สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 7
ครัวของจขกท.ไม่น่าจะใช่ นำ้มันมะพร้าว1ลิตรที่เล่ามา มันดูแล้วน่าจะสะสมมามากกว่านั้นเป็นเวลานาน เพราะเราใช้น้ำมันมะพร้าวมาเป็นปีๆ
แพงกว่าน้ำมันหลายอย่างเราก็ใช้ ค่ะ ไม่มีสกปรกค่ะ ทำครัวต้องเช็ดทำความสะอาดทุกวันค่ะเรื่องธรรมดา
ตามกระทู้ที่เล่ามันทะ
ๆชอบกลเหมือนกระทู้ล่อเป้า!!!!!
จุดประสงค์ของกระทู้
1-น้ำมันมะพร้าวจะด้วยนำ้มันสกัดผ่านความร้อน หรือสกัดเย็น กรมการคุ้มครองผู้บริโภคเขาก็ให้ซื้อของที่มีอย.ควบคุมอยู่แล้ว
แต่เขาคงไม่สามารถไปจูงมือใครมาซื้อได้ เพราะทุกคนมีสมอง พินิจพิจารณา ไตร่ตรอง มีสิทธิ์ที่จะเลือกกิน เลือกใช้
เมื่อคิดจะซื้อของถูก ที่ชาวบ้านทำเอง มันก็น่าจะรู้เรื่องความสะอาดว่าจะมาแบบไหน!!
2-มีคนเขาขอข้อมูลข้างบน คุณเอามาแสดงให้เขาหน่อยค่ะว่าคุณเอามาจากไหนคุณคห.ที่3เค้าขอข้อมูลค่ะ
น้ำมันมะพร้าวมีจุดความร้อนที่ 200องศาที่อ่านและละลายในอุณภูมิ25องศา ใช้ทำอาหารทั้งผัด ทอด
และทอดเฟร้นฟรายยังได้ในขณะที่น้ำมันอื่นบางตัวทำไม่ได้
และน้ำมันมะพร้าวก็ไม่ผ่านระบบ hydrogeniert เคมีแบบไขมันทรานซ์ตัวอื่น(Transfette)
อย่างเวปนี้เขาให้น้ำมันมะพร้าวเป็นอันดับ1ใน5ด้วยซ้ำ
http://www.greenaliving.de/5-gesuendeste-oele-fette/#!prettyPhoto
ขอยกมาท่อนหนึ่งในลักษณะข้อดี
Positive Eigenschaften:
มีแร่ธาตุและวิตามิน โดยเฉพาะวิตามิน อี และมีคุณสมบัติ ต่อต้านเชื้อรา,ต้านไวรัส,ต้านแบคทีเรีย เพราะมีกรดไขมัน
Lauric acid, caprylic acid and capric acid เหตผลนี่เป็นส่วนใหญ่ที่เป็นไขมันอิ่มตัวที่ ห่วงโซ่เคมีอยู่ตรงกลางที่ร่างกายพร้อมที่จะดูดซึมได้ทันที
นี่แค่ภายนอกร่างกายนะที่ใช้แก้โรคผิวหนัง สะเก็ดเงิน ดีกับช่องปากและฟันเพราะช่วยฆ่าเชื้อ ทั้งยังมีฤทธิ์ลดการอักเสบ
ปรับต่อมไร้ท่อ ที่เกี่ยวกับฮอร์โมนให้ทำงานปรกติ และยังต่อต้านโรค อัลไซเมอร์Alzheimer อันนี้ควรจะแบบสกัดเย็น
รวมๆประมาณนี้อยากรู้กดภาคภาษาอังกฤษอ่านเอา ถ้าอ่านภาษาเยอรมันไม่เข้าใจ นี่เอาแค่คุณสมบัติด้านยา
ประโยคนี้ลอกออกมาแปลตรงตัวให้จขกท.ชัดๆ เอาเรื่องกินน้ำมันในรูปอาหารเข้าร่างกายบ้าง
Kokosöl lagert sich nicht im Fettgewebe an, sondern heizt die Fettverbrennung sogar zusätzlich an ohne dass der Blutzuckerspiegel steigt.
น้ำมันมะพร้าวไม่ตกค้างเป็นเนื้อเยื่อไขมันแต่ทว่ามันเผาผลาญไป โดยรวมแล้ว ระดับน้ำตาลในเลือดไม่สูงขึ้นด้วย
http://www.olionatura.de/_oele/index.php?id=27
กรดที่มีในน้ำมันมีอีกหลายตัวเช่นLaur insäure (ca. 47–50 %), Myristinsäure (ca. 19 %), Capryl- (ca. 6 %) und Caprinsäure (ca. 6 %), Palmitinsäure (ca. 10 %), Linolsäure (ca. 1–2 %), Ölsäure (ca. 5–7 %), ca.2 mg/100 g Tocopherole ล้วนแต่มีประโยชน์
(อยากรู้กดแปลภาษาอังกฤษได้ค่ะว่ากรดอะไรบ้าง ตอบยาวๆเราก็แปลไม่ไหว)
2-ข้อสองนี้ที่คุณบอกว่าจุดควัน 149-162 นั้นก็ไม่ใช่ เราอ่านมาหลายเวป คุณจะโจมตีเพราะอะไร?หรือคุณจะล่อเป้าให้คนมาตอบ?
Welches Öl zum Braten geeignet ist: die Rauchpunkt-Tabelle
Öl Rauchpunkt in °C
นำ้มันที่ใช้ผัดทอด ในจุดความร้อนที่เป็นควันขึ้น และตัวเลขคือองศา
Arganöl น้ำมัน อาร์กา 250
Sojaölน้ำมันถั่วเหลือง 234
Erdnussöl น้ำมันถั่วลิสง 230
Sesamöl น้ำมันงา 230
Olivenöl, raffiniert นำ้มันมะกอกที่เขาสกัดแบบทำอาหารร้อน 230
Palmölน้ำมันปามล์ 220
Palmkernfett 220 อันนี้เราไม่รู้จัก ขอโทษทีขี้เกียวเปิดดิกชั่นนารี
Sonnenblumenölน้ำมันดอกทานตะวัน 220
Kokosölน้ำมันมะพร้าว 200จะเห็นว่าน้ำมันมะพร้าวได้ถึง200องศา C
Butterschmalz อันนี้แบบเนยเทียมแต่สีขาวเป็นไขมันทรานซ์ 200
Traubenkernöl น้ำมันองุ่น190
Butter เนย 175
Margarine มาการีน 170
Rapsöl นั้ามันรัป 160
และตรงนี้ของคุณช่วยหาหลักฐานมาแสดงด้วยว่ามาจากไหน
• อีกปัจจัยที่เป็นสาเหตุเกิดคราบโสโครก ไอน้ำมันเหนียวหนึบ เพราะน้ำมันมะพร้าวมีจุดเกิดควัน Smoke Point ที่ 149-162 องศาเซลเซียส เรียกว่าไม่ทนความร้อนเลย เมื่อทอดไปนานๆ จนเลยจุด Smoke Point หรือถูกนำมาใช้ทอดซ้ำจะทำให้เกิดสารโพลาร์ ลอยไปในอากาศไปเกาะติดเสื้อผ้า หน้าผม เกาะตามเครื่องครัวต่างๆ ซึ่งเกิดจากไตรกลีเซอไรด์แตกตัวแล้วเกิดกรดไขมันอิสระเพิ่มขึ้น ทำให้น้ำมันมีโมโนกลีเซอไรด์ ไดกลีเซอไรด์ และมีสารที่ถูกออกซิเดชั่นหลายตัวเพิ่มขึ้น เมื่อสารโพลาร์สะสมในร่างกายจะส่งผลกระทบต่อการทำงานของเซลล์ เป็นตัวการที่ทำให้เกิดโรคความดันโลหิตสูง หลอดเลือดหัวใจตีบ และมะเร็งปอดได้
จะรออ่านนะคะ
แล้วมะเร็งปอดจากการหายใจเอากลิ่นควัน อย่าแค่น้ำมันมะพร้าวเลยค่ะ ทุกอย่างที่ป้ิง ย่าง ผัด ทอดมันเป็นได้ทั้งนั้น
ส่วนข้อ3เวปที่คุณอ้างมา เราเข้าไปดู มันเป็นเวปที่เขาทำสถิติ คนที่เสียชีวิตแต่ละประเทศสูงสุดด้วยโรคอะไรแต่ละประเทศ
เรากดฟิลิปปินส์เข้าไป มันก็ขึ้น"เส้นเลือดหัวใจตีบ"อันดับหนึ่ง คุณก็มาโยงกับ น้ำมันมะพร้าวซะงั้น
เราก็ไม่เห็นว่าจะมีอะไร มันก็แค่สถิติประชากรที่เสียชีวิตอันดับแรกและอันดับรองรองๆๆๆลงไป
ค้นยังไงก็ไม่เห็นมีคำว่า coocnut oil สักคำ ไม่มีใครคลั่งน้ำมันมะพร้าวอย่างที่คุณคิดหรอกนะ อย่าคิดไปเอง
แค่น้ำมัน1ลิตร ทำครัวสกปรกขนาดนี้ มันเกินความจริง ไม่เกี่ยวแน่ เราไม่ได้คลั่งแต่เราต้องอดซื้อของบางอย่างเพิ่อเอาเงินมาซื้อ
น้ำมันมะพร้าวแบบBio
ที่สำคัญไปว่าพวกเขา"ตายผ่อนส่งทั้งประเทศ" อีกซะด้วย
โรคเส้นเลือดตีบ จะหัวใจหรือสมอง ไม่จำเป็นต้องเป็นนำ้มันมะพร้าว อันนี้คุณต้องไปศึกษาให้ดี
ตัวกรดLauric นี้ที่มีในน้ำมันมะพร้าว มันมีคุณสมบัติทำให้ค่าเลือดสมดุลย์ ช่วยลดคลอเรสเตอรอลจากการทำงานของกรดLauric
.
แพงกว่าน้ำมันหลายอย่างเราก็ใช้ ค่ะ ไม่มีสกปรกค่ะ ทำครัวต้องเช็ดทำความสะอาดทุกวันค่ะเรื่องธรรมดา
ตามกระทู้ที่เล่ามันทะ


1-น้ำมันมะพร้าวจะด้วยนำ้มันสกัดผ่านความร้อน หรือสกัดเย็น กรมการคุ้มครองผู้บริโภคเขาก็ให้ซื้อของที่มีอย.ควบคุมอยู่แล้ว
แต่เขาคงไม่สามารถไปจูงมือใครมาซื้อได้ เพราะทุกคนมีสมอง พินิจพิจารณา ไตร่ตรอง มีสิทธิ์ที่จะเลือกกิน เลือกใช้
เมื่อคิดจะซื้อของถูก ที่ชาวบ้านทำเอง มันก็น่าจะรู้เรื่องความสะอาดว่าจะมาแบบไหน!!
2-มีคนเขาขอข้อมูลข้างบน คุณเอามาแสดงให้เขาหน่อยค่ะว่าคุณเอามาจากไหนคุณคห.ที่3เค้าขอข้อมูลค่ะ
น้ำมันมะพร้าวมีจุดความร้อนที่ 200องศาที่อ่านและละลายในอุณภูมิ25องศา ใช้ทำอาหารทั้งผัด ทอด
และทอดเฟร้นฟรายยังได้ในขณะที่น้ำมันอื่นบางตัวทำไม่ได้
และน้ำมันมะพร้าวก็ไม่ผ่านระบบ hydrogeniert เคมีแบบไขมันทรานซ์ตัวอื่น(Transfette)
อย่างเวปนี้เขาให้น้ำมันมะพร้าวเป็นอันดับ1ใน5ด้วยซ้ำ
http://www.greenaliving.de/5-gesuendeste-oele-fette/#!prettyPhoto
ขอยกมาท่อนหนึ่งในลักษณะข้อดี
Positive Eigenschaften:
มีแร่ธาตุและวิตามิน โดยเฉพาะวิตามิน อี และมีคุณสมบัติ ต่อต้านเชื้อรา,ต้านไวรัส,ต้านแบคทีเรีย เพราะมีกรดไขมัน
Lauric acid, caprylic acid and capric acid เหตผลนี่เป็นส่วนใหญ่ที่เป็นไขมันอิ่มตัวที่ ห่วงโซ่เคมีอยู่ตรงกลางที่ร่างกายพร้อมที่จะดูดซึมได้ทันที
นี่แค่ภายนอกร่างกายนะที่ใช้แก้โรคผิวหนัง สะเก็ดเงิน ดีกับช่องปากและฟันเพราะช่วยฆ่าเชื้อ ทั้งยังมีฤทธิ์ลดการอักเสบ
ปรับต่อมไร้ท่อ ที่เกี่ยวกับฮอร์โมนให้ทำงานปรกติ และยังต่อต้านโรค อัลไซเมอร์Alzheimer อันนี้ควรจะแบบสกัดเย็น
รวมๆประมาณนี้อยากรู้กดภาคภาษาอังกฤษอ่านเอา ถ้าอ่านภาษาเยอรมันไม่เข้าใจ นี่เอาแค่คุณสมบัติด้านยา
ประโยคนี้ลอกออกมาแปลตรงตัวให้จขกท.ชัดๆ เอาเรื่องกินน้ำมันในรูปอาหารเข้าร่างกายบ้าง
Kokosöl lagert sich nicht im Fettgewebe an, sondern heizt die Fettverbrennung sogar zusätzlich an ohne dass der Blutzuckerspiegel steigt.
น้ำมันมะพร้าวไม่ตกค้างเป็นเนื้อเยื่อไขมันแต่ทว่ามันเผาผลาญไป โดยรวมแล้ว ระดับน้ำตาลในเลือดไม่สูงขึ้นด้วย
http://www.olionatura.de/_oele/index.php?id=27
กรดที่มีในน้ำมันมีอีกหลายตัวเช่นLaur insäure (ca. 47–50 %), Myristinsäure (ca. 19 %), Capryl- (ca. 6 %) und Caprinsäure (ca. 6 %), Palmitinsäure (ca. 10 %), Linolsäure (ca. 1–2 %), Ölsäure (ca. 5–7 %), ca.2 mg/100 g Tocopherole ล้วนแต่มีประโยชน์
(อยากรู้กดแปลภาษาอังกฤษได้ค่ะว่ากรดอะไรบ้าง ตอบยาวๆเราก็แปลไม่ไหว)
2-ข้อสองนี้ที่คุณบอกว่าจุดควัน 149-162 นั้นก็ไม่ใช่ เราอ่านมาหลายเวป คุณจะโจมตีเพราะอะไร?หรือคุณจะล่อเป้าให้คนมาตอบ?
Welches Öl zum Braten geeignet ist: die Rauchpunkt-Tabelle
Öl Rauchpunkt in °C
นำ้มันที่ใช้ผัดทอด ในจุดความร้อนที่เป็นควันขึ้น และตัวเลขคือองศา
Arganöl น้ำมัน อาร์กา 250
Sojaölน้ำมันถั่วเหลือง 234
Erdnussöl น้ำมันถั่วลิสง 230
Sesamöl น้ำมันงา 230
Olivenöl, raffiniert นำ้มันมะกอกที่เขาสกัดแบบทำอาหารร้อน 230
Palmölน้ำมันปามล์ 220
Palmkernfett 220 อันนี้เราไม่รู้จัก ขอโทษทีขี้เกียวเปิดดิกชั่นนารี
Sonnenblumenölน้ำมันดอกทานตะวัน 220
Kokosölน้ำมันมะพร้าว 200จะเห็นว่าน้ำมันมะพร้าวได้ถึง200องศา C
Butterschmalz อันนี้แบบเนยเทียมแต่สีขาวเป็นไขมันทรานซ์ 200
Traubenkernöl น้ำมันองุ่น190
Butter เนย 175
Margarine มาการีน 170
Rapsöl นั้ามันรัป 160
และตรงนี้ของคุณช่วยหาหลักฐานมาแสดงด้วยว่ามาจากไหน
• อีกปัจจัยที่เป็นสาเหตุเกิดคราบโสโครก ไอน้ำมันเหนียวหนึบ เพราะน้ำมันมะพร้าวมีจุดเกิดควัน Smoke Point ที่ 149-162 องศาเซลเซียส เรียกว่าไม่ทนความร้อนเลย เมื่อทอดไปนานๆ จนเลยจุด Smoke Point หรือถูกนำมาใช้ทอดซ้ำจะทำให้เกิดสารโพลาร์ ลอยไปในอากาศไปเกาะติดเสื้อผ้า หน้าผม เกาะตามเครื่องครัวต่างๆ ซึ่งเกิดจากไตรกลีเซอไรด์แตกตัวแล้วเกิดกรดไขมันอิสระเพิ่มขึ้น ทำให้น้ำมันมีโมโนกลีเซอไรด์ ไดกลีเซอไรด์ และมีสารที่ถูกออกซิเดชั่นหลายตัวเพิ่มขึ้น เมื่อสารโพลาร์สะสมในร่างกายจะส่งผลกระทบต่อการทำงานของเซลล์ เป็นตัวการที่ทำให้เกิดโรคความดันโลหิตสูง หลอดเลือดหัวใจตีบ และมะเร็งปอดได้
จะรออ่านนะคะ
แล้วมะเร็งปอดจากการหายใจเอากลิ่นควัน อย่าแค่น้ำมันมะพร้าวเลยค่ะ ทุกอย่างที่ป้ิง ย่าง ผัด ทอดมันเป็นได้ทั้งนั้น
ส่วนข้อ3เวปที่คุณอ้างมา เราเข้าไปดู มันเป็นเวปที่เขาทำสถิติ คนที่เสียชีวิตแต่ละประเทศสูงสุดด้วยโรคอะไรแต่ละประเทศ
เรากดฟิลิปปินส์เข้าไป มันก็ขึ้น"เส้นเลือดหัวใจตีบ"อันดับหนึ่ง คุณก็มาโยงกับ น้ำมันมะพร้าวซะงั้น
เราก็ไม่เห็นว่าจะมีอะไร มันก็แค่สถิติประชากรที่เสียชีวิตอันดับแรกและอันดับรองรองๆๆๆลงไป
ค้นยังไงก็ไม่เห็นมีคำว่า coocnut oil สักคำ ไม่มีใครคลั่งน้ำมันมะพร้าวอย่างที่คุณคิดหรอกนะ อย่าคิดไปเอง
แค่น้ำมัน1ลิตร ทำครัวสกปรกขนาดนี้ มันเกินความจริง ไม่เกี่ยวแน่ เราไม่ได้คลั่งแต่เราต้องอดซื้อของบางอย่างเพิ่อเอาเงินมาซื้อ
น้ำมันมะพร้าวแบบBio
ที่สำคัญไปว่าพวกเขา"ตายผ่อนส่งทั้งประเทศ" อีกซะด้วย
โรคเส้นเลือดตีบ จะหัวใจหรือสมอง ไม่จำเป็นต้องเป็นนำ้มันมะพร้าว อันนี้คุณต้องไปศึกษาให้ดี
ตัวกรดLauric นี้ที่มีในน้ำมันมะพร้าว มันมีคุณสมบัติทำให้ค่าเลือดสมดุลย์ ช่วยลดคลอเรสเตอรอลจากการทำงานของกรดLauric
.
แสดงความคิดเห็น
น้ำมันมะพร้าวตัวการทำครัวสกปรกโสโครก และก่อมะเร็งผิวหนังได้ง่าย!!!
แล้วความเชื่อผิดๆ ว่าน้ำมันสกัดเย็นด้วยวิธีตามธรรมชาติจะสะอาดปลอดภัย บอกเลยว่าเป็นการให้ข้อมูลอันเป็นเท็จอย่างยิ่งแก่ผู้บริโภคที่ไม่มีการไตร่ตรองว่าน้ำมันแบบไหนเหมาะที่เลือกซื้อปรุงอาหารหรือไม่ ก่อนจะซื้อมาใช้นั้น ไอ้น้ำมันมะพร้าวพวกนี้ชอบอ้างตัวเองว่าสกัดเย็นจากธรรมชาติ (ลงโทษหรือไม่) ดูข้างขวดก็โดนหลอกกับสลากปลอม ไม่มีตราโลโก้หน่วยงานใดกล้ารับรองกรรมวิธีการผลิต แล้วคุณแน่ใจได้อย่างไรว่าสะอาดและปลอดภัยพอที่จะบริโภค
อย่างน้อยๆ ผู้บริโภคควรเลือกน้ำมันที่มีสัญลักษณ์ อย. (สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา) การันตีดีที่สุด สังเกตหรือฉุกคิดสักนิดก่อนซื้อน้ำมะพร้าวมาใช้
1. น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นที่เรียกว่าธรรมชาติลงโทษ และให้โทษแก่ผู้ใช้ทุกประการ
คิดให้เยอะ ศึกษาให้ลึกว่าน้ำมันสกัดเย็นที่มีกรรมวิธีการผลิตออกมาแล้วเพื่อมาใช้ทำความสะอาดร่างกายทั้งด้านความสวยงามหรือรักษาโรค หรือปรุงอาหารก็ตาม ความสะอาดเพียงพอหรือไม่
การสกัดเย็นที่ว่า คือคั้นกะทิสดๆ แล้วนำมาแยกชั้นผิวไขมัน รอให้ตกตะกอน เสร็จแล้วบรรจุขวดขายมันไม่ง่ายไปหรือ แค่เห็นขวดเป็นไขขาวๆ ต่อมาพอเปิดใช้ก็มีกลิ่นหืน เหม็นทุกๆวัน หมดอายุขัยที่จะใช้ต่อ ต้องทิ้งไม่ใช่เก็บค้างเป็นปีๆ แล้วเอามาทอดอาหารหรือกินรักษาโรค คุณฆ่าตัวเองชัดๆ กินมะเร็ง กินเชื้อราเชื้อโรค
อาหารที่ทำในระบบเปิดเจอทั้งฝุ่น แสงแดด และให้ระวังแบคทีเรีย ไม่สามารถบอกได้ว่าหมดอายุเมื่อไหร่ เช่น กะทิคั้นสดตามตลาด แค่ 1-2 วันก็เสียแล้ว
2. รู้ไว้น้ำมันมะพร้าวไม่ทนความร้อน จึงไม่ควรเอามาทอด
• อันดับแรกเมื่อคุณเอาน้ำมันมะพร้าวมาทอด ก็คิดผิดอย่างมหันต์ เพราะเวลาทำอาหารจะผัดหรือจะทอด น้ำมันมะพร้าวไม่เหมาะกับการทอด น้ำมันในกระทะจะกระเด็นไปทั่วครัวเลย แล้วเกิดคราบน้ำมันเหนียวๆ บนเตาและเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัว ลองเอามือไปจับเครื่องครัวคุณจะรู้สึกจากไอน้ำมันมะพร้าวเหนียวหนึบ
• อีกปัจจัยที่เป็นสาเหตุเกิดคราบโสโครก ไอน้ำมันเหนียวหนึบ เพราะน้ำมันมะพร้าวมีจุดเกิดควัน Smoke Point ที่ 149-162 องศาเซลเซียส เรียกว่าไม่ทนความร้อนเลย เมื่อทอดไปนานๆ จนเลยจุด Smoke Point หรือถูกนำมาใช้ทอดซ้ำจะทำให้เกิดสารโพลาร์ ลอยไปในอากาศไปเกาะติดเสื้อผ้า หน้าผม เกาะตามเครื่องครัวต่างๆ ซึ่งเกิดจากไตรกลีเซอไรด์แตกตัวแล้วเกิดกรดไขมันอิสระเพิ่มขึ้น ทำให้น้ำมันมีโมโนกลีเซอไรด์ ไดกลีเซอไรด์ และมีสารที่ถูกออกซิเดชั่นหลายตัวเพิ่มขึ้น เมื่อสารโพลาร์สะสมในร่างกายจะส่งผลกระทบต่อการทำงานของเซลล์ เป็นตัวการที่ทำให้เกิดโรคความดันโลหิตสูง หลอดเลือดหัวใจตีบ และมะเร็งปอดได้
3. สถิติน่าสะพรึงกลัว!!! น้ำมันมะพร้าวมัจจุราชร้ายคร่าชีวิตคนมากสุด
มีผลสำรวจโดยเว็บไซต์ www.worldlifeexpectancy.com ได้เผยแพร่สาเหตุการตายของมนุษย์โลก พบว่า สาเหตุที่มีคนตายมากสุดมาจากโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ Coronary Heart Disease แล้วประเทศที่ติดท็อปอยู่ในโซนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นั่นคือ ฟิลิปปินส์ ประเทศหมู่เกาะที่มีประชาชนเกือบทั้งประเทศบริโภคน้ำมันมะพร้าวแทนน้ำก็ว่าได้ ภัยร้ายอยู่ใกล้ตัวแค่เอื้อมในน้ำมันมะพร้าวมีกรดไขมันอิ่มตัว สูงลิ่วร้อยละ 90
แม้จะมีคนเถียงว่า น้ำมันมะพร้าว เป็นน้ำมันที่ได้จากพืชก็ตาม แต่ตามหลักโภชนาการวิจัยอย่างชัดเจนว่า มีกรดไขมันอิ่มตัวสูง (Saturated fatty acid) ซึ่งจะพบมากในมันเปลว หรือหนังสัตว์ เปรียบให้เห็นชัดว่าๆ กินน้ำมันมะพร้าว ก็เหมือนกินพวกน้ำมันหมู ถ้ากินในปริมาณที่มากสะสมเข้าไปทุกวัน จะก่อให้เกิดคอเลสเตอรอสสูง เสี่ยงไขมันอุดตันในหลอดเลือดและโรคหัวใจได้ ก็มีตัวอย่างให้เห็นชัดเจนตามผลสำรวจคนฟิลิปปินส์ พวกคลั่งน้ำมันมะพร้าว ผลก็ตายผ่อนส่งกันทั้งประเทศ ถ้าอยากมีชีวิตอยู่นานๆ เลิกซื้อ เลิกกินน้ำมะพร้าวซะ