[CR] เวียดนามเหนือ 5 วัน 4 คืน.... หลงรักซาปาเมืองหนาว ^_^

เดินทาง (ราคา) สบายๆ ไปกับเราที่เวียดนามเหนือจ้า >.<


ฝากเนื้อฝากตัวฝากใจ สำหรับรีวิวแรกด้วยนะคะ ทริปนี้ปุ้ยเดินทางเมื่อเดือนมีนาคม 2560 ที่ผ่านมา กะว่าไปรับอากาศดีๆ ที่นั่นสักหน่อย ทริปนี้เราไปกับหางแดงจ้า จองตั๋วกันข้ามปี สนนราคาอยู่ที่ 2,000+ บาท บินไปลงฮานอย ออกจากดอนเมืองตอน 7.00 โมงเช้า ถึงฮานอย 9.45 เราวางแผนบินเช้า เพื่อที่จะได้มีเวลาเยี่ยมชมสถานที่ต่างๆ ในฮานอย ก่อนที่จะไปซาปา

พอลงที่สนามบินฮานอย, Noi Bai International Airport แล้ว เราได้เดินหาซื้อซิมการ์ดตรงบริเวณก่อนทางออกสนามบิน ร้านแรกที่ถามมีราคาเดียวคือ 300,000 ดอง มีอินเตอร์เนทให้ใช้ได้ 12 GB ซึ่งเราว่ามันมากไปสำหรับ 5 วัน เลยเดินถามต่อกันอีกสักร้านสองร้าน มาเจอร้านที่ราคาถูกใจ 200,000 ดอง ค่ะ มีอินเตอร์เนทให้ใช้ได้ 3 GB

ได้เวลาท่องโลกกว้างแล้วจ้า พร้อม!!!


ในฐานะที่เป็นทริปราคาเบาๆ เราจึงวางแผนว่าจะเดินทางเข้าตัวเมืองโดยรถเมล์ ซึ่งก่อนไปได้หาข้อมูลในพันทิป ได้ความว่า มีรถเมล์สาย 86 ผ่าน Opera House และปลายทางอยู่ที่สถานีรถไฟฮานอย พอเดินออกจากประตูทางออกก็เลี้ยวซ้ายเลยค่ะ เดินไปตรงสุดทาง จะเป็นที่ให้จอดรถเมล์ สามารถรอได้ตรงนั้นเลยค่ะ เพราะว่ารถจะไปรับคนที่ เทอร์มินอล 1 ก่อน แล้วค่อยมาที่เทอร์มินอล 2....
ปล. เทอร์มินอล 1 ไว้สำหรับเพื่อนๆ ที่เดินทางภายในประเทศนะคะ

ค่าโดยสาร 30.000 ดอง หรือประมาณ 45 บาทค่ะ เดินทางง่ายมากค่ะ เพราะภายในรถ จะมีประกาศบอกชื่อแต่ละสถานี แถมพนักงานเก็บเงินยังมีแผนที่ พร้อมรายชื่อของแต่ละสถานีแจกด้วยค่ะ จะมีเวลาระบุไว้ด้วยเลยว่า รถจะออกจากสถานีต้นทางทุกๆ กี่โมง สะดวกมากจ้าพี่จ๋า

และแล้วเราก็มาถึงโดยสวัสดิภาพ ไม่หลงไปป้ายใดใด OPERA HOUSE!!! (เสียงดนตรีประกอบ แท่น แท้น แท๊น แทนนน)
พอลงจากรถได้ ก็ถึงเวลาแล้วจ้า เดิน เดิน เดิน แล้วก็เดินค่ะ เวลาข้ามถนนที่นี่ เดินมุ่งหน้าข้ามไปเลย ขอแค่ให้มุ่ง มุ่ง แล้วก็มุ่งอีกนั่นแหละค่ะ ท่านผู้อ่านเพราะว่ามอเตอร์ไซต์เยอะมาก และทั้งหมดพร้อมใจกันบีบแตร ปี๊บ ปี๊บ ปี๊บ ปี๊บบบบบ เสียงดังไพเราะ เสนาะหู เหลือหลาย ขอแค่เดินไปโดยไม่ลังเล ปุ้ยเชื่อว่าทุกท่านจะปลอดภัยค่ะ

ได้เวลากลับเข้าเรื่องต่อแล้วจ้า ที่ปุ้ยต้องเดินและเดินนั้น เพื่อที่จะหาเอเจนซี่ ที่ติดต่อซื้อทัวร์ไว้ตั้งแต่ที่กรุงเทพฯ ค่ะ คิดว่าจะเทรคกิ้งที่ซาปา ระหว่างทางที่เดินนั้น มีกลิ่นเชิญชวนให้ต้องแวะทานก่อน เนื่องจากแม่ค้าปิ้งอะไรอยู่ไม่รู้ คาดว่าน่าจะเป็นเนื้อหมู (ในใจแอบกลัวว่าจะเป็นน้องหมา) ซึ่งหอมมาก เลยขอแวะสักหน่อย ถามเพื่อนร่วมโต๊ะข้างๆ เค้าว่าเป็นหมูจ้า รอดไป ที่นี่แหนมเนืองเค้าจะไม่เหมือนบ้านเรานะคะ เค้าจะมาเป็นแบบทอด สอบถามเพื่อนที่เป็นชาวเวียดนาม ได้ความว่า ถ้าเป็นเวียดนามเหนือ เค้าจะมีแต่แบบทอดค่ะ ในส่วนที่คล้ายๆ แหนมเนืองบ้านเราจะเป็นทางเวียดนามใต้

ปุ้ยว่า มันค่อนข้างจะคล้ายกับปอเปี๊ยะมากกว่า แต่มีความมันกว่ามาก ส่วนอีกชามนั้น เรียกว่า บันชา (อาจจะออกเสียงผิดก็เป็นได้) Bun cha จะเป็นแนวซุปๆ กินคู่กับเส้นขนมจีน มีผักกินแกล้มนิดหน่อยแก้เลี่ยน รสชาดจะประมาณเปรี้ยวๆ หวานๆ แต่ให้ความรู้สึกมันอีกแล้วค่ะ

หลังจากท้องอิ่ม หนังตาจะหย่อนไม่ได้ค่ะ ต้อง คีพ วอร์คกิ้ง เดินหน้ากันต่อไป และแล้วก็เจอเอเจ้นซี่ดังกล่าว
ปุ้ยซื้อทัวร์กับ Ms. Huong มิสเฮือง https://www.facebook.com/nguyen.huong.7967?fref=ts
ราคาและบริการประทับใจค่ะ มีที่ให้อาบน้ำและพักผ่อน ชาจแบต ระหว่างรอ จ่ายเงินเสร็จเรียบร้อย ประมาณบ่ายโมง ปุ้ยต้องขึ้นรถบัสนอนไปซาปาอีกทีตอนสามทุ่มครึ่ง เลยออกมาเดินเล่นดูรอบๆ เมืองฮานอย ซึ่งมีที่ให้แวะชมหลายที่ค่ะ มิสเฮืองได้ให้แผนที่มาประกอบการเดินของเรา ซึ่งทำให้ง่ายต่อการเดินไปในแต่ละจุดมากเลยค่ะ

1. “Hoan Kiem Lake” ทะเลสาบฮหว่านเกี๊ยม เสาร์ อาทิตย์ ถนนโดยรอบทะเลสาบนั้นจะปิด เพื่อให้ผู้คนมาพักผ่อน เดินเล่นกันค่ะ บรรยากาศดีมาก

มีภาพถ่ายตอนกลางคือมาให้ดูด้วยค่ะ ได้อารมณ์ไปอีกแบบ ภาพตอนกลางคืน ปุ้ยกลับมาถ่าย หลังจากที่กลับจากซาปามาแล้วค่ะ

ระหว่างที่เดินเล่นรอบๆ นั้น ก็ได้ไปป๊ะ ไปเจอกับพ่อค้าแซ่บจ้า คุณพี่เค้าเปิดร้านขายกาแฟอยู่บริเวณทะเลสาบ ปล.ขออนุญาติถ่ายรูปแล้วนะคะ

อ่ะ หลังจากได้พลังงานจากกาแฟแล้วก็เดินหน้าต่อนะจ๊ะ จะมัวมาหลงใหลในกลิ่นกาแฟไม่ได้เด็ดขาด ที่ต่อไปที่แวะนั้น
2. “St. Joseph Cathedral” โบสถ์เซนต์โจเซฟ

เดินต่อมาเรื่อยๆ ก็จะไปเจอกับ
3. “Ho Chi Minh’s Mausoleum” สุสานโฮจิมินห์
ที่ต่อไปก็ ห่างไม่ไกลกันมาก เดินประมาณ 15 นาทีก็ถึงค่ะ
4. “Tran Quoc Pagoda” วัดเจดีย์เตริ่นกว็อก
หลังจากแวะชมทั้ง 4 สถานที่ ก็ได้เวลาเดินกลับไปเตรียมตัวขึ้นรถบัสนอน เพื่อจะไปซาปาแล้วค่ะ ในกรณีที่นั่งรถบัส รถจะไปส่งในตัวเมืองซาปาเลยค่ะ แต่ถ้าเพื่อเดินทางโดยรถไฟ หลังจากที่ถึง สถานี LÀO CAI RAILWAY STATION ต้องต่อรถเพื่อเข้าตัวเมืองซาปาด้วยค่ะ

รถบัสออกประมาณ สี่ทุ่มครึ่ง ถึงซาปา ตอนตีสี่ได้ค่ะ คนขับรถเค้าจะจอดให้ผู้โดยสารนอนอยู่บนรถก่อนเนื่องจากฟ้ายังมึดอยู่ ประมาณ 6 โมงครึ่ง คนขับรถก็จะปลุกให้ลงจากรถแล้วค่ะ
ซาปาเป็นเมืองที่เล็ก เดินถึงกันหมด ปุ้ยเดินไปโรงแรมที่จองไว้ ไม่ถึง 15 นาที โรงแรมที่อยู่ชื่อ Sunny Mountain Hotel วิวดีมากเลยค่ะ อากาศหนาวมาก ตอนปุ้ยไปประมาณ 11 องศาในช่วงกลางคืน และประมาณ 15 องศาในช่วงกลางวัน บรรยากาศภายในโรงแรม และในห้องโอเคค่ะ เรียบง่าย แต่วิวนั้น ให้ 10 10 10 เลยค่ะ
เช้าวันต่อมา ก็ถึงเวลาไปเทรคกิ้งแล้วค่ะ ฝนตกพรำๆ ทำให้การเทรคกิ้งท้าทายขึ้น มีความลื่นไหลล้มลุกผิดบ้างในบางจังหวะ แต่สมาชิกทั้งหมดที่เดินร่วมทางในวันนั้น ก็ดูจะหลงใหลไปกับบรรยากาศ และวิวทิวเขาที่ลดหลั่นกับไปเป็นขั้นบันได สุดลูกหูลูกตา ปล. ระหว่างที่ทานมื้อเที่ยง มีชาวเขาทั้งเด็ก สาว และผู้สูงอายุ นำเครื่องประดับมากมายมาเสนอขาย ขอบอกเลยค่ะว่าฮาร์ดเซลมากกกก รุมทึ้ง พร้อมทั้งอ้อนวอนให้ซื้อสินค้า ซึ่งส่วนตัวปุ้ยคิดว่า การที่เค้าเสนอขายแบบพอดิบพอดี น่าซื้อกว่ากันมากโขเลยค่ะ

ผ่านไปอีก 1 วันในซาปา พรุ่งนี้เราก็ต้องกลับไปฮานอยอีกแล้วจ้า

อรุณสวัสดิ์เช้าวันใหม่ ได้เวลากลับไปฮานอยอีกครั้งแล้วค่ะ ระหว่างทางเดินไปขึ้นรถบัส แวะเก็บรูปถ่ายบรรยากาศโดยรอบนิดหน่อย เนื่องจากหลงรักอากาศที่ซาปาเป็นอย่างมากกกกกกกก
และแล้วก็ถึงฮานอยโดยสวัสดิภาพ เดินทางออกจากซาปาช่วงบ่ายสี่โมงเย็น ถึงฮานอยประมาณสามทุ่ม เราจองโฮสเทลที่ฮานอยไว้ชื่อ Chien Hostel อยู่ข้างๆ โบสถ์เซนต์โจเซฟ เลยค่ะ สภาพห้องนอน(รวม) และห้องน้ำ(รวม) โอเคค่ะ สะอาดพอใช้ แต่ข้อเสียคือ การที่โฮสเทลอยู่ใกล้โบสถ์ เราเลยมีเสียงนาฬิกาปลุกจากโบสถ์แต่เช้ามากเลยค่ะ ประมาณ ตี 5 ครึ่งได้
หลังจากเตรียมตัว อาบน้ำแปรงฟัน ทานข้าวเรียบร้อยแล้ว ก็ได้เวลาไปฮาลองแล้วจ้า ซื้อทัวร์กับทางโฮสเทล ถูกกว่าจองตรง 10 USD ค่ะ นั่งรถจากฮานอยไปฮาลองประมาณ 3 ชั่วโมงก็ได้เวลาไปชมความสวยงามแล้วจ้า
ในส่วนตัวปุ้ยคิดว่า ทั้งสามที่ ฮานอย ซาปา และฮาลองนั้น ปุ้ยชอบที่ซาปามากที่สุด เนื่องจากประเทศไทยเรา ไม่มีโอกาสได้สัมผัสกับบรรยากาศแบบนั้น ชาวเมืองซาปาบอกว่า เมื่อช่วงเดือนธันวาคม มกราคม ที่ผ่านมา มีหิมะตกด้วยเหมือนกัน
........................................
ส่วนฮานอยนั้น ชอบรองลงมาจากซาปา ปุ้ยชอบดูวิถีชีวิตชาวเมือง ดูวัยรุ่นนั่งล้อมวงกินน้ำชา แทะเมล็ดฝักทองเกลื่อนถนนในตอนกลางคืน ส่วนตอนเช้าจะเป็นในส่วนของเด็กเล็ก และผู้ใหญ่ออกมาซื้อหาอาหาร เดินทางไปโรงเรียนกัน
........................................
และที่สุดท้าย ฮาลองเบย์ ส่วนตัวคิดว่า มีความรู้สึกคล้ายๆ กับภาคใต้ของบ้านเรา เช่นหมู่เกาะอ่างทอง แต่จำนวนเกาะเล็กเกาะน้อยของเราอาจจะน้อยกว่ามากอยู่เหมือนกัน

จบแล้วจ้า กับการรีวิวครั้งแรก ยังไงรบกวนติชมกันด้วยนะคะ ณ เวลานี้ 01:00 ของวันที่ 29 เมษายน 2560 ขอเวลาไปนอนต่อก่อนนะคะ
ชื่อสินค้า:   ซาปา ฮานอย ฮาลองเบย์ เวียดนาม
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่