สวัสดีอีกครั้งนะคะ
ทีแรกกะว่าจะไม่มารีวิวอะไรเลย เพราะรีวิวเกี่ยวกับการเดินทางไปยังเมืองเลห์นั้น ในพันทิปเองก็ค่อนข้างมาก ละเอียดมากๆ ซึ่งเราเองก็อาศัยรีวิวของเพื่อนๆนี่แหละค่ะ ช่วยเราในการวางโปรแกรมเที่ยวได้มากจริงๆ ขอบคุณค่ะ

ที่เลห์ นอกจากความประทับใจ ความตื่นตาตื่นใจในสภาพภูมิประเทศแล้ว ลำดับต่อมาที่ทำให้เมืองนี้ดึงดูดนักท่องเที่ยว และมันมีสเน่ห์มากจริงๆคือความมีน้ำใจของคนพื้นที่ค่ะ คนพื้นที่น่ารักมากๆจริงๆ เรามองเห็นถึงความมีน้ำใจ อัธยาศัยไมตรีที่ดีและจริงใจมากๆจากคนพื้นที่แบบชนิดที่ว่าคาดไม่ถึงเลยค่ะ ยกตัวอย่างวันที่พวกเราไป Pangong lake หิมะหนามากๆรถติดหิมะไปไม่ได้ตลอดทาง ทุกครั้งที่ติด คนขับรถเกือบทุกคันจะรีบวิ่งไปคันที่ติด ขุดหาดินใต้หิมะมาช่วยกันโปรยลงใกล้ล้อเพื่อให้รถที่ติดไปได้ หลายครั้งที่กรูกันลงไปเข็นรถทั้งๆที่หนาวสุดๆ และยังมีอีกหลายๆเหตุการณ์ที่พวกเราประทับใจมากจริงๆ

ผู้คนที่ดูแลพวกเรา เช่น พนักงานที่บ้านพัก หรือไกด์ แม้แต่คนขับรถ ทุกๆคนก็ดีกับเรามากๆ เหมือนกับว่าพวกเราเป็นเพื่อน เป็นญาติยังไงอย่างนั้นเลยค่ะ เราเข้าใจคำว่าทำเพื่อให้ได้เงินนะคะ แต่คนที่นี่แตกต่าง เค๊าเหมือนกับว่า ตั้งใจทำด้วยความจริงใจเกินเงินไปมากๆ รู้สึกประทับใจกับผู้คนที่เราได้เจอ และดีใจที่ได้ไปเที่ยวเลห์ค่ะ
อินเตอร์เนต = 0 ค่ะ ไม่มีเลยแม้แต่วินาทีเดียว5555 แต่มันกลับดีค่ะ การไม่มีเน็ตมันทำให้พวกเราสนใจต่อสิ่งรอบๆตัวมากขึ้นจริงๆ ก็อยู่กันได้นะคะ ไม่เห็นอยากเล่นมากเท่าไหร่
เราไป Pangong lake , วัดต่างๆ , Khardungla Pass (อันนี้เราขึ้นไม่ถึง ทางปิดค่ะ) ทุกที่ที่ได้ไปประทับใจในความสวยงามมากๆ แต่ทุกที่มีคนรีวิวมากแล้ว วันนี้จึงขอเล่าเป็นประสบการณ์ และความประทับใจเกี่ยวกับการไปเที่ยวครั้งนี้นะคะ มีสองเรื่องที่เราคิดว่าน่าสนใจ และอาจเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆที่ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมได้
1. ที่พัก ไม่แน่ใจว่ามีท่านใดเคยไปพักที่นี่หรือไม่แต่เท่าที่หาข้อมูลยังไม่เคยเห็นค่ะ เลยจะมาแชร์ที่พักสวยๆ วิวนี่เรียกว่าหลักพันล้าน และเหนือสิ่งอื่นใด การบริการที่ดีเยี่ยม กุ๊กกิ๊ก มุ้งมิ้ง ฟรุ๊งฟริ๊งจากพนักงานที่ที่พักนี้ค่ะ
2. การขี่มอร์เตอร์ไซด์ไปเที่ยวไกลถึงวัด Lamayuru อยู่ที่ Moonland ไปกันท่ามกลางอุณหภูมิที่หนาวมากกกกก
เริ่มที่บ้านพักค่ะ ชื่อ Woodyvu Stok House, Leh นะคะ
website:
http://www.woodyvu.com/d/leh/woodyvu-stok-house
facebook page:
https://www.facebook.com/WoodyVustays/
เจ้าของบ้านชื่อคุณ Sandeep เมล์ sk@woodyvu.com
เซลเมเนเจอร์ชื่อคุณ Hitesh เมล์ support@woodyvu.com
ลักษณะบ้าน : เป็นบ้านปูนสองชั้นมีห้องพักทั้งหมด 5 ห้อง โดยใช้บ้านคนพื้นที่มาตกแต่งภายในใหม่เป็นแบบ Contemporary ห้องพักเป็นห้อง suite ทั้งหมด กรุ๊ป จขกท จองไปสี่ห้อง เหลือห้องเดียวไม่มีคนจองค่ะ กลายเป็นอยู่กันแบบไพรเวทเลยทีเดียว ที่เรียกว่าบ้าน เพราะเป็นบ้านจริงๆค่ะ มีรั้วรอบขอบชิด อยู่ในหมู่บ้าน Stok ห่างจากตัวตลาดประมาณ 15-20 นาที ทางเข้าเดียวกับ Stok Palace เลยค่ะ วิวดีจริงๆมีภูเขาดำทะมึนด้านหลัง และรอบๆเป็นทิวเขาสลับซับซ้อนสวยงามมากค่ะ เรียกว่าดีโดยรอบทั้ง 360อาศาเลยทีเดียว^^


ส่วนรูปล่างนี้เอามาจาก TripAdvisor นะคะ อยากให้เห้นภาพบ้านหน้าตรง จขกท ไม่ได้ถ่ายมุมด้านหน้าตรงมาค่ะ

ราคา: เทียบกับโรงแรมในตัวตลาด ถือว่าแพงอยู่ค่ะ แต่ถ้าเทียบกับวิวและการบริการถือว่าคุ้มมากค่ะ **เวลาจองที่พัก อย่าเพิ่งด่วนตัดสินใจนะคะ ว่าจองผ่านพวกเว็บทั้งหลายจะได้ถูกกว่า**
ตัวอย่างเช่น บ้านหลังนี้ถ้าเช็คใน agoda ราคาไปถึงห้องละ 4-6 พันบาท (ขึ้นอยู่กับช่วงเวลาที่เข้าพัก) แต่ตอนนั้นบังเอิญว่า จขกท จองใน agoda เท่าไหร่ๆบ้านก็เต็มตลอด เลยตัดสินใจส่งเมล์สอบถามโดยตรง ทางที่พักแจ้งมาว่าช่วงเวลาที่ จขกท จองเป็นฤดูหนาว และยังไม่ทราบแน่นอนว่าอากาศจะเป็นอย่างไร สามารถเปิดให้จองได้ไหม
แต่ทางคุณ Hitesh ก็ให้ราคามาค่ะ ราคาอยู่ที่ 6,500 อินเดียรูปีต่อห้องต่อคืน (ราคาไทยราวๆ 3,250 บาท) ราคานี้รวมรถรับส่งไป,กลับสนามบินเลห์ และยังรวมอาหารเช้า,เย็นด้วยนะคะ ถูกกว่าใน agoda และเว็บอื่นๆ เฉยเลย
ห้องพัก มีทั้งหมดแค่ 5 ห้อง มีชื่อเรียกค่ะ
1. Orchard Suite
2. Apricot Suite
3. Willow Suite
4. Stok Suite
5. Khardungla Suite เป็น type สูงสุดของที่นี่ มีห้องเดียวค่ะ จ่ายเพิ่ม 2,000 รูปี (ราวๆ 1,000 บาทไทย) ห้องสวยมีระเบียงส่วนตัวแต่เรากลับคิดว่าไม่ใช่ห้องที่สวยสุดนะคะ น่าจะเป็นแค่ห้องที่ใหญ่สุด เราจ่ายเพิ่มไป เพื่อจะได้ห้องใหญ่ที่วางสองเตียงเป็นห้อง tripple ได้ค่ะ
โดยรวมทุกห้อง สวยหมดค่ะ สภาพห้อง โทรมกว่ารูปในเว็บนิดนึงค่ะ แต่ยังคงความสะอาด (สะอาดนี่สะอาดมากๆเลยค่ะ) ความโทรมที่ จขกทกล่าวถึง เป็นความโทรมของตัวบ้านภายนอก ระเบียงที่ผ่านหิมะปกคลุมมาหมาดๆ แต่เฟอร์นิเจอร์ก็ไม่ได้ดูโทรมนะคะ จะมีตัวบ้านเพิ่งผ่านฤดูหนาวมาเท่านั้น ตอนนั้นพนักงานกำลังช่วยกันทาสี ฯลฯ แต่ก็สวยงามค่ะ ไม่ได้รู้สึกว่าคุณหลอกดาวแต่อย่างใด
รูปในห้องพักขออนุญาตเอามาจากเว็บไซด์ TripAdvisor นะคะ รูปภาพที่จขกทถ่ายมันไม่ค่อยชัด และไม่ครบค่ะ ตอนอยู่ที่เลห์มันหนาวมากๆ จะขยับตัวก็เหมือนตัวสล็อต ช้า และหมดพลัง 5555 ความเร็วในการเดินเทียบได้กับเดินจงกลม 5555 และจขกทก็ไม่สบายด้วยค่ะ แต่ไม่ได้เป็น High Altitude Sicknessแต่อย่างใด เกิดจากการเมารถล้วนๆ นอกเรื่องทำไม แฮ่!
Orchard Suite อันนี้ส่วนตัวคิดว่าสวยกว่าห้องอื่นๆค่ะ มีประตูออกข้างนอกมีที่นั่งชมวิวส่วนตัว

Apricot Suite

Willow Suite

Stok Suite

Khardungla Suite

ภาพเพิ่มเติม ดูได้ที่ website ของทางที่พัก และ TripAdvisor นะคะ
หลังจากได้ราคามาก็ลังเลนิดหน่อยค่ะ ชั่งน้ำหนักระหว่างสะดวกสบายอยู่ในตลาดและราคาประหยัดกว่า หรือจะยอมจ่ายแพงขึ้นแถมอยู่ไกลเพื่อแลกกับวิว และความเงียบสงบ สรุปเลือกที่นี่ เพราะคิดไปเองว่าอย่างน้อย ถ้าใครสักคนป่วยจาก High Altitude Sickness แล้วต้องอยู่แต่ในที่พัก ก็จะได้มีวิวดีๆสวยๆดู และยังสามารถเดินเล่นชมวิวละแวกที่พักได้ ที่สำคัญคงได้พักผ่อนเต็มที่ยามเหนื่อยล้าจากการเดินทาง เพราะที่นั่นเงียบสงบมากๆค่ะ
รูปวิวจากที่พัก และบริเวณหมู่บ้านที่สามารถเดินเล่นได้ค่ะ

วิวมองจากหน้าต่างห้องนอนค่ะ

ตอนเช้าๆจะมีนกมาปลุกร้องจุ๊บจิ๊บๆ อิอิ

ราคาอาหารเพิ่ม
อาหารกลางวัน ถ้าทานที่บ้านมื้อละ 650 รูปีต่อคน ประมาณ 325 บาทไทยค่ะ หรือถ้าเป็น pack lunch คิด 200 รูปีต่อคน ประมาณ 100 บาท ในแพคประกอบด้วยแซนวิซ,ส้ม,กล้วย,ไข่ต้ม, ช๊อกกาเลต ค่ะ (ที่พักไม่ได้อยู่ในเมือง เพื่อความสะดวกเราก็เลยให้เค๊าจัดให้เลยค่ะ)
น้ำเปล่า มีให้ห้องละ 1 ขวดต่อวัน ถ้าขอเพิ่มขวดละ 50 รูปี (ประมาณ 25 บาทไทย) พวกเราซัดไปเต็มที่เอาออกไปข้างนอกด้วย หมดไป 24 ขวด (extra)
ชา,กาแฟ ไม่มีบิลเรียกเก็บเพิ่มค่ะ น่าจะรวมในราคาห้องแล้ว
เบียร์ ขวดละ 250 รูปี (แพงจุง) ราวๆ 125 บาทไทยค่ะ
ขอต่อเรื่องการบริการในคหนะคะ >>>
[CR] รีวิวที่พักวิวหลักล้านที่เลห์ ลาดัก และประสบการณ์ซิ่ง Royal Enfield จากเลห์ไปถึง Moonland
ทีแรกกะว่าจะไม่มารีวิวอะไรเลย เพราะรีวิวเกี่ยวกับการเดินทางไปยังเมืองเลห์นั้น ในพันทิปเองก็ค่อนข้างมาก ละเอียดมากๆ ซึ่งเราเองก็อาศัยรีวิวของเพื่อนๆนี่แหละค่ะ ช่วยเราในการวางโปรแกรมเที่ยวได้มากจริงๆ ขอบคุณค่ะ
ที่เลห์ นอกจากความประทับใจ ความตื่นตาตื่นใจในสภาพภูมิประเทศแล้ว ลำดับต่อมาที่ทำให้เมืองนี้ดึงดูดนักท่องเที่ยว และมันมีสเน่ห์มากจริงๆคือความมีน้ำใจของคนพื้นที่ค่ะ คนพื้นที่น่ารักมากๆจริงๆ เรามองเห็นถึงความมีน้ำใจ อัธยาศัยไมตรีที่ดีและจริงใจมากๆจากคนพื้นที่แบบชนิดที่ว่าคาดไม่ถึงเลยค่ะ ยกตัวอย่างวันที่พวกเราไป Pangong lake หิมะหนามากๆรถติดหิมะไปไม่ได้ตลอดทาง ทุกครั้งที่ติด คนขับรถเกือบทุกคันจะรีบวิ่งไปคันที่ติด ขุดหาดินใต้หิมะมาช่วยกันโปรยลงใกล้ล้อเพื่อให้รถที่ติดไปได้ หลายครั้งที่กรูกันลงไปเข็นรถทั้งๆที่หนาวสุดๆ และยังมีอีกหลายๆเหตุการณ์ที่พวกเราประทับใจมากจริงๆ
ผู้คนที่ดูแลพวกเรา เช่น พนักงานที่บ้านพัก หรือไกด์ แม้แต่คนขับรถ ทุกๆคนก็ดีกับเรามากๆ เหมือนกับว่าพวกเราเป็นเพื่อน เป็นญาติยังไงอย่างนั้นเลยค่ะ เราเข้าใจคำว่าทำเพื่อให้ได้เงินนะคะ แต่คนที่นี่แตกต่าง เค๊าเหมือนกับว่า ตั้งใจทำด้วยความจริงใจเกินเงินไปมากๆ รู้สึกประทับใจกับผู้คนที่เราได้เจอ และดีใจที่ได้ไปเที่ยวเลห์ค่ะ
อินเตอร์เนต = 0 ค่ะ ไม่มีเลยแม้แต่วินาทีเดียว5555 แต่มันกลับดีค่ะ การไม่มีเน็ตมันทำให้พวกเราสนใจต่อสิ่งรอบๆตัวมากขึ้นจริงๆ ก็อยู่กันได้นะคะ ไม่เห็นอยากเล่นมากเท่าไหร่
เราไป Pangong lake , วัดต่างๆ , Khardungla Pass (อันนี้เราขึ้นไม่ถึง ทางปิดค่ะ) ทุกที่ที่ได้ไปประทับใจในความสวยงามมากๆ แต่ทุกที่มีคนรีวิวมากแล้ว วันนี้จึงขอเล่าเป็นประสบการณ์ และความประทับใจเกี่ยวกับการไปเที่ยวครั้งนี้นะคะ มีสองเรื่องที่เราคิดว่าน่าสนใจ และอาจเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆที่ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมได้
1. ที่พัก ไม่แน่ใจว่ามีท่านใดเคยไปพักที่นี่หรือไม่แต่เท่าที่หาข้อมูลยังไม่เคยเห็นค่ะ เลยจะมาแชร์ที่พักสวยๆ วิวนี่เรียกว่าหลักพันล้าน และเหนือสิ่งอื่นใด การบริการที่ดีเยี่ยม กุ๊กกิ๊ก มุ้งมิ้ง ฟรุ๊งฟริ๊งจากพนักงานที่ที่พักนี้ค่ะ
2. การขี่มอร์เตอร์ไซด์ไปเที่ยวไกลถึงวัด Lamayuru อยู่ที่ Moonland ไปกันท่ามกลางอุณหภูมิที่หนาวมากกกกก
เริ่มที่บ้านพักค่ะ ชื่อ Woodyvu Stok House, Leh นะคะ
website: http://www.woodyvu.com/d/leh/woodyvu-stok-house
facebook page: https://www.facebook.com/WoodyVustays/
เจ้าของบ้านชื่อคุณ Sandeep เมล์ sk@woodyvu.com
เซลเมเนเจอร์ชื่อคุณ Hitesh เมล์ support@woodyvu.com
ลักษณะบ้าน : เป็นบ้านปูนสองชั้นมีห้องพักทั้งหมด 5 ห้อง โดยใช้บ้านคนพื้นที่มาตกแต่งภายในใหม่เป็นแบบ Contemporary ห้องพักเป็นห้อง suite ทั้งหมด กรุ๊ป จขกท จองไปสี่ห้อง เหลือห้องเดียวไม่มีคนจองค่ะ กลายเป็นอยู่กันแบบไพรเวทเลยทีเดียว ที่เรียกว่าบ้าน เพราะเป็นบ้านจริงๆค่ะ มีรั้วรอบขอบชิด อยู่ในหมู่บ้าน Stok ห่างจากตัวตลาดประมาณ 15-20 นาที ทางเข้าเดียวกับ Stok Palace เลยค่ะ วิวดีจริงๆมีภูเขาดำทะมึนด้านหลัง และรอบๆเป็นทิวเขาสลับซับซ้อนสวยงามมากค่ะ เรียกว่าดีโดยรอบทั้ง 360อาศาเลยทีเดียว^^
ส่วนรูปล่างนี้เอามาจาก TripAdvisor นะคะ อยากให้เห้นภาพบ้านหน้าตรง จขกท ไม่ได้ถ่ายมุมด้านหน้าตรงมาค่ะ
ราคา: เทียบกับโรงแรมในตัวตลาด ถือว่าแพงอยู่ค่ะ แต่ถ้าเทียบกับวิวและการบริการถือว่าคุ้มมากค่ะ **เวลาจองที่พัก อย่าเพิ่งด่วนตัดสินใจนะคะ ว่าจองผ่านพวกเว็บทั้งหลายจะได้ถูกกว่า** ตัวอย่างเช่น บ้านหลังนี้ถ้าเช็คใน agoda ราคาไปถึงห้องละ 4-6 พันบาท (ขึ้นอยู่กับช่วงเวลาที่เข้าพัก) แต่ตอนนั้นบังเอิญว่า จขกท จองใน agoda เท่าไหร่ๆบ้านก็เต็มตลอด เลยตัดสินใจส่งเมล์สอบถามโดยตรง ทางที่พักแจ้งมาว่าช่วงเวลาที่ จขกท จองเป็นฤดูหนาว และยังไม่ทราบแน่นอนว่าอากาศจะเป็นอย่างไร สามารถเปิดให้จองได้ไหม
แต่ทางคุณ Hitesh ก็ให้ราคามาค่ะ ราคาอยู่ที่ 6,500 อินเดียรูปีต่อห้องต่อคืน (ราคาไทยราวๆ 3,250 บาท) ราคานี้รวมรถรับส่งไป,กลับสนามบินเลห์ และยังรวมอาหารเช้า,เย็นด้วยนะคะ ถูกกว่าใน agoda และเว็บอื่นๆ เฉยเลย
ห้องพัก มีทั้งหมดแค่ 5 ห้อง มีชื่อเรียกค่ะ
1. Orchard Suite
2. Apricot Suite
3. Willow Suite
4. Stok Suite
5. Khardungla Suite เป็น type สูงสุดของที่นี่ มีห้องเดียวค่ะ จ่ายเพิ่ม 2,000 รูปี (ราวๆ 1,000 บาทไทย) ห้องสวยมีระเบียงส่วนตัวแต่เรากลับคิดว่าไม่ใช่ห้องที่สวยสุดนะคะ น่าจะเป็นแค่ห้องที่ใหญ่สุด เราจ่ายเพิ่มไป เพื่อจะได้ห้องใหญ่ที่วางสองเตียงเป็นห้อง tripple ได้ค่ะ
โดยรวมทุกห้อง สวยหมดค่ะ สภาพห้อง โทรมกว่ารูปในเว็บนิดนึงค่ะ แต่ยังคงความสะอาด (สะอาดนี่สะอาดมากๆเลยค่ะ) ความโทรมที่ จขกทกล่าวถึง เป็นความโทรมของตัวบ้านภายนอก ระเบียงที่ผ่านหิมะปกคลุมมาหมาดๆ แต่เฟอร์นิเจอร์ก็ไม่ได้ดูโทรมนะคะ จะมีตัวบ้านเพิ่งผ่านฤดูหนาวมาเท่านั้น ตอนนั้นพนักงานกำลังช่วยกันทาสี ฯลฯ แต่ก็สวยงามค่ะ ไม่ได้รู้สึกว่าคุณหลอกดาวแต่อย่างใด
รูปในห้องพักขออนุญาตเอามาจากเว็บไซด์ TripAdvisor นะคะ รูปภาพที่จขกทถ่ายมันไม่ค่อยชัด และไม่ครบค่ะ ตอนอยู่ที่เลห์มันหนาวมากๆ จะขยับตัวก็เหมือนตัวสล็อต ช้า และหมดพลัง 5555 ความเร็วในการเดินเทียบได้กับเดินจงกลม 5555 และจขกทก็ไม่สบายด้วยค่ะ แต่ไม่ได้เป็น High Altitude Sicknessแต่อย่างใด เกิดจากการเมารถล้วนๆ นอกเรื่องทำไม แฮ่!
Orchard Suite อันนี้ส่วนตัวคิดว่าสวยกว่าห้องอื่นๆค่ะ มีประตูออกข้างนอกมีที่นั่งชมวิวส่วนตัว
Apricot Suite
Willow Suite
Stok Suite
Khardungla Suite
ภาพเพิ่มเติม ดูได้ที่ website ของทางที่พัก และ TripAdvisor นะคะ
หลังจากได้ราคามาก็ลังเลนิดหน่อยค่ะ ชั่งน้ำหนักระหว่างสะดวกสบายอยู่ในตลาดและราคาประหยัดกว่า หรือจะยอมจ่ายแพงขึ้นแถมอยู่ไกลเพื่อแลกกับวิว และความเงียบสงบ สรุปเลือกที่นี่ เพราะคิดไปเองว่าอย่างน้อย ถ้าใครสักคนป่วยจาก High Altitude Sickness แล้วต้องอยู่แต่ในที่พัก ก็จะได้มีวิวดีๆสวยๆดู และยังสามารถเดินเล่นชมวิวละแวกที่พักได้ ที่สำคัญคงได้พักผ่อนเต็มที่ยามเหนื่อยล้าจากการเดินทาง เพราะที่นั่นเงียบสงบมากๆค่ะ
รูปวิวจากที่พัก และบริเวณหมู่บ้านที่สามารถเดินเล่นได้ค่ะ
วิวมองจากหน้าต่างห้องนอนค่ะ
ตอนเช้าๆจะมีนกมาปลุกร้องจุ๊บจิ๊บๆ อิอิ
ราคาอาหารเพิ่ม
อาหารกลางวัน ถ้าทานที่บ้านมื้อละ 650 รูปีต่อคน ประมาณ 325 บาทไทยค่ะ หรือถ้าเป็น pack lunch คิด 200 รูปีต่อคน ประมาณ 100 บาท ในแพคประกอบด้วยแซนวิซ,ส้ม,กล้วย,ไข่ต้ม, ช๊อกกาเลต ค่ะ (ที่พักไม่ได้อยู่ในเมือง เพื่อความสะดวกเราก็เลยให้เค๊าจัดให้เลยค่ะ)
น้ำเปล่า มีให้ห้องละ 1 ขวดต่อวัน ถ้าขอเพิ่มขวดละ 50 รูปี (ประมาณ 25 บาทไทย) พวกเราซัดไปเต็มที่เอาออกไปข้างนอกด้วย หมดไป 24 ขวด (extra)
ชา,กาแฟ ไม่มีบิลเรียกเก็บเพิ่มค่ะ น่าจะรวมในราคาห้องแล้ว
เบียร์ ขวดละ 250 รูปี (แพงจุง) ราวๆ 125 บาทไทยค่ะ
ขอต่อเรื่องการบริการในคหนะคะ >>>
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น