จะรีบดราม่าไปไหน ...ให้โค้ชใหม่เขาทำงานก่อน

กระทู้สนทนา
แว้บแรกสุด ที่ไทยมีข่าวกับมิโลวาน ราเยวัช บอกตรงๆผมส่ายหน้าครับ

มันเป็นชอยส์ที่ไม่ถูกใจเอาเสียเลย คือในเมื่อจะหาใครสักคนมาแทนที่ซิโก้ ที่ผลงานดีมากในระดับอาเซียน ก็น่าจะเอาโค้ชระดับโลกจริงๆไปเลย

ดุงก้า , อเลฮันโดร ซาเบญ่า หรืออะไรก็ว่าไป ไม่ใช่เป็นโค้ชเซอร์เบีย ที่จุดด่างพร้อยเต็มไปหมด

โอเคล่ะ ว่าราเยวัช ผลงานตอนคุมกาน่า 2010 เขาพาไปถึงรอบ 8 ทีมสุดท้ายในฟุตบอลโลก แต่จากนั้นมา เขาก็ตกต่ำมาตลอด คุมทีมไหน อยู่แป้บๆก็โดนเด้ง แล้วจะมีอะไรมาการันตีว่า จะพัฒนาทีมชาติไทย ให้เดินหน้าไปอย่างถูกต้องได้

อย่างไรก็ตาม ทางสมาคมฯ ต้องมีเหตุผลแน่ๆล่ะ ที่เลือกราเยวัช เพราะ มีชอยส์ตั้งเยอะแยะมากมายเข้ามาเสนอตัว แต่ทำไมยังคงมั่นใจในกุนซือรายนี้

ผมลองตัดเอาอคติในใจออกไป แล้วพยายามวิเคราะห์ถึงข้อดีที่ราเยวัชมี จริงๆถ้าเจาะดูแล้ว นี่ก็เป็นชอยส์ที่ไม่เลวร้ายขนาดนั้นครับ


เหตุผล 1 ไทยต้องการโค้ชที่เก่งเรื่องเทคนิค ไม่ใช่โค้ชที่เน้นเรื่องวินัย

ไทยในอดีต โดนวิจารณ์ว่า นักเตะขาดความเป็นมืออาชีพ มีระดับความฟิตต่ำเล่นได้แค่ 70 นาทีก็เหนื่อย และยังไม่ค่อยมีวินัย แอบหนีเที่ยว แอบกินเหล้า แต่จุดนี้ เราจะเห็นว่า 2-3 ปี หลังมันไม่มีแล้ว

ซิโก้ จะดีจะร้ายยังไง เขาก็เป็นคนสร้างให้ทีมชาติมีวินัยมากขึ้น คือตอนนี้ ถ้าคุณจะติดธงได้ คุณต้องมีวินัยในตัวเองตั้งแต่อยู่กับสโมสรแล้ว นี่ไม่ใช่จุดที่เราต้องกังวลอีกต่อไป

ดังนั้น โค้ชสายวินัยจัด อย่างเยอรมัน หรือ ญี่ปุ่น ดูจะไม่ค่อยเหมาะกับไทยในตอนนี้เท่าไหร่นัก แต่คนที่เราต้องการคือ โค้ชที่แท็กติกส์ละเอียด และรู้วิธีใช้งานนักเตะเทคนิคสูง

สมาคมฟุตบอลกาน่า เคยยอมรับว่า สาเหตุที่เลือกเอาราเยวัชมาคุมทีมในปี 2008 เป็นเพราะพวกโค้ชยุโรปตะวันออก จะไม่ได้เน้นเรื่องพละกำลัง แต่จะเป็นสายเทคนิค ซึ่งเหมาะกับกาน่า ที่มีผู้เล่นทักษะสูงๆหลายคน

คือเรื่องพละกำลัง ความใหญ่ของร่างกาย เราไปสู้ชาติอื่นไม่ได้อยู่แล้ว  จะให้เราฟิตเหมือนเกาหลีใต้-เกาหลีเหนือ ก็คงยาก หรือ จะให้เราตัวโตเหมือนออสเตรเลีย-อุซเบกิสถาน คงต้องแก้กันที่เรื่องดีเอ็นเอกันเลยทีเดียว

เอาเป็นว่า ความฟิตและวินัยของนักเตะตอนนี้ เรามีพอประมาณแล้ว ถือว่าน่าพอใจ

แต่จุดที่เรามีเหนือกว่าใครๆ คือนักเตะของเราทักษะดี คล่องแคล่ว และมีความเร็วจัด ซึ่ง ราเยวัช เป็นโค้ชสายเทคนิคอยู่แล้ว เขาจะพัฒนาสิ่งดีๆที่มีอยู่แล้วให้เนี้ยบยิ่งขึ้น

เหตุผล 2  ราเยวัชมองเรื่องเงินเป็นรอง

ค่าตัวของราเยวัช ที่รับอยู่หลังหักภาษี 1 ล้าน 5 แสนบาทต่อเดือน รวมสตาฟฟ์โค้ช  (คิดต่อปีก็ราวๆ 18 ล้านบาท) ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่รับได้

ลองดูรายชื่อโค้ชคนอื่น ดุงก้า เรียกเงิน 128 ล้านต่อปี หรือเคลาดิโอ รานิเอรี่  ต้องการราว 200 ล้านปอนด์ต่อปี ซึ่งเป็นตัวเลขที่มหาศาลมาก

ถ้าต้องจ่ายขนาดนั้น เอาเงินก้อนโตไปจัดสรรด้านอื่นในฟุตบอลไทยจะดีกว่า สุดท้ายพอต่อรองกับราเยวัช และเคาะได้ที่ตัวเลขนี้ ก็ถือว่าเหมาะสมดี

ตามปกติ โค้ชที่มีโพรไฟล์ดีๆ ก็อยากจะเรียกเงินให้ได้มากที่สุดอยู่แล้ว แต่การที่ราเยวัช มองเรื่องเงินเป็นรอง นั่นหมายถึงเขามีแรงผลักดันอย่างอื่น ซึ่งนั่นเป็นเรื่องที่ดีนะ

จริงๆตั้งแต่แยกทางกับกาน่า เขาก็ไม่เคยกลับมาประสบความสำเร็จอีกเลยไม่ว่าจะคุมทีมไหน ดังนั้น ราเยวัชย่อมมีความกระหายอยากจะพิสูจน์ตัวเอง เพราะถ้าทำไทยล้มเหลวอีก คราวนี้ เจ้าตัวคงถูกลบชื่อไปจากวงการเป็นการถาวรแล้ว

เหตุผล 3 ไม่ดูถูกฟุตบอลไทย

ฟุตบอลในอาเซียนอาจมีแฟนๆที่คลั่งไคล้มากก็จริง แต่เราต้องยอมรับว่า ในสายตาของคนทั้งโลก ระดับฝีเท้าของโซนนี้ถือว่าต่ำกว่าภูมิภาคอื่นๆ

ดังนั้น กับโค้ชที่เคยผ่านฟุตบอลโลก และเคยคุมทีมปะทะกับ หลุยส์ ซัวเรซ มาแล้ว ถ้าเป็นคนทั่วไปคงมั่นใจว่า การรับงานคุมทีมอาเซียน คงเป็นเรื่องจิ๊บๆ

แต่ราเยวัช ทำการบ้านอย่างจริงจัง มีการวิเคราะห์หาจุดเด่น จุดด้อย ของไทย รวมถึงมานั่งดูเกมไทยลีกในสนาม แสดงให้เห็นความตั้งใจจริง

ที่สำคัญคือรายชื่อสตาฟฟ์ที่ขนมา ก็เป็นพวกมีคุณภาพ บางคนเป็นนักเตะทีมชาติมาก่อน ไม่เหมือนผู้สมัครบางคนที่มาตัวเปล่า ไม่ได้เตรียมการ ไม่ได้ทำการบ้านอะไรเลย

ขนาดยังไม่ได้รับเลือก ยังใส่ใจขนาดนี้ เพราะฉะนั้น ก็พอคาดหวังได้นิดๆ ว่าพอเป็นโค้ชทีมชาติแล้ว ยังทุ่มใจเต็มร้อยให้กับหน้าที่นี้

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

สรุปกับการแต่งตั้งราเยวัช เป็นกุนซือคนใหม่ของทีมช้างศึก ผมมองแบบนี้ครับ

ไม่มีใครรู้ว่า ราเยวัชจะทำให้ทีมชาติไทย ดีขึ้นแบบก้าวกระโดด หรือ ยังวนเวียนในระดับอาเซียนเหมือนเดิม แต่อย่างน้อยสิ่งที่เราเห็น คือต่างคนต่างมีความทะเยอทะยานที่อยู่ในใจ

ราเยวัช อยากพิสูจน์ให้โลกเห็นว่าเขาไม่ใช่โค้ชตกยุค นี่เป็นโอกาสทองที่จะทำให้ชื่อตัวเองกลับมาอยู่ในวงการอีกครั้ง

ไทยเอง ก็อยากพิสูจน์ให้ชาวเอเชียดูเหมือนกันว่า นักเตะไทยฝีเท้าไม่เป็นรองใคร แต่ขาดแค่แท็กติกส์เฉียบๆ และ มุมมองใหม่ๆจากโค้ชระดับโลกเท่านั้น

ราเยวัชต้องการโอกาสจากไทย และไทยก็ต้องการแท็กติกส์เจ๋งๆจากราเยวัช ต่างคนต่างได้ประโยชน์

จริงอยู่ เขาอาจไม่ใช่โค้ชระดับเกรดเอ ที่เห็นแล้วจะร้อง "ว้าว" ไม่เหมือนพวกอเลฮันโดร ซาเบญ่า , ดุงก้า หรือ เคลาดิโอ รานิเอรี่

อย่างไรก็ตาม ในเมื่อตัดสินใจเลือกไปแล้ว ก็ให้โอกาสเขาทำงานก่อน อย่าเพิ่งไปตั้งแง่ อย่าเพิ่งไปบั่นทอนกัน มันมีแต่จะส่งผลเสีย

ลองเปิดใจกว้างๆ เฝ้าดูว่าไทยจะได้อะไรจากการดึงราเยวัชเข้ามา จากนั้นพอผ่าน 3 เกมแรก ถ้าผลงานแย่ยิ่งกว่าซิโก้ ถึงตรงนั้น ค่อยรุมด่ากันก็ไม่สาย จริงไหมครับ

ถ้าให้เปรียบเทียบก็เหมือนข้อสอบปลายภาค มีชอยส์ 4 ข้อ ให้คุณเลือกกากบาท โดยในนั้นมีคำตอบที่ถูกแค่ข้อเดียว

ถ้าหากคุณไม่รู้คำตอบแน่ชัด สิ่งเดียวที่คุณทำได้ คือใช้ความรู้ทั้งหมดที่มี ประมวลผล แล้วก็กากบาทชอยส์ที่คุณมั่นใจที่สุด

เมื่อคุณส่งข้อสอบไปแล้ว จะตีโพยตีพายไป มันก็ไม่ได้ประโยชน์อะไร ก็ได้แต่รอ และภาวนา

ว่าชอยส์ที่คุณเลือกไป มันจะเป็นคำตอบที่ถูกต้อง .. เท่านั้นเอง

       "วิศรุต"

เครดิต www.siamsport.co.th/Column/170427_244.html

สำหรับจขกท.เห็นด้วยทุกประการ คือ ให้โอกาสเขาหน่อย อย่าไปรีบดราม่าอะไรขนาดนั้น และก็อย่าไปพาดพิงโค้ชเก่าเล้ยมันจบไปนานแล้วนา

แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่