เพิ่งไปยื่นเชงเก้นที่สถาณฑูตเยอรมันมาเมื่ออาทิตย์ที่แล้วเองค่ะ เลยอยากแชร์ประสบการณ์เผื่อใครกำลังจะยื่น ^^
บอกเลยว่าเป็นการยื่นวีซ่าที่ไม่มีการเตรียมตัวใดๆทั้งสิ้น และเป็นการเตรียมตัวไปยุโรปแบบฉุกละหุกมากๆค่าาา
เริ่มจากเป็นแฟนบอลของทีมบาเยิร์นมิวนิค และมีความตั้งใจที่จะไปดูบอลมานานมากกก (น่าจะ4-5ปีได้แล้ว)
แต่ด้วยความที่เป็นคนชอบไปเที่ยวนั่นโน่นนี่ ไหนจะซื้อของที่อยากได้อีก หาข้ออ้างให้ตัวเองเก็บเงินไม่ได้ไปเรื่อย
จนเมื่อปีที่แล้วนักบอลที่เราชอบมาก ฟิลิปป์ ลาห์ม อดีตกัปตันทีมชาติเยอรมัน และกัปตันทีมบาเยิร์นมิวนิคคนปัจจุบันนี้ อยู่ๆเฮียก็ออกมาประกาศว่าจะเลิกเล่นฟุตบอลในปี 2018 (หลังจากที่ใจหายไปรอบนึงตอนประกาศว่าจะเลิกเล่นทีมชาติตอนที่ได้แชมป์โลกปี2014มา) ก็ไม่คิดว่าเฮียจะเลิกเล่นด้วยอายุแค่33ปีเท่านั้นเอง
แต่แล้วโชคชะตาก็เล่นตลก เมื่อต้นเดือนมกราคม2017ที่ผ่านมานี้เอง อยู่ๆลาห์มก็ออกมาประกาศว่าจะเลิกเล่นทันทีหลังจบฤดูกาลนี้
(คือเดือนพฤษภาที่จะถึงนี้แล้ว) What???

แล้วคืออีนี่จองทริปไปเที่ยวติดกันทุกเดือนเลย เริ่มจากไปปีนัง - วังเวียง - กัมพูชา
คือไม่คาดคิดเลยว่าฉันจะต้องไปยุโรปในปีนี้ แต่พอลาห์มออกมาประกาศแบบนั้น ก็ไม่มีเวลาเหลือให้ตัวเองได้เตรียมตัวเตรียมใจอะไร มันต้องไปแล้วแหละ
(เรามีเอเจ้นท์ทำให้นะคะ เพราะกลัวว่าจะเตรียมเอกสารไม่ทัน แต่สุดท้ายก็ต้องทำเองเกือบหมดอยู่ดี

)
เริ่มจากเตรียมตัว

1. เริ่มจากเตรียมจุดประสงค์ในการไปในครั้งนี้ คือไปดูบอล เราก็เริ่มหาตั๋วบอล ก็ไปดูจาก
http://www.viagogo.com
เลือกวันที่คิดว่าจะไป คือไม่อยากลางานเยอะ ก็เลยแพลนไว้ว่าจะไปช่วงสงกรานต์ ซึ่งมีแข่งที่บ้านในวันที่8พอดี คู่ระหว่างกับบาเยิร์นกับดอร์ทมุนด์
ระหว่างหาตั๋วก็ต้องวางแพลนทริปไปด้วย เพราะเค้าต้องใช้ใบจองโรงแรม แล้วก็ต้องจองให้พอดีกับวันที่เราเขียนไปด้วยนะ
(ปวดหัวกับแพลนมาก แทนที่จะไปง่ายๆ เยอรมัน ออสเตรีย เชค ไม่จ้าาา อินี่โลภ อยากประเทศที่ตัวเองชอบ) แผนเลยค่อนข้างปวดหัว กว่าจะแพลนเสร็จก็เกือบๆกลางเดือนกุมภาพันธ์ (ก็ยังชิว หารู้ไม่ว่าช่วงเมษาคนเค้าไปเยอะ ควรรีบจองคิวยื่นวีซ่าไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ)
2. โรงแรม เราเลือกจอง booking.com จองไว้ก่อน จ่ายทีหลัง (จองให้ตรงวันนะ เค้าเช็คละเอียดอยู่) อย่างบอลเรามีแข่งวันที่8 เจ้าหน้าที่ก็ไปเปิดเลยว่าวันที่8เรานอนที่ไหน ต้องเป๊ะ
3. ตั๋วเครื่องบิน : สามารถซื้อใบจองเพื่อไปยื่นก่อนโดยที่ยังไม่ต้องเสียตังค์ก็ได้นะ จะได้ชัวร์ บางคนแนะนำ สายการบิน AirFrance บอกว่าสามารถเลือกจองก่อนได้ แต่ของเราใช้บริการ pimporntravel ราคา300บาท บริการ24ชม.เลยนะ ไวมาก จ่ายเงินปุ๊บ ส่งหน้าพาสปอร์ตให้เค้า แป๊บเดียวไม่ถึง10นาทีก็ส่งเมล์มาให้เราแล้ว
4. ประกันการเดินทาง สำหรับเชงเก้นต้องคุ้มครอง (วงเงินประกนั ต้องไม่ต่า กวา่ 30,000 เหรียญยูโร หรือ 1,500,000บาท)
สามารถเช็คบริษัทประกันที่ทางสถานฑูตให้การรับรองได้ตามลิ้งค์นี้เลย
http://www.bangkok.diplo.de/contentblob/528222/Daten/7240611/Krankenversicherung.pdf
5. จม.แนะนำตัว อันนี้เขียนแนะนำตัวเองเลย ว่าชื่อ-นามสกุลอะไร ทำงานที่ไหน จะไปไหนบ้าง ไปทำอะไร
บนหัวจม. เราใส่ที่อยู่สถานฑูตไว้ด้านซ้ายบน แล้วใส่วันที่ริมด้านขวา (เหมือนจม.ราชการเลย) แล้วเซ็นชื่อด้านล่าง
6. จม.รับรองการทำงาน ระบุเงินเดือนลงไปด้วย และใช้หัวจม.เป็นหัวกระดาษบริษัทจะทำให้น่าเชื่อถือยิ่งขึ้น
(อันนี้เราก็ร่างเอาเองนะ ว่าชื่ออะไร ทำงานมานานเท่าไหร่แล้ว จะขอลาวันที่เท่าไหร่ และจะกลับมาทำงานในวันที่เท่าไหร่)
*** ที่ต้องเน้นมากๆก็คือ ระบุไว้ด้วยว่าหลังจากเที่ยวเสร็จแล้วเราก็จะกลับมาทำงานต่อทันที *** ระบุไว้ในจม.รับรองเลยค่ะ
7. Statementย้อนหลัง6เดือน อันนี้ถ้าใช้K-Bank สามารถขอฟรีได้เลยในappนะคะ ง่ายมาก สะดวกดีค่ะ
แต่ถ้าขอจากธนาคารก็จะเสีย 100-200 บาทค่ะ (เราไม่ได้ขอbank guarantee ไม่จำเป็นนะคะ)
8. รูปถ่ายแบบไบโอเมตริก 2 ใบ (จริงๆไปถ่ายที่สถานฑูตเลยก็ดีนะคะ ที่เดียวจบ ไม่ต้องเสียเวลา ขนาดเราถ่ายที่อื่นมายังต้องถ่ายใหม่เลยค่ะ รูปที่ถ่ายมามันใหญ่เกินไป แต่รูปที่สถานฑูตถ่ายออกมาจะเล็กกว่านิดนึง ดีนะไหวตัวทัน เห็นรูปตัวอย่างว่าของเราน่าจะใหญ่ไป ไม่อยากเสี่ยงเลยถ่ายใหม่ไปเลยค่ะ .. แต่ควรไปก่อนเวลานะคะ เผื่อต่อคิวนาน แต่เค้าถ่ายไม่เกิน5นาทีก็รับรูปได้แล้วค่ะ ไวมาก)
9. Passport อันนี้สำคัญที่สุด (ที่เหลืออายุไม่น้อยกว่า 6 เดือน นับจากวันยื่นขอ และ มีหน้าว่างที่เหลือสำหรับตราประทับมากกว่า 2 หน้า
ถ้าใครมีเล่มเก่าก็เอาไปด้วยนะคะ) ไม่จำเป็นต้องcopyหน้าที่ประทับตราเข้า-ออกปท.อื่นๆนะคะ ของเราถ่ายไปเค้าก็คืนกลับมาหมดเลยค่ะ
10. จองคิวยื่นออนไลน์รอไว้ได้เลยค่ะ อย่าลืมปริ้นคิวนัดที่เค้าส่งมาให้ในเมล์ติดมาวันไปด้วยนะคะ จนท.เค้าจะขอดูค่ะ
(แล้วก็เข้าไปกรอกใบสมัครได้เลยจ้าาา) ตรงนี้ไม่ขอพูดถึงนะคะ เพราะว่ามีคนสอนเอาไว้มากมายเลย ก็เข้าไปดูแล้วทำตามเอาค่ะ
ของเราดูจากอันนี้ค่ะ
http://www.ladyinter.com/forum_posts.asp?TID=69692 (มันมีบางคำในภาษาเยอรมันก็ไม่ค่อยเข้าใจค่ะ)
ใครกรอกไม่ได้ที่สถานฑูตก็มีบริการกรอกให้นะคะ จำไม่ได้ว่าเท่าไหร่แต่ไม่เกิน120.-ค่ะ
ที่เหลือก็จะเป็นสำเนาบัตรประชาชน / สำเนาทะเบียนบ้าน ต่างๆนะคะ
*** เพิ่มเติมสำหรับใครที่มีสปอนเซอร์นะคะ เอกสารของสปอนเซอร์ก็จะต้องมี ***
1. จม.สปอนเซอร์นะคะ (เขียนว่าเค้าจะออกค่าใช้จ่ายอะไรให้เราบ้าง ให้เค้ารับรองมาว่าระหว่างเดินทางเค้าจะดูแลค่าใช้จ่ายให้เรา)
2. Statementย้อนหลัง6เดือนเช่นกัน
3. สำเนาบัตรปชช.
4. สำเนาทะเบียนบ้าน
ตรงนี้เค้าจะถามว่าเราเป็นอะไรกัน รู้จักกันได้ยังไงนะคะ
หลักๆก็เท่านี้ค่ะ
------------------------------------------------------------
คือแอบเครียดมากเหมือนกันเพราะว่าไปคนเดียว แถมเป็นผู้หญิงคนเดียวอีก แล้วก็เพิ่งย้ายมาทำงานที่ใหม่ได้5เดือนเอง
เงินในบัญชีก็ไม่ได้เยอะมากอะไร เพราะจ่ายค่าจองทริปอื่นๆไปก็ตั้งเยอะ ประกอบกับไปอ่านรีวิวมาเยอะ ส่วนมากจะบอกว่าสถานฑูตเยอรมันโหด
นี่ก็จิตตก แถมได้คิววันที่ 13 มีนาคม (จะไปอยู่แล้ววันที่6เมษา) คือถ้าไม่ผ่านนี่ไม่น่าจะจองยื่นใหม่ได้ทันแน่ๆ เพราะคิวตอนนั้นที่เราแอบไปเช็คเผื่อกรณียื่นไม่ผ่านจะยื่นใหม่ก็ปาเข้าไปวันที่5เมษาเข้าไปแล้ว เครียดสุดๆไปเลยค่ะ ถ้าคราวนี้ไม่ได้ไป จะไม่มีทางได้เจอลาห์มในสนามอีกแล้ว เม่าฝนตก
เครียดจัดทำอะไรไม่ได้จองตั๋วไปพม่าเลยค่ะ ไปขอเทพทันใจ (คิดดูแล้วกัน) ไร้ที่ยึดเหนี่ยวจิตใจขนาดนั้น คือยื่นวันที่ 13มีนา อีนี่จองไปพม่า 11-12มีนาเลย เอาเซ่ !!! ตอนนั้นยิ่งเตรียมเอกสารยิ่งอ่านรีวิวยิ่งเครียดค่ะ เลยตัดสินใจไป ก็ผ่านไปได้ด้วยดีค่ะ สบายใจกลับมาไทย (เดี๊ยวมารีวิวพม่าต่อ)
------------------------------------------------------------
เอาล่ะมาถึงวันที่13 เราไปรถใต้ดินนะคะ ลงสถานนีลุมพินี ทางออกที่2 เดินไปทางตึกคิวเฮ้าส์ เดี๊ยวก็เจอค่ะ รั้วสีครีมๆ มีธงเยอรมันปักอยู่
นัด10.30 อินี่ไปถึงตั้งแต่9.30 ปิดมือถือ ฝากไว้เรียบร้อย ไปถึงก็ถ่ายรูปใหม่เลย เพราะดูตัวอย่างรูปแล้วของเราใหญ่กว่าที่เค้ากำหนดค่ะ
เตรียมทุกอย่างครบหมด แต่ดันลืมกดตังค์มา วิ่งสิคะ ออกไปหาที่กดตังค์ ค่าวีซ่าราคา60ยูโร (เราจ่ายไป2,300.-นะคะ)
มาถึงขั้นตอนจัดเรียงเอกสารกัน ของเราเรียงตามนี้
1. ใบนัดคิว
2. สำเนาพาสปอร์ต + ตัวจริงเอาไปด้วยนะ เผื่อเค้าถามหา
3. ใบสมัคร
4. จม.แนะนำตัว
5. สำเนาบัตรปชช.
6. สำเนาทะเบียนบ้าน
7. สำเนาตั๋วบอล ***
8. ใบจองโรงแรม
9. ใบจองตั๋วเครื่องบิน
10. ใบรับรองการทำงาน ** ระบุเงินเดือน **
11. Statementย้อนหลัง6เดือน (เอาบัญชีเงินเดือนยื่นไปค่ะ)
12. ประกันเดินทาง
13. จม.Sponsor
14. ข้อมูลSponsorและหลักฐานการเงิน (สำเนาบัตรปชช. , ทะเบียนบ้าน , บัตรข้าราชการ ,Statement )
15. แผนการเดินทาง
16. รูปถ่ายไบโอเมตริก (ใบนึงแปะในใบสมัคร อีกใบเอาคลิปหนีบไว้หน้าใบสมัครค่ะ)
แล้วก็รอเรียกคิวค่ะ พี่คนที่เสียงดังๆข้างหน้าเค้าจะประกาศ พอบอกรอบ10.30 (ทั้งที่ตอนนั้น10โมงเองค่ะ)
เราก็เดินไปเลย คนแรกของรอบ10.30เลยค่ะ (ไม่ค่อยตื่นเต้นเลย) ฮ่าๆๆ เข้าไปก็กดคิว ได้ช่องที่7ค่ะ (เอาว่ะเลขโปรด) ฮ่าๆๆๆ
พอเจ้าหน้าที่เรียก ก็ส่งเอกสารที่เตรียมมาลงไปในช่องที่เค้าให้วางเลยค่ะ แล้วเค้าก็จะเอาไปเปิดดู อันที่เค้าไม่ใช้เค้าก็จะส่งคืนมาค่ะ
ตัวอย่างคำถามเท่าที่จำได้นะคะ
: ไปทำอะไร
ตอบ ไปดูบอลแล้วก็ไปเที่ยวค่ะ
: ไปกี่วัน
ตอบ 11 วันค่ะ
: ไปที่ไหนบ้าง
ตอบ ไปเยอรมัน , ฝรั่งเศส , เนเธอร์แลนด์ แล้วก็เบลเยี่ยมค่ะ
: บอลแข่งวันไหน
ตอบ วันที่8ค่ะ
ระหว่างนั้นจนท.ก็เปิดดูตั๋วบอล ตั๋วจองโรงแรม ตั๋วจองเครื่องบิน
: ทำงานที่ไหน
ตอบ ๆๆ
: ทำมานานเท่าไหร่แล้ว
ตอบ 5เดือนค่ะ (หวั่นใจเล็กน้อยแต่ก็พยายามตอบไปด้วยความฉะฉานมั่นใจ) ทั้งที่อกอิแป้นจิแตกตายยย
: ไปกี่วัน
(อ้าวถามซ้ำอีกกกก) ฮ่าๆๆ ก็ตอบไปเหมือนเดิม
: ชอบฟุตบอลเหรอ
ตอบ ค่ะ ชอบทีมบาเยิร์น มิวนิคค่ะ โดยเฉพาะกัปตันทีมค่ะ (เจ้าหน้าที่ทำหน้านิ่ง) ยังอีก ยังไม่หยุดพูดอีก เราเนี่ย ถ้าเรื่องบอลคุยกันยาว ฮ่าๆๆ
: เคยโดนปฎิเสธวีซ่ามาก่อนไหม
ตอบ ไม่เคยค่ะ
: รับเล่มเองหรือส่งไปรษณีย์คะ
ตอบ ส่งไปรษณีย์ค่ะ
แล้วก็บอกให้เราไปชำระเงิน แล้วไปติดต่อเรื่องไปรษณีย์ด้านนอก
จบแล้ววว ไวมากกกกกก
เจ้าหน้าที่ไม่เห็นจะโหดเลย ไม่ดุสักนิด พูดจาเพราะด้วย ลงท้ายคะตลอดเลย แล้วที่ฉันกลัวขึ้นสมองที่ผ่านมาเพื่ออะไร ฮ่าๆๆๆ

จริงๆอยากจะบอกเพื่อนๆว่าไม่ต้องกังวลเกินเหตุเหมือนเรานะคะ ถ้าเอกสารมาครบ เราว่าไม่มีอะไรน่ากลัวค่ะ อีกอย่างถ้าเราตอบคำถามได้ตรงกับที่เราทำแพลนมา ตรงกับที่จองโรงแรมและตั๋วเครื่องบินก็โอเคค่ะ เห็นหลายกระทู้ตั้งมาว่าเจ้าหน้าที่หลายอันแล้ว กระทู้นี้ขอชมเจ้าหน้าที่แล้วกันนะคะ ^^
ออกไปทำเรื่องไปรษณีย์เสียเงินอีก130.-นะคะ แล้วเค้าก้จะให้เลขEMSมา เก็บไว้ดีๆนะคะ ไว้เช็คสถานะได้
แล้วก็กลับไปทำงานต่อได้ค่ะ ทีนี้ก็รอลุ้นล่ะ เครียดน้อยลงนิดนึง เพราะคิดว่าที่ตอบไปก็ชัดเจนนะ ตอบไม่ผิดสักข้อ ทำแผนมาดีก็งี้ ฮ่าๆๆ
(ต้องขอบคุณพี่สาวที่คอยช่วยทำให้แผนเราค่อนข้างละเอียดมากๆค่ะ) จริงๆเป็นคนเที่ยวแบบโนแพลนมาตลอด แต่อันนี้ต้องจริงจังหน่อย
ช่วงเวลาแห่งการรอคอย มันช่างยาวนานเหลือเกิ๊นนน

(ไหนว่าไม่เครียดแล้วไง) 5555
อินี่เช็คสถานะEMS ตั้งแต่วันที่13เย็นๆเลยค่ะ เช็คทุกวันเช้าบ่าย จนเมื่อวันที่16ที่ผ่านมา ในระบบขึ้นว่า เตรียมการนำจ่าย
กรี๊ดดดดดดดดดดดด วันหวยออกอีกกกกกกก ลุ้นมันไปซะทุกอย่าง >///<
ตัดภาพไปตอนรู้ผลเลยนะคะ
.. และแล้วนางก็มาจ้าาาาา เปิดซองออกดู เห็นเล่มตัวเอง พร้อมกระดาษเล็กๆแนบมา
เอาว่ะ !!! เปิด
กรี๊ดดดดดดดดดด


ผ่านแล้วจ้าาาาาา


ไวมากๆเลย แค่4วันก็รู้ผลแล้ววววว แถมให้มาเกินที่ขอด้วย ขอไป11วัน ให้มาตั้งเดือนนึง
ขอบคุณมากๆเลยค่าาา ความฝันของอีช้อยเป็นจริงล้าววว
แล้วเจอกันนะคะกัปตัน กรี๊ดดดด

ไม่คิดจริงๆว่าผู้ชายคนเดียว(ที่แต่งงานและมีลูกมีเมียแล้วด้วย) จะให้เราต้องดั้นด้นพยายามไปหาเค้าได้ถึงขนาดนี้
แม้ว่าอาจจะกลับมาแบบล้มละลายก็ยอม 555 (เดือนพ.ค.ยังมีทริปญี่ปุ่นต่อ) บอกทีว่าฉั๊นจะรอดดด

แต่ถามตัวเองหลายรอบมากเลยว่าถ้าไม่ได้ดูลาห์มเล่นฟุตบอลไปอีกตลอดชีวิตจะเสียใจมั๊ย ตอบได้เลยว่าเสียใจแน่ๆ
จากคนที่เคยเกลียดฟุตบอลมาตลอด เจอกัปตันเข้าให้เปลี่ยนชีวิตเราไปเลย
ดีใจมากๆ : ) ขอให้ทุกคนที่กำลังจะยื่นเชงเก้นโชคดีทุกคนนะค๊าาา
ชะนีโสดขอยื่นวีซ่าเชงเก้น(ท่องเที่ยว) ณ.สถานฑูตเยอรมัน : กลัวแทบตาย สุดท้ายง่ายนิดเดียว : )
บอกเลยว่าเป็นการยื่นวีซ่าที่ไม่มีการเตรียมตัวใดๆทั้งสิ้น และเป็นการเตรียมตัวไปยุโรปแบบฉุกละหุกมากๆค่าาา
เริ่มจากเป็นแฟนบอลของทีมบาเยิร์นมิวนิค และมีความตั้งใจที่จะไปดูบอลมานานมากกก (น่าจะ4-5ปีได้แล้ว)
แต่ด้วยความที่เป็นคนชอบไปเที่ยวนั่นโน่นนี่ ไหนจะซื้อของที่อยากได้อีก หาข้ออ้างให้ตัวเองเก็บเงินไม่ได้ไปเรื่อย
จนเมื่อปีที่แล้วนักบอลที่เราชอบมาก ฟิลิปป์ ลาห์ม อดีตกัปตันทีมชาติเยอรมัน และกัปตันทีมบาเยิร์นมิวนิคคนปัจจุบันนี้ อยู่ๆเฮียก็ออกมาประกาศว่าจะเลิกเล่นฟุตบอลในปี 2018 (หลังจากที่ใจหายไปรอบนึงตอนประกาศว่าจะเลิกเล่นทีมชาติตอนที่ได้แชมป์โลกปี2014มา) ก็ไม่คิดว่าเฮียจะเลิกเล่นด้วยอายุแค่33ปีเท่านั้นเอง
แต่แล้วโชคชะตาก็เล่นตลก เมื่อต้นเดือนมกราคม2017ที่ผ่านมานี้เอง อยู่ๆลาห์มก็ออกมาประกาศว่าจะเลิกเล่นทันทีหลังจบฤดูกาลนี้
(คือเดือนพฤษภาที่จะถึงนี้แล้ว) What???
คือไม่คาดคิดเลยว่าฉันจะต้องไปยุโรปในปีนี้ แต่พอลาห์มออกมาประกาศแบบนั้น ก็ไม่มีเวลาเหลือให้ตัวเองได้เตรียมตัวเตรียมใจอะไร มันต้องไปแล้วแหละ
(เรามีเอเจ้นท์ทำให้นะคะ เพราะกลัวว่าจะเตรียมเอกสารไม่ทัน แต่สุดท้ายก็ต้องทำเองเกือบหมดอยู่ดี
เริ่มจากเตรียมตัว
1. เริ่มจากเตรียมจุดประสงค์ในการไปในครั้งนี้ คือไปดูบอล เราก็เริ่มหาตั๋วบอล ก็ไปดูจาก http://www.viagogo.com
เลือกวันที่คิดว่าจะไป คือไม่อยากลางานเยอะ ก็เลยแพลนไว้ว่าจะไปช่วงสงกรานต์ ซึ่งมีแข่งที่บ้านในวันที่8พอดี คู่ระหว่างกับบาเยิร์นกับดอร์ทมุนด์
ระหว่างหาตั๋วก็ต้องวางแพลนทริปไปด้วย เพราะเค้าต้องใช้ใบจองโรงแรม แล้วก็ต้องจองให้พอดีกับวันที่เราเขียนไปด้วยนะ
(ปวดหัวกับแพลนมาก แทนที่จะไปง่ายๆ เยอรมัน ออสเตรีย เชค ไม่จ้าาา อินี่โลภ อยากประเทศที่ตัวเองชอบ) แผนเลยค่อนข้างปวดหัว กว่าจะแพลนเสร็จก็เกือบๆกลางเดือนกุมภาพันธ์ (ก็ยังชิว หารู้ไม่ว่าช่วงเมษาคนเค้าไปเยอะ ควรรีบจองคิวยื่นวีซ่าไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ)
2. โรงแรม เราเลือกจอง booking.com จองไว้ก่อน จ่ายทีหลัง (จองให้ตรงวันนะ เค้าเช็คละเอียดอยู่) อย่างบอลเรามีแข่งวันที่8 เจ้าหน้าที่ก็ไปเปิดเลยว่าวันที่8เรานอนที่ไหน ต้องเป๊ะ
3. ตั๋วเครื่องบิน : สามารถซื้อใบจองเพื่อไปยื่นก่อนโดยที่ยังไม่ต้องเสียตังค์ก็ได้นะ จะได้ชัวร์ บางคนแนะนำ สายการบิน AirFrance บอกว่าสามารถเลือกจองก่อนได้ แต่ของเราใช้บริการ pimporntravel ราคา300บาท บริการ24ชม.เลยนะ ไวมาก จ่ายเงินปุ๊บ ส่งหน้าพาสปอร์ตให้เค้า แป๊บเดียวไม่ถึง10นาทีก็ส่งเมล์มาให้เราแล้ว
4. ประกันการเดินทาง สำหรับเชงเก้นต้องคุ้มครอง (วงเงินประกนั ต้องไม่ต่า กวา่ 30,000 เหรียญยูโร หรือ 1,500,000บาท)
สามารถเช็คบริษัทประกันที่ทางสถานฑูตให้การรับรองได้ตามลิ้งค์นี้เลย http://www.bangkok.diplo.de/contentblob/528222/Daten/7240611/Krankenversicherung.pdf
5. จม.แนะนำตัว อันนี้เขียนแนะนำตัวเองเลย ว่าชื่อ-นามสกุลอะไร ทำงานที่ไหน จะไปไหนบ้าง ไปทำอะไร
บนหัวจม. เราใส่ที่อยู่สถานฑูตไว้ด้านซ้ายบน แล้วใส่วันที่ริมด้านขวา (เหมือนจม.ราชการเลย) แล้วเซ็นชื่อด้านล่าง
6. จม.รับรองการทำงาน ระบุเงินเดือนลงไปด้วย และใช้หัวจม.เป็นหัวกระดาษบริษัทจะทำให้น่าเชื่อถือยิ่งขึ้น
(อันนี้เราก็ร่างเอาเองนะ ว่าชื่ออะไร ทำงานมานานเท่าไหร่แล้ว จะขอลาวันที่เท่าไหร่ และจะกลับมาทำงานในวันที่เท่าไหร่)
*** ที่ต้องเน้นมากๆก็คือ ระบุไว้ด้วยว่าหลังจากเที่ยวเสร็จแล้วเราก็จะกลับมาทำงานต่อทันที *** ระบุไว้ในจม.รับรองเลยค่ะ
7. Statementย้อนหลัง6เดือน อันนี้ถ้าใช้K-Bank สามารถขอฟรีได้เลยในappนะคะ ง่ายมาก สะดวกดีค่ะ
แต่ถ้าขอจากธนาคารก็จะเสีย 100-200 บาทค่ะ (เราไม่ได้ขอbank guarantee ไม่จำเป็นนะคะ)
8. รูปถ่ายแบบไบโอเมตริก 2 ใบ (จริงๆไปถ่ายที่สถานฑูตเลยก็ดีนะคะ ที่เดียวจบ ไม่ต้องเสียเวลา ขนาดเราถ่ายที่อื่นมายังต้องถ่ายใหม่เลยค่ะ รูปที่ถ่ายมามันใหญ่เกินไป แต่รูปที่สถานฑูตถ่ายออกมาจะเล็กกว่านิดนึง ดีนะไหวตัวทัน เห็นรูปตัวอย่างว่าของเราน่าจะใหญ่ไป ไม่อยากเสี่ยงเลยถ่ายใหม่ไปเลยค่ะ .. แต่ควรไปก่อนเวลานะคะ เผื่อต่อคิวนาน แต่เค้าถ่ายไม่เกิน5นาทีก็รับรูปได้แล้วค่ะ ไวมาก)
9. Passport อันนี้สำคัญที่สุด (ที่เหลืออายุไม่น้อยกว่า 6 เดือน นับจากวันยื่นขอ และ มีหน้าว่างที่เหลือสำหรับตราประทับมากกว่า 2 หน้า
ถ้าใครมีเล่มเก่าก็เอาไปด้วยนะคะ) ไม่จำเป็นต้องcopyหน้าที่ประทับตราเข้า-ออกปท.อื่นๆนะคะ ของเราถ่ายไปเค้าก็คืนกลับมาหมดเลยค่ะ
10. จองคิวยื่นออนไลน์รอไว้ได้เลยค่ะ อย่าลืมปริ้นคิวนัดที่เค้าส่งมาให้ในเมล์ติดมาวันไปด้วยนะคะ จนท.เค้าจะขอดูค่ะ
(แล้วก็เข้าไปกรอกใบสมัครได้เลยจ้าาา) ตรงนี้ไม่ขอพูดถึงนะคะ เพราะว่ามีคนสอนเอาไว้มากมายเลย ก็เข้าไปดูแล้วทำตามเอาค่ะ
ของเราดูจากอันนี้ค่ะ http://www.ladyinter.com/forum_posts.asp?TID=69692 (มันมีบางคำในภาษาเยอรมันก็ไม่ค่อยเข้าใจค่ะ)
ใครกรอกไม่ได้ที่สถานฑูตก็มีบริการกรอกให้นะคะ จำไม่ได้ว่าเท่าไหร่แต่ไม่เกิน120.-ค่ะ
ที่เหลือก็จะเป็นสำเนาบัตรประชาชน / สำเนาทะเบียนบ้าน ต่างๆนะคะ
*** เพิ่มเติมสำหรับใครที่มีสปอนเซอร์นะคะ เอกสารของสปอนเซอร์ก็จะต้องมี ***
1. จม.สปอนเซอร์นะคะ (เขียนว่าเค้าจะออกค่าใช้จ่ายอะไรให้เราบ้าง ให้เค้ารับรองมาว่าระหว่างเดินทางเค้าจะดูแลค่าใช้จ่ายให้เรา)
2. Statementย้อนหลัง6เดือนเช่นกัน
3. สำเนาบัตรปชช.
4. สำเนาทะเบียนบ้าน
ตรงนี้เค้าจะถามว่าเราเป็นอะไรกัน รู้จักกันได้ยังไงนะคะ
หลักๆก็เท่านี้ค่ะ
------------------------------------------------------------
คือแอบเครียดมากเหมือนกันเพราะว่าไปคนเดียว แถมเป็นผู้หญิงคนเดียวอีก แล้วก็เพิ่งย้ายมาทำงานที่ใหม่ได้5เดือนเอง
เงินในบัญชีก็ไม่ได้เยอะมากอะไร เพราะจ่ายค่าจองทริปอื่นๆไปก็ตั้งเยอะ ประกอบกับไปอ่านรีวิวมาเยอะ ส่วนมากจะบอกว่าสถานฑูตเยอรมันโหด
นี่ก็จิตตก แถมได้คิววันที่ 13 มีนาคม (จะไปอยู่แล้ววันที่6เมษา) คือถ้าไม่ผ่านนี่ไม่น่าจะจองยื่นใหม่ได้ทันแน่ๆ เพราะคิวตอนนั้นที่เราแอบไปเช็คเผื่อกรณียื่นไม่ผ่านจะยื่นใหม่ก็ปาเข้าไปวันที่5เมษาเข้าไปแล้ว เครียดสุดๆไปเลยค่ะ ถ้าคราวนี้ไม่ได้ไป จะไม่มีทางได้เจอลาห์มในสนามอีกแล้ว เม่าฝนตก
เครียดจัดทำอะไรไม่ได้จองตั๋วไปพม่าเลยค่ะ ไปขอเทพทันใจ (คิดดูแล้วกัน) ไร้ที่ยึดเหนี่ยวจิตใจขนาดนั้น คือยื่นวันที่ 13มีนา อีนี่จองไปพม่า 11-12มีนาเลย เอาเซ่ !!! ตอนนั้นยิ่งเตรียมเอกสารยิ่งอ่านรีวิวยิ่งเครียดค่ะ เลยตัดสินใจไป ก็ผ่านไปได้ด้วยดีค่ะ สบายใจกลับมาไทย (เดี๊ยวมารีวิวพม่าต่อ)
------------------------------------------------------------
เอาล่ะมาถึงวันที่13 เราไปรถใต้ดินนะคะ ลงสถานนีลุมพินี ทางออกที่2 เดินไปทางตึกคิวเฮ้าส์ เดี๊ยวก็เจอค่ะ รั้วสีครีมๆ มีธงเยอรมันปักอยู่
นัด10.30 อินี่ไปถึงตั้งแต่9.30 ปิดมือถือ ฝากไว้เรียบร้อย ไปถึงก็ถ่ายรูปใหม่เลย เพราะดูตัวอย่างรูปแล้วของเราใหญ่กว่าที่เค้ากำหนดค่ะ
เตรียมทุกอย่างครบหมด แต่ดันลืมกดตังค์มา วิ่งสิคะ ออกไปหาที่กดตังค์ ค่าวีซ่าราคา60ยูโร (เราจ่ายไป2,300.-นะคะ)
มาถึงขั้นตอนจัดเรียงเอกสารกัน ของเราเรียงตามนี้
1. ใบนัดคิว
2. สำเนาพาสปอร์ต + ตัวจริงเอาไปด้วยนะ เผื่อเค้าถามหา
3. ใบสมัคร
4. จม.แนะนำตัว
5. สำเนาบัตรปชช.
6. สำเนาทะเบียนบ้าน
7. สำเนาตั๋วบอล ***
8. ใบจองโรงแรม
9. ใบจองตั๋วเครื่องบิน
10. ใบรับรองการทำงาน ** ระบุเงินเดือน **
11. Statementย้อนหลัง6เดือน (เอาบัญชีเงินเดือนยื่นไปค่ะ)
12. ประกันเดินทาง
13. จม.Sponsor
14. ข้อมูลSponsorและหลักฐานการเงิน (สำเนาบัตรปชช. , ทะเบียนบ้าน , บัตรข้าราชการ ,Statement )
15. แผนการเดินทาง
16. รูปถ่ายไบโอเมตริก (ใบนึงแปะในใบสมัคร อีกใบเอาคลิปหนีบไว้หน้าใบสมัครค่ะ)
แล้วก็รอเรียกคิวค่ะ พี่คนที่เสียงดังๆข้างหน้าเค้าจะประกาศ พอบอกรอบ10.30 (ทั้งที่ตอนนั้น10โมงเองค่ะ)
เราก็เดินไปเลย คนแรกของรอบ10.30เลยค่ะ (ไม่ค่อยตื่นเต้นเลย) ฮ่าๆๆ เข้าไปก็กดคิว ได้ช่องที่7ค่ะ (เอาว่ะเลขโปรด) ฮ่าๆๆๆ
พอเจ้าหน้าที่เรียก ก็ส่งเอกสารที่เตรียมมาลงไปในช่องที่เค้าให้วางเลยค่ะ แล้วเค้าก็จะเอาไปเปิดดู อันที่เค้าไม่ใช้เค้าก็จะส่งคืนมาค่ะ
ตัวอย่างคำถามเท่าที่จำได้นะคะ
: ไปทำอะไร
ตอบ ไปดูบอลแล้วก็ไปเที่ยวค่ะ
: ไปกี่วัน
ตอบ 11 วันค่ะ
: ไปที่ไหนบ้าง
ตอบ ไปเยอรมัน , ฝรั่งเศส , เนเธอร์แลนด์ แล้วก็เบลเยี่ยมค่ะ
: บอลแข่งวันไหน
ตอบ วันที่8ค่ะ
ระหว่างนั้นจนท.ก็เปิดดูตั๋วบอล ตั๋วจองโรงแรม ตั๋วจองเครื่องบิน
: ทำงานที่ไหน
ตอบ ๆๆ
: ทำมานานเท่าไหร่แล้ว
ตอบ 5เดือนค่ะ (หวั่นใจเล็กน้อยแต่ก็พยายามตอบไปด้วยความฉะฉานมั่นใจ) ทั้งที่อกอิแป้นจิแตกตายยย
: ไปกี่วัน
(อ้าวถามซ้ำอีกกกก) ฮ่าๆๆ ก็ตอบไปเหมือนเดิม
: ชอบฟุตบอลเหรอ
ตอบ ค่ะ ชอบทีมบาเยิร์น มิวนิคค่ะ โดยเฉพาะกัปตันทีมค่ะ (เจ้าหน้าที่ทำหน้านิ่ง) ยังอีก ยังไม่หยุดพูดอีก เราเนี่ย ถ้าเรื่องบอลคุยกันยาว ฮ่าๆๆ
: เคยโดนปฎิเสธวีซ่ามาก่อนไหม
ตอบ ไม่เคยค่ะ
: รับเล่มเองหรือส่งไปรษณีย์คะ
ตอบ ส่งไปรษณีย์ค่ะ
แล้วก็บอกให้เราไปชำระเงิน แล้วไปติดต่อเรื่องไปรษณีย์ด้านนอก
จบแล้ววว ไวมากกกกกก
เจ้าหน้าที่ไม่เห็นจะโหดเลย ไม่ดุสักนิด พูดจาเพราะด้วย ลงท้ายคะตลอดเลย แล้วที่ฉันกลัวขึ้นสมองที่ผ่านมาเพื่ออะไร ฮ่าๆๆๆ
จริงๆอยากจะบอกเพื่อนๆว่าไม่ต้องกังวลเกินเหตุเหมือนเรานะคะ ถ้าเอกสารมาครบ เราว่าไม่มีอะไรน่ากลัวค่ะ อีกอย่างถ้าเราตอบคำถามได้ตรงกับที่เราทำแพลนมา ตรงกับที่จองโรงแรมและตั๋วเครื่องบินก็โอเคค่ะ เห็นหลายกระทู้ตั้งมาว่าเจ้าหน้าที่หลายอันแล้ว กระทู้นี้ขอชมเจ้าหน้าที่แล้วกันนะคะ ^^
ออกไปทำเรื่องไปรษณีย์เสียเงินอีก130.-นะคะ แล้วเค้าก้จะให้เลขEMSมา เก็บไว้ดีๆนะคะ ไว้เช็คสถานะได้
แล้วก็กลับไปทำงานต่อได้ค่ะ ทีนี้ก็รอลุ้นล่ะ เครียดน้อยลงนิดนึง เพราะคิดว่าที่ตอบไปก็ชัดเจนนะ ตอบไม่ผิดสักข้อ ทำแผนมาดีก็งี้ ฮ่าๆๆ
(ต้องขอบคุณพี่สาวที่คอยช่วยทำให้แผนเราค่อนข้างละเอียดมากๆค่ะ) จริงๆเป็นคนเที่ยวแบบโนแพลนมาตลอด แต่อันนี้ต้องจริงจังหน่อย
ช่วงเวลาแห่งการรอคอย มันช่างยาวนานเหลือเกิ๊นนน
(ไหนว่าไม่เครียดแล้วไง) 5555
อินี่เช็คสถานะEMS ตั้งแต่วันที่13เย็นๆเลยค่ะ เช็คทุกวันเช้าบ่าย จนเมื่อวันที่16ที่ผ่านมา ในระบบขึ้นว่า เตรียมการนำจ่าย
กรี๊ดดดดดดดดดดดด วันหวยออกอีกกกกกกก ลุ้นมันไปซะทุกอย่าง >///<
ตัดภาพไปตอนรู้ผลเลยนะคะ
.. และแล้วนางก็มาจ้าาาาา เปิดซองออกดู เห็นเล่มตัวเอง พร้อมกระดาษเล็กๆแนบมา
เอาว่ะ !!! เปิด
กรี๊ดดดดดดดดดด
ผ่านแล้วจ้าาาาาา
ไวมากๆเลย แค่4วันก็รู้ผลแล้ววววว แถมให้มาเกินที่ขอด้วย ขอไป11วัน ให้มาตั้งเดือนนึง
ขอบคุณมากๆเลยค่าาา ความฝันของอีช้อยเป็นจริงล้าววว
แล้วเจอกันนะคะกัปตัน กรี๊ดดดด
ไม่คิดจริงๆว่าผู้ชายคนเดียว(ที่แต่งงานและมีลูกมีเมียแล้วด้วย) จะให้เราต้องดั้นด้นพยายามไปหาเค้าได้ถึงขนาดนี้
แม้ว่าอาจจะกลับมาแบบล้มละลายก็ยอม 555 (เดือนพ.ค.ยังมีทริปญี่ปุ่นต่อ) บอกทีว่าฉั๊นจะรอดดด
แต่ถามตัวเองหลายรอบมากเลยว่าถ้าไม่ได้ดูลาห์มเล่นฟุตบอลไปอีกตลอดชีวิตจะเสียใจมั๊ย ตอบได้เลยว่าเสียใจแน่ๆ
จากคนที่เคยเกลียดฟุตบอลมาตลอด เจอกัปตันเข้าให้เปลี่ยนชีวิตเราไปเลย
ดีใจมากๆ : ) ขอให้ทุกคนที่กำลังจะยื่นเชงเก้นโชคดีทุกคนนะค๊าาา