ช่วยกันหาเงินซื้อบ้านกับแฟน แต่ญาติบอกห้ามให้แฟนมีชื่อในบ้านหลังนี้!!??

เจ้าของกระทู้ทำงานช่วยกันเก็บเงินกับแฟน แฟนทำงานประจำ ว่างจากงานประจำก็ขายของกัน ส่วนเจ้าของกระทู้ทำฟรีแลนซ์ ว่างก็ขายของกับแฟน ทุนที่เริ่มขายของแฟนก็เป็นคนออก ส่วนกำไรที่ได้มาทั้งหมดแฟนให้ราเก็บหมด
เราคบกันมาเกือบปี อยู่กินกันแล้วค่ะ เรามีการวางแผนจะซื้อบ้านด้วยกันตั้งแต่คบกันแรกๆแล้ว เพราะเรากับแฟนก็อายุ30+

ตอนเราไปทำเรื่องกู้ซื้อบ้าน เราไปกะแฟน2คน ตกลงกู้ร่วม และเมื่อได้บ้านแล้ว เราวางแผนกันว่าจะแต่งงานกันที่บ้านหลังนี้ (แต่งเล็กๆในบ้าน ทำพร้อมงานขึ้นบ้านใหม่) ทั้งหมดนี้เราไม่ได้ปรึกษาใคร คิดเองทำเองกับแฟน2คน เพราะเราใช้ชีวิตด้วยตัวเองตั้งแต่15 ทำงานหาเงินเองมาตลอด ทำอะไรเลยไม่ปรึกษาใครเพราะคิดว่าเงินเราหาเอง

เรื่องมาเกิดตอนเราไปทำเรื่องกู้ซื้อบ้านมาแล้ว ญาติโทรมาโวยวายว่าทำแบบนี้ไม่ถูก ที่จะให้แฟนมีชื่อในกรรมสิทธิ์ของบ้าน เพราะถ้าเลิกกันไปเงินที่เราเก็บมาทั้งหมดจะสูญเปล่า

ขออธิบายก่อนว่าเราหาเงินได้มากกว่าแฟน แฟนเงินเดือน15000฿ เราหาเงินได้7-80000฿ บางเดือนก็ได้เป็นแสน แล้วแต่งาน (เราทำฟรีแลนซ์) แต่แฟนเราขยันมาก เลิกจากงานนางก็ไปขายของ รับน้ำ ขนมจากโรงงานไปขายส่งตามร้านขายของชำ กำไรวันนึงก็ราวๆ500฿ มีออเดอร์ทุกวัน จนมาวันนึงเราตกลงกันที่จะหาอะไรทำเพิ่ม ก็คือขายของตามตลาดนัด (ของกิน) เงินทุนแฟนออกตามที่บอกไป แล้วเราเก็บเงินทั้งหมดเอง ตกลงกันว่าเงินที่ได้จากการขายของนี่แหล่ะที่จะเอามาผ่อนบ้าน (ผ่อนบ้านเดือนนึงประมาณ15000) ละพอญาติรู้ว่าเรากู้ร่วม เค้าโทมาว่าไม่ยอมให้แฟนเรามีสิทธิ์ในบ้านหลังนี้เด็ดขาด บอกให้เราทำเป็นชื่อเราคนเดียว เราก็บอกมันไม่แฟร์กับแฟนเรา เพราะเงินที่ผ่อนบ้านเค้าก็มีส่วนหามา จริงๆจะว่าของแฟนเราทั้งหมดเลยก็ว่าได้ เพราะมันได้จากกำไรที่เค้าเป็นคนลงทุนเอง เราก็พยายามอธิบายให้ญาติเราเข้าใจ แต่เหมือนเค้าโมโหเรามาก เหมือนเราทำอะไรผิด เราให้เค้าคิดกลับกันว่าถ้าเกิดเปลี่ยนเป็นเราได้แฟนรวยกว่าแล้วซื้อบ้านกันซึ่งเราก็ออกเงินในบ้านนั้นด้วย และญาติแฟนเรามาทำงี้กะเรา จะรู้สึกยังไง

โดยญาติเราให้เหตุผลว่าเป็นห่วง เพราะแฟนเราเข้ามาตอนเราเริ่มมีเงินบ้างแล้ว แต่คือตอนเราคบกันใหม่ๆ แฟนเราไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเรามีรายได้ยังไง นึกว่าเราเป็นพนักงานบริษัทธรรมดา คบกันสักพักแฟนเราถึงรู้ แฟนเราเปนคนขยันมาก และดีกับเราในระดับนึงเลย 1ปีที่คบกันไม่เคยทะเลาะกันเลย มีแต่เรานึกหงุดหงิดมาเองละก็ไปลงที่เค้า เค้าก็เป็นคนยอมให้ตลอด ข้อนี้ญาติเราก็เห็น แต่ญาติเราให้เหตุผลว่าที่แฟนเรายอมเพราะเรามีเงิน ซึ่งเราก็พยายามอธิบายละว่าตอนแรกแฟนเราไม่รู้เรื่องรายได้เราเลยเค้าก็ยังยอมเรามาตั้งแต่แรก ญาติเราบอกว่าถ้าเค้ารักเราจริงเค้าต้องยอมไม่มีสิทธิในบ้านนี้ได้สิ เราก็บอกว่าละมันจะเป็นครอบครัวได้ยังไง เราคิดจะสร้างครอบครัวกับคนนี้ ถ้าเราทำแบบนั้นเท่ากับเราผลักแฟนเราให้เป็นคนนอกเลย

ใจเราก็ไม่ได้คิดจะทำตามที่ญาติเราบอกนะคะ แต่ที่มาโพสในนี้คือเราอึดอัดกะญาติเรามาก ทั้งๆที่เมื่อก่อนเค้าไม่เคยมายุ่งกะเราเลย ไม่ว่าเราจะทำอะไร เราจะตัดสินใจยังไงเค้าก็เคารพการจัดสินใจเราตลอด แต่ครั้งนี้เรางงเลยว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้

ถ้าจะบอกว่าแฟนเรามาเกาะเรา ตามที่เราเห็นการกระทำของเค้าเราว่าไม่ใช่อ่ะค่ะ ถ้าเค้าจะเกาะ เค้าจะทำงานงกๆจนแทบไม่ได้นอนทำไม ละเงินเค้าก็ให้เราเก็บทุกบาท

ทำไมแค่เค้าหาเงินได้น้อยกว่าเราถึงทำให้โดนมองว่าเค้ามาเกาะเราด้วยอ่ะคะ ในความคิดเรานะ ถ้าคนจะมาเกาะคือเค้าคงอยู่เฉยๆไม่ต้องดิ้นรนอะไร แต่นี้คือเค้าทำทุกอย่างที่ได้เงินและสุจริต

เราจะพูดยังไงกับญาติเราดีคะ แต่เรื่องนี้เรายังไม่ได้บอกแฟนเรานะคะ มันเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมากๆ

ก่อนหน้านี้ญาติเราไม่มีทีท่าจะไม่ชอบแฟนเราเลยค่ะ ทุกอย่างดีมาตลอด เพิ่งมาเปนตอนที่กำลังจะซื้อบ้านนี่ล่ะค่ะ

อยากจะถามทุกคนว่าถ้าเป็นแบบเรา จะทำยังไงกันคะ
หรือถ้าเป็นในมุมของแฟนเรา จะยอมกันมั้ย ที่ต้องจ่ายเงินค่าผ่อนบ้านทุกเดือนๆแต่ไม่มีสิทธิ์ในบ้านหลังนั้น

นี่ขนาดยังไม่รู้เลยนะคะว่าจะกู้ผ่านกันรึป่าว ยังมีเรื่องให้ปวดหัสมาแล้ว .....
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 14
บอกญาติว่า.  ใส่ชื่อคนเดียวธนาคารไม่ยอม.  เพราะฟรีแลนซ์รายได้ไม่แน่นอน.  ขอให้ญาติช่วยเซ็นค้ำประกันให้.  แต่ไม่ให้เขามีชื่อในบ้านนะ  ดูซิจะว่ายังไง...555
ความคิดเห็นที่ 2
เป็นแค่ญาติแล้วจะมาบงการอะไรกับชีวิตคู่ของพวกคุณสองคนล่ะคะ งงมากเลย คือก็เข้าใจทางญาตินะว่าเป็นห่วงน่ะ แต่ถ้ามากไปก็ดูเหมือนเป็นการล้ำเส้นรึเปล่า จริง ๆ ถ้าคุณสองคนหนักแน่ต่อกันและกันก็ไม่ต้องไปสนใจอะไรเลย จะว่าไปข้อดีของกรณีการเกิดเรื่องแบบนี้ กรณีที่คนนอกจะมาจุ้นจ้านกับความสัมพันธ์ความเป็นครอบครัวของพวกคุณสองคนคือทำให้เกิดความท้าทายว่าคุณสองคนจะหนักแน่นต่อกันและกัน และจะหาทางรับมือ หาทางปกป้องกันและกันจากคนนอกได้อย่างไร

อีกอย่างลองนึกถึงว่าชื่อแฟนคุณ จขกท. เป็นลูกหนี้ร่วมกันกับคุณ จขกท. ไปแล้ว แต่จะไม่ให้เค้ามีสิทธิ์ในบ้านนั้น มองว่าเป็นอะไรที่ไม่แฟร์กับเค้าเลยน่ะค่ะ แถมเค้าก็ช่วยคุณ จขกท. ผ่อนบ้านด้วยกันอีก ตัวคุณเองต้องหนักแน่นและเข้มแข็งค่ะ และอายุพวกคุณก็ 30+ กันแล้วนะ ไม่ใช่เด็ก ๆ ที่ทางญาติจะต้องมาเป็นห่วงหรือมาก้าวก่ายชีวิตส่วนตัวของพวกคุณมากไปน่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่