน (ไม่ว่าจะหนักหรือเบา) ซะอย่างนั้น ทั้งที่จริงๆ ไม่ต้องสอนอะไรก็ได้ไหม หรือให้คนดูมันไปนั่งขบคิดกันต่อถึงชะตากรรมตัวละครที่ต้นทุนไม่ได้เท่ากันแต่เริ่มไปเองก็ยังได้-และอาจจะดีกว่า
ฝากบล็อก-เพจ สำหรับติดตามข่าวสาร-แลกเปลี่ยนกันเรื่องภาพยนตร์กันนะคะ
Page: https://www.facebook.com/llkhimll
Blog: http://llkhimll.wordpress.com/