แรกเริ่มเดิมทีนั้น Green Beret ถูกก่อตั้งขึ้นมาในฐานะกำลังหลักในการทำ สงครามนอกแบบ หรือ Unconventional Warfare ของสหรัฐอเมริกา โดยอ้างอิงประสบการณ์และถอดบทเรียนจากการก่อตั้งกลุ่มกบฏเพื่อทำสงครามกองโจรต่อต้านกองทัพญี่ปุ่นในฟิลลิปปินส์ โดยปฏิบัติการ Unconventional Warfare นี้ มีความหมายถึง การเข้าไปจัดตั้งกลุ่มกบฏหรือกองกำลังติดอาวุธขึ้นในพื้นที่ข้าศึก ฝึกฝนทักษะการรบและการทำสงครามแบบกองโจรต่างต่าง เพื่อทำการก่อกวน บ่อนทำลาย และเข้ายึดรัฐบาลฝ่ายศัตรู โดยผลงานชิ้นเอกของการทำ Unconventional Warfare ในประวัติศาสตร์การทำสงครามของสหรัฐอเมริกาคือ การเข้ายึดอัฟกานิสถานจากรัฐบาลตาลีบัน โดยใช้กำลังภาคพื้นเป็น Green Beret แค่สองร้อยคน และ CIA อีกหนึ่งร้อยคน ( ดูต่อได้ใน The Only Thing Worth Dying For : How Eleven Green Berets Fought for a New Afghanistan
โดย Eric Blehm และ Horse Soldiers: The Extraordinary Story of a Band of US Soldiers Who Rode to Victory in Afghanistan โดย Doug Stanton ซึ่งเล่มหลังกำลังได้ร้บการดัดแปลงเป็นภาพยนต์)
และในการซ้อมรบระหว่างหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษของเกาหลีใต้และ Green Beret ก็แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของ Unconventional Warfare ในฐานะเครื่องมือหลักในการทำสงครามต่อเกาหลีเหนือ โดยการซ้อมรบมีธีมอยู่ว่า ในเกาหลีเหนือเกิดสภาวะแห้งแล้งอย่างหนัก ประชาชนเกิดความไม่พอใจต่อรัฐบาลคิม และเริ่มรวมกลุ่มกันก่อการจราจล ทางสหรัฐและเกาหลีใต้จะแทรกซึมรบพิเศษของทั้งสองประเทศผ่านช่องทางต่างต่าง เข้าไปฝึกอาวุธและก่อตั้งกองกำลังขึ้น โดยรบพิเศษของเกาหลีใต้จะมีความได้เปรียบในเรื่องของภาษาอยู่แล้วด้วย
จนถึงปัจจุบัน Green Beret ก็ยังคงเป็นหน่วยงานเดียวที่รับผิดชอบภารกิจ Unconventional Warfare เป็นหลัก และนี่คือความแตกต่างระหว่างคำว่า Special Force และ Special Operation Force โดย Green Beret ถือว่าเป็นหน่วยงานเดียวที่ถือว่าเป็นรบพิเศษตามความหมายแบบดั้งเดิมนี้
จากนั้นเมื่อความขัดแย้งของโลกได้ดำเนินไปสู่สงครามระหว่างโลกเสรีและโลกสังคมนิยมอย่างเต็มรูป ภารกิจซึ่งเสมือนภาคต่อของ Unconventional Warfare จึงถูกเพิ่มเข้ามา ซึ่งก็คือ ภารกิจ Foreign Internal Defense โดยถ้าหาก UW คือ ภาคการโจมตี FID ก็คือ ภาคการป้องกัน FID คือการเข้าไปสนับสนุนประเทศเป้าหมายเพื่อเสริมประสิทธิภาพในการต้านทานสงครามแบบกองโจร ทั้งในรูปของการสนับสนุนโดยอ้อมอย่างการฝึกทหาร และในรูปของการลงไปคลุกคลีบังคับบัญชาหน่วยทหารของประเทศเป้าหมายเลย ตัวอย่างของภารกิจ FID อย่างเช่น การฝึกกองกำลังตำรวจพลร่มของไทย หรือ PARU เพื่อไปทำหน้าที่เป็นครูฝึกให้กับพวกม้งอีกที (
https://pantip.com/topic/36086045 )และการฝึกกองกำลังให้กับกองทัพอิรักและอัฟกัน โดยทำหน้าที่บังคับบัญชาหรือเป็นผู้ชี้แนะควบคู่ไปด้วย ซึ่งนี่เองเป็นเหตุผลให้ Green Beret มีอัตราการเสียชีวิตสูงที่สุดในบรรดาหน่วยปฏิบัติการพิเศษต่างต่าง
ด้วยสองภารกิจข้างต้น ทำให้การฝึกของ Green Beret ค่อนข้างจะมีลักษณะเฉพาะ เพราะการฝึกของ Green Beret จะไม่ได้เน้นแค่ ความสามารถทางทหารระดับสูง ความสามารถทางร่างและจิตใจ แค่เท่านั้น แต่ว่า Green Beret ต้องการคนที่มีบุคลิกลักษณะที่เข้ากับคนอื่นได้ง่าย ปรับตัวและกลมกลืนไปกับวัฒนธรรมที่ไม่คุ้นชินได้เร็ว ต้องฝึกฝนทั้งเรื่องของภาษาและวัฒนธรรม ( เช่นถ้าทำงานกับกองกำลังอิรัก อย่าสะเออะไปเอ่ยปากชมพวกเคิร์ดเชียว) มีความสามารถในการบริการจัดการการเมืองเรื่องความสัมพันธ์สูง แก้ปัญหาเฉพาะหน้าเชิงนามธรรมได้ดี บางคนกล่าวว่า บทบาทของ Green Beret ก็คือ Warrior Diplomat คือ ต้องเป็นนักรบควบคู่ไปกับการเป็นนักการฑูต
แต่แน่นอนว่า Green Beret มีความสามารถในการปฏิบัติการในภารกิจพิเศษอื่นอื่น เช่น Direct Action , Special Reconnaissance และ Counter Terrorism เช่นเดียวกับหน่วยปฏิบัติการพิเศษอื่นอื่น แต่ว่าภารกิจเหล่านี้ไม่ใช่ภารกิจหลักของ Green Beret เท่านั้นเอง ซึ่งต่อมานายทหาร Green Beret ชื่อ Charlie Beckwith ซึ่งไปเป็นนายทหารแลกเปลี่ยนกับทาง SAS ของอังกฤษ จะกลับมาตั้งหน่วยปฏิบัติการพิเศษที่ลอกแบบมาจาก SAS ซึ่งเชี่ยวชาญด้าน Direct Action และ Counter Terrorism โดยเฉพาะอย่าง Delta Force - นี่จึงเป็นเหตุผลว่า ทำไมบุคลากร 60 เปอร์เซ็นต์ของ Delta Force จึงมาจาก 75th Ranger Regiment นั่นเพราะว่า 75th Ranger Regiment เชี่ยวชาญในภารกิจ Direct Action อยู่แล้ว แต่เปลี่ยนจากการกระทำต่อเป้าหมายขนาดใหญ่มาสู่การกระทำต่อเป้าหมายขนาดเล็ก ที่มีความซับซ้อนและต้องการความแม่นยำ ความเชี่ยวชาญมากกว่าเท่านั้น
เรามักจะเข้าใจว่า Ranger เป็นเพียงหน่วยทหารราบประสิทธิภาพสูงเพียงเท่านั้น โดยปฏิบัติภารกิจเหมือนกับทหารราบโดยทั่วไป แต่ในความเป็นจริงแล้วตั้งแต่การก่อตั้งเป็นต้นมา Ranger ได้วิวัฒนาการตัวเองไปมากครับ เรนเจอร์ในสงครามต่อต้านการก่อการร้ายนั้น ทำภารกิจตั้งแต่ ภารกิจดั้งเดิมอย่าง DI ต่อเป้าหมายใหญ่ ภารกิจ Special Reconnaissance หาข่าวในพื้นที่เสี่ยง รวมถีงจัดเป็นชุดเล็กเล็กเข้าบุกจับกุมและสังหารในเวลากลางคืนด้วยครับ (night time raid) เรนเจอร์ถือว่าเป็นหน่วยงานที่ได้รับภารกิจเยอะพอสมควรใน JSOC นอกจากนั้นเรนเจอร์ยังทำภารกิจสนับสนุน เป็น QRF ให้กับหน่วยงานอย่าง Delta และ DEVGRU ด้วยครับ ถ้าต้องการสืบค้นในส่วนนี้ ต้องไปอ่านในหนังสืออัตชีวประวัติของ Genral Stanley McChrystal ครับ แกเคยบังคับบัญชาเรนเจอร์ทั้งในระดับกองร้อยและระดับกรม ต่อมาแกจะขึ้นไปเป็นผู้บังคับบัญชาที่ยาวนานที่สุดของหน่วยงานอย่าง JSOC ซี่งมีหน่วยงานขึ้นตรงอย่าง Delta Force ,DEVGRU และหน่วยงานข่าวรบพิเศษที่ลับมากอย่าง The Activity
ด้วยความที่ Green Beret ก็โฟกัสไปที่ภารกิจ Unconventional Warfare และ Delta Force ก็เป็นหน่วยงานที่ต้องปิดลับในอีกระดับหนึ่ง และนาวิกโยธินก็ยังไม่ได้ส่ง Marine Raider เข้าร่วม (
https://pantip.com/topic/36140794 )ในช่วงที่ผ่านมา ภารกิจ Direct Action และ Special Reconnaissance ต่างต่าง จึงโดน SEAL เหมาไปเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งนั่นก็นำมาสู่ชื่อเสียงอันมหาศาลของ SEAL
-----------
ปัจจุบันกองทัพอเมริกันได้ตัดสินใจจัดตั้ง Security Force Assistance Brigade ขึ้นมาหกกองพลน้อย เพื่อทำหน้าที่เป็น ผู้ให้คำแนะนำทางทหาร หรือ Military Advisor ซึ่งทำหน้าที่ฝึกฝน ให้คำแนะ และสนับสนุนกองกำลังของชาติพันธมิตรโดยเฉพาะ และได้รับการฝึกฝนทั้งในเชิงภาษาและวัฒนธรรมเช่นเดียวกันกับ Green Beret ซึ่งการตัดสินใจจัดตั้ง Security Force Assistance Brigade ขึ้นมานี้ได้ส่งแรงกระเพื่อมไปทั่วทั้งแวดวง Green Beret เพราะนอกจากภารกิจ UW แล้ว ในอดีต Green Beret ได้รับหน้าที่ฝึกฝนกองกำลังต่างชาติเป็นหลักมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นกองกำลังตามแบบหรือว่ากองกำลังไม่ตามแบบก็ตาม
แต่ถ้าเราพิจารณาตาม Doctrine จริงจริงแล้ว ภารกิจสนับสนุนการป้องกันประเทศของชาติพันธมิตร ด้วยการเข้าไปให้การฝึกฝนกองกำลังทางทหารนั้น เป็นภารกิจร่วมกันของหน่วยรบตามแบบและหน่วยรบพิเศษ ถึงแม้ว่า Green Beret จะปฏิบัติภารกิจเหล่านี้เยอะมากในอดีต แต่นั่นไม่อาจพูดได้ว่าคือภารกิจเฉพาะของ Green Beret
ตัวอย่างของในอดีตของการที่ หน่วยรบตามแบบเข้าไปทำหน้าที่เป็น Military Advisor ในประเทศเป้าหมาย เช่น ในสงครามเกาหลี ที่กองทัพสหรัฐต้องส่ง Advisor เข้าไปมหาศาลเพื่อสร้างกองทัพเกาหลีใต้ที่มีประสิทธิภาพขึ้นมา หรืออย่างในสงครามเวียดนามเองหน้าที่เหล่านี้ตกเป็นของหน่วยรบตามแบบ ซึ่งก็ทำให้ Green Beret มีเวลาในการไปฝึกฝนกองกำลังไม่ตามแบบ และกองกำลังเฉพาะอื่นอื่น รวมถึงมีเวลาไปปฏิบัติภารกิจล้บอื่นอื่นเช่น Direct Action และ Special Reconnaissance
แต่เมื่อสหรัฐอเมริกาได้เข้ายึดครองทั้งอิรักและอัฟกานิสถานอย่างกลายกลาย ในยุทธศาสตร์ counterinsurgency สหรัฐอเมริกาก็ต้องพบกับความรับผิดชอบที่จะต้องจัดตั้งกองทัพของสองประเทศนี้ขึ้นมาใหม่ทั้งหมด และต้องให้มีประสิทธิภาพมากพอที่จะต้านทานแรงกดดันของกลุ่มก่อการร้ายต่างต่าง เพื่อให้กลไกร้ฐของประเทศเหล่านี้เดินหน้าไปได้
ด้วยความที่ Green Beret มีขอบข่ายภารกิจอยู่ทั่วโลก ด้วยกองกำลังพลที่มีอยู่ในปัจจุบันนั้นไม่เพียงพอ USSOCOM จึงให้มีการจัดตั้ง Green Beret ขึ้นมาอีก Group ละหนึ่งกองพัน แต่นั่นก็ยังเพียงพอ หน้าที่การฝึกฝนกองกำลังของทั้งสองประเทศจึงต้องจ่ายงานให้กับกองกำลังตามแบบและไปถึงขั้นการเรียกใช้ National Guard
เมื่อพิจารณาดูจริงจริงแล้ว การใช้ Green Beret ไปฝึกฝนให้กับกองกำลังตามแบบเหล่านี้ก็ดูจะเป็นการไม่เหมาะสมนัก เพราะ ใครเล่าจะสอนการยิงปืนใหญ่ได้ดีเท่ากับทหารปืนใหญ่ที่มีประสบการณ์ ใครเล่าจะให้คำแนะนำเกี่ยวกับระบบ logistic ได้เท่ากับนายทหารที่มีประสบการณ์ด้านการลำเลียงยุทธภัณฑ์และเสบียง รวมถึง Green Beret หลายคนก็ยังมีอายุที่น้อยเกินไป ไม่มีประสบการณ์มากพอที่จะไปฝึกฝนกองกำลังที่ผ่านการรบมาแล้วอย่างโชกโชน
Green Beret จึงเหมาะสมมากกว่าสำหรับการไปฝึกฝนกองกำลังเฉพาะทางต่างต่างของชาติพันธมิตร เช่น การจัดตั้งและฝึกฝนรบพิเศษของอิรัก ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงมาก และกำลังเป็นหัวหอกในการโจมตีเอาโมซุลคืนมาจาก ISIS ในปัจจุบัน
การใช้กองกำลังตามแบบ ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อทำการรบ ไม่ใช่การฝึกฝน สร้างความหายนะทางยุทธศาสตร์ยุทธวิธีให้กับอเมริกามหาศาล ดูได้จากการพ่ายแพ้ของกองทัพอิรักในโมซุล ต่อกองกำลังของ ISIS ซึ่งมีจำนวนน้อยกว่าและมีอาวุธที่ด้อยประสิทธิภาพกว่า นี่จึงเป็นเหตุผลที่ทำไมสหรัฐต้องจัดตั้งหน่วยงานที่ทำหน้าที่ Military Advisor ขึ้นมาอย่างเป็นทางการ นั่นเพราะสหรัฐมองเห็นถึงความสำคัญของหน่วยงานลักษณะนี้ในเชิงยุทธศาสตร์ และต้องการทำให้ทักษะเหล่านี้มีความเป็นมืออาชีพและมีประสิทธิภาพสูง
เมื่อมองย้อนดูแล้ว เราจะเห็นได้ว่าความเปลี่ยนแปลงได้เกิดมีขึ้นมาก่อนการจัดตั้ง Security Force Assistance Brigade แล้ว โดย Green Beret ก็หันไปทำภารกิจฝึกฝนกองกำลังที่มีลักษณะเฉพาะมากขึ้น และสามารถไปปฏิบัติภารกิจอื่นอื่นอย่าง DI และ Special Reconnaissance ได้มากขึ้น หลังจากห่างหายไปนาน ส่วน Security Force Assistance Brigade ก็ทำหน้าที่ฝึกฝนกองกำลังหลักของชาติพันธมิตรไป โดยในอนาคตข้างหน้า Security Force Assistance Brigade จะเป็นหน่วยงานที่ร่วมเป็นร่วมตายกับสหายของอเมริกาในพื้นที่สงคราม และมีโอกาสสั่งสมเกียรติยศขึ้นมาเป็นหน่วยงานที่มีชื่อเสียงและโดดเด่นของกองทัพอเมริกาเลยทีเดียว
บทบาทที่เปลี่ยนแปลงไปของ Green Beret
โดย Eric Blehm และ Horse Soldiers: The Extraordinary Story of a Band of US Soldiers Who Rode to Victory in Afghanistan โดย Doug Stanton ซึ่งเล่มหลังกำลังได้ร้บการดัดแปลงเป็นภาพยนต์)
และในการซ้อมรบระหว่างหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษของเกาหลีใต้และ Green Beret ก็แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของ Unconventional Warfare ในฐานะเครื่องมือหลักในการทำสงครามต่อเกาหลีเหนือ โดยการซ้อมรบมีธีมอยู่ว่า ในเกาหลีเหนือเกิดสภาวะแห้งแล้งอย่างหนัก ประชาชนเกิดความไม่พอใจต่อรัฐบาลคิม และเริ่มรวมกลุ่มกันก่อการจราจล ทางสหรัฐและเกาหลีใต้จะแทรกซึมรบพิเศษของทั้งสองประเทศผ่านช่องทางต่างต่าง เข้าไปฝึกอาวุธและก่อตั้งกองกำลังขึ้น โดยรบพิเศษของเกาหลีใต้จะมีความได้เปรียบในเรื่องของภาษาอยู่แล้วด้วย
จนถึงปัจจุบัน Green Beret ก็ยังคงเป็นหน่วยงานเดียวที่รับผิดชอบภารกิจ Unconventional Warfare เป็นหลัก และนี่คือความแตกต่างระหว่างคำว่า Special Force และ Special Operation Force โดย Green Beret ถือว่าเป็นหน่วยงานเดียวที่ถือว่าเป็นรบพิเศษตามความหมายแบบดั้งเดิมนี้
จากนั้นเมื่อความขัดแย้งของโลกได้ดำเนินไปสู่สงครามระหว่างโลกเสรีและโลกสังคมนิยมอย่างเต็มรูป ภารกิจซึ่งเสมือนภาคต่อของ Unconventional Warfare จึงถูกเพิ่มเข้ามา ซึ่งก็คือ ภารกิจ Foreign Internal Defense โดยถ้าหาก UW คือ ภาคการโจมตี FID ก็คือ ภาคการป้องกัน FID คือการเข้าไปสนับสนุนประเทศเป้าหมายเพื่อเสริมประสิทธิภาพในการต้านทานสงครามแบบกองโจร ทั้งในรูปของการสนับสนุนโดยอ้อมอย่างการฝึกทหาร และในรูปของการลงไปคลุกคลีบังคับบัญชาหน่วยทหารของประเทศเป้าหมายเลย ตัวอย่างของภารกิจ FID อย่างเช่น การฝึกกองกำลังตำรวจพลร่มของไทย หรือ PARU เพื่อไปทำหน้าที่เป็นครูฝึกให้กับพวกม้งอีกที ( https://pantip.com/topic/36086045 )และการฝึกกองกำลังให้กับกองทัพอิรักและอัฟกัน โดยทำหน้าที่บังคับบัญชาหรือเป็นผู้ชี้แนะควบคู่ไปด้วย ซึ่งนี่เองเป็นเหตุผลให้ Green Beret มีอัตราการเสียชีวิตสูงที่สุดในบรรดาหน่วยปฏิบัติการพิเศษต่างต่าง
ด้วยสองภารกิจข้างต้น ทำให้การฝึกของ Green Beret ค่อนข้างจะมีลักษณะเฉพาะ เพราะการฝึกของ Green Beret จะไม่ได้เน้นแค่ ความสามารถทางทหารระดับสูง ความสามารถทางร่างและจิตใจ แค่เท่านั้น แต่ว่า Green Beret ต้องการคนที่มีบุคลิกลักษณะที่เข้ากับคนอื่นได้ง่าย ปรับตัวและกลมกลืนไปกับวัฒนธรรมที่ไม่คุ้นชินได้เร็ว ต้องฝึกฝนทั้งเรื่องของภาษาและวัฒนธรรม ( เช่นถ้าทำงานกับกองกำลังอิรัก อย่าสะเออะไปเอ่ยปากชมพวกเคิร์ดเชียว) มีความสามารถในการบริการจัดการการเมืองเรื่องความสัมพันธ์สูง แก้ปัญหาเฉพาะหน้าเชิงนามธรรมได้ดี บางคนกล่าวว่า บทบาทของ Green Beret ก็คือ Warrior Diplomat คือ ต้องเป็นนักรบควบคู่ไปกับการเป็นนักการฑูต
แต่แน่นอนว่า Green Beret มีความสามารถในการปฏิบัติการในภารกิจพิเศษอื่นอื่น เช่น Direct Action , Special Reconnaissance และ Counter Terrorism เช่นเดียวกับหน่วยปฏิบัติการพิเศษอื่นอื่น แต่ว่าภารกิจเหล่านี้ไม่ใช่ภารกิจหลักของ Green Beret เท่านั้นเอง ซึ่งต่อมานายทหาร Green Beret ชื่อ Charlie Beckwith ซึ่งไปเป็นนายทหารแลกเปลี่ยนกับทาง SAS ของอังกฤษ จะกลับมาตั้งหน่วยปฏิบัติการพิเศษที่ลอกแบบมาจาก SAS ซึ่งเชี่ยวชาญด้าน Direct Action และ Counter Terrorism โดยเฉพาะอย่าง Delta Force - นี่จึงเป็นเหตุผลว่า ทำไมบุคลากร 60 เปอร์เซ็นต์ของ Delta Force จึงมาจาก 75th Ranger Regiment นั่นเพราะว่า 75th Ranger Regiment เชี่ยวชาญในภารกิจ Direct Action อยู่แล้ว แต่เปลี่ยนจากการกระทำต่อเป้าหมายขนาดใหญ่มาสู่การกระทำต่อเป้าหมายขนาดเล็ก ที่มีความซับซ้อนและต้องการความแม่นยำ ความเชี่ยวชาญมากกว่าเท่านั้น
เรามักจะเข้าใจว่า Ranger เป็นเพียงหน่วยทหารราบประสิทธิภาพสูงเพียงเท่านั้น โดยปฏิบัติภารกิจเหมือนกับทหารราบโดยทั่วไป แต่ในความเป็นจริงแล้วตั้งแต่การก่อตั้งเป็นต้นมา Ranger ได้วิวัฒนาการตัวเองไปมากครับ เรนเจอร์ในสงครามต่อต้านการก่อการร้ายนั้น ทำภารกิจตั้งแต่ ภารกิจดั้งเดิมอย่าง DI ต่อเป้าหมายใหญ่ ภารกิจ Special Reconnaissance หาข่าวในพื้นที่เสี่ยง รวมถีงจัดเป็นชุดเล็กเล็กเข้าบุกจับกุมและสังหารในเวลากลางคืนด้วยครับ (night time raid) เรนเจอร์ถือว่าเป็นหน่วยงานที่ได้รับภารกิจเยอะพอสมควรใน JSOC นอกจากนั้นเรนเจอร์ยังทำภารกิจสนับสนุน เป็น QRF ให้กับหน่วยงานอย่าง Delta และ DEVGRU ด้วยครับ ถ้าต้องการสืบค้นในส่วนนี้ ต้องไปอ่านในหนังสืออัตชีวประวัติของ Genral Stanley McChrystal ครับ แกเคยบังคับบัญชาเรนเจอร์ทั้งในระดับกองร้อยและระดับกรม ต่อมาแกจะขึ้นไปเป็นผู้บังคับบัญชาที่ยาวนานที่สุดของหน่วยงานอย่าง JSOC ซี่งมีหน่วยงานขึ้นตรงอย่าง Delta Force ,DEVGRU และหน่วยงานข่าวรบพิเศษที่ลับมากอย่าง The Activity
ด้วยความที่ Green Beret ก็โฟกัสไปที่ภารกิจ Unconventional Warfare และ Delta Force ก็เป็นหน่วยงานที่ต้องปิดลับในอีกระดับหนึ่ง และนาวิกโยธินก็ยังไม่ได้ส่ง Marine Raider เข้าร่วม ( https://pantip.com/topic/36140794 )ในช่วงที่ผ่านมา ภารกิจ Direct Action และ Special Reconnaissance ต่างต่าง จึงโดน SEAL เหมาไปเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งนั่นก็นำมาสู่ชื่อเสียงอันมหาศาลของ SEAL
-----------
ปัจจุบันกองทัพอเมริกันได้ตัดสินใจจัดตั้ง Security Force Assistance Brigade ขึ้นมาหกกองพลน้อย เพื่อทำหน้าที่เป็น ผู้ให้คำแนะนำทางทหาร หรือ Military Advisor ซึ่งทำหน้าที่ฝึกฝน ให้คำแนะ และสนับสนุนกองกำลังของชาติพันธมิตรโดยเฉพาะ และได้รับการฝึกฝนทั้งในเชิงภาษาและวัฒนธรรมเช่นเดียวกันกับ Green Beret ซึ่งการตัดสินใจจัดตั้ง Security Force Assistance Brigade ขึ้นมานี้ได้ส่งแรงกระเพื่อมไปทั่วทั้งแวดวง Green Beret เพราะนอกจากภารกิจ UW แล้ว ในอดีต Green Beret ได้รับหน้าที่ฝึกฝนกองกำลังต่างชาติเป็นหลักมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นกองกำลังตามแบบหรือว่ากองกำลังไม่ตามแบบก็ตาม
แต่ถ้าเราพิจารณาตาม Doctrine จริงจริงแล้ว ภารกิจสนับสนุนการป้องกันประเทศของชาติพันธมิตร ด้วยการเข้าไปให้การฝึกฝนกองกำลังทางทหารนั้น เป็นภารกิจร่วมกันของหน่วยรบตามแบบและหน่วยรบพิเศษ ถึงแม้ว่า Green Beret จะปฏิบัติภารกิจเหล่านี้เยอะมากในอดีต แต่นั่นไม่อาจพูดได้ว่าคือภารกิจเฉพาะของ Green Beret
ตัวอย่างของในอดีตของการที่ หน่วยรบตามแบบเข้าไปทำหน้าที่เป็น Military Advisor ในประเทศเป้าหมาย เช่น ในสงครามเกาหลี ที่กองทัพสหรัฐต้องส่ง Advisor เข้าไปมหาศาลเพื่อสร้างกองทัพเกาหลีใต้ที่มีประสิทธิภาพขึ้นมา หรืออย่างในสงครามเวียดนามเองหน้าที่เหล่านี้ตกเป็นของหน่วยรบตามแบบ ซึ่งก็ทำให้ Green Beret มีเวลาในการไปฝึกฝนกองกำลังไม่ตามแบบ และกองกำลังเฉพาะอื่นอื่น รวมถึงมีเวลาไปปฏิบัติภารกิจล้บอื่นอื่นเช่น Direct Action และ Special Reconnaissance
แต่เมื่อสหรัฐอเมริกาได้เข้ายึดครองทั้งอิรักและอัฟกานิสถานอย่างกลายกลาย ในยุทธศาสตร์ counterinsurgency สหรัฐอเมริกาก็ต้องพบกับความรับผิดชอบที่จะต้องจัดตั้งกองทัพของสองประเทศนี้ขึ้นมาใหม่ทั้งหมด และต้องให้มีประสิทธิภาพมากพอที่จะต้านทานแรงกดดันของกลุ่มก่อการร้ายต่างต่าง เพื่อให้กลไกร้ฐของประเทศเหล่านี้เดินหน้าไปได้
ด้วยความที่ Green Beret มีขอบข่ายภารกิจอยู่ทั่วโลก ด้วยกองกำลังพลที่มีอยู่ในปัจจุบันนั้นไม่เพียงพอ USSOCOM จึงให้มีการจัดตั้ง Green Beret ขึ้นมาอีก Group ละหนึ่งกองพัน แต่นั่นก็ยังเพียงพอ หน้าที่การฝึกฝนกองกำลังของทั้งสองประเทศจึงต้องจ่ายงานให้กับกองกำลังตามแบบและไปถึงขั้นการเรียกใช้ National Guard
เมื่อพิจารณาดูจริงจริงแล้ว การใช้ Green Beret ไปฝึกฝนให้กับกองกำลังตามแบบเหล่านี้ก็ดูจะเป็นการไม่เหมาะสมนัก เพราะ ใครเล่าจะสอนการยิงปืนใหญ่ได้ดีเท่ากับทหารปืนใหญ่ที่มีประสบการณ์ ใครเล่าจะให้คำแนะนำเกี่ยวกับระบบ logistic ได้เท่ากับนายทหารที่มีประสบการณ์ด้านการลำเลียงยุทธภัณฑ์และเสบียง รวมถึง Green Beret หลายคนก็ยังมีอายุที่น้อยเกินไป ไม่มีประสบการณ์มากพอที่จะไปฝึกฝนกองกำลังที่ผ่านการรบมาแล้วอย่างโชกโชน
Green Beret จึงเหมาะสมมากกว่าสำหรับการไปฝึกฝนกองกำลังเฉพาะทางต่างต่างของชาติพันธมิตร เช่น การจัดตั้งและฝึกฝนรบพิเศษของอิรัก ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงมาก และกำลังเป็นหัวหอกในการโจมตีเอาโมซุลคืนมาจาก ISIS ในปัจจุบัน
การใช้กองกำลังตามแบบ ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อทำการรบ ไม่ใช่การฝึกฝน สร้างความหายนะทางยุทธศาสตร์ยุทธวิธีให้กับอเมริกามหาศาล ดูได้จากการพ่ายแพ้ของกองทัพอิรักในโมซุล ต่อกองกำลังของ ISIS ซึ่งมีจำนวนน้อยกว่าและมีอาวุธที่ด้อยประสิทธิภาพกว่า นี่จึงเป็นเหตุผลที่ทำไมสหรัฐต้องจัดตั้งหน่วยงานที่ทำหน้าที่ Military Advisor ขึ้นมาอย่างเป็นทางการ นั่นเพราะสหรัฐมองเห็นถึงความสำคัญของหน่วยงานลักษณะนี้ในเชิงยุทธศาสตร์ และต้องการทำให้ทักษะเหล่านี้มีความเป็นมืออาชีพและมีประสิทธิภาพสูง
เมื่อมองย้อนดูแล้ว เราจะเห็นได้ว่าความเปลี่ยนแปลงได้เกิดมีขึ้นมาก่อนการจัดตั้ง Security Force Assistance Brigade แล้ว โดย Green Beret ก็หันไปทำภารกิจฝึกฝนกองกำลังที่มีลักษณะเฉพาะมากขึ้น และสามารถไปปฏิบัติภารกิจอื่นอื่นอย่าง DI และ Special Reconnaissance ได้มากขึ้น หลังจากห่างหายไปนาน ส่วน Security Force Assistance Brigade ก็ทำหน้าที่ฝึกฝนกองกำลังหลักของชาติพันธมิตรไป โดยในอนาคตข้างหน้า Security Force Assistance Brigade จะเป็นหน่วยงานที่ร่วมเป็นร่วมตายกับสหายของอเมริกาในพื้นที่สงคราม และมีโอกาสสั่งสมเกียรติยศขึ้นมาเป็นหน่วยงานที่มีชื่อเสียงและโดดเด่นของกองทัพอเมริกาเลยทีเดียว