Update: ยื่นขอวีซ่าอิตาลีกับ VFS [เมษายน 2017] 3 วันได้เล่มค่ะ

กระทู้สนทนา

วีซ่า Schengen Visa เที่ยวยุโรป เที่ยวต่างประเทศ

สวัสดีค่ะ ดิฉันชื่อมีนนะคะ
พอดีเพิ่งไปขอวีซ่าอิตาลีมาค่ะ ก่อนไปก็ได้ข้อมูลจากหลายกระทู้ในพันทิปช่วยไว้ (ขอบคุณมา ณ โอกาสนี้ด้วยค่ะ) ตอนนี้ได้วีซ่าแล้ว ก็เลยอยากมาแชร์ประสบการณ์ตัวเอง+อัพเดทข้อมูลเป็นการตอบแทน เผื่อจะมีประโยชน์กับทุกท่านบ้างค่ะ เข้าเรื่องกันเลยนะคะ

ก่อนไป
1. เตรียมเอกสารให้พร้อม ตรงนี้หลายท่านรีวิวไว้ละเอียดมากแล้วค่ะ แต่ถ้าขี้เกียจเปิดหลายกระทู้ มีน list ไว้ให้ในสปอยด์นะคะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

2. จองคิวนัดเวลากับ VFS ผ่านเว็บไซต์
เข้าไปจองคิวได้ที่ https://goo.gl/v9HhFw เลือกวันเวลาที่สะดวกเลยค่ะ สำหรับวันไหนที่ไม่ขึ้นเป็นสีเขียวให้เลือก (คือคลิกแล้วไม่มีเวลาขึ้นมาให้เลือก) แปลว่าวันเหล่านั้น เลือกไม่ได้ นะคะ กล่าวคือ VFS ไม่ยอมให้เราขอวีซ่าใกล้วันเดินทางเกินไปค่ะ ตรงนี้ตอนครั้งแรกที่มีนเข้าไปจองคิวก็งงๆ ค่ะ คือจะเดินทางวันที่ 09/05 อยากจองคิวยื่นวีซ่าวันที่ 24/04 (จันทร์) ปรากฏว่าจองไม่ได้ค่ะ ตอนแรกก็นึกว่าเค้าไม่ให้จองล่วงหน้านานๆ ก็เลยนอนรออีกวัน ปรากฏวันรุ่งขึ้นก็ยังไม่ได้ 55555 เลยได้จองคิววันที่ 21/04 (ศุกร์) แทนค่ะ วิ่งวุ่นเตรียมเอกสารแทบไม่ทันเลย

เมื่อจองคิวเสร็จแล้วก็ปริ๊นใบจองออกมาค่ะ เตรียมไว้กับเอกสารของเรานะคะ

วันไปยื่นเอกสาร

- ที่ยื่นอยู่ที่ สีลมคอมเพล็กซ์ unit C ชั้น 15 (ข้อมูล ณ 28 เมษายน 2560)
Unit C อยู่ตรงไหน : เวลาไปให้ไปหน้าตึกเลยค่ะ (ลง BTS ศาลาแดงจะสะดวกสุด) ยืนหันหน้าเข้าห้าง ยูนิต C จะอยู่ซ้ายมือค่ะ เป็นตรงที่รถโค้งเข้าไปได้นั่นแหละค่ะ
เดินเข้าประตูไปแล้วเลี้ยวขวา จะเจอลิฟต์หลายตัวเลย ให้เดินเข้าไปตัวที่อยู่ลึกที่สุด จะเป็นลิฟต์ที่ไปชั้น 15 ได้ค่ะ เมื่อออกจากลิฟต์แล้วก็เลี้ยวซ้าย จะเจอ VFS ตรงหน้าเลยค่ะ

- จองคิวทางเว็บไซต์ก่อนไป จะสะดวกรวดเร็วกว่ามาก
มีนแนะนำให้ไปถึงก่อนเวลานัดบนใบจอง 15 นาที ติดต่อที่เคาน์เตอร์ด้านหน้าแล้วจะได้บัตรคิวมาค่ะ
วันที่มีนไป ด้วยความที่กลัวพลาด เลยออกเร็วมาก ไปถึงก่อนเวลานัด 30 นาที ปรากฏว่าเค้าไม่ให้เข้าอยู่ดีค่ะ ต้องรอจนถึง 15 นาทีก่อนเวลานัดถึงจะเริ่มเข้าได้ เพราะฉะนั้น ไปเร็วมากก็ไม่มีประโยชน์อะไรนะคะ (แต่ไปก่อน 15 นาทีจะดี เพราะนั่นหมายความว่าเราจะได้คิวก่อนคนอื่นๆ ที่จองเวลาเดียวกับเรา)
พอได้บัตรคิวแล้ว เดินไปทางขวา จะมีเจ้าหน้าที่เชิญให้เราเข้าประตูแรกซ้ายมือค่ะ ถึงตรงนี้ต้องปิดมือถือแล้วนะคะ

- พอเข้าไปแล้วก็รอเรียกชื่อยื่นเอกสาร จากนี้ไปเป็นประสบการณ์ที่มีนเจอแล้วนะคะ
วันที่ไป มีนจองคิว 9.30 น. ไว้ ได้เข้าห้องตอน 9.15 น. ได้คิวหมายเลข 26 ค่ะ รอประมาณ 40 นาทีได้ วันที่ไปคนเยอะมาก แต่เข้าใจว่าไปกองกันอยู่ออสเตรียนะคะ อิตาลีคนไม่เยอะมากค่ะ อันนี้เดาเอาเองจากตำแหน่งที่คนนั่งรอ (ที่นี่รับเอกสารให้สถานทูต 5 ประเทศได้) ซึ่งหลังจากยื่นเอกสารแล้วก็เข้าใจว่าทำไม อาจจะเพราะเจ้าหน้าที่ออสเตรียเรื่องน้อยกว่าอิตาลีก็เป็นได้ 5555555

พอถึงคิว เจ้าหน้าที่เอาเอกสารมีนไปตรวจ แล้วคืนส่วนที่เป็นเอกสารของสปอนเซอร์ (คุณแม่) มาหมดเลย บอกแค่ว่า "อันนี้ไม่ใช้ค่ะ"
(อธิบาย: มีนเป็นนิสิตค่ะ ขอวีซ่าไปคนเดียว 23 วัน เขียนค่าใช้จ่ายว่าประมาณ 150,000 และมีเงินในบัญชีตัวเองประมาณ 130,000 แต่เป็นยอดวันสุดท้ายโอนเข้ามาตู้มเดียวเลยแสนนึง ก่อนหน้านั้นมี 2-3 หมื่นมาตลอด 5555555)
มีนเลยถามว่า ไม่ใช้หรอ เรายื่นแบบมีสปอนเซอร์นะ
เค้าก็บอกว่า "บัญชีคุณคนเดียวก็พอค่ะ นั่งรอจ่ายเงินนะคะ"
ก็เลยกลับมานั่งงงๆ คิดไปคิดมา ถึงตรงนี้เริ่มกังวลแล้วค่ะ จนเค้าเรียกจ่ายเงิน เลยรวบรวมกำลังฮึดสุดท้ายไปถามอีก (กลัวไม่ได้วีซ่าจริงๆ ค่ะ)
มีนบอกเค้าว่า เราขอไปตั้ง 23 วันนะ แถมเขียนสรุปค่าใช้จ่ายไปในแพลนเที่ยวแล้วว่า 150,000 เงินในบัญชีเรามีแค่ 130,000 มันไม่พออ่ะค่ะ เรากลัววีซ่าไม่ผ่าน
เจ้าหน้าที่คนนั้นก็เหมือนไม่พอใจ ตอบกลับมาห้วนๆ ว่า "มันไม่ต้องใช้ สถานทูตเค้าดูเงินแค่ 3 หมื่นก็ผ่านแล้ว ค่าใช้จ่ายที่เขียนไปก็ลบได้"

มีนแบบ ห๊ะ!? ใช่หรอ คือไปยุโรป 23 วัน ตั๋วเครื่องบิน ที่พักก็ยังไม่จ่ายเงิน (เอกสารที่ยื่นเป็นใบจองเฉยๆ) เค้าจะเอาแค่สามหมื่นจริงๆ หรอ แล้วเอกสารพิมพ์มา จะลบยังไง ลบแล้วสถานทูตจะว่าเราแก้เอกสารมั้ย คืองงไปหมด ไม่เข้าใจด้วยว่าจะทำให้ยากทำไม ก็แค่เอาเอกสารแม่เราใส่เข้าไปจะไม่ง่ายกว่าหรอ
ในจังหวะที่กำลังมึนๆ เค้าก็สวนเพิ่มมาอีกว่า "ถ้าจะเพิ่มเอกสารก็ได้ แต่ต้องทำทุกอย่างใหม่หมด ต้องไปนั่งรอใหม่นะ"
มีนก็แบบ รอก็รอค่ะ (ก็รอมาตั้งขนาดนี้แล้ว รออีกจะเป็นไร)
เค้าเลยขู่เพิ่มว่า "ถ้าจะยื่นแบบมีสปอนเซอร์ เอกสารคุณจะกลายเป็นไม่ครบนะ"
เราเลยถามว่า มันจะขาดอะไรหรอคะ (ตกใจเล็กน้อย เพราะกลัวหาไม่ทัน)
เค้าบอกว่า ไม่รู้ ก็ต้องเช็คใหม่หมด ต้องรอ
มีนก็เลยรอ
ในระหว่างที่รอก็ได้ยินเสียงเค้าลอยออกมาเบาๆ ประมาณว่า ใส่เพิ่มไปก็มีค่าเท่าเดิม ไม่ต่างจากไม่ใส่หรอก ก็ไม่รู้ว่าเค้าคุยกันเรื่องเอกสารเราหรือเปล่า แต่นี่ก็คิดในใจคืนเหมือนกันว่า 'ก็ถ้ามันไม่ต่างกัน แล้วทำไมถึงจะไม่ใส่ล่ะ ถ้ามีค่าเท่ากันก็ใส่ไปสิ แค่ให้เราสบายใจก็ได้' คิดเฉยๆ นะคะ ไม่ได้พูด 55555555

ห้านาทีผ่านไป เค้าก็เรียกเราไปจ่ายเงินใหม่ ไม่เห็นขออะไรเพิ่ม
จากนั้นก็ไปสแกนนิ้วมือ 10 วินาทีเสร็จ กลับบ้านได้ค่ะ

รับเล่มคืน
มีนไปยื่นเรื่องขอวีซ่าวันศุกร์ที่ 21 เมษายน ช่วงเช้า พอตกเย็นก็ได้รับ SMS แจ้งว่า เอกสารเราถึงสถานทูตแล้วค่ะ
พอวันพุธที่ 26 เมษายน ประมาณบ่ายโมง ก็ได้รับ SMS ว่าไปรับเล่มได้ มีนก็วิ่งไปรับเลย (รับเล่มคืนที่เดิมเลยค่ะ) ได้วีซ่าทันทีค่ะ
สรุปว่า การขอวีซ่าในครั้งนี้ใช้เวลา 5 วันรวมเสาร์อาทิตย์ หรือแค่ 3 วันทำการเท่านั้นเองค่ะ ไวมากกกกกกกกกกกก ดีใจสุดๆ มีใครให้ไวกว่านี้มั้ยคะ 555555

สรุป
- การขอวีซ่าอิตาลีกับ VSF หลักๆ คือ เตรียมเอกสารให้พร้อม ครบถ้วนสมบูรณ์ นัดหมาย ไปตรงเวลา เท่านี้ก็ไม่น่ามีปัญหาอะไรแล้วค่ะ
- มีนไม่ค่อยเข้าใจวิธีการคัดกรองเอกสารของทาง VFS แต่ก็ไม่คิดว่าเค้าจะแกล้งเราเหมือนกัน เพราะเค้าไม่มีเหตุผลจะต้องทำแบบนั้นอ่ะ แต่ถึงตอนนี้ก็ยังงงๆ ว่า มีเงินในบัญชีสามหมื่นก็พอจริงๆ หรอ??
- ตอนไปถึงคนเยอะมากกกก ล้นออกมาถึงข้างนอก แอบตกใจค่ะ แต่เอาจริงๆ เหมือนข้างนอกเป็นคนที่ไปแบบไม่นัดมากกว่า (ไม่รู้นะคะ เดาเอา) ข้างในคนไม่เยอะมาก รอไม่นานเท่าไหร่ ถึงแม้ว่าเจ้าหน้าที่จะค่อนข้างช้าก็ตาม (คือถ้าเค้าจัดการได้มีประสิทธิภาพกว่านี้มันจะเร็วมากเลยค่ะ) สรุปว่าใช้เวลา 1 ชั่วโมงกว่าๆ ถือว่าดีทีเดียวค่ะ

ปล. วีซ่าที่ได้จะระบุวันมากกว่าที่เราเขียนแพลนขอไป 15 วันนะคะ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะอยู่นานขึ้นได้ค่ะ เพราะเค้าจะระบุ period of stay หรือจำนวนวันที่เราจะอยู่ในประเทศเค้าได้ ตรงตามที่เราขอไปในแพลนแบบ "เป๊ะๆ" เลยค่ะ
ยกตัวอย่างเช่น มีนขอไป 23 วัน ระหว่างวันที่ 9-31 เมษายน มีนได้วีซ่าระหว่างวันที่ 9 เมษายน - 15 พฤษภาคมค่ะ แต่ period of stay คือ 23 วันถ้วน อยู่นานกว่านี้ไม่ได้ค่ะ (แล้วจะให้วันที่เกินมาเพื่อ? 5555) ข้อดีของการให้วันที่เกินมาอย่างเดียวคือ ในกรณีที่เราเลื่อนการเดินทางออกไป เช่นไปบินวันที่ 10 แทน เราก็จะสามารถเที่ยวตามแพลนเดิมได้จนถึงวันที่ 1 พ.ค. นั่นเองค่ะ

จบรีวิวห้วนๆ ตรงนี้เลยนะคะ หวังว่าจะมีประโยชน์กับคนอื่นบ้างไม่มากก็น้อยค่ะ ขอให้ทุกท่านวีซ่าผ่าน เดินทางปลอดภัย เที่ยวกันอย่างสนุกสนานนะคะ