[CR] ตะลุยออสเตรเลีย ตามล่าหน้ากากจิงโจ้

กระทู้รีวิว

สวัสดีครับ วันนี้ผมอยากจะมาเขียนรีวิวทริป Melbourne แบบบ้านๆให้เพื่อนๆได้ลองใช้เป็นแนวทางดูนะครับ ทริปนี้เป็นการไปเที่ยวกับคุณแม่และน้องชาย ทั้งหมดรวมเป็น 3 คน ดังนั้นเราจึงไปเที่ยวกันแบบสบายๆ ไม่เหนื่อยจนเกินไป สถานที่จึงอาจจะน้อยไปนิด แต่น่าจะเหมาะสำหรับคนที่ต้องการไปเที่ยวแบบตากอากาศ ลองรับชมกันดูนะครับ ทริปนี้ผมเอา Fuji XT-20 พร้อมเลนส์คิท 16-50 ตัวใหม่สดๆร้อนๆมาลองงาน ลองดูคุณภาพรูปกันนะครับ จขกท ถ่ายรูปไม่เก่งมากมายอะไร ก็จะได้รูปประมานนี้แหละครับ
เริ่มกันที่ สุวรรณภุมิเช่นเคย เราออกเดินทางกันวันที่ 5 เมษายน เนื่องจากเป็นช่วงวันหยุดยาวสนามบินจึงคึกคักเป็นพิเศษ คนแน่นมากๆ


แล้วก็มีสิ่งที่ประทับใจก่อนออกเดินทาง จะเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้นอกจากการช๊อปปิ้งที่ King Power

วันที่ จขกท เดินทางนั้น เนื่องจากแฟนของ จขกท ฝากให้ซื้อน้ำหอมยี่ห้อ Viva La Juicy รุ่น Ros'e ปรากาฏว่าไปเจอช่วงลดราคาพอดีบวกกับ จขกท มีบัตรสมาชิก King Power ด้วย จากราคาสำหรับ 50ml ที่แฟนจขกทฝากซื้อมา กลายเป็นว่า สามารถซื้อได้ 100 ml ในราคาที่ถูกกว่า 50ml ซะอีก ก็ถือว่าเป็นของแถมไป

Day 1
และก็ตัดภาพมาที่สนามบินเมลเบิร์นกันเลยนะครับ ตอนกำลังเดินจะเข้าไปด่าน ตม.ก็จะมีจุดให้เราดูวิวเครื่องบินได้อยู่ แต่หลังจากนี้เค้าจะห้ามถ่ายรูปนะครับ จขกท สะพายกล้องไว้ที่คอก็โดนเจ้าหน้าที่บอกให้เก็บใส่เป้ เพื่อนๆก็ระวังนะครับ


พอผ่านด่าน ตม. เข้ามา เราก็จะพบก้บ Tourist information ซึ่งอยู่ที่ Terminal 4 อันนี่อยากให้เพื่อนๆจำไว้เพราะ อย่างเจ้าของกระทู้ไปรอบนี้ เราจองรถกับบริษัท Bluebird ให้ไปส่งคณะเราที่โรงแรม ที่ข้างๆ Tourist information จะมีโทรศัพท์กับป้ายบอกหมายเลขของ Agent หลายๆเจ้า เราก็เลือกหาเบอร์ของเจ้าที่เราใช้บริการ เราสามารถใช้โทรได้ฟรีเพื่อนัดหมายให้เค้ามาพาเราไปขึ้นรถ เค้าก็จะถามว่าเราแต่งตัวอย่างไรเป็นจุดให้เค้าสังเกตและอยู่ที่ Terminal ไหน ซึ่งย้ำอีกครั้ง ตรงนี้คือ Terminal 4 นะครับ


ข้างๆกันจะมีที่ให้เรานั่งรอ


และนี่คือหน้าตาของรถที่จะพาพวกเราไปส่งยังโรงแรมของพวกเรานะครับ ภายในรถก็นั่งได้สะดวกสบายดีไม่คับแคบ ไม่เหมือนรถตู้บ้านเรา


และก็มาถึง โรงแรมของเรา ชื่อโรงแรมก็คือ Victoria Hotel Melbourne สนนราคาต่อคืนอยู่ที่ 1500 บาท/คน/คืน และนี่คือหน้าตาห้องที่เรามาพำนัก ขนาดของห้องถือว่าใหญ่อยู่ เทียบกับโรงแรมที่ ญี่ปุ่น และ เกาหลี ที่ จขกท เคยไปมา แต่ห้องน้ำอาจจะคับแคบนิดนึง แต่ก็อยู่กันสามคนสบายๆครับ


และเราก็ออกมาเดินลาดตระเวน + หาของกินกันก่อน ย่านนี้เป็นย่าน Central Business District (CBD) ซึ่งอยุ่บนถนน Bourke street ตั้งอยู่ติดกับ Melbourne University ดังนั้นตามท้องถนนจึงเต็มไปด้วยเด็กๆ หลากหลายเชื้อชาติมาก ร้านค้าก็มากมายเช่นกัน แต่ที่ จขกท แอบแปลกใจคือ ถนนเส้นนี้เต็มไปด้วยร้านอาหารจีน เกาหลี ญี่ปุ่น มีไทยแซมบ้างเล็กน้อย ในขณะที่หาร้านอาหารแบบตะวันตกไม่เจอเลยนอกจาก Starbucks (แอบผิดหวัง เพระไม่ได้กินสเต๊ก)


หลังจากเดินหากาแฟจิบอย่างนาน เข้าแล้วออกก็หลายร้าน เพราะไม่ถูกใจคุณแม่บ้างอะไรบ้าง สุดท้ายคณะ จขกท ก็มาจบตรงที่ Starbucks เจ้าเก่า ตอนนั้นลืมถ่ายรูปเพราะกำลังหิวและมึน จึงไม่มีรูปกาแฟ มีแต่รูปบรรยากาศในร้านเพราะระหว่างรอกาแฟไม่รู้จะทำอะไร เลยถ่ายรูปเรื่อยๆไป


หลังจากกินเสร็จ เราก็ออกมาเดินชมบรรยากาศเมืองกันต่อ ช่วงที่ จขกท ไป ที่เมืองเค้ามีงาน Comedy Festival พอดี จึงมีคนมาดูการแสดงตามหอแสดงต่างๆมากมายเลย


ตามท้องถนนก็จะมีกลุ่มวัยรุ่นมาแสดงความสามารถต่างๆ มีทั้งเล่นตลก มายากล และเล่นดนตรี ลองไปยืนฟังดูกันได้นะครับ นักดนตรีที่นี่มีฝีมือมากจริงๆ


หลังจากเดินสักพัก ก็หิวอีกรอบ จึงหาทำการเปิดอินเตอร์เนตหาว่าร้านไหนอร่อย ปรากฎว่า มีแต่คนแนะนำให้มาลองทานอาหารที่ร้านชื่อ "ระตี" ซึ่งร้านนี้หลบซ่อนอยู่ในตึก ซึ่งกว่าจะหาเจอก็เปิด gps กันให้วุ่น โดยร้านนั้นมี พนง เป็นคนไทยทั้งหมด เดินเข้าไปสั่งอาหารได้เลย ซึ่งเมนูที่เราสั่งมาก็คือ กระเพราเนื้อ + ไข่ดาว(ไม่สุก) ราคาจานละ 11AUD

ร้านอยู่ตรงข้าม Flinder Street Station


โดยเพื่อนๆต้องมองหาตึกหน้าตาแบบนี้


เดินเข้ามาจะเจอร้านหน้าตาแบบนี้


และนี่ก็คือพระเอกของเรา


รสชาติ โดยส่วนตัวผมให้ระดับดีเลยทีเดียวครับ เนื้อวัวที่ร้านใช้ไม่เหนียว กลิ่นไม่แรง สั่งระดับเผ็ดมาก ก็ได้เผ็ดมากมาจริงๆ อย่างว่าแหละครับ อาหารไทย ขนาดวัตถุดิบในบ้านเราไม่ค่อยดียังอร่อย มาเจอวัตถุดิบดีๆฝีมือแม่ครัวไทย มีรึจะไม่อร่อย หลังจากทานเสร็จ ทางร้านจะยก Tic Tac มาให้เราดับกลิ่นปากกัน


พอทานเสร็จ พวกเราก้อกลับโรงแรมเพื่อไปร่วมบรรยากาศ Happy hour! (อย่าเพิ่งด่านะครับว่านี่กะจะมากินอย่างเดียวรึไง) โดยที่โรงแรม เราก็มานั่งจิบเบียร์กันชิวๆ บรรยากาศก็แบบในหนังฝรั่งนั่นแหละ ชิวๆไป


จากนั้น จขกท ก็ออกไปนั่งรถ tram ฟรี โดยนั่งสาย 35 city circle ก็จะเป็นสายที่วนไปรอบๆเมือง Melbourne โดยเวลารถจะผ่านจุดสำคัญๆก็จะมีระบบเสียงเปิดอธิบายว่าสถานที่นั้นๆมีความเป็นมาอย่างไร มีจุดท่องเที่ยวอย่างไรบ้าง ถ้าใครที่มาแล้วไม่รู้จะเริ่มเที่ยวตรงไหนแบบ จขกท ก็มาเริ่มต้นจากตรงนี้ก่อนก็ได้เช่นกัน

ตอนรอรถที่ป้าย (อันนี้ผิดป้ายนะครับ) ต้องไปขึ้นป้ายตรงถนน Flinder street นะครับ ถ้าไปไม่ถูก ถาม พนง ที่ใส่เสื้อกั๊กสีส้ม (ไม่ใช่พี่วินนะครับ) ยืนพร้อมให้คำแนะนำเราอยุ่ครับ


มี bike lane ด้วยนะครับ เจ๋งจริงๆเมืองนี้


บรรยากาศที่ Flinder street station ยามค่ำคืน สวยงามทีเดียวเชียว


บรรยากาศในรถ Tram คลาสสิกดีเหมือนกัน


พอนั่งรถเสร็จกำลังจะกลับ โรงแรม เราก็เจอผับตามสไตล์ตะวันตกเต็มท้องถนน ทำเอารู้สึกเปรี้ยวปากขึ้นมาเลยทีเดียวเชียว แล้วหวยก็มาออกที่ร้านนี้


ร้านนี้ชื่อว่า Neapoli อยู่ในซอยเล็กๆถัดจากโรงแรมของเราไม่มาก บรรยากาศร้านก็จะเป็นสไตล์ยุค 80 เพลงที่เปิดก็เรียกว่ารุ่นพ่อรุ่นแม่เรากำลังเป็นวัยรุ่นนั่นล่ะครับ ผมก็ไม่รู้จักเช่นกัน บรรยากาศร้านเหมาะแก่คู่รักมาสวีท สั่งไวน์มาจิบคนละแก้ว หรือ แบบ จขกท สั่งเบียร์มาจิบคนละขวดก็ชิวไปอีกแบบ


แกล้มด้วยนี่เรย ออเดิร์ฟร้อน เห้ยไม่ใช่ คือจริงๆมันประกอบด้วยหลายๆอย่าง จขกท ก็เรียกไม่ถูกเช่นกัน


วันแรกก็จบเพียงเท่านี้ เดี๋ยวมาต่อวันที่ 2 ต่อนะครับ
ชื่อสินค้า:   Melbourne, Victoria, Australia
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่