หน้าแรก
คอมมูนิตี้
ห้อง
แท็ก
คลับ
ห้อง
แก้ไขปักหมุด
ดูทั้งหมด
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
แท็ก
แก้ไขปักหมุด
ดูเพิ่มเติม
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
{room_name}
{name}
{description}
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
[CR] *** ยุโรป 3 ประเทศ 11 วัน 3000 รูป (5) ***
กระทู้รีวิว
บันทึกนักเดินทาง
ภาพถ่ายทิวทัศน์
เที่ยวต่างประเทศ
เที่ยวยุโรป
ภาพถ่าย
อ่านตอนที่ 1 ได้ที่
https://pantip.com/topic/36390135
อ่านตอนที่ 2 ได้ที่
https://pantip.com/topic/36393644
อ่านตอนที่ 3 ได้ที่
https://pantip.com/topic/36397831
อ่านตอนที่ 4 ได้ที่
https://pantip.com/topic/36400793
วันที่ห้าของการเดินทาง (31 มีนาคม 2560) ผมตื่นแต่เช้าเพราะต้องการสัมผัสอากาศบริสุทธ์บริเวณป่าและจะได้มองหานกที่ส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าวรอบๆ ที่พัก เช้านี้ถ่ายนกได้หลายตัวเหมือนกัน แต่ส่วนใหญ่จะตื่นคนและบินหนีก่อนที่ผมจะโฟกัสได้ ดูนกไป ชมวิวถ่ายภาพรอบๆ ที่พักไป เผลอแพล๊บเดียวก็ถึงเวลาแปดนาฬิกาที่นัดกับเพื่อนไว้ว่าเราจะไปกินอาหารเช้า (ทำเอง) กันที่ห้องเขา
หลังจากทานอาหารเช้าเสร็จก็มาเดินถ่ายรูปรอบๆ ที่พัก
จัดข้าวของเสร็จ เช็คเอาท์แล้วก็ขับรถออกจากที่พัก มาเจอป้ายก็เลยหยุดถ่ายรูปกันก่อน
ที่ใกล้ป้ายมีเจ้ากวางน้อยมาคอยส่งพวกเราด้วย
จุดแรกที่แวะเที่ยวเช้านี้คือบ้านสีฟ้าที่สร้างติดกับหน้าผา (Cliff Houses) ซึ่งถ้าเป็นบ้านเราก็คงจะเป็นวัดถ้ำอะไรทำนองนั้น บ้านที่ว่านี้อยู่ที่ Graufthal ดูจากในแผนที่แล้วอยู่ไม่ไกล แต่ GPS ก็ทำเอาหัวหมุนไปเหมือนกันกว่าจะหาเจอ
เยื้องๆ กับบ้านเป็นโบสถ์เล็กๆ ดูเงียบสงบน่ารักดี
ออกจาก Graufthal แวะเมือง Saverne จอดรถใกล้ๆ จตุรัสกลางเมืองซึ่งเป็นลานกว้าง มีหนุ่มสาวมานั่งเล่น นอนเล่นกัน ที่ตรงนั้นมีม้าหมุนด้วย
รอบๆ จตุรัสเป็นร้านขายของ บรรดาภรรยาสนใจร้านขายผักผลไม้ก็เลยแวะเข้าไปดู มาเล่าว่าคนขายใจดีมากคั้นน้ำส้มสดๆ รสอร่อยให้ชิมไม่อั้น ขนาดซื้อแล้วก็ยังชิมได้
จากนั้นก็ขับรถต่อไปยังเมือง Obernai ตอนจอดรถในเมืองเพิ่งได้รู้ว่าถ้าจอดช่วงเที่ยงถึงบ่ายสองไม่ต้องหยอดเหรียญ บังเอิญจุดที่จอดนั้นอยู่ตรงข้ามร้านพิซซ่าพอดี และตอนนั้นก็เกือบบ่ายโมงแล้ว ร้านพิซซ่าชื่อ Chez Pino คนเสริฟเป็นคนอิตาเลียน พูดจาเป็นกันเองดี แถมหล่ออีกต่างหาก บอกว่าอยากไปเมืองไทย เลยมีการเพิ่มชื่อเป็นเพื่อนกันในเฟสบุ๊คก่อนจากกัน
หลังจากท้องอิ่มแล้วก็ไปเดินชมเมือง ชมโบสถ์กัน
แล้วก็เดินทางต่อไปยังปราสาท Mont Sainte-Odile ที่อยู่ทางใต้อยู่ใกล้ๆ กับเมือง Barr
ตามแผนเดิมตั้งใจไว้ว่าจะแวะเมือง Barr แต่ดูเวลาแล้วเห็นว่าน่าจะมุ่งหน้าไปเมืองกอลมาร์ (Colmar) เลยจะดีกว่า จะได้มั่นใจว่าโรงแรมที่จองไว้นั้นไม่มีปัญหาเพราะว่าต้องนอนที่นี่ 2 คืน จะใช้เมือง Colmar เป็นศูนย์กลางในการเที่ยวเมืองใกล้ๆ นี้ เมืองกอลมาร์ มีอีกฉายาหนึ่งก็คือ "Capitale des vins d'Alsace" คือเป็นเมืองหลวงแห่งไวน์ของอัลซาส ไม่ต้องบอกก็คงเดาได้ว่าแถวนี้เต็มไปด้วยไร่องุ่น (ที่ใช้ทำไวน์) วันนี้อาจจะยังไม่ได้มีโอกาสถ่ายรูปไร่องุ่นให้ดู แต่พรุ่งนี้ (ตอนหน้า) รับรองว่าได้ดูกันเต็มตาแน่ๆ ครับ
โรงแรมที่ผมจองไว้อยู่ติดถนนสายหลักที่เข้าเมือง Colmar สังเกตได้ง่ายคืออยู่ใกล้ๆ กับวงเวียนเทพีสันติภาพ
นี่แหละครับโรงแรมที่จะพัก
ภายในห้องดูทันสมัยสะอาดสะอ้านดี
หลังจากเช็คอินและเก็บของเรียบร้อย ก็ขับเข้าเมือง Colmar เพื่อไปเดินเล่นบริเวณเมืองเก่าส่วนที่เรียกว่า Little Venice จนใกล้ค่ำจึงค่อยกลับที่พัก
แผนที่แสดงการเดินทางของวันนี้
อ่านตอนต่อไปได้ที่
https://pantip.com/topic/36404502
ชื่อสินค้า:
เมือง Colmar
คะแนน:
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
อ่านความคิดเห็นทั้งหมด
หน้า:
หน้า
จาก
บนสุด
ล่างสุด
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
[CR] *** ยุโรป 3 ประเทศ 11 วัน 3000 รูป (5) ***
อ่านตอนที่ 2 ได้ที่ https://pantip.com/topic/36393644
อ่านตอนที่ 3 ได้ที่ https://pantip.com/topic/36397831
อ่านตอนที่ 4 ได้ที่ https://pantip.com/topic/36400793
วันที่ห้าของการเดินทาง (31 มีนาคม 2560) ผมตื่นแต่เช้าเพราะต้องการสัมผัสอากาศบริสุทธ์บริเวณป่าและจะได้มองหานกที่ส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าวรอบๆ ที่พัก เช้านี้ถ่ายนกได้หลายตัวเหมือนกัน แต่ส่วนใหญ่จะตื่นคนและบินหนีก่อนที่ผมจะโฟกัสได้ ดูนกไป ชมวิวถ่ายภาพรอบๆ ที่พักไป เผลอแพล๊บเดียวก็ถึงเวลาแปดนาฬิกาที่นัดกับเพื่อนไว้ว่าเราจะไปกินอาหารเช้า (ทำเอง) กันที่ห้องเขา
หลังจากทานอาหารเช้าเสร็จก็มาเดินถ่ายรูปรอบๆ ที่พัก
จัดข้าวของเสร็จ เช็คเอาท์แล้วก็ขับรถออกจากที่พัก มาเจอป้ายก็เลยหยุดถ่ายรูปกันก่อน
ที่ใกล้ป้ายมีเจ้ากวางน้อยมาคอยส่งพวกเราด้วย
จุดแรกที่แวะเที่ยวเช้านี้คือบ้านสีฟ้าที่สร้างติดกับหน้าผา (Cliff Houses) ซึ่งถ้าเป็นบ้านเราก็คงจะเป็นวัดถ้ำอะไรทำนองนั้น บ้านที่ว่านี้อยู่ที่ Graufthal ดูจากในแผนที่แล้วอยู่ไม่ไกล แต่ GPS ก็ทำเอาหัวหมุนไปเหมือนกันกว่าจะหาเจอ
เยื้องๆ กับบ้านเป็นโบสถ์เล็กๆ ดูเงียบสงบน่ารักดี
ออกจาก Graufthal แวะเมือง Saverne จอดรถใกล้ๆ จตุรัสกลางเมืองซึ่งเป็นลานกว้าง มีหนุ่มสาวมานั่งเล่น นอนเล่นกัน ที่ตรงนั้นมีม้าหมุนด้วย
รอบๆ จตุรัสเป็นร้านขายของ บรรดาภรรยาสนใจร้านขายผักผลไม้ก็เลยแวะเข้าไปดู มาเล่าว่าคนขายใจดีมากคั้นน้ำส้มสดๆ รสอร่อยให้ชิมไม่อั้น ขนาดซื้อแล้วก็ยังชิมได้
จากนั้นก็ขับรถต่อไปยังเมือง Obernai ตอนจอดรถในเมืองเพิ่งได้รู้ว่าถ้าจอดช่วงเที่ยงถึงบ่ายสองไม่ต้องหยอดเหรียญ บังเอิญจุดที่จอดนั้นอยู่ตรงข้ามร้านพิซซ่าพอดี และตอนนั้นก็เกือบบ่ายโมงแล้ว ร้านพิซซ่าชื่อ Chez Pino คนเสริฟเป็นคนอิตาเลียน พูดจาเป็นกันเองดี แถมหล่ออีกต่างหาก บอกว่าอยากไปเมืองไทย เลยมีการเพิ่มชื่อเป็นเพื่อนกันในเฟสบุ๊คก่อนจากกัน
หลังจากท้องอิ่มแล้วก็ไปเดินชมเมือง ชมโบสถ์กัน
แล้วก็เดินทางต่อไปยังปราสาท Mont Sainte-Odile ที่อยู่ทางใต้อยู่ใกล้ๆ กับเมือง Barr
ตามแผนเดิมตั้งใจไว้ว่าจะแวะเมือง Barr แต่ดูเวลาแล้วเห็นว่าน่าจะมุ่งหน้าไปเมืองกอลมาร์ (Colmar) เลยจะดีกว่า จะได้มั่นใจว่าโรงแรมที่จองไว้นั้นไม่มีปัญหาเพราะว่าต้องนอนที่นี่ 2 คืน จะใช้เมือง Colmar เป็นศูนย์กลางในการเที่ยวเมืองใกล้ๆ นี้ เมืองกอลมาร์ มีอีกฉายาหนึ่งก็คือ "Capitale des vins d'Alsace" คือเป็นเมืองหลวงแห่งไวน์ของอัลซาส ไม่ต้องบอกก็คงเดาได้ว่าแถวนี้เต็มไปด้วยไร่องุ่น (ที่ใช้ทำไวน์) วันนี้อาจจะยังไม่ได้มีโอกาสถ่ายรูปไร่องุ่นให้ดู แต่พรุ่งนี้ (ตอนหน้า) รับรองว่าได้ดูกันเต็มตาแน่ๆ ครับ
โรงแรมที่ผมจองไว้อยู่ติดถนนสายหลักที่เข้าเมือง Colmar สังเกตได้ง่ายคืออยู่ใกล้ๆ กับวงเวียนเทพีสันติภาพ
นี่แหละครับโรงแรมที่จะพัก
ภายในห้องดูทันสมัยสะอาดสะอ้านดี
หลังจากเช็คอินและเก็บของเรียบร้อย ก็ขับเข้าเมือง Colmar เพื่อไปเดินเล่นบริเวณเมืองเก่าส่วนที่เรียกว่า Little Venice จนใกล้ค่ำจึงค่อยกลับที่พัก
แผนที่แสดงการเดินทางของวันนี้
อ่านตอนต่อไปได้ที่ https://pantip.com/topic/36404502