กระทู้นี้เขียนขึ้นเพื่อเป็นความรู้ให้กับผู้วางแผนมีบุตร ผู้เขียนบรรยายไม่เก่ง แต่เป็นเรื่องที่เกิดจริงกับผู้เขียนเอง
สำหรับตัวผู้เขียน ปัจจุบันอายุ 30 ปี สามีอายุ 36 ปี มีบุตร 1 คน อายุ สองขวบสามเดือน และกำลังตังท้องคนที่ 2
ทราบการตั้งครรภ์ที่สอง เมื่ออายุครรภ์ประมาณ 5 สัปดาห์ ก็ดำเนินการฝากครรภ์ปกติ ท้องนี้เราเลือกฝากครรภ์
กับอาจารย์หมอศิริราชที่มาขึ้นพิเศษที่ รพ.เอกชน เพื่อความสะดวกในการไปตรวจตามนัด เพราะเรามีเด็กไปด้วย
เริ่มการฝากครรภ์ เป็นไปตามปกติทุกอย่าง มีการทำอัลตร้าซาวด์ เพื่อดูการเจริญเติมโตของทารกทุกรอบที่หมอนัด
ทารกก็ปกติดี เจริญเติมโตตามเกณฑ์ที่ควรจะเป็น ดูคัดกรองความเป็นดาวน์ซินโดรมจากการอัลตร้าซาวด์ ก็ปกติ
อาจารย์หมอก็แจ้งเราทุกอย่าง แต่อาจารย์หมอก็จะแนะนำเราต่อว่า อยากเจาะเลือดตรวจหาความเสี่ยงดาวน์ซินโดรมไหม??
เราก็..เอิ่ม อาจารย์ค่ะ ครอบครัวเราไม่มีความเสี่ยงอะไร นะคะ ลูกคนแรกเราก็ปกติดี ครอบครัวทั้งสองฝ่ายก็ไม่มีใครป่วย
ก็ไม่เห็นความเสี่ยงเลย ...
อาจารย์หมอก็เลยชี้แนะ ว่าการที่เราไม่มีความเสี่ยง ไม่ใช่ว่าเราจะไม่เสี่ยง % ความเสี่ยงมีทุกคนอายุของเรา ความจริงก็เสี่ยง
แต่จะไม่มากเท่าคนที่ อายุ 35ปี ขึ้นไปที่มีการตั้งครรภ์ แต่เรา อายุ สามสิบ ความเสี่ยงก็จะลดลงมา แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับเรา
ว่าอยากตรวจไหม ??
เรากับสามีก็มองหน้ากัน เอาไงดี ?? อ่ะ ไหนๆแล้ว ตรวจก็ตรวจ แต่เราก็ยังคิดว่าเราไม่มีความเสี่ยงอะไร เลือกการตรวจแบบถูกสุด
ก็ไม่มีความกังวลอะไร เพราะก็คิดว่าไม่น่ามีอะไร เราตรวจเลือดคัดกรองไปตอนอายุครรภ์สิบสี่สัปดาห์
อาจารย์หมอก็แจ้งมา อีก สองอาทิตย์ผลออก ผมโทรแจ้งนะครับ....
สองอาทิตย์ผ่านไป ประมาณ หนึ่งทุ่ม อาจารย์ก็โทรมาแจ้งผล คุณ......ครับ ผลการคัดกรองออกแล้วนะครับ
ผลการคัดกรองเป็น บวก เท่ากับว่าทารกมีความเสี่ยงเป็นดาวน์ซินโดรมนะครับ จากผลเลือก ความเสี่ยงเท่ากับ 1ต่อ 6
ตอนนั้นฟังแบบ อึ้ง มาก พูดอะไรกับหมอไม่ออก เราก็เงียบ .. หมอก็อธิบายต่อ อย่าเพิ่งตกใจนะครับ
ตอนนี้เราทราบผล แต่ก็ยังไม่ได้ชัดเจนว่าทารกจะเป็น มันคือการคัดกรอง แต่หลังจากนี้ หมอแนะนำให้เจาะน้ำคร่ำต่อนะครับ
คุณ....จะว่ายังไงครับ เราก็ค่ะ เจาะค่ะ .. หมอก็บอกว่าถ้างั้น ผมส่งต่อไปศิริราชเลยนะครับไปเจาะที่นั้น เดียวผมให้ข้อมูลติดต่อ
การจองนัดตรวจไป หมอนัดเจาะน้ำคร่ำตอน สิบเจ็ดสัปดาห์ ตอนนั้นเราแบบ ยัง งง จะตื้อๆ กลัวๆ ใจเต้นแรง ได้แต่ภาวนา
ขอให้ผลที่ออกมา ไม่ใช่ แล้วก็เจาะเรียบร้อย การเจาะไม่ได้มีอะไรน่ากลัว แต่ใจเราที่กลัว กลัวไปหมดทุกอย่าง ...
ออกจากห้องเจาะ พยาบาลก็นัดว่า อีกสามอาทิตย์ ให้มาฟังผลกับคุณหมอ...
ผ่านไปสองอาทิตย์ ทาง รพ.ศิริราชโทรมาหาเรา ขอเลื่อนการนัดฟังไปอีก สองอาทิตย์... เราก็ อ้าววว ยังไงดี
แต่ก็คิดบวก ไม่น่ามีอะไร เพราะถ้าผลไม่ดี ก็คงไม่เลื่อนเรา ???
ในระหว่างก่อนถึงวันนัดฟังผลน้ำคร่ำที่ รพ.ศิริราช เรามีนัดกับอาจารย์หมอ ที่มาขึ้นพิเศษเอกชนที่เราฝากท้องก่อน
เราก็มาตามนัด อาจารย์ถามว่า ไปฟังผลมารึยังครับ เราก็บอก ทางรพ.ศิริราชเลื่อนค่ะ เลื่อนไปอีก สองอาทิตย์
อาจารย์ก็ งง ทำไมเลื่อน อาจารย์เลยโทรไปที่ ศิริราชให้ อาจารย์คุยสายกับพยาบาลที่ศิริราชถึงผลการตรวจน้ำคร่ำของเรา
คุยเสร็จอาจารย์ก็มาคุยกับเรา ???
ผลออกแล้วนะครับ ... ผลออกมาไม่ดี ณ เวลานั้น ทุกอย่างเงียบ เราน้ำตาไหล สามีเราน้ำตาไหล อาจารย์ก็เงียบแล้วจับมือเรา
คราวนี้เราทราบผลแล้ว เราก็จะต้องตัดสินใจ ว่าเราจะวางแผนอย่างไรต่อไป
เราก็คุยกับหมอทั้งน้ำตา หมออธิบายต่างๆไป จนหมอถามเรากับสามี ว่าจะเลือกทางไหน เรากับสามีก่อนหน้านี้ก็คุยกัน
ว่าถ้าผลออกมาไม่ดี เราก็ขอยุติการตั้งครรภ์นะ ครอบครัวเราก็โอเค
เราตอบหมอ ขอยุติการตั้งครรภ์ค่ะ หมอก็โอเคครับ ไม่มีใคร เข้าใจครอบครัวเราดี ทุกอย่างขึ้นอยู่กับเรา ถ้าเราไม่มีความพร้อม
ยุติการตั้งครรภ์ ก็เป็นสิ่งที่เราเลือก เพราะเด็กที่เป็นดาวน์ซินโดรม ต้องการความดูแลมากกว่าเด็กทั่วไปมาก
ถ้าเราไม่พร้อม ก็ต้องทำใจนะครับ ตอนนั้น เราบอกเลยว่า ฟังหมอไม่ค่อยรู้เรื่อง นั่งร้องไห้ซะส่วนใหญ่
จนสามีเรา พูดกับหมอว่า .. ผมคิดว่า เป็นโชคดีของครอบครัวเรา ที่ตัดสิยใจเจาะคัดกรอง เพราะถ้าไม่ได้คัดกรอง แล้วน้องคลอดมา
มันจะเป็นอะไรที่เค้าต้องทรมานไปอีกนาน เราเองก็ครอบครัวเล็กๆ ทำงานด้วยกันทั้งคู่ มีลูกคนโตที่ต้องดูแล เราคงไม่มีเวลาให้เค้าได้เต็มที่
หมอก็ยิ้ม แล้วก็บอกว่า เข้มแข็งนะครับ จับมือเรา หมอเป็นกำลังใจให้ เดียวหมอนัดไปรับผลที่ศิริราช ผมนัดเจอกับผมเลยละกัน
แล้ววันถัดไปหลังจากรับผล ผลให้มาแอดมิทเพื่อเตรียมเลยนะครับ ... จะมีทีมหมอกับพยาบาลมาคอยดูแลเคสเรา
............ เรื่องที่เกิดขึ้น คือ เมื่อวานนี้ค่ะ ............. หมอนัดเราไปรับผลวันที่ 26 และ นัดเราไปนอนโรงพยาบาลวันที่ 27 เมษานี้ค่ะ
ตั้งแต่เมื่อวานกลับมาบ้าน เราก็ได้แต่กอดลูกสาวคนโต ขอกำลังใจกับเค้า เรามีลูกสาวคนโตช่วยทำให้เรามีแรงจริงๆ
ลูกสาวถามเราตลอด แม่เจ็บหรอ แม่เจ็บไหม แค่มองหน้าเค้าเราก็มีกำลังใจ ให้เค้าเป็นตัวแทนของความรักเราที่มีให้น้องในท้อง
ที่ไม่สามารถออกมาอยู่กับเราได้ ถึงตอนนี้ ตอนที่นั่งเขียนกระทู้นี้ น้องในท้องก็ยังดิ้น ให้เรารู้ว่าเค้ายังอยู่กับเรา
ครอบครัวเราไม่มีใครคิดว่า เราทำร้ายเค้านะคะ ทุกคนเข้าใจ ที่เราตัดสินใจ หลังจากนี้ .. คือ ความจริงที่จะต้องเกิดขึ้น
เรื่องที่เกิดขึ้น เป็นเรื่องจริงที่เกิดกับครอบครัวเรา เราแค่เป็นเพียงครอบครัวเล็กๆ ที่อยากจะนำเรื่องราวมาบอกกล่าว คุณพ่อ คุณแม่ มือใหม่
ถ้าหากต้องมาเกิดเหตุการณ์แบบเรา ขอให้ สู้ สู้ นะคะ ทุกอย่างจะผ่านไป







ญ วัย สามสิบปี กับการตรวจคัดกรองดาวน์ซินโดรม ...
สำหรับตัวผู้เขียน ปัจจุบันอายุ 30 ปี สามีอายุ 36 ปี มีบุตร 1 คน อายุ สองขวบสามเดือน และกำลังตังท้องคนที่ 2
ทราบการตั้งครรภ์ที่สอง เมื่ออายุครรภ์ประมาณ 5 สัปดาห์ ก็ดำเนินการฝากครรภ์ปกติ ท้องนี้เราเลือกฝากครรภ์
กับอาจารย์หมอศิริราชที่มาขึ้นพิเศษที่ รพ.เอกชน เพื่อความสะดวกในการไปตรวจตามนัด เพราะเรามีเด็กไปด้วย
เริ่มการฝากครรภ์ เป็นไปตามปกติทุกอย่าง มีการทำอัลตร้าซาวด์ เพื่อดูการเจริญเติมโตของทารกทุกรอบที่หมอนัด
ทารกก็ปกติดี เจริญเติมโตตามเกณฑ์ที่ควรจะเป็น ดูคัดกรองความเป็นดาวน์ซินโดรมจากการอัลตร้าซาวด์ ก็ปกติ
อาจารย์หมอก็แจ้งเราทุกอย่าง แต่อาจารย์หมอก็จะแนะนำเราต่อว่า อยากเจาะเลือดตรวจหาความเสี่ยงดาวน์ซินโดรมไหม??
เราก็..เอิ่ม อาจารย์ค่ะ ครอบครัวเราไม่มีความเสี่ยงอะไร นะคะ ลูกคนแรกเราก็ปกติดี ครอบครัวทั้งสองฝ่ายก็ไม่มีใครป่วย
ก็ไม่เห็นความเสี่ยงเลย ...
อาจารย์หมอก็เลยชี้แนะ ว่าการที่เราไม่มีความเสี่ยง ไม่ใช่ว่าเราจะไม่เสี่ยง % ความเสี่ยงมีทุกคนอายุของเรา ความจริงก็เสี่ยง
แต่จะไม่มากเท่าคนที่ อายุ 35ปี ขึ้นไปที่มีการตั้งครรภ์ แต่เรา อายุ สามสิบ ความเสี่ยงก็จะลดลงมา แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับเรา
ว่าอยากตรวจไหม ??
เรากับสามีก็มองหน้ากัน เอาไงดี ?? อ่ะ ไหนๆแล้ว ตรวจก็ตรวจ แต่เราก็ยังคิดว่าเราไม่มีความเสี่ยงอะไร เลือกการตรวจแบบถูกสุด
ก็ไม่มีความกังวลอะไร เพราะก็คิดว่าไม่น่ามีอะไร เราตรวจเลือดคัดกรองไปตอนอายุครรภ์สิบสี่สัปดาห์
อาจารย์หมอก็แจ้งมา อีก สองอาทิตย์ผลออก ผมโทรแจ้งนะครับ....
สองอาทิตย์ผ่านไป ประมาณ หนึ่งทุ่ม อาจารย์ก็โทรมาแจ้งผล คุณ......ครับ ผลการคัดกรองออกแล้วนะครับ
ผลการคัดกรองเป็น บวก เท่ากับว่าทารกมีความเสี่ยงเป็นดาวน์ซินโดรมนะครับ จากผลเลือก ความเสี่ยงเท่ากับ 1ต่อ 6
ตอนนั้นฟังแบบ อึ้ง มาก พูดอะไรกับหมอไม่ออก เราก็เงียบ .. หมอก็อธิบายต่อ อย่าเพิ่งตกใจนะครับ
ตอนนี้เราทราบผล แต่ก็ยังไม่ได้ชัดเจนว่าทารกจะเป็น มันคือการคัดกรอง แต่หลังจากนี้ หมอแนะนำให้เจาะน้ำคร่ำต่อนะครับ
คุณ....จะว่ายังไงครับ เราก็ค่ะ เจาะค่ะ .. หมอก็บอกว่าถ้างั้น ผมส่งต่อไปศิริราชเลยนะครับไปเจาะที่นั้น เดียวผมให้ข้อมูลติดต่อ
การจองนัดตรวจไป หมอนัดเจาะน้ำคร่ำตอน สิบเจ็ดสัปดาห์ ตอนนั้นเราแบบ ยัง งง จะตื้อๆ กลัวๆ ใจเต้นแรง ได้แต่ภาวนา
ขอให้ผลที่ออกมา ไม่ใช่ แล้วก็เจาะเรียบร้อย การเจาะไม่ได้มีอะไรน่ากลัว แต่ใจเราที่กลัว กลัวไปหมดทุกอย่าง ...
ออกจากห้องเจาะ พยาบาลก็นัดว่า อีกสามอาทิตย์ ให้มาฟังผลกับคุณหมอ...
ผ่านไปสองอาทิตย์ ทาง รพ.ศิริราชโทรมาหาเรา ขอเลื่อนการนัดฟังไปอีก สองอาทิตย์... เราก็ อ้าววว ยังไงดี
แต่ก็คิดบวก ไม่น่ามีอะไร เพราะถ้าผลไม่ดี ก็คงไม่เลื่อนเรา ???
ในระหว่างก่อนถึงวันนัดฟังผลน้ำคร่ำที่ รพ.ศิริราช เรามีนัดกับอาจารย์หมอ ที่มาขึ้นพิเศษเอกชนที่เราฝากท้องก่อน
เราก็มาตามนัด อาจารย์ถามว่า ไปฟังผลมารึยังครับ เราก็บอก ทางรพ.ศิริราชเลื่อนค่ะ เลื่อนไปอีก สองอาทิตย์
อาจารย์ก็ งง ทำไมเลื่อน อาจารย์เลยโทรไปที่ ศิริราชให้ อาจารย์คุยสายกับพยาบาลที่ศิริราชถึงผลการตรวจน้ำคร่ำของเรา
คุยเสร็จอาจารย์ก็มาคุยกับเรา ???
ผลออกแล้วนะครับ ... ผลออกมาไม่ดี ณ เวลานั้น ทุกอย่างเงียบ เราน้ำตาไหล สามีเราน้ำตาไหล อาจารย์ก็เงียบแล้วจับมือเรา
คราวนี้เราทราบผลแล้ว เราก็จะต้องตัดสินใจ ว่าเราจะวางแผนอย่างไรต่อไป
เราก็คุยกับหมอทั้งน้ำตา หมออธิบายต่างๆไป จนหมอถามเรากับสามี ว่าจะเลือกทางไหน เรากับสามีก่อนหน้านี้ก็คุยกัน
ว่าถ้าผลออกมาไม่ดี เราก็ขอยุติการตั้งครรภ์นะ ครอบครัวเราก็โอเค
เราตอบหมอ ขอยุติการตั้งครรภ์ค่ะ หมอก็โอเคครับ ไม่มีใคร เข้าใจครอบครัวเราดี ทุกอย่างขึ้นอยู่กับเรา ถ้าเราไม่มีความพร้อม
ยุติการตั้งครรภ์ ก็เป็นสิ่งที่เราเลือก เพราะเด็กที่เป็นดาวน์ซินโดรม ต้องการความดูแลมากกว่าเด็กทั่วไปมาก
ถ้าเราไม่พร้อม ก็ต้องทำใจนะครับ ตอนนั้น เราบอกเลยว่า ฟังหมอไม่ค่อยรู้เรื่อง นั่งร้องไห้ซะส่วนใหญ่
จนสามีเรา พูดกับหมอว่า .. ผมคิดว่า เป็นโชคดีของครอบครัวเรา ที่ตัดสิยใจเจาะคัดกรอง เพราะถ้าไม่ได้คัดกรอง แล้วน้องคลอดมา
มันจะเป็นอะไรที่เค้าต้องทรมานไปอีกนาน เราเองก็ครอบครัวเล็กๆ ทำงานด้วยกันทั้งคู่ มีลูกคนโตที่ต้องดูแล เราคงไม่มีเวลาให้เค้าได้เต็มที่
หมอก็ยิ้ม แล้วก็บอกว่า เข้มแข็งนะครับ จับมือเรา หมอเป็นกำลังใจให้ เดียวหมอนัดไปรับผลที่ศิริราช ผมนัดเจอกับผมเลยละกัน
แล้ววันถัดไปหลังจากรับผล ผลให้มาแอดมิทเพื่อเตรียมเลยนะครับ ... จะมีทีมหมอกับพยาบาลมาคอยดูแลเคสเรา
............ เรื่องที่เกิดขึ้น คือ เมื่อวานนี้ค่ะ ............. หมอนัดเราไปรับผลวันที่ 26 และ นัดเราไปนอนโรงพยาบาลวันที่ 27 เมษานี้ค่ะ
ตั้งแต่เมื่อวานกลับมาบ้าน เราก็ได้แต่กอดลูกสาวคนโต ขอกำลังใจกับเค้า เรามีลูกสาวคนโตช่วยทำให้เรามีแรงจริงๆ
ลูกสาวถามเราตลอด แม่เจ็บหรอ แม่เจ็บไหม แค่มองหน้าเค้าเราก็มีกำลังใจ ให้เค้าเป็นตัวแทนของความรักเราที่มีให้น้องในท้อง
ที่ไม่สามารถออกมาอยู่กับเราได้ ถึงตอนนี้ ตอนที่นั่งเขียนกระทู้นี้ น้องในท้องก็ยังดิ้น ให้เรารู้ว่าเค้ายังอยู่กับเรา
ครอบครัวเราไม่มีใครคิดว่า เราทำร้ายเค้านะคะ ทุกคนเข้าใจ ที่เราตัดสินใจ หลังจากนี้ .. คือ ความจริงที่จะต้องเกิดขึ้น
เรื่องที่เกิดขึ้น เป็นเรื่องจริงที่เกิดกับครอบครัวเรา เราแค่เป็นเพียงครอบครัวเล็กๆ ที่อยากจะนำเรื่องราวมาบอกกล่าว คุณพ่อ คุณแม่ มือใหม่
ถ้าหากต้องมาเกิดเหตุการณ์แบบเรา ขอให้ สู้ สู้ นะคะ ทุกอย่างจะผ่านไป