เมื่อเมล็ดพันธ์แห่งชีวิตได้ร่วงหล่นลงสู่พื้นดิน
และเริ่มเปลี่ยนตัวเองจากเมล็ดพันธ์ให้กลายเป็นต้นไม้
ด้วยการหยั่งรากลงไปในดินและยืนหยัดท่ามกลางป่าเขา
เมื่อเวลาผ่านไปมีลมพายุพัดมาและมีฝนตกหนัก
ต้นกล้านั้นก็ยังอยู่รอดได้เพราะมีต้นไม้ใหญ่ค่อยบังพายุไว้
หลังจากนั้นสิบกว่าปีต้นกล้าก็ค่อยๆสูงและใหญ่ขึ้น
พอยิ่งสูงขึ้นก็จะโดนฝนมากขึ้นและโดนลมมากขึ้น
สิ่งสำคัญของการเติบโตไม่ใช่แค่ให้มีลำต้นที่สูงและใหญ่
แต่เป็นการขยายรากให้กว้างและลึกพอจะทนต่อพายุ
ชีวิตของคนเราก็มีการเติบโตดั่งต้นกล้านั้น
ขนาดความสูงใหญ่เปรียบเสมือนช่วงวัยของอายุ
และรากของต้นกล้าคือความคิดที่อาจไม่โตตามอายุ
คำถามคือจะเป็นอย่างไรหากต้นไม้ใหญ่แต่มีรากเพียงน้อยนิด?
เมื่อมีปัญหาพัดเข้ามาเหมือนมีลมมาปะทะกับลำต้น
ทำให้ต้นกล้านั้นเริ่มเอียงตามความแรงของลม
และยิ่งโตขึ้นยอดไม้ก็ยิ่งหนักทำให้ลำต้นเริ่มล้มและตาย
แต่หากต้นกล้านั้นเรียนรู้ความคิดตามต้นไม้ใหญ่
ผู้ผ่านทั้งแดด ลม ฝน จนกระทั่งเป็นต้นไม้ที่คอยให้ร่มเงา
และคอยปกป้องต้นไม้เล็กด้วยการรับพายุแทน
ในชีวิตของเราสามารถเรียนรู้มันได้จากประสบการณ์ของคนอื่น
ซึ่งมันจะง่ายกว่าเรียนรู้ด้วยตัวเอง (ไม่ต้องโดนเองเจ็บเองก็ได้)
อาจจะจากรายการทีวีที่ดู จากเพจในเฟสบุค หรือจากหนังสือ
แต่ที่ดีที่สุดคือหนังสือเพราะเราเลือกต้นไม้ใหญ่ได้
มีหลายคนที่ไม่สามารถรับมือกับปัญหาในช่วงอายุของตัวเองได้
เช่นนักเรียนคนหนึ่งที่มีผลการเรียนดีมาตลอดแต่สอบตก
เขาคงนั่งร้องไห้และเสียใจอยู่นานบางคนถึงกับคิดสั้น
แต่กลับกันนักเรียนผู้ผ่านการสอบตกอย่างเชี่ยญชาญจะบอกว่า
"สอบตกก็สอบใหม่สิวะ มันยากตรงไหน"
แต่ถ้าไปถามผู้ใหญ่ว่าตอนนี้พี่คิดยังไงกับการสอบตก
เขาอาจขำและบอกว่า "เรื่องแค่นี้ต้องเครียดด้วยหรอ?"
เพราะว่าปัญหาที่ผู้ใหญ่ต้องรับไม่ใช่การสอบตก
แต่เป็นการไม่มีเงินต่างหาก ฮ่าๆ
เราเชื่อว่าคนที่มาติดตามนอกห้อง
คือคนที่พร้อมจะพัฒนาความคิดให้เติบโตขึ้น
เพื่อรับมือกับ "ความกลัว" และ "ความผิดพลาด"
แต่ชีวิตมีสิ่งให้เราเรียนรู้อีกมากมาย
ดังนั้นออกมา "เรียนรู้ชีวิต ค้นหาสิ่งที่ชอบ เริ่มทำสิ่งที่ฝัน"
แล้วเติบโตขึ้นเป็นต้นไม้ใหญ่ที่ให้ร่มเงาและปกป้องต้นไม้เล็ก
ไปด้วยกัน "นอกห้อง"
ปล.ชอบกดบวก + ให้ด้วยนครับ
อ่านเพิ่มเติมได้ที่เพจ "นอกห้อง"
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้"เรียนรู้ชีวิต ค้นหาสิ่งที่ชอบ เริ่มทำสิ่งที่ฝัน"
https://www.facebook.com/gwanokhong/
การเติบโตทางความคิด (วุฒิภาวะ)
และเริ่มเปลี่ยนตัวเองจากเมล็ดพันธ์ให้กลายเป็นต้นไม้
ด้วยการหยั่งรากลงไปในดินและยืนหยัดท่ามกลางป่าเขา
เมื่อเวลาผ่านไปมีลมพายุพัดมาและมีฝนตกหนัก
ต้นกล้านั้นก็ยังอยู่รอดได้เพราะมีต้นไม้ใหญ่ค่อยบังพายุไว้
หลังจากนั้นสิบกว่าปีต้นกล้าก็ค่อยๆสูงและใหญ่ขึ้น
พอยิ่งสูงขึ้นก็จะโดนฝนมากขึ้นและโดนลมมากขึ้น
สิ่งสำคัญของการเติบโตไม่ใช่แค่ให้มีลำต้นที่สูงและใหญ่
แต่เป็นการขยายรากให้กว้างและลึกพอจะทนต่อพายุ
ชีวิตของคนเราก็มีการเติบโตดั่งต้นกล้านั้น
ขนาดความสูงใหญ่เปรียบเสมือนช่วงวัยของอายุ
และรากของต้นกล้าคือความคิดที่อาจไม่โตตามอายุ
คำถามคือจะเป็นอย่างไรหากต้นไม้ใหญ่แต่มีรากเพียงน้อยนิด?
เมื่อมีปัญหาพัดเข้ามาเหมือนมีลมมาปะทะกับลำต้น
ทำให้ต้นกล้านั้นเริ่มเอียงตามความแรงของลม
และยิ่งโตขึ้นยอดไม้ก็ยิ่งหนักทำให้ลำต้นเริ่มล้มและตาย
แต่หากต้นกล้านั้นเรียนรู้ความคิดตามต้นไม้ใหญ่
ผู้ผ่านทั้งแดด ลม ฝน จนกระทั่งเป็นต้นไม้ที่คอยให้ร่มเงา
และคอยปกป้องต้นไม้เล็กด้วยการรับพายุแทน
ในชีวิตของเราสามารถเรียนรู้มันได้จากประสบการณ์ของคนอื่น
ซึ่งมันจะง่ายกว่าเรียนรู้ด้วยตัวเอง (ไม่ต้องโดนเองเจ็บเองก็ได้)
อาจจะจากรายการทีวีที่ดู จากเพจในเฟสบุค หรือจากหนังสือ
แต่ที่ดีที่สุดคือหนังสือเพราะเราเลือกต้นไม้ใหญ่ได้
มีหลายคนที่ไม่สามารถรับมือกับปัญหาในช่วงอายุของตัวเองได้
เช่นนักเรียนคนหนึ่งที่มีผลการเรียนดีมาตลอดแต่สอบตก
เขาคงนั่งร้องไห้และเสียใจอยู่นานบางคนถึงกับคิดสั้น
แต่กลับกันนักเรียนผู้ผ่านการสอบตกอย่างเชี่ยญชาญจะบอกว่า
"สอบตกก็สอบใหม่สิวะ มันยากตรงไหน"
แต่ถ้าไปถามผู้ใหญ่ว่าตอนนี้พี่คิดยังไงกับการสอบตก
เขาอาจขำและบอกว่า "เรื่องแค่นี้ต้องเครียดด้วยหรอ?"
เพราะว่าปัญหาที่ผู้ใหญ่ต้องรับไม่ใช่การสอบตก
แต่เป็นการไม่มีเงินต่างหาก ฮ่าๆ
เราเชื่อว่าคนที่มาติดตามนอกห้อง
คือคนที่พร้อมจะพัฒนาความคิดให้เติบโตขึ้น
เพื่อรับมือกับ "ความกลัว" และ "ความผิดพลาด"
แต่ชีวิตมีสิ่งให้เราเรียนรู้อีกมากมาย
ดังนั้นออกมา "เรียนรู้ชีวิต ค้นหาสิ่งที่ชอบ เริ่มทำสิ่งที่ฝัน"
แล้วเติบโตขึ้นเป็นต้นไม้ใหญ่ที่ให้ร่มเงาและปกป้องต้นไม้เล็ก
ไปด้วยกัน "นอกห้อง"
ปล.ชอบกดบวก + ให้ด้วยนครับ
อ่านเพิ่มเติมได้ที่เพจ "นอกห้อง"
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้