เรื่องนี้เป็นเรื่องจริง จากประสบการณ์ตรงของผมเอง เป็นเรื่องของโรงเรียนเเห่งนึงในภาคใต้ ที่เกี่ยวกับ
”นางรำ” โปรดใช้วิจารณญานในการอ่านด้วยนะครับ
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อตอนผมอยู่ม.3 ตอนนั้นผมใด้มีโอกาศเป็นตัวเเทน เพื่อส่งตัวไปเเข่งขันทักษะวิชาการที่ต่างจังหวัด ซึ่งมีกำหนดการเดินทางเวลาประมานตี 3 เนื่องด้วยบ้านของผมก็ค่อนข้างที่จะอยู่ห่างกับโรงเรียนพอสมควร ผมเลยคุยกับเเม่ว่าขอไปนอนหอในที่โรงเรียนใด้มั้ย เเม่ก็อนุญาติ ผมก็เลยเก็บผ้า ของใช้ส่วนตัวเพื่อจะเอาไปใช้ที่หอ หลังจากนั้นก็เดินทางไปที่หอในของโรงเรียน พอไปถึงก็นั่งคุยกับเด็กหอเม้าส์มอยอะไรกันสนุกสนาน เเต่พอถึงประโยคสุดท้ายก่อนที่เราจะเเยกย้ายนอนกัน ผมก็ใด้พูดจาท้าทายว่า “เห็นเขาว่าโรงเรียนนี้มันเฮี้ยน อยากจะเห็นสักตัวสองตัวจังเลยว่ะ” เเล้วเราก็เเยกย้ายกันนอน
หลังจากนั้นไม่นานผมก็สะดุ้งตื่น ผมก็เลยลุกขึ้นมาดูนาฬิกาที่ผนังห้อง ปรากฏว่าตอนนั้นเป็นเวลาประมาณ 00:15 น. ก็ยังเหลือเวลาอีก 3ชั่วโมงก่อนเดินทาง เราก็เลยนอนต่ออีกสักแปป กำลังสะลึมสะลือเราเห็นเงาตะคุ่มๆอยู่ที่ตู้เสื้อผ้าที่อยู่ปลายเท้า เราก็เลยลองสังเกตุดูดีๆ ปรากฏว่าสิ่งที่เห็นมันมีลักษณะคล้ายกับ “นางรำ” ที่กำลังร่ายรำอยู่ ตอนนั้นเราตกใจมากเลยนึกในใจว่า “ผีก็อยู่ส่วนผี คนก็อยู่ส่วนคน ต่างคนต่างอยู่นะอย่ามาหลอกกันเลย หลังจากนั้นผมก็ข่มตาหลับไป
ตื่นมาตี 3ก็อาบน้ำเเต่งตัวเดินทางไปเเข่งขันวิชาการตามปกติโดยที่ไม่หวนกลับมาคิดกับสิ่งที่เห็นเมื่อคืนเลย หลังจากกลับจากการเเข่งขัน วันถัดมาก็ใด้มาเรียนตามปกติ ซึ่งในวันนั้นอาจารย์ประจำวิชาก็ติดภารกิจ ทำให้ไม่ใด้มาสอน ท่านจึงให้รุ่นพี่เข้ามาคุมพวกเราไม่ให้ออกไปเล่นรบกวนห้องเรียนข้าง พอรุ่นพี่มาคุมรุ่นพี่ก็ใด้บอกกับพวกเราว่า “น้องๆอยากฟังเรื่องหลอนๆของโรงเรียนนี้กันมั้ย พี่จะเล่าให้ฟัง” ด้วยความที่เป็นวัยรุ่นพวกผมก็ชอบเรื่องอะไรเเบบนี้
รุ่นพี่ก็เริ่มเล่าให้ฟังว่า “ตอนนั้นที่พี่เข้ามาเรียนที่นี่เเรกๆพี่ก็มาอยู่หอในของโรงเรียน ซึ่งหอสมัยนั้นเนี่ยจะเป็นหอรวม ทุกคนจะนอนเรียงหน้ากระดานกัน ซึ่งปลายเท้าทุกคนก็จะเป็นตู้เสื้อผ้าเรียงไปเป็นเเถว เย็นวันนึงพวกพี่ใด้ไปพูดลบหลู่บ้านทรงไทยข้างโรงเรียนว่า “เห็นเขาว่าดุ ไม่เห็นจะมีอะไรเลย” คืนนั้นทุกคนก็นอนกันปกติ ทุกคนหลับกันหมดเเล้ว เหลือพี่คนเดียวที่ยังสะลึมสะลืออยู่ จนพี่ใด้เหลือบไปเห็นเงาตะคุ่มๆที่อยู่หน้าตู้เสื้อผ้า เลยใด้ลืมตาดูชัดๆ ปรากฏว่า สิ่งที่พี่เห็นคือนางรำมายืนรำอยู่ พี่ก็เลยสะกิดคนอื่นๆให้ตื่นกันพอคนข้างๆตื่นมาเห็นก็สะกิดกันต่อๆไป ทุกคนก็เห็นเหมือนกันหมด ทุกคนก็ต่างลุกขึ้นวิ่งทันที เเล้วไปตามคนคุมหอมาช่วยใล่ผีนางรำนี้ออกไป พอคนคุมหอทำพิธีอะไรเสร็จสับทุกอย่างก็กลับมาเป็นปกติ วันรุ่งขึ้นพี่จึงไปถามคนเฒ่าคนเเก่ที่อยู่บริเวณโรงเรียน เกี่ยวกับผีนางรำที่พบเจอกัน
คุณยายท่านนึงจึงเล่าเหตุการในอดีตให้ฟังว่า “สมัยก่อนที่จะสร้างโรงเรียนนี้ เเต่เดิมเเล้วที่ดินของโรงเรียนนี้เป็นที่ดินของบ้านนางรำคนนึง ชื่อนางสมร นางเป็นนางรำที่มีรูปลักษณะหน้าตาที่สวยมากๆ เเล้วก็มีชายคนนึงชื่อ อิน เเอบรักนางสมรมานานเเล้ว เเต่ก็ไม่เคยใด้ครอบครองนางเลย วันนึงนางสมรใด้เเต่งงารกับชายคนนึงซึ่งเป็นทหาร เเล้วต้องออกไปรบในสมัยนั้น พอสามีออกไปรบนางสมรก็ต้องอยู่เพียงลำพัง นายอินชายที่เเอบชอบนางสมรจึงเกิดความเเค้นที่ตนเเอบรักมานาน เเต่กลับไม่ใด้เป็นสามี จึงคิดที่จะฆาตกรรมนางสมร คืนนึงนายอินบุกขึ้นไปบนบ้านนางสมรใด้ข่มขืนนางเเละฆ่านาง ผ่านไปหลายวันชาวบ้านก็แอะใจว่าทำไมนางหายไปไม่เห็นหน้าเลย จึงใด้ไปเเจ้งกับผู้ใหญ่บ้าน ผู้ใหญ่บ้านก็ใด้มาที่บ้านนางสมรเเล้วเรียกนางอยู่พักใหญ่ เเต่ไม่มีเสียงตอบกลับ ผู้ใหญ่บ้านก็เลยเดินขึ้นไปบนบ้านของนาง เเล้วใด้เข้าไปในห้องนาง ผู้ใหญ่บ้านถึงกับช๊อคกับภาพที่เห็น ผู้ใหญ่บ้านท่านเห็นมีเลือดนองเต็มพื้นห้อง เลือดนี้ใหลออกมาจากตู้เสื้อผ้า ผู้ใหญ่บ้านก็ใด้รวบรวมความกล้า เเล้วเปิดตู้เสื้อผ้าออกดู ภาพที่เห็นคือนางสมรถูก ปาดคอ เฉือนเเขน ขา เเล้วยัดเข้าไปในตู้เสื้อผ้า สภาพศพเน่าอืด มีหนอนเต็มไปหมด” เหตุการณ์ที่คุณยายเล่าก็มีประมาณนี้
หลังจากที่ผมใด้ฟังเรื่องที่รุ่นพี่ถ่ายทอด ผมก็นึกถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับผมที่ผมใด้เห็นในคืนนั้น มันทำให้ผมหายสงสัยว่าทำไม ทุกครั้งที่ผีนางรำตนนี้ปรากฏตัวให้นักเรียนเด็กหอเห็นถึงชอบออกมาจากตู้เสื้อผ้า เพราะเขาถูกฆาตกรรมเเล้วหมกใว้ในตู้เสื้อผ้านี่เอง…
ขอบคุณที่อ่านมาจนจบนะครับ ผมยังมีประสบการณ์ตรงอีกเยอะ ใว้จะมาลงให้ทุกคนอ่านกันอีกนะครับ สวัสดีครับ🙏🏻🙏🏻🙏🏻
เรื่องสยองขวัญโรงเรียนเเห่งนึงในภาคใต้ Part : 2
”นางรำ” โปรดใช้วิจารณญานในการอ่านด้วยนะครับ
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อตอนผมอยู่ม.3 ตอนนั้นผมใด้มีโอกาศเป็นตัวเเทน เพื่อส่งตัวไปเเข่งขันทักษะวิชาการที่ต่างจังหวัด ซึ่งมีกำหนดการเดินทางเวลาประมานตี 3 เนื่องด้วยบ้านของผมก็ค่อนข้างที่จะอยู่ห่างกับโรงเรียนพอสมควร ผมเลยคุยกับเเม่ว่าขอไปนอนหอในที่โรงเรียนใด้มั้ย เเม่ก็อนุญาติ ผมก็เลยเก็บผ้า ของใช้ส่วนตัวเพื่อจะเอาไปใช้ที่หอ หลังจากนั้นก็เดินทางไปที่หอในของโรงเรียน พอไปถึงก็นั่งคุยกับเด็กหอเม้าส์มอยอะไรกันสนุกสนาน เเต่พอถึงประโยคสุดท้ายก่อนที่เราจะเเยกย้ายนอนกัน ผมก็ใด้พูดจาท้าทายว่า “เห็นเขาว่าโรงเรียนนี้มันเฮี้ยน อยากจะเห็นสักตัวสองตัวจังเลยว่ะ” เเล้วเราก็เเยกย้ายกันนอน
หลังจากนั้นไม่นานผมก็สะดุ้งตื่น ผมก็เลยลุกขึ้นมาดูนาฬิกาที่ผนังห้อง ปรากฏว่าตอนนั้นเป็นเวลาประมาณ 00:15 น. ก็ยังเหลือเวลาอีก 3ชั่วโมงก่อนเดินทาง เราก็เลยนอนต่ออีกสักแปป กำลังสะลึมสะลือเราเห็นเงาตะคุ่มๆอยู่ที่ตู้เสื้อผ้าที่อยู่ปลายเท้า เราก็เลยลองสังเกตุดูดีๆ ปรากฏว่าสิ่งที่เห็นมันมีลักษณะคล้ายกับ “นางรำ” ที่กำลังร่ายรำอยู่ ตอนนั้นเราตกใจมากเลยนึกในใจว่า “ผีก็อยู่ส่วนผี คนก็อยู่ส่วนคน ต่างคนต่างอยู่นะอย่ามาหลอกกันเลย หลังจากนั้นผมก็ข่มตาหลับไป
ตื่นมาตี 3ก็อาบน้ำเเต่งตัวเดินทางไปเเข่งขันวิชาการตามปกติโดยที่ไม่หวนกลับมาคิดกับสิ่งที่เห็นเมื่อคืนเลย หลังจากกลับจากการเเข่งขัน วันถัดมาก็ใด้มาเรียนตามปกติ ซึ่งในวันนั้นอาจารย์ประจำวิชาก็ติดภารกิจ ทำให้ไม่ใด้มาสอน ท่านจึงให้รุ่นพี่เข้ามาคุมพวกเราไม่ให้ออกไปเล่นรบกวนห้องเรียนข้าง พอรุ่นพี่มาคุมรุ่นพี่ก็ใด้บอกกับพวกเราว่า “น้องๆอยากฟังเรื่องหลอนๆของโรงเรียนนี้กันมั้ย พี่จะเล่าให้ฟัง” ด้วยความที่เป็นวัยรุ่นพวกผมก็ชอบเรื่องอะไรเเบบนี้
รุ่นพี่ก็เริ่มเล่าให้ฟังว่า “ตอนนั้นที่พี่เข้ามาเรียนที่นี่เเรกๆพี่ก็มาอยู่หอในของโรงเรียน ซึ่งหอสมัยนั้นเนี่ยจะเป็นหอรวม ทุกคนจะนอนเรียงหน้ากระดานกัน ซึ่งปลายเท้าทุกคนก็จะเป็นตู้เสื้อผ้าเรียงไปเป็นเเถว เย็นวันนึงพวกพี่ใด้ไปพูดลบหลู่บ้านทรงไทยข้างโรงเรียนว่า “เห็นเขาว่าดุ ไม่เห็นจะมีอะไรเลย” คืนนั้นทุกคนก็นอนกันปกติ ทุกคนหลับกันหมดเเล้ว เหลือพี่คนเดียวที่ยังสะลึมสะลืออยู่ จนพี่ใด้เหลือบไปเห็นเงาตะคุ่มๆที่อยู่หน้าตู้เสื้อผ้า เลยใด้ลืมตาดูชัดๆ ปรากฏว่า สิ่งที่พี่เห็นคือนางรำมายืนรำอยู่ พี่ก็เลยสะกิดคนอื่นๆให้ตื่นกันพอคนข้างๆตื่นมาเห็นก็สะกิดกันต่อๆไป ทุกคนก็เห็นเหมือนกันหมด ทุกคนก็ต่างลุกขึ้นวิ่งทันที เเล้วไปตามคนคุมหอมาช่วยใล่ผีนางรำนี้ออกไป พอคนคุมหอทำพิธีอะไรเสร็จสับทุกอย่างก็กลับมาเป็นปกติ วันรุ่งขึ้นพี่จึงไปถามคนเฒ่าคนเเก่ที่อยู่บริเวณโรงเรียน เกี่ยวกับผีนางรำที่พบเจอกัน
คุณยายท่านนึงจึงเล่าเหตุการในอดีตให้ฟังว่า “สมัยก่อนที่จะสร้างโรงเรียนนี้ เเต่เดิมเเล้วที่ดินของโรงเรียนนี้เป็นที่ดินของบ้านนางรำคนนึง ชื่อนางสมร นางเป็นนางรำที่มีรูปลักษณะหน้าตาที่สวยมากๆ เเล้วก็มีชายคนนึงชื่อ อิน เเอบรักนางสมรมานานเเล้ว เเต่ก็ไม่เคยใด้ครอบครองนางเลย วันนึงนางสมรใด้เเต่งงารกับชายคนนึงซึ่งเป็นทหาร เเล้วต้องออกไปรบในสมัยนั้น พอสามีออกไปรบนางสมรก็ต้องอยู่เพียงลำพัง นายอินชายที่เเอบชอบนางสมรจึงเกิดความเเค้นที่ตนเเอบรักมานาน เเต่กลับไม่ใด้เป็นสามี จึงคิดที่จะฆาตกรรมนางสมร คืนนึงนายอินบุกขึ้นไปบนบ้านนางสมรใด้ข่มขืนนางเเละฆ่านาง ผ่านไปหลายวันชาวบ้านก็แอะใจว่าทำไมนางหายไปไม่เห็นหน้าเลย จึงใด้ไปเเจ้งกับผู้ใหญ่บ้าน ผู้ใหญ่บ้านก็ใด้มาที่บ้านนางสมรเเล้วเรียกนางอยู่พักใหญ่ เเต่ไม่มีเสียงตอบกลับ ผู้ใหญ่บ้านก็เลยเดินขึ้นไปบนบ้านของนาง เเล้วใด้เข้าไปในห้องนาง ผู้ใหญ่บ้านถึงกับช๊อคกับภาพที่เห็น ผู้ใหญ่บ้านท่านเห็นมีเลือดนองเต็มพื้นห้อง เลือดนี้ใหลออกมาจากตู้เสื้อผ้า ผู้ใหญ่บ้านก็ใด้รวบรวมความกล้า เเล้วเปิดตู้เสื้อผ้าออกดู ภาพที่เห็นคือนางสมรถูก ปาดคอ เฉือนเเขน ขา เเล้วยัดเข้าไปในตู้เสื้อผ้า สภาพศพเน่าอืด มีหนอนเต็มไปหมด” เหตุการณ์ที่คุณยายเล่าก็มีประมาณนี้
หลังจากที่ผมใด้ฟังเรื่องที่รุ่นพี่ถ่ายทอด ผมก็นึกถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับผมที่ผมใด้เห็นในคืนนั้น มันทำให้ผมหายสงสัยว่าทำไม ทุกครั้งที่ผีนางรำตนนี้ปรากฏตัวให้นักเรียนเด็กหอเห็นถึงชอบออกมาจากตู้เสื้อผ้า เพราะเขาถูกฆาตกรรมเเล้วหมกใว้ในตู้เสื้อผ้านี่เอง…
ขอบคุณที่อ่านมาจนจบนะครับ ผมยังมีประสบการณ์ตรงอีกเยอะ ใว้จะมาลงให้ทุกคนอ่านกันอีกนะครับ สวัสดีครับ🙏🏻🙏🏻🙏🏻