สวัสดีค่าาาา กลับมาแล้วก็ปั่นรีวิวเลยแล้วกัน กำลังคึก

สำหรับทริปนี้ ออกเดินทางวันที่ 6-16 เมษายน 2560
ไปทั้งหมด 6ประเทศ : 6เมือง นั่นก็คือออ แท่นแท๊นนน !!!
1. มิวนิค-เยอรมัน
2. ซาลบรูก-ออสเตรีย
3. ปารีส-ฝรั่งเศส
4. อัมส์เตอร์ดัม-เนเธอร์แลนด์
5. บรัสเซลล์-เบลเยี่ยม
และปิดท้ายที่ประเทศที่
6. ลักเซมเบิร์ก
** ค่าใช้จ่ายทั้งหมดเราสรุปไว้ล่างสุดเลยน้าาา **
จริงๆจุดเริ่มต้นของทริปนี้มันเริ่มมาจากว่า เป็นแฟนบอลทีมบาเยิร์นมิวนิค และนักบอลคนแรกและเป็นนักบอลที่เคารพรักที่สุด ผู้ซึ่งได้ทำให้เรา .. ชะนีเกลียดฟุตบอล สามารถหันมาดูบอลและมีความสุขไปกับมันได้ เค้าคนนั้นก็คือ ฟิลิป์ ลาห์ม (อดีตกัปตันทีมชาติเยอรมัน ชุดแชมป์ฟุตบอลโลก2014 และกัปตันทีมบาเยิร์นมิวนิค ณ.ปัจจุบันนี้นั่นเอง) คนนี้ๆ

ที่ชอบลาห์ม ไม่ใช่เพราะความหล่อ (นั่นประเด็นรอง) แต่ชอบเพราะความสุภาพของนาง ความเก่ง ความเป็นผู้นำ และบลาๆๆ คือเล่นมาจนอายุ32 ยังไม่เคยได้ใบแดงสักใบ ไม่เคยมีเรื่องชกต่อยกับใคร ควบคุมสติ และใจเย็นมากกกก คือดีอ่ะแกรรร อธิบายความดีของเค้าไม่พออ่ะ มันยาววว โอเค เข้าเรื่อง แล้วทีนี้ วันดีคืนดี เมื่อมกราคม2017ที่ผ่านมา กัปตันก็ออกมาประกาศว่าจะอำลาวงการแล้วหลังสิ้นสุดฤดูกาลนี้ (คือพ.ค.2017นี้) ตอนแรกนางบอก2018 ดิฉันก็คิดว่ายังพอมีเวลาไงแกรรร ก็เลยแบบ ยังลั๊นลาาา จองตั๋วไปลาว ไปกัมพูชา ไปอินโด ไปเวียดนาม จอง

ทุกเดือนเลย แต่พอข่าวนี้ออกมาคือช็อค ....

คือที่ผ่านมาตั้งใจว่าจะไปดูบาเยิร์นให้ได้มา3ปีแล้ว แต่เพราะข้ออ้างมากมายเลยคิดว่ายังพอมีเวลา แต่จู่ๆที่รักบอกมางี้เครียดเลย คิดว่าจะเก็บตังค์ยังไง จะขอวีซ่ายังไง จะลางานได้ไหม จะนั่นนู่นนี่ เยอะแยะมากมายยย สุดท้ายมาสรุปได้ว่า ถ้าวันนึงข้างหน้าที่ไม่มีคนๆนี้ แล้ววันที่แกยังมีโอกาสแกไม่ได้พยายามทำอะไรเลยเพื่อที่จะได้ไปดูเค้าลงแข่งในสนามจริงๆแกจะเสียใจรึเปล่า .. พอถามตัวเองแบบนี้ก็ฮึดสู้เลย
คำตอบคือเสียใจแน่ๆ ฉันต้องเสียใจไปยันวันสุดท้ายของชีวิตแน่ๆ .. คือถ้ามีลูกก็อยากให้เชียร์บาเยิร์นไง แล้วจะได้โม้ว่านี่ แม่ไปดูมาแล้วนะ ไปมาถึงสนามอารีอันซ์ อารีน่าเลย ไรงี้ .. อ่ะโอเค ไปก็ไป แล้วตอนแรกกะว่าจะดูบอลแล้วกลับเลย แต่พอวางแพลนไปมา มันไม่คุ้มค่าตั๋วเครื่องบิน มันเลยออกมาเป็นทริปแบบที่เห็น ตอนหลังโดนเพื่อนด่าด้วย คือถ้าจะไปดูบอลมันก็คงไม่ไปกับเราอยู่แล้วไง แต่ถ้าเอาปารีส เอาอย่างอื่นมาล่อมันคงไป แต่ตอนแรกไม่ได้คิดว่าจะไปไหนเลย จริงๆน้าาา
โอเค ข้ามเรื่องวีซ่าไปเลยเนอะ เราเขียนกระทู้แยกไว้แล้ว ไปอ่านได้ที่นี่น้าาา พวกขั้นตอนในการยื่นเชงเก้น ณ.สถานฑูตเยอรมัน (พอดีเราเข้าเยอรมันก่อน แล้วก็อยู่ที่เยอรมันนานสุด ก็เลยข้อที่นี่จ้าาา >>
https://pantip.com/topic/36239382 <<
หลังจากเก็บเงินตาเหลือกภายในเวลา4เดือน รีบยื่นวีซ่า ทำแผน จัดทริป จนทริปงอกเงย จาก1ประเทศเป็น5 จาก5เป็น6 วุ่นวายและปวดหัวอยู่เกือบ2เดือนเต็มๆ โชคดีมากๆที่เราได้พี่สาวที่รักและเคารพของเรามาช่วย พี่เค้าสอนทุกอย่างจนเราสามารถจัดทริปได้แบบเทพมาก แล้วพอถึงเวลาหน้างานจริงๆ ที่คิดไว้ว่ามันจะหลงหนักหนาสาหัส กลายเป็นไปได้ถูกหมด แทบไม่ต้องเดินหาเลย เป็นทริปแรกเลยนะที่มีการวางแผน ปกติด้นสดค่ะ ฮ่าๆๆ
วันที่1 (6/04/2017)
และแล้ววันที่ออกเดินทางก็มาถึง ถามว่าไปคนเดียวกลัวไหม มันก็กลัวนะ แต่ก็อย่างที่บอก ไม่ไปเพราะมัวแต่กลัวคงเสียใจกว่านี้อ่ะ ว่าแล้วก็เก็บกระเปาไปกันเถอะ

เราจองการบินไทยบินตรงทั้งไปและกลับนะคะ ขี้เกียจต่อเครื่อง ขี้เกียจไปลุ้นว่ากระเป๋าจะตามมาทันไหม จะดีเลย์ไหม อาจจะราคาแพงหน่อย เพราะมาจองเอาหลังวีซ่าผ่าน หรือ2อาทิตย์ก่อนวันเดินทางเท่านั้น ใครรู้ตัวว่าจะไปอย่ามารีบร้อนแบบเรานะคะ เตรียมตัวนานๆ แต่เนิ่นๆ จะได้ประหยัดไปอีกเยอะเลย ฮ่าๆๆ
ผ่านไป11ชม. เราก็มาถึงสนามบินมิวนิคกันล้าววววว
มาถึงสนามบินก็มาลุ้นกับตม.ต่อค่ะ แต่ผิดคาดดด
ตม.ถามว่ามาทำอะไรคนเดียว ก็บอกเค้าไปตามตรงว่ามาดูบอล พอเค้าดูตั๋วแล้วเค้าก็ยิ้มเลย
กลายเป็นว่าตม.เป็นแฟนตัวยงของบาเยิร์นด้วย แถมเค้ายังเอาตั๋วรายปีของเค้ามาอวดเราอีกต่างหาก

คุยกันถูกคอจนแทบจะลืมเลยค่ะว่ามีรถไฟไปปราสาทนอยชวานสไตล์รอเราอยู่ตอน9โมงครึ่ง (ตอนมาถึงตม.นี่ราวๆ8โมงกว่าแล้ว) วิ่งจนจุกเลยทีนี้ ฮ่าๆๆ
กว่าจะเดินหาที่ซื้อตั๋วนั่งรถไฟเข้าเมืองได้ ไม่มีซับEngให้เลยค่ะ เยอรมันล้วนๆ ดีนะที่ดูบอลมา พอเดาๆได้บ้าง
ที่พักเราอยู่ตรงสถานีหลักของเมืองเลยค่ะ คล้ายๆสายใต้ใหม่บ้านเราอ่ะ ใครจะไปประเทศอื่นๆก็ต้องมาขึ้นรถที่นี่
ตรงนั้นเรียกว่า Munich-HBF ซึ่งเราว่ามันสะดวกสบายมากๆเลยทีเดียว อาหารแถวนั้นมีเยอะมาก ร้านค้าก็เยอะ เดินไปจตุรัสมาเรียมได้ด้วย จะต่อรถไฟไปไหนมีครบตรงนี้จบเลย ที่พักเราชื่อ Wombats City Hostel จองผ่านทางบุ๊คกิ้งมานะคะ ลองมานอนโฮสเทลยุโรปดูบ้าง ตื่นเต้นมากๆค่ะ แต่อ่านมาจากรีวิว ที่นี่โอเคเลยนะ ห้องพักกว้าง เตียงก็นอนสบาย ซึ่งก็ไม่ผิดหวังค่ะ ห้องกว้างมาก หลับสบายทุกคืน
อันนี้ห้องนอนนะคะ รกหน่อย แต่กว้างน้าาา ฮ่าๆๆ
อันนี้เป็นห้องนั่งเล่นตรงส่วนกลางค่ะ มานอนเล่นคอม ชาจแบตได้นะคะ ชิวมากๆเลย
ตัดกลับมาที่วันแรก หลังจากออกมาจากสถานีไปหาโรงแรม ปรากฏว่าหลงทาง

คือรีบไปขึ้นรถไฟด้วย แล้วดูGPSไม่ค่อยเก่งด้วยตอนนั้น เดินแล้วก็หลง ยิ่งเดินยิ่งหลง แล้วเรานัดกับเพื่อนในเพจบาเยิร์นเอาไว้ด้วยว่าจะไปแชร์บาเยิร์นทิกเกจที่จะไปปราสาทนอยฯด้วยกัน (พอดีเราไปโพสเรื่องตั๋วบอลพอดี เลยมีพี่คนนึงกับเพื่อนอีกคนบอกว่าจะมาดูแมทช์เดียวกัน เลยนัดเจอกันที่นี่ค่ะ) แฟนเพจบาเยิร์นน่ารักทุกคน 555 แต่ตอนนั้นเริ่มจะไม่น่ารักแล้ว ทำให้เค้าจะตกรถไฟกันเราเนี่ย เลยมีพี่คนนึงอาสาเดินมารับ แล้วจากนั้นก็วิ่งยาวเลยค่ะ ไปเชคอินแบบรีบร้อนจนพนง.บอกให้ใจเย็นๆ คืออีก5นาทีรถไฟออก กรี๊ดดดดด

สุดท้ายหยิบเสื้อโค้ชติดมือมาได้อย่างเดียว เปลี่ยนกางเกงไม่ทัน ต้องใส่ขาสั้นไป 555555 หนาวนะแต่ไม่ทันแล้วโว๊ยยย
วิ่งแบบจุกมากเลยยย คือลงจากเครื่องมาว่าจะหาอะไรกิน กลายเป็นมาถึงก็ผจญภัยเลยชีวิต หอบแห่กๆเลยค่ะ สุดท้ายก็ทันก่อนรถไฟออก2นาที
ขึ้นไปถึงเพื่อนสอนวิธีการใช้GPSให้อย่างดี หลังจากวันนั้นที่แยกกันเที่ยว เราก็ไม่หลงอีกเลย ต้องขอบคุณมากๆ 55555
ถึงแล้วค่าาาาาาา ใช้บาเยิร์นทิกเก็ตมา31ยูโร หาร3ก็ตกคนล่ะ11ยูโรประมาณนี้
จากรถไฟให้เดินไปตามทางเพื่อขึ้นรถบัสนะ ไปตามที่คนเค้าเดินไปเลยค่ะ ไม่น่ายาก พอขึ้นรถเค้าจะไปจอดตรงทางขึ้นปราสาท
ทีนี้ก็เลือกเอาว่าจะเดินขึ้นไป หรือจะนั่งรถม้าขึ้นไป หรือว่าจะเดินไปอีกหน่อยเพื่อนั่งบัสขึ้นไป
ส่วนเรา แน่นอน ไหนๆก็ขนาดนี้แล้ว เดินสิคะ ออกกำลังกาย 55555
รถม้าคนขึ้นเยอะมากกกก น่ารัก ม้าตัวใหญ่และเท่ห์มากกกก
ไกลเหมือนกันนะเหวยยยย หนาวก็หนาวววว

อีกนิดนึงงงงง หนาวมือแข็งเลยค่ะ ส่วนขานั้น ชาไปแล้วเรียบร้อย 55555
เดินมาคือมีแต่คนมอง คงคิดว่ามันกล้าใส่ขาสั้นมาได้ยังไง เธอไม่มาเป็นเราเธอไม่รู้หรอก ฮือออๆๆ
ถึงปราสาทแล้วววววววววววววว โอ๊ยสวยมากกกกกกกกกกกกกกกกกก
เดินถ่ายรูปจนลืมหนาวเลยค่ะ สักพักก็เดินไปตรงสะพานแมรี่ ก็จะได้มุมที่คุ้นตามา แบบนี้
สำหรับปราสาทนอยชวานสไตล์ คนน่าจะรู้จักกันดีในชื่อเรียกปราสาทดิสนี่ย์
เพราะนี่แหละคือต้นแบบปราสาทของดิสนี่ย์ที่เราเห็นกันจนคุ้นตา สาวกดิสนี่ย์แบบเรารู้จักชื่อปราสาทนี้ตั้งแต่อายุ5ขวบ
และรู้สึกฟินมากๆที่ได้มาที่นี่สักทีค่ะ เหมือนฝันเป็นจริงยังไงยังงั้นเลยยย

ไอ้ที่เดินเหนื่อยๆมา ที่ต้องวิ่งจนจุก ที่ทนหิว ที่ทนหนาวและบลาๆมาทั้งวัน มันคุ้มค่ามากกก
อีกฝั่งนึงก็จะมีปราสาทชวาเกาตั้งอยู่ แวะไปเดินดูสักหน่อย อันนี้จะดูน่ากลัวกว่าหน่อยนึงค่ะ
เราออกเดินทางมาจากมิวนิคราวๆ10โมง มาถึงก็ประมาณเที่ยงกว่าๆ แล้วก็อยู่กันยาวยัน6โมงเย็นเลยค่ะ เดินไปเดินมา ซื้อของ หาอะไรกิน แยกย้ายกันไปเดินเล่นตามอัธยาศัย แล้วก็กลับ นั่งรถไฟยิงยาวเข้าเมือง ไปถึงก็หาอะไรกินนิดหน่อย แล้วก็แยกย้ายไปนอน คือง่วงมากกกกก ตอนแรกนัดกันว่าอีกวันจะไปทัวร์สนามบอลกับพี่เค้าตอนเช้า แต่ตื่นไม่ไหวจริงๆ เลยแยกกันเที่ยสวเลยดีกว่า เกรงใจเค้า .. ก็จบวันแรกไปแบบคิดว่าจะป่วยซะแล้ว แต่ไม่จ๊ะ จนถึงวันที่กลับมาก็ยังสตรองอยู่นะคะ ไม่ป่วยเลยยย 55555
----------------------------------------------------------------------------
วันที่2 (7/04/2017)
วันนี้ตื่น10โมงจ้าาาาา ไม่ต้องสืบบบ สลบเป็นตาย

วันนี้ตื่นมาก็ไปเดินเล่นชิวๆหาอะไรกิน ซึ่งก็เป็นคนติดข้าวหรือเรียกง่ายๆว่าติดอาหารไทยมากกก ก็เลยไปจบที่แมค เอาที่ๆคุ้นเคยล่ะกัน
เดินจากสถานีเราไปทะลุตรงจตุรัสมาเรียม ก็จะเจอแมคโดนัลด์อยู่
ขึ้นมาจากใต้ดินเจอภาพนี้เข้าไป อิ่มเลยยย

บรรยากาศแถวจตุรัสมาเรียมนี่คึกคักมากๆเลยค่ะ แถมอลังการด้วยสถาปัตยกรรมแบบยุโรปอีก ยืนเหวอไปเลยเรา
เดินไปสักพักก็เที่ยง เลยได้ดูการบอกเวลาของที่นี่ด้วย ขนลุกเลยค่ะ อัดมานะแต่ยังไม่ได้โหลดลงยูทูป ไว้จะเอามาเพิ่มเติมให้นะคะ
สวยมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

ยุโรป 11 วัน : 6ประเทศ 6เมือง : ผู้หญิงคนเดียวก็เปรี้ยวได้น้าา / ทริปดูบอล(บาเยิร์นมิวนิค) และตามรอยเมืองในฝัน ^^
สำหรับทริปนี้ ออกเดินทางวันที่ 6-16 เมษายน 2560
ไปทั้งหมด 6ประเทศ : 6เมือง นั่นก็คือออ แท่นแท๊นนน !!!
1. มิวนิค-เยอรมัน
2. ซาลบรูก-ออสเตรีย
3. ปารีส-ฝรั่งเศส
4. อัมส์เตอร์ดัม-เนเธอร์แลนด์
5. บรัสเซลล์-เบลเยี่ยม
และปิดท้ายที่ประเทศที่
6. ลักเซมเบิร์ก
** ค่าใช้จ่ายทั้งหมดเราสรุปไว้ล่างสุดเลยน้าาา **
คำตอบคือเสียใจแน่ๆ ฉันต้องเสียใจไปยันวันสุดท้ายของชีวิตแน่ๆ .. คือถ้ามีลูกก็อยากให้เชียร์บาเยิร์นไง แล้วจะได้โม้ว่านี่ แม่ไปดูมาแล้วนะ ไปมาถึงสนามอารีอันซ์ อารีน่าเลย ไรงี้ .. อ่ะโอเค ไปก็ไป แล้วตอนแรกกะว่าจะดูบอลแล้วกลับเลย แต่พอวางแพลนไปมา มันไม่คุ้มค่าตั๋วเครื่องบิน มันเลยออกมาเป็นทริปแบบที่เห็น ตอนหลังโดนเพื่อนด่าด้วย คือถ้าจะไปดูบอลมันก็คงไม่ไปกับเราอยู่แล้วไง แต่ถ้าเอาปารีส เอาอย่างอื่นมาล่อมันคงไป แต่ตอนแรกไม่ได้คิดว่าจะไปไหนเลย จริงๆน้าาา
วันที่1 (6/04/2017)
ตม.ถามว่ามาทำอะไรคนเดียว ก็บอกเค้าไปตามตรงว่ามาดูบอล พอเค้าดูตั๋วแล้วเค้าก็ยิ้มเลย
กลายเป็นว่าตม.เป็นแฟนตัวยงของบาเยิร์นด้วย แถมเค้ายังเอาตั๋วรายปีของเค้ามาอวดเราอีกต่างหาก
คุยกันถูกคอจนแทบจะลืมเลยค่ะว่ามีรถไฟไปปราสาทนอยชวานสไตล์รอเราอยู่ตอน9โมงครึ่ง (ตอนมาถึงตม.นี่ราวๆ8โมงกว่าแล้ว) วิ่งจนจุกเลยทีนี้ ฮ่าๆๆ
ตรงนั้นเรียกว่า Munich-HBF ซึ่งเราว่ามันสะดวกสบายมากๆเลยทีเดียว อาหารแถวนั้นมีเยอะมาก ร้านค้าก็เยอะ เดินไปจตุรัสมาเรียมได้ด้วย จะต่อรถไฟไปไหนมีครบตรงนี้จบเลย ที่พักเราชื่อ Wombats City Hostel จองผ่านทางบุ๊คกิ้งมานะคะ ลองมานอนโฮสเทลยุโรปดูบ้าง ตื่นเต้นมากๆค่ะ แต่อ่านมาจากรีวิว ที่นี่โอเคเลยนะ ห้องพักกว้าง เตียงก็นอนสบาย ซึ่งก็ไม่ผิดหวังค่ะ ห้องกว้างมาก หลับสบายทุกคืน
คือรีบไปขึ้นรถไฟด้วย แล้วดูGPSไม่ค่อยเก่งด้วยตอนนั้น เดินแล้วก็หลง ยิ่งเดินยิ่งหลง แล้วเรานัดกับเพื่อนในเพจบาเยิร์นเอาไว้ด้วยว่าจะไปแชร์บาเยิร์นทิกเกจที่จะไปปราสาทนอยฯด้วยกัน (พอดีเราไปโพสเรื่องตั๋วบอลพอดี เลยมีพี่คนนึงกับเพื่อนอีกคนบอกว่าจะมาดูแมทช์เดียวกัน เลยนัดเจอกันที่นี่ค่ะ) แฟนเพจบาเยิร์นน่ารักทุกคน 555 แต่ตอนนั้นเริ่มจะไม่น่ารักแล้ว ทำให้เค้าจะตกรถไฟกันเราเนี่ย เลยมีพี่คนนึงอาสาเดินมารับ แล้วจากนั้นก็วิ่งยาวเลยค่ะ ไปเชคอินแบบรีบร้อนจนพนง.บอกให้ใจเย็นๆ คืออีก5นาทีรถไฟออก กรี๊ดดดดด
สุดท้ายหยิบเสื้อโค้ชติดมือมาได้อย่างเดียว เปลี่ยนกางเกงไม่ทัน ต้องใส่ขาสั้นไป 555555 หนาวนะแต่ไม่ทันแล้วโว๊ยยย
วิ่งแบบจุกมากเลยยย คือลงจากเครื่องมาว่าจะหาอะไรกิน กลายเป็นมาถึงก็ผจญภัยเลยชีวิต หอบแห่กๆเลยค่ะ สุดท้ายก็ทันก่อนรถไฟออก2นาที
ขึ้นไปถึงเพื่อนสอนวิธีการใช้GPSให้อย่างดี หลังจากวันนั้นที่แยกกันเที่ยว เราก็ไม่หลงอีกเลย ต้องขอบคุณมากๆ 55555
จากรถไฟให้เดินไปตามทางเพื่อขึ้นรถบัสนะ ไปตามที่คนเค้าเดินไปเลยค่ะ ไม่น่ายาก พอขึ้นรถเค้าจะไปจอดตรงทางขึ้นปราสาท
ทีนี้ก็เลือกเอาว่าจะเดินขึ้นไป หรือจะนั่งรถม้าขึ้นไป หรือว่าจะเดินไปอีกหน่อยเพื่อนั่งบัสขึ้นไป
ส่วนเรา แน่นอน ไหนๆก็ขนาดนี้แล้ว เดินสิคะ ออกกำลังกาย 55555
เดินมาคือมีแต่คนมอง คงคิดว่ามันกล้าใส่ขาสั้นมาได้ยังไง เธอไม่มาเป็นเราเธอไม่รู้หรอก ฮือออๆๆ
เพราะนี่แหละคือต้นแบบปราสาทของดิสนี่ย์ที่เราเห็นกันจนคุ้นตา สาวกดิสนี่ย์แบบเรารู้จักชื่อปราสาทนี้ตั้งแต่อายุ5ขวบ
และรู้สึกฟินมากๆที่ได้มาที่นี่สักทีค่ะ เหมือนฝันเป็นจริงยังไงยังงั้นเลยยย
----------------------------------------------------------------------------
วันที่2 (7/04/2017)
วันนี้ตื่นมาก็ไปเดินเล่นชิวๆหาอะไรกิน ซึ่งก็เป็นคนติดข้าวหรือเรียกง่ายๆว่าติดอาหารไทยมากกก ก็เลยไปจบที่แมค เอาที่ๆคุ้นเคยล่ะกัน
เดินจากสถานีเราไปทะลุตรงจตุรัสมาเรียม ก็จะเจอแมคโดนัลด์อยู่