*ต่อ* เรื่องหลอนฝึกงาน 2 (ประสบการณ์จริง)

สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ทุกๆ คน ใครที่ได้เข้ามาอ่านกระทู้นี้แล้ว คงจะคุ้นๆ กับชื่อกระทู้ใช่ไหมคะ ใช่ค่ะ...เรามาจากกระทู้นี้เองค่ะ 👉 https://pantip.com/topic/35814434 มันเป็นกระทู้ที่มาเล่าเกี่ยวกับประสบการณ์หลอนในการฝึกงานของเราเอง แต่เราดันเล่าแล้วดองทิ้งไว้ข้ามปี #รู้เลยค่ะว่าเพื่อนๆ ต้องไม่พอใจแน่นอน แต่เราตั้งใจไว้แล้วว่าจะมาเล่าให้จบ ถึงเพื่อนๆ จะไม่อยากเข้ามาอ่านแล้วก็ตาม #ต้องขออภัยจริงๆ ค่ะ @มีเหตุในเรื่องของการโยกย้ายงาน ที่ทำให้ไม่สะดวกไปพักใหญ่ งั้นขออนุญาตเล่าต่อจากกระทู้ที่แล้วเลยแล้วกันนะคะ

          พอหลังจากที่พวกเราทั้ง 4 คน เริ่มรู้สึกได้ว่าบรรยากาศมันค่อนข้างวังเวง เราเลยตัดสินใจพากันเดินออกไปข้างนอกหอพัก ทั้งๆ ที่ไม่รู้เลยว่าจะไปที่ไหนต่อถ้าเดินออกมาแล้ว แต่ตอนนั้นเราคิดแค่ว่า ไปไหนก็ได้ขอแค่ให้พ้นจากหอพักนี้ไปก่อน เมื่อเดินไปถึงปากซอย เราก็ได้พบกับ 7-11 ที่เป็นเพื่อนคู่ใจทั้งในยามเช้าและเย็นของพวกเรา ที่ทำให้อิ่มท้องถ้ามีตังค์ 55555 แต่ตอนนี้มันไม่ใช่แค่นั้น มันเป็นทั้งเพื่อนได้ในยามวิกาล TT ตอนนั้นเราไม่รู้จะไปที่ไหนต่อ เลยตัดสินใจเข้าไปซื้อขนมใน 7-11 แล้วก็ออกมานั่งตรงฟุตบาทหน้า 7-11 เพราะตรงนั้นจะมีคนผ่านตลอด รู้สึกอยู่ตรงนั้นแล้วอุ่นใจ เมื่อเวลาผ่านไปสักพักประมาณมาณเที่ยงคืนกว่าๆ ประกอบกับร่างกายที่อ่อนเพลียจากการฝึกงานมาทั้งวัน ทำให้มีความรู้สึกว่าอยากทิ้งร่างลงที่ไหนสักแห่ง เราจึงปรึกษากันว่าจะกลับไปที่หอพักอีกครั้ง เพราะคิดว่าพระน่าจะเลิกสวดแล้ว แล้วก็เป็นไปตามที่คิด พระเลิกสวดแล้ว...เย้ๆๆๆๆ พอไปถึงหอพัก พวกเราก็รีบขึ้นห้องแล้วพากันหลับด้วยความอ่อนเพลีย ....เช้าแล้ววววว ทุกๆ เช้า เราก็จะวนเวียนอยู่กับเหตุการณ์เดิม คืออาบน้ำ แต่งตัว ซื้อขนมกินรองท้อง แล้วก็ไปฝึกงาน สุดท้ายก็ซื้อขนมกักตุนหลังเลิกฝึกงาน แล้วกลับหอพักวนอยู่อย่างนี้ ...พอเลิกงานพวกเราก็เดินกลับหอตามปกติ พร้อมกับคุยกันแบบขำๆ บวกคิดมาก ว่าเย็นนี้จะไปนอนไหนกันดี พอเดินไปถึงหอพักกับพบว่าผู้คนที่งานศพหายไปเยอะมาก เหลืออยู่เพียงไม่กี่คนเท่านั้น แต่ เอ๊ะ! เอ๊ะ! เอ๊ะ! โรงศพหายไปปปปปป อ๊ากกกกกก!!! คงไม่ได้ย้ายไปไว้ข้างบนหรอกนะ! ที่พวกเราคิดเหมือนจะเวอร์ แต่ใครไม่เจอคงไม่เข้าใจ ว่าชีวิตจริง อะไรก็ดูเวอร์+น่าตื่นเต้นไปซะทุกอย่าง โดยเฉพาะช่วงฝึกงานเนี่ย>< ....แต่สักพักพวกเราก็เข้าใจ เพราะทางญาตของคนที่ตายได้มาบอกกับเราว่า วันนี้เขาได้นำร่างของญาตที่ตายไปเผาเรียบร้อยแล้ว ...พอได้ยินแบบนั้นแล้วพวกเราก็รีบวิ่งขึ้นห้องด้วยความดีใจ ที่คิดว่าคืนนี้จะได้อยู่แบบสบายใจแล้ววววว (โลกชั่งสวยงามมมม >~<) และแล้วคืนนั้นก็ผ่านไปอย่างสวยงาม ไม่มีอะไรเกิดขึ้น หรือทำให้กังวลใจตามฉบับหนังผีไทย ที่ว่าต้องเจอผีหลังงานศพ 55555555 แต่! แต่! แต่! ....ในเช้าวันนั้น มันหักมุมยิ่งกว่าหนังผีไทย เพราะพอพวกเราเดินลงมาจากห้อง เพื่อที่จะไปฝึกงานกลับพบว่า ไม่มีใครหรือแม้แต่คนเฝ้าหออยู่เลยสักคนเดียว แม้แต่เงาก็ไม่เจอ จะมีก็แต่มา 1 ตัว ที่ยืน 4 ขาทำหน้างงๆ (เออ...ไอ้หมา ตูงงกว่าเมิงอีก) แต่ตอนนั้นถึงจะตกใจนิดๆ แต่มันก็ยังไม่ถึงที่สุด เพราะเราคิดว่าญาติเสียทั้งที เขาก็คงพากันกลับบ้านไปทำใจ หรือทำบงทำบุญอะไรประมาณนี้ แล้วเราก็ปล่อยให้ความคิดนี้ผ่านไป ...มุ่งหน้าเดินออกไปที่ฝึกงานอีกเช่นเคย พอตกเย็นก็เหมือนเคย ซื้อขนมกักตุนแล้วก็กลับมาที่หอพัก พอมาถึงก็โน้ตบุ๊คของใครของมัน มือถืออีกคนละเครื่อง พอถึงเวลาก็พานอนหลับไปตามระเบียบ แต่เพื่อนเราคนที่ชื่อทายนางจะเป็นคนที่ติดโซเชียลมาก ถ้าคืนไหนไม่นอนไปพร้อมกับเน็ตบุ๊คปิดหน้า หรือโทรศัพท์มือถือทับหน้าอกไปพร้อมกับหลับตา คงไม่ใช่ทายแน่ๆ 55555  ...ในเช้าของวันหยุดนี้ กิจกรรมที่เราจะทำร่วมกันคือ *ซักผ้า* และในทุกๆ ครั้งที่ซักผ้า จะต้องเปลี่ยนกันลงไปตักน้ำจากชั้นล่างขึ้นมาแบ่งกันซัก เพราะปกติน้ำที่หอก็แทบจะไม่ค่อยไหลอยู่แล้ว ............แต่!!! ความสุขมักจะผ่านไปไวเสมอ เมื่อพวกเราเดินลงมาชั้นล่างเพื่อที่จะตักน้ำขึ้นไปชั้นบนกลับพบว่า...... เห้ย! เห้ย! เห้ยยยยย!!!! ของใช้ ตู้ เตาแก๊ส อุปกรณ์ต่างๆ หายไปหมดเล๊ยยยยยยย!!!! สิ่งที่มายกำลังเล่าอยู่นี้หมายถึงว่า ไม่มีอะไรเหลือเลย นอกจากหอพักเปล่าๆ ที่เหลือแค่พวกเรา 4 คนที่อาศัยอยู่เท่านั้น! ....แต่ไม่สิ ยังเหลือน้องมะหมา 4 ขาอยู่อีกหนึ่งตัว *ฟังแล้วเหมือนจะดี อย่างน้อยก็ยังมีสิ่งมีชีวิตเพิ่มขึ้นมาอีก 1 ตัว แต่ไม่เลยเดี๋ยวค่อยมาเล่ากัน* .....แต่เพื่อนๆ กำลังสงสัยใช่มั้ยคะว่า เจ้าของหออาจจะกลับมาอีกก็ได้ แต่ที่ของหายไปเป็นเพราะมีโขมยหรือเปล่า ....แต่มันไม่ใช่ เพราะคนที่มาทำให้สิ่งของต่างๆ หายไปจากหอพักนี้ ก็คือเจ้าของหอนี้แหละค่ะ แต่เขาไม่ได้มาเก็บของเองนะ เขาจ้างหน่วยงานภายนอก ที่รับจ้างขนย้ายสิ่งของเข้ามาเก็บซะให้เรียบ....ทิ้งหมาไว้ให้ดูต่างหน้าเท่านั้นTT ....ความรู้สึกของพวกเราตอนนั้นพังมาก เคว้งไปหมด ไม่เหลือความรู้สึกที่ว่าดีเลย มันรู้สึกแย่ไปหมด จากหอพักที่คิดว่ากว้างขวางอยู่แล้วตั้งแต่วันแรกที่เข้ามา จนมาถึงตอนนี้ความรู้สึกมันคูณ 10 คือมันไม่ใช่แค่หอพัก แต่มันคือราชวังอันรโหฐานนนนนนนน-_- ....แต่ตอนนั้นพวกเราก็ไม่ได้ล้มเลิกความพยายามที่จะซักผ้านะคะ (ดูยิ่งใหญ่มั้ย😂😂) เราก็ยังคงซักผ้าต่อไป แต่ความคิดตอนนั้นก็เต็มในหัวไปหมด ว่าทำไมแค่แม่บ้านคนนึงตายถึงขนาดต้องย้ายข้าวของออกไปกันจนหมด! หรือว่ามีอะไร...เห้อออออ!!! ตอนนั้นพวกเราเครียดมาก คิดอะไรไม่ออกเลย อยากย้ายหอก็อยากย้าย แต่ก็ไม่อยากเอาเรื่องแบบนี้ไปเล่าให้พ่อแม่ฟังเพราะกลัวว่าจะเป็นแค่เรื่องเด็กๆ สำหรับท่าน แล้วอีกอย่างแม่ของมายก็ไม่ค่อยเหมือนชาวบ้าน คือไม่ค่อยจะสนใจเรื่องพวกนี้สักเท่าไหร่ ถ้าเล่าไปก็คงเป็นแค่เรื่องไร้สาระ เพราะเรื่องการประหยัดงบสำหรับแม่สำคัญสุด 55555 (หยอกๆ) ...พอพวกเราซักผ้าเสร็จกันครบทุกคนแล้ว มันก็คงเป็นไปตามสถานการณ์ตอนนั้น คือนั่งคุยกันเรื่องที่เจ้าของหอพากันย้ายข้าวของออกไปจากหอพัก ก็เม้าท์มอยกันไปพักใหญ่ เลยได้ข้อสรุปว่าจะพักอยู่ที่นี่กันต่อไปคงไม่น่าจะมีอะไรอีกแล้วล่ะ **แต่จนมาถึงวันนี้พวกเราก็ยังงงว่าทำไมพวกเราถึงเลือกที่จะอยู่ที่นั่นต่อ อาจจะเป็นเพราะมันใกล้ที่ฝึกงานด้วยมั้ง**

เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่ำๆ มาต่ออีกนะคะ.... #วันนี้ดึกแล้ว พรุ่งนี้ทำงานเช้าค่ะ @ฝันดีนะคะเพื่อนๆ ทุกคน บายยยย😪😪😪💤💤💤
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่