มาตอนนี้อาจมีหลายคนรอคอยตอนนี้อยู่นะคะ ขอเล่าเรื่องการขึ้นรถไฟไปไซบีเรียจากมองโกเลียไปยังรัสเซียค่ะ เราขออนุญาตไม่เกริ่นเรื่องภูมิศาสตร์หรือข้อมูลจำเพาะของไซบีเรียนะคะ ขอเล่าแค่เส้นทางที่เราไปในครั้งนี้ค่ะ

สำหรับตอนอื่นๆ ตามนี้ค่ะ
ตอนที่ 1 แผนเดินทาง
https://pantip.com/topic/36387878
ตอนที่ 2 มองโกเลีย นอนเกอร์
https://pantip.com/topic/36397398
ตอนที่ 3 นั่งรถไฟจนสุดเขตชายแดนมองโกเลีย เข้าเขตแดนรัสเซีย
https://pantip.com/topic/36403060
ตอนที่ 4 เมือง Irkutsk เที่ยวทะเลสาบไบคาล
https://pantip.com/topic/36424911
ตอนที่ 5 เล่นหิมะและล่าแสงเหนือที่ Murmansk
การซื้อตั๋วรถไฟ: อย่างที่บอกเราให้เกสต์เฮาส์ซื้อให้ค่ะ ราคาฝากซื้อ 75USD ซื้อล่วงหน้า 1 วัน หากใครอยากซื้อเองก็สามารถทำได้ ราคาถูกกว่าแน่ๆ ให้ไปซื้อที่ Ticket Center นะ ไม่ใช่ที่สถานี

ได้ตั๋วแล้ว พร้อมเดินทางต่อค่ะ!!!
รถมารับเราที่เกสต์เฮาส์ตอนทุ่มครึ่งตามกำหนด จากนั้นก็มุ่งหน้าไปสถานีรถไฟอูลันบาตอร์ใช้เวลา 10 นาทีก็ถึงแล้ว รถจอดให้เราตรงริมถนนหน้าสถานี พร้อมชี้ให้เราดูว่ารถไฟขบวนที่เราจะไปมาจอดรอแล้ว เราสามารถเดินไปขึ้นรถไฟทาง Gate ด้านขวาสุดของสถานีได้เลย ไม่จำเป็นต้องผ่านเข้าทางสำนักงานสถานีเพราะข้างในสำนักงานคนเยอะมากๆ

เราก็เดินตรงเข้าไปที่ชานชาลาเลย บริเวณนั้นมีตำรวจยืนอยู่มากมาย เราก็เอาตั๋วไปให้ตำรวจดูแล้วถามว่า "เอียร์คุตสก์ เอียร์คุตสก์" ตำรวจก็ชี้ๆว่า ไปโน่นๆๆ เราก็เดินไปตรงตู้แรก แล้วเตรียมวางกระเป๋าไว้ใกล้ๆ แล้วถ่ายรูป แต่ว่าถ่ายผิดตู้ค่ะ ซักพักตำรวจเดินมาตามแล้วบอกว่า "โนๆๆๆ ผิดตู้ๆๆ เอียร์คุตสก์ต้องโน่นๆ ไปตู้โน้น แล้วก็ห้ามทิ้งสัมภาระโดยไม่มีคนดูแลเด็ดขาด" ตำรวจพูดเป็นมองโกเลียนะ เราแปลเป็นไทยเอาเอง 5555 การทิ้งสัมภาระเป็นข้อห้ามโดยเด็ดขาด โดยเฉพาะคนที่ขึ้นรถไฟข้ามประเทศ เคยมีกรณีการฝากของผิดกฎหมายไว้ให้นักท่องเที่ยว เลยห้ามเด็ดขาด ของๆเราต้องดูแลให้ดีค่ะ
ขอถ่ายรูปซะหน่อย แต่ป้ามีความเสร่อ นี่มันผิดตู้ ไม่ดูตาม้าตาเรือ ตู้นี้อ่านว่า อูลันบาตอร์-ซุกบาทาร์ ถ้าขึ้นตู้นี้จะไปได้แค่ชายแดนเท่านั้น

หลังจากทราบตู้แล้วเราก็ไปต่อแถวเตรียมขึ้นรถเลยเพราะสัมภาระเยอะ การขึ้นรถไฟเราจะต้องแบกสัมภาระของเราขึ้นลงเองค่ะ เอาตั๋วให้ จนท ตรวจก่อนขึ้นตู้ ด้วยความที่ตั๋วรถไฟเป็นภาษาต่างด้าวทั้งหมด เราใช้ Google Translate แปลแล้วก็ยังไม่ค่อยกระจ่าง เลยเอาตั๋วไปถามคนตลอดทางตั้งแต่คนขับรถที่มาจากเกสต์เฮาส์ แล้วก็ยังมีแว้บเข้าไปถามที่สำนักงานอีกทีนึงด้วย อันนี้เพื่อความชัวร์ แต่จะให้แน่ใจสุดๆก็ตอนขึ้นรถไฟนี่แหละ ถ้า จนท เค้าให้ขึ้น แปลว่าเราไปได้ชัวร์
หน้าตาของตั๋วรถไฟเที่ยวนี้เป็นแบบนี้ค่ะ พอรถไฟเริ่มออกเดินทาง จนท จะเดินเก็บตั๋วของเราไปก่อน และจะคืนให้อีกที ณ สถานีที่เราจะลง

จากอูลันบาร์ตอร์ไปเอียร์คุตสก์ เท่าที่เราทราบจะมีรถไฟอยู่ 3 สายที่วิ่งเส้นทางนี้ ได้แก่ No 3 วิ่งมาจากปักกิ่ง (ออกจาก UB วันพฤ) / No 5 วิ่งจาก UB ไปจนถึงมอสโคว (อังคารและศุกร์) / และ No 263 ซึ่งเป็น Local Train ของมองโกเลีย ตอนช่วงที่เราไปข้อมูลบอกว่าวิ่งทุกวัน แต่ตอนนี้ระบุว่าวิ่งวันเว้นวัน และจะวิ่งทุกวันเฉพาะ High-season ใครพึงจะเลือกขบวนไหนขอให้ดูวันที่เดินทางเป็นหลักนะคะ จะได้เตรียมแผนเที่ยวให้พอดีกับเวลาที่มี
สำหรับเราขึ้นรถไฟ No 263 เนื่องจากเดินทางวันอาทิตย์ รถออกเวลา 20.35 ตามเวลาบนหน้าตั๋วค่ะ ใช้เวลาประมาณ 35 ชม หรือ 2 คืน 1 วัน จะไปถึง Irkutsk เช้าตรู่วันอังคาร และมีเพื่อนผู้ร่วมเดินทางไปยัง Irkutsk ด้วยกันทั้งหมด 1 ตู้ค่ะ
Timetable นี้เราเอามาจาก
https://www.seat61.com/Trans-Siberian.htm ค่ะ ของเราอันที่วงไว้สีฟ้าๆ

ความท้าทายหนึ่งของการขึ้นรถไฟรัสเซีย ซึ่งเราเองคิดว่ามันคลาสสิกดี คือ รถไฟสายทรานส์ไซบีเรียของรัสเซียทั้งหมดทุกสถานีจะใช้เวลากลางเป็น Moscow Time ตอนนี้เราอยู่อูลันบาร์ตอร์ เรายังใช้เวลาท้องถิ่นค่ะ แต่พอข้ามเขตแดนสู่รัสเซียปุ๊บ เวลาที่สถานีรถไฟจะกลายเป็นมอสโควทันที ต้องใช้สมองในการคำนวนเวลากันหน่อย โชคดีเราวิ่งแค่อูลันบาร์ตอร์ ไปเอียร์คุตส์ ซึ่งเวลาท้องถิ่นเท่ากัน คือ เร็วกว่ามอสโคว 5 ชั่วโมง ถ้าใครข้าม timezone เยอะๆไปถึงมอสโคว หรือวลาดิวอสต็อค คงต้องจดจ่อกับเวลามากหน่อยนะคะ
เผื่อใครอยากทราบเส้นทางรถไฟสายไซบีเรียทั้งหมด นี่ค่ะ Link แผนที่จาก Seat61 เส้นทางของเราจะจอดสถานีใหญ่ 3 ครั้งคือ ซุกบาร์ทาร์เป็นชายแดนมองโกเลีย สถานี Naushky ชายแดนรัสเซีย และ Ulan Ude เป็นเมืองเศรษฐกิจ จากนั้นก็ Irkutsk ที่หมายของเรา สถานีใหญ่ที่หมายถึงคือจะใช้เวลาจอดนานเพื่อทำการ ตม และรับคน หรือรอต่อขบวน ส่วนระหว่างทางก็จอดสถานีเล็กๆประปรายแค่ที่ละ 1-10 นาที แล้วแต่สถานี ถือว่าเส้นทางของเรานี่คาบเกี่ยวกับเส้นทางรถไฟ 2 สายค่ะ คือ TransMongolian line คือ Ulaanbaatar-Ulan Ude และ TransSiberian Line คือ Ulan Ude-Irkutsk
https://www.seat61.com/images/Trans-Siberian-map.jpg

หรือจะดูแบบนี้ อันนี้จาก
http://www.frontiersoftravel.com/travel_experience.php?type=Rail&name=Trans-Mongolian_Railway

เก็บสัมภาระเรียบร้อยแล้วเรามาดูภายในรถไฟกันดีกว่าค่ะ
ขึ้นมาก็ต้องเจอทางเดินแคบๆแบบนี้

จากนั้นก็หาห้องของตัวเองดูได้จากเบอร์เตียงค่ะเค้าจะบอกไว้หน้าห้อง ของเรากะเพื่อนเป็นเตียงชั้นบนหมายเลข 10 และ 12 พอขึ้นรถ จนท จะนำผ้าปูเตียง ปลอกหมอน ผ้าห่ม มาให้ค่ะ

จากนั้นก็หาที่เก็บสัมภาระ ไม่น่าเชื่อว่าในตู้รถไฟมีที่เก็บให้เยอะทีเดียวค่ะ
ข้อแนะนำในการแพ็คของสำหรับขึ้นรถไฟนะคะ คือควรแบ่งของใช้ส่วนตัวที่จะต้องใช้บนรถไฟแยกไว้เลย เช่น แปรงสีฟัน ยาสีฟัน ทิชชู่เปียก หรือ เครื่องประทินโฉมทั้งหลายถ้าคุณจำเป็นต้องใช้ เวลาหยิบจะได้หยิบง่าย ไม่ต้องเปิดกระเป๋าใหญ่ไปมา
อันนี้เป็นพื้นที่ใต้เตียงชั้นล่าง ถ้าเจ้าของเตียงล่างยังไม่มา เราก็รีบวางไปเลย อิอิ

สำหรับคนอยู่เตียงบน อันนี้เป็นช่องเก็บของเพิ่มเติมด้านบนค่ะ

ห้องน้ำที่หลายๆคนอยากเห็น ใครที่เคยกลัวห้องน้ำรถไฟอยู่ล่ะก็ ขอบอกเลย สบายใจได้ค่ะ เราว่าห้องน้ำสะอาดมากทีเดียว รูปที่เห็นนี่ดูดีไม่เท่าของจริงนะคะ ห้องน้ำมี 2 ห้องแบ่งชาย-หญิง ทางหัวและท้ายตู้ แต่สุดท้ายพอห้องนึงไม่ว่างคนก็วิ่งไปเข้าอีกห้องนึงอยู่ดี ปล ห้องน้ำทิ้งลงบนรางรถไฟเหมือนบ้านเราค่ะ

ห้องน้ำมีกฎการเปิด-ปิดว่าจะเปิดหลังจากรถไฟวิ่งออกจากสถานีใหญ่ไปแล้ว 30 นาที และจะปิดก่อนรถเข้าจอด ณ สถานีใหญ่แต่ละแห่ง และในระหว่างที่จอดนั้น ขอให้ ผดส ลงไปใช้ห้องน้ำของสถานีแทนค่ะ ซึ่งส่วนใหญ่จะเสียเงินค่าห้องน้ำนะคะ
เพื่อนร่วมห้อง เราได้เพื่อนร่วมห้องเป็นผู้ชายทั้งคู่ ชาวเกาหลีอายุ 60 และชาวมองโกเลียอายุ 39 สองคนนี้เค้าเป็นเพื่อนกัน เหมือนว่าเคยทำงานด้วยกัน และพอคุณลุงเกาหลีเกษียณก็เลยให้คนหนุ่มพาเที่ยว คนทั้งสองนี้จะลงที่สถานีอูลันอูเด จากนั้นจะเดินทางต่อไปทางวลาดิวอสต็อก
ให้เลือกนอนเตียงบน การเลือกเตียงนอนนั้น เราลืมกำชับคนที่จองว่าอยากได้เตียงล่างเพราะคิดว่าสะดวก แต่กลับกลายเป็นว่าเราพบว่าการนอนเตียงบนนั้นหลับสบายกว่าด้านล่างเยอะเลย เพราะหลังจากที่คุณพี่สองท่านลงรถไปก่อน เราก็ย้ายลงมานอนเตียงล่าง แล้วพบว่าแรงสั่นของรถไฟทำเอาสะเทือนไปถึงไส้ นอนได้แป๊บเดียวต้องรีบย้ายขึ้นข้างบน อันที่จริงคนนอนข้างบนค่อนข้างสบายกว่า เพราะมีสิทธิ์จะขึ้นลงได้เมื่อไรก็ได้ คนข้างล่างต้องยอมเรา อย่างไรก็ดี เราว่าเรื่องที่น่ากลัวกว่าการเลือกเตียงก็คือ การกรนของเพื่อนร่วมห้องค่ะ คือ คุณพี่สองคนนี้ กรนดังมากกกกกกก คืนแรกเรานอนไม่หลับเลย 555 แถมกลางวันวันต่อมา นางทั้งสองก็แข่งกันกรนตอนกลางวันไปอีก เรางี้ต้องรีบออกไปถ่ายภาพวิวเลยทีเดียว
คืนแรกผ่านไปด้วยดี แม้เราจะไม่ค่อยหลับเพราะการหยุดจอดตลอดเวลาของรถไฟและเสียงกรนของคุณพี่ แต่ช่วงใกล้ๆเช้าเราก็พอหลับนะคะ
ซักตี 4 เรารู้สึกว่ารถไฟจอดและหยุดอยู่นานมากและนี่ก็เป็นช่วงที่เราหลับค่ะ ตื่นมาอีกทีราวๆ 7 โมง ก็ได้รู้ว่ารถไฟมาจอดที่นี่ตั้งแต่ตีสี่แล้ว ตรงนี้คือสถานี Suchebator ซึ่งเป็นสถานีชายแดนของมองโกเลียค่ะ เราจะจอดที่นี่หลายชั่วโมง

รอบๆสถานี เก้าอี้โดนน้ำแข็งจับเลย ส่วนห้องน้ำอยู่ตรงขวาสุดนั่นละค่ะ

อย่างที่บอกว่าสถานีใหญ่ ห้องน้ำบนรถจะปิด พอตื่นนอนเราก็เลยต้องเดินลงไปห้องน้ำเพื่อแปรงฟันค่ะ เสียค่าเข้าห้องน้ำคนละ 200 Tughrik หรือราว 3 บาทไทย

ตู้รถเราถูกตัดทิ้งเหลือแค่ 1 ตู้ค่ะ รอต่อขบวนเข้ารัสเซีย

นี่เป็นรถไฟขบวนที่ถูกต้องค่ะ ต้องเขียนแบบนี้นะคะ Ulaanbaatar - Irkutsk

หลังจากทำธุระส่วนตัวและทานอาหารเช้าเรียบร้อยแล้ว ราวๆ 8-9 โมง จนท รถไฟก็เดินแจกใบ departure form เพื่อเตรียมตัวออกจากประเทศ อันนี้เราจำไม่ค่อยได้นะว่ามีกี่ใบ แต่มันจะมีแบบฟอร์มอันนึงที่เป็นภาษามองโกเลียทั้งหมด ส่วนนี้นอกจาก Google Translate แล้ว เพื่อนร่วมห้องของเราช่วยได้มากเลยค่ะ เราลืมถ่ายฟอร์มนั้นมาให้ดู แต่ทุกอย่างก็ผ่านไปด้วยดี จนท ตม จะเดินตรวจทีละห้อง ถามว่ามาจากไหน จุดหมายปลายทางคือที่ไหน และขอเปิดกระเป๋าทุกใบ อันนี้เตรียมไว้เลย
ในที่สุดเค้าก็ยอมให้เราออกจากมองโกเลียแล้ว

จากนั้นเวลา 10 โมง รถไฟก็ออกจากชานชาลามุ่งหน้ารัสเซียค่ะ ตอนนี้จะเห็นได้จาก จนท ของมองโกเลียจะมายืนเรียงแถวส่งพวกเราให้เดินทางโดยสวัสดิภาพ


รถไฟก็วิ่งไปเรื่อยๆ ให้เราชมวิวสวยของยามเช้า



จนกระทั่งสุดเขตแดน จะมีทหารอีกชุดคุมชายแดนอยู่

บ๊ายบาย มองโกเลีย (เดี๋ยวมาต่อนะคะ)
14 วันสู่เส้นทางมองโกเลีย-ไซบีเรีย-ตามล่าแสงเหนือที่รัสเซีย (3) ขึ้นรถไฟไปไซบีเรีย
สำหรับตอนอื่นๆ ตามนี้ค่ะ
ตอนที่ 1 แผนเดินทาง https://pantip.com/topic/36387878
ตอนที่ 2 มองโกเลีย นอนเกอร์ https://pantip.com/topic/36397398
ตอนที่ 3 นั่งรถไฟจนสุดเขตชายแดนมองโกเลีย เข้าเขตแดนรัสเซีย https://pantip.com/topic/36403060
ตอนที่ 4 เมือง Irkutsk เที่ยวทะเลสาบไบคาล https://pantip.com/topic/36424911
ตอนที่ 5 เล่นหิมะและล่าแสงเหนือที่ Murmansk
การซื้อตั๋วรถไฟ: อย่างที่บอกเราให้เกสต์เฮาส์ซื้อให้ค่ะ ราคาฝากซื้อ 75USD ซื้อล่วงหน้า 1 วัน หากใครอยากซื้อเองก็สามารถทำได้ ราคาถูกกว่าแน่ๆ ให้ไปซื้อที่ Ticket Center นะ ไม่ใช่ที่สถานี
ได้ตั๋วแล้ว พร้อมเดินทางต่อค่ะ!!!
รถมารับเราที่เกสต์เฮาส์ตอนทุ่มครึ่งตามกำหนด จากนั้นก็มุ่งหน้าไปสถานีรถไฟอูลันบาตอร์ใช้เวลา 10 นาทีก็ถึงแล้ว รถจอดให้เราตรงริมถนนหน้าสถานี พร้อมชี้ให้เราดูว่ารถไฟขบวนที่เราจะไปมาจอดรอแล้ว เราสามารถเดินไปขึ้นรถไฟทาง Gate ด้านขวาสุดของสถานีได้เลย ไม่จำเป็นต้องผ่านเข้าทางสำนักงานสถานีเพราะข้างในสำนักงานคนเยอะมากๆ
เราก็เดินตรงเข้าไปที่ชานชาลาเลย บริเวณนั้นมีตำรวจยืนอยู่มากมาย เราก็เอาตั๋วไปให้ตำรวจดูแล้วถามว่า "เอียร์คุตสก์ เอียร์คุตสก์" ตำรวจก็ชี้ๆว่า ไปโน่นๆๆ เราก็เดินไปตรงตู้แรก แล้วเตรียมวางกระเป๋าไว้ใกล้ๆ แล้วถ่ายรูป แต่ว่าถ่ายผิดตู้ค่ะ ซักพักตำรวจเดินมาตามแล้วบอกว่า "โนๆๆๆ ผิดตู้ๆๆ เอียร์คุตสก์ต้องโน่นๆ ไปตู้โน้น แล้วก็ห้ามทิ้งสัมภาระโดยไม่มีคนดูแลเด็ดขาด" ตำรวจพูดเป็นมองโกเลียนะ เราแปลเป็นไทยเอาเอง 5555 การทิ้งสัมภาระเป็นข้อห้ามโดยเด็ดขาด โดยเฉพาะคนที่ขึ้นรถไฟข้ามประเทศ เคยมีกรณีการฝากของผิดกฎหมายไว้ให้นักท่องเที่ยว เลยห้ามเด็ดขาด ของๆเราต้องดูแลให้ดีค่ะ
ขอถ่ายรูปซะหน่อย แต่ป้ามีความเสร่อ นี่มันผิดตู้ ไม่ดูตาม้าตาเรือ ตู้นี้อ่านว่า อูลันบาตอร์-ซุกบาทาร์ ถ้าขึ้นตู้นี้จะไปได้แค่ชายแดนเท่านั้น
หลังจากทราบตู้แล้วเราก็ไปต่อแถวเตรียมขึ้นรถเลยเพราะสัมภาระเยอะ การขึ้นรถไฟเราจะต้องแบกสัมภาระของเราขึ้นลงเองค่ะ เอาตั๋วให้ จนท ตรวจก่อนขึ้นตู้ ด้วยความที่ตั๋วรถไฟเป็นภาษาต่างด้าวทั้งหมด เราใช้ Google Translate แปลแล้วก็ยังไม่ค่อยกระจ่าง เลยเอาตั๋วไปถามคนตลอดทางตั้งแต่คนขับรถที่มาจากเกสต์เฮาส์ แล้วก็ยังมีแว้บเข้าไปถามที่สำนักงานอีกทีนึงด้วย อันนี้เพื่อความชัวร์ แต่จะให้แน่ใจสุดๆก็ตอนขึ้นรถไฟนี่แหละ ถ้า จนท เค้าให้ขึ้น แปลว่าเราไปได้ชัวร์
หน้าตาของตั๋วรถไฟเที่ยวนี้เป็นแบบนี้ค่ะ พอรถไฟเริ่มออกเดินทาง จนท จะเดินเก็บตั๋วของเราไปก่อน และจะคืนให้อีกที ณ สถานีที่เราจะลง
จากอูลันบาร์ตอร์ไปเอียร์คุตสก์ เท่าที่เราทราบจะมีรถไฟอยู่ 3 สายที่วิ่งเส้นทางนี้ ได้แก่ No 3 วิ่งมาจากปักกิ่ง (ออกจาก UB วันพฤ) / No 5 วิ่งจาก UB ไปจนถึงมอสโคว (อังคารและศุกร์) / และ No 263 ซึ่งเป็น Local Train ของมองโกเลีย ตอนช่วงที่เราไปข้อมูลบอกว่าวิ่งทุกวัน แต่ตอนนี้ระบุว่าวิ่งวันเว้นวัน และจะวิ่งทุกวันเฉพาะ High-season ใครพึงจะเลือกขบวนไหนขอให้ดูวันที่เดินทางเป็นหลักนะคะ จะได้เตรียมแผนเที่ยวให้พอดีกับเวลาที่มี
สำหรับเราขึ้นรถไฟ No 263 เนื่องจากเดินทางวันอาทิตย์ รถออกเวลา 20.35 ตามเวลาบนหน้าตั๋วค่ะ ใช้เวลาประมาณ 35 ชม หรือ 2 คืน 1 วัน จะไปถึง Irkutsk เช้าตรู่วันอังคาร และมีเพื่อนผู้ร่วมเดินทางไปยัง Irkutsk ด้วยกันทั้งหมด 1 ตู้ค่ะ
Timetable นี้เราเอามาจาก https://www.seat61.com/Trans-Siberian.htm ค่ะ ของเราอันที่วงไว้สีฟ้าๆ
ความท้าทายหนึ่งของการขึ้นรถไฟรัสเซีย ซึ่งเราเองคิดว่ามันคลาสสิกดี คือ รถไฟสายทรานส์ไซบีเรียของรัสเซียทั้งหมดทุกสถานีจะใช้เวลากลางเป็น Moscow Time ตอนนี้เราอยู่อูลันบาร์ตอร์ เรายังใช้เวลาท้องถิ่นค่ะ แต่พอข้ามเขตแดนสู่รัสเซียปุ๊บ เวลาที่สถานีรถไฟจะกลายเป็นมอสโควทันที ต้องใช้สมองในการคำนวนเวลากันหน่อย โชคดีเราวิ่งแค่อูลันบาร์ตอร์ ไปเอียร์คุตส์ ซึ่งเวลาท้องถิ่นเท่ากัน คือ เร็วกว่ามอสโคว 5 ชั่วโมง ถ้าใครข้าม timezone เยอะๆไปถึงมอสโคว หรือวลาดิวอสต็อค คงต้องจดจ่อกับเวลามากหน่อยนะคะ
เผื่อใครอยากทราบเส้นทางรถไฟสายไซบีเรียทั้งหมด นี่ค่ะ Link แผนที่จาก Seat61 เส้นทางของเราจะจอดสถานีใหญ่ 3 ครั้งคือ ซุกบาร์ทาร์เป็นชายแดนมองโกเลีย สถานี Naushky ชายแดนรัสเซีย และ Ulan Ude เป็นเมืองเศรษฐกิจ จากนั้นก็ Irkutsk ที่หมายของเรา สถานีใหญ่ที่หมายถึงคือจะใช้เวลาจอดนานเพื่อทำการ ตม และรับคน หรือรอต่อขบวน ส่วนระหว่างทางก็จอดสถานีเล็กๆประปรายแค่ที่ละ 1-10 นาที แล้วแต่สถานี ถือว่าเส้นทางของเรานี่คาบเกี่ยวกับเส้นทางรถไฟ 2 สายค่ะ คือ TransMongolian line คือ Ulaanbaatar-Ulan Ude และ TransSiberian Line คือ Ulan Ude-Irkutsk
https://www.seat61.com/images/Trans-Siberian-map.jpg
หรือจะดูแบบนี้ อันนี้จาก http://www.frontiersoftravel.com/travel_experience.php?type=Rail&name=Trans-Mongolian_Railway
เก็บสัมภาระเรียบร้อยแล้วเรามาดูภายในรถไฟกันดีกว่าค่ะ
ขึ้นมาก็ต้องเจอทางเดินแคบๆแบบนี้
จากนั้นก็หาห้องของตัวเองดูได้จากเบอร์เตียงค่ะเค้าจะบอกไว้หน้าห้อง ของเรากะเพื่อนเป็นเตียงชั้นบนหมายเลข 10 และ 12 พอขึ้นรถ จนท จะนำผ้าปูเตียง ปลอกหมอน ผ้าห่ม มาให้ค่ะ
จากนั้นก็หาที่เก็บสัมภาระ ไม่น่าเชื่อว่าในตู้รถไฟมีที่เก็บให้เยอะทีเดียวค่ะ
ข้อแนะนำในการแพ็คของสำหรับขึ้นรถไฟนะคะ คือควรแบ่งของใช้ส่วนตัวที่จะต้องใช้บนรถไฟแยกไว้เลย เช่น แปรงสีฟัน ยาสีฟัน ทิชชู่เปียก หรือ เครื่องประทินโฉมทั้งหลายถ้าคุณจำเป็นต้องใช้ เวลาหยิบจะได้หยิบง่าย ไม่ต้องเปิดกระเป๋าใหญ่ไปมา
อันนี้เป็นพื้นที่ใต้เตียงชั้นล่าง ถ้าเจ้าของเตียงล่างยังไม่มา เราก็รีบวางไปเลย อิอิ
สำหรับคนอยู่เตียงบน อันนี้เป็นช่องเก็บของเพิ่มเติมด้านบนค่ะ
ห้องน้ำที่หลายๆคนอยากเห็น ใครที่เคยกลัวห้องน้ำรถไฟอยู่ล่ะก็ ขอบอกเลย สบายใจได้ค่ะ เราว่าห้องน้ำสะอาดมากทีเดียว รูปที่เห็นนี่ดูดีไม่เท่าของจริงนะคะ ห้องน้ำมี 2 ห้องแบ่งชาย-หญิง ทางหัวและท้ายตู้ แต่สุดท้ายพอห้องนึงไม่ว่างคนก็วิ่งไปเข้าอีกห้องนึงอยู่ดี ปล ห้องน้ำทิ้งลงบนรางรถไฟเหมือนบ้านเราค่ะ
ห้องน้ำมีกฎการเปิด-ปิดว่าจะเปิดหลังจากรถไฟวิ่งออกจากสถานีใหญ่ไปแล้ว 30 นาที และจะปิดก่อนรถเข้าจอด ณ สถานีใหญ่แต่ละแห่ง และในระหว่างที่จอดนั้น ขอให้ ผดส ลงไปใช้ห้องน้ำของสถานีแทนค่ะ ซึ่งส่วนใหญ่จะเสียเงินค่าห้องน้ำนะคะ
เพื่อนร่วมห้อง เราได้เพื่อนร่วมห้องเป็นผู้ชายทั้งคู่ ชาวเกาหลีอายุ 60 และชาวมองโกเลียอายุ 39 สองคนนี้เค้าเป็นเพื่อนกัน เหมือนว่าเคยทำงานด้วยกัน และพอคุณลุงเกาหลีเกษียณก็เลยให้คนหนุ่มพาเที่ยว คนทั้งสองนี้จะลงที่สถานีอูลันอูเด จากนั้นจะเดินทางต่อไปทางวลาดิวอสต็อก
ให้เลือกนอนเตียงบน การเลือกเตียงนอนนั้น เราลืมกำชับคนที่จองว่าอยากได้เตียงล่างเพราะคิดว่าสะดวก แต่กลับกลายเป็นว่าเราพบว่าการนอนเตียงบนนั้นหลับสบายกว่าด้านล่างเยอะเลย เพราะหลังจากที่คุณพี่สองท่านลงรถไปก่อน เราก็ย้ายลงมานอนเตียงล่าง แล้วพบว่าแรงสั่นของรถไฟทำเอาสะเทือนไปถึงไส้ นอนได้แป๊บเดียวต้องรีบย้ายขึ้นข้างบน อันที่จริงคนนอนข้างบนค่อนข้างสบายกว่า เพราะมีสิทธิ์จะขึ้นลงได้เมื่อไรก็ได้ คนข้างล่างต้องยอมเรา อย่างไรก็ดี เราว่าเรื่องที่น่ากลัวกว่าการเลือกเตียงก็คือ การกรนของเพื่อนร่วมห้องค่ะ คือ คุณพี่สองคนนี้ กรนดังมากกกกกกก คืนแรกเรานอนไม่หลับเลย 555 แถมกลางวันวันต่อมา นางทั้งสองก็แข่งกันกรนตอนกลางวันไปอีก เรางี้ต้องรีบออกไปถ่ายภาพวิวเลยทีเดียว
คืนแรกผ่านไปด้วยดี แม้เราจะไม่ค่อยหลับเพราะการหยุดจอดตลอดเวลาของรถไฟและเสียงกรนของคุณพี่ แต่ช่วงใกล้ๆเช้าเราก็พอหลับนะคะ
ซักตี 4 เรารู้สึกว่ารถไฟจอดและหยุดอยู่นานมากและนี่ก็เป็นช่วงที่เราหลับค่ะ ตื่นมาอีกทีราวๆ 7 โมง ก็ได้รู้ว่ารถไฟมาจอดที่นี่ตั้งแต่ตีสี่แล้ว ตรงนี้คือสถานี Suchebator ซึ่งเป็นสถานีชายแดนของมองโกเลียค่ะ เราจะจอดที่นี่หลายชั่วโมง
รอบๆสถานี เก้าอี้โดนน้ำแข็งจับเลย ส่วนห้องน้ำอยู่ตรงขวาสุดนั่นละค่ะ
อย่างที่บอกว่าสถานีใหญ่ ห้องน้ำบนรถจะปิด พอตื่นนอนเราก็เลยต้องเดินลงไปห้องน้ำเพื่อแปรงฟันค่ะ เสียค่าเข้าห้องน้ำคนละ 200 Tughrik หรือราว 3 บาทไทย
ตู้รถเราถูกตัดทิ้งเหลือแค่ 1 ตู้ค่ะ รอต่อขบวนเข้ารัสเซีย
นี่เป็นรถไฟขบวนที่ถูกต้องค่ะ ต้องเขียนแบบนี้นะคะ Ulaanbaatar - Irkutsk
หลังจากทำธุระส่วนตัวและทานอาหารเช้าเรียบร้อยแล้ว ราวๆ 8-9 โมง จนท รถไฟก็เดินแจกใบ departure form เพื่อเตรียมตัวออกจากประเทศ อันนี้เราจำไม่ค่อยได้นะว่ามีกี่ใบ แต่มันจะมีแบบฟอร์มอันนึงที่เป็นภาษามองโกเลียทั้งหมด ส่วนนี้นอกจาก Google Translate แล้ว เพื่อนร่วมห้องของเราช่วยได้มากเลยค่ะ เราลืมถ่ายฟอร์มนั้นมาให้ดู แต่ทุกอย่างก็ผ่านไปด้วยดี จนท ตม จะเดินตรวจทีละห้อง ถามว่ามาจากไหน จุดหมายปลายทางคือที่ไหน และขอเปิดกระเป๋าทุกใบ อันนี้เตรียมไว้เลย
ในที่สุดเค้าก็ยอมให้เราออกจากมองโกเลียแล้ว
จากนั้นเวลา 10 โมง รถไฟก็ออกจากชานชาลามุ่งหน้ารัสเซียค่ะ ตอนนี้จะเห็นได้จาก จนท ของมองโกเลียจะมายืนเรียงแถวส่งพวกเราให้เดินทางโดยสวัสดิภาพ
รถไฟก็วิ่งไปเรื่อยๆ ให้เราชมวิวสวยของยามเช้า
จนกระทั่งสุดเขตแดน จะมีทหารอีกชุดคุมชายแดนอยู่
บ๊ายบาย มองโกเลีย (เดี๋ยวมาต่อนะคะ)