สวัสดีอีกครั้งครับ วันนี้ผมก็จะมาเล่าเรื่องที่เคยเจอมาให้ได้ฟังกันอีกครั้ง แล้วก็เหมือนในทุกๆครั้งที่ผมต้องขอบอกว่าเรื่องทั้งหมดที่ทุกท่านกำลังจะได้อ่านนั้นเป็นเรื่องของ ‘ความเชื่อส่วนบุคคล’ ซึ่งทุกท่านมีสิทธิ์ที่จะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ได้ และผมก็ไม่ได้มีเจตนาจะมอมเมาหรือหลอกลวงอะไร หากเรื่องราวต่อไปนี้ขัดกับความรู้สึกหรือความเชื่อของผู้อ่าน ผมต้องขอโทษด้วย และขอให้อ่านเพียงเพื่อความบันเทิงเท่านั้น
เรื่องนี้เกิดขึ้นตอนที่ผมได้ไปเที่ยวต่างจังหวัดกับเพื่อนเก่าของผมในช่วงปิดเทอมของมหาวิทยาลัย เพื่อนกลุ่มนี้ไม่ได้เรียนที่เดียวกันแต่ก็ยังคงติดต่อกันเสมอ เราสนิทกันมาตั้งแต่เด็กๆจนถึงตอนนี้เรามักจะนัดเจอกันเป็นปกติในช่วงวันหยุดยาวหรือช่วงเทศกาลต่างๆ
ปกติพวกเราจะนัดเจอกันที่บ้านของเพื่อนคนหนึ่งในกลุ่ม แต่ครั้งนั้นเราว่างมากกว่าทุกครั้งเลยนัดกันว่าอยากจะไปเที่ยวต่างจังหวัดกันหลังจากที่ไม่ได้ไปมานาน โดยขับกันไปเองเหมือนที่เราเคยไปกัน
เรามารวมตัวกันที่บ้านของเพื่อนคนนั้นก่อน เราทำอาหารกินกันอย่างสนุกสนานเพราะพวกเราชอบทำอาหารกันอยู่แล้วจนเวลาดึกๆหน่อยเราก็เริ่มออกเดินทางกันโดยที่ในคืนนั้นเราไม่ได้ดื่มแอลกอฮอล์กันเลยเพราะรู้ดีว่าต้องขับรถ แถมตำรวจยังเข้มขึ้นกว่าแต่ก่อน
เรานัดกันจะไปเที่ยวทะเลจึงขับรถลงใต้ไปยังที่ที่แพลนกันไว้ ตลอดการเดินทางเราผลัดกันขับผลัดกันปลุกชวนคุยกันไปตลอดทางอย่างสนุกสนานในวันนั้นเราเดินทางไปทั้งหมด 4 คน มี ผม เอ บี และแฟนของบี
เราค่อยๆขับไปตามทางเรื่อยๆแวะตามที่ที่เราอยากแวะตลอดทางเพราะเวลาที่มีเหลือเฟือเราไม่ได้อยากจะไปเที่ยวทะเลอะไรกันขนาดนั้นเอาตรงๆคือแค่อยากไปนั่งเอาบรรยากาศเปลี่ยนที่กินกันเท่านั้น
เรามาถึงที่พักที่บีเป็นคนจองไว้ล่วงหน้า ที่พักของเราเป็นโรงแรมที่ตกแต่งแบบสมัยใหม่ผสมกับวัฒนธรรมพื้นบ้านเก่าๆ ตัวโรงแรมนั้นถูกตกแต่งด้วยกระเบื้องสวยงามดูแล้ใหม่มากโซฟาประตูด้านหน้าดูหรูหรากว่าที่คิดไว้เพราะราคานั้นก็ไม่ได้แพงมากหรืออาจเพราะเราไม่ได้ไปในช่วงที่ผู้คนนิยมเที่ยวหรือเปล่าก็ไม่แน่ใจ
เรามัวชื่นชมกับด้านหน้าของโรงแรมจนไม่ได้สังเกตเห็นว่ารอบนอกนั้นตกแต่งไปด้วยต้นไม้หลายชนิดคล้ายกับบ้านสวนผมไม่รู้ว่ามันจะเรียกว่ารีสอร์ทได้ไหมแต่ในสายตาผมดูเหมือนโรงแรมมากกว่า เราเช็คอินเข้าที่พักด้วยความรวดเร็ว เมื่อเดินผ่านตามทางมาจากหน้าเคาน์เตอร์ก็เห็นว่าโรงแรมนี้แบ่งออกเป็นส่วนๆเป็นตึกต่างๆอีก
ห้องที่เราจองไว้นั้นอยู่ที่ปีกด้านหนึกของที่พักซึ่งแยกออกจากอีกฝั่งการตกแต่งนั้นต่างกันโดยสิ้นเชิงเหมือนเตรียมไว้สำหรับรสนิยมของผู้เข้าพักแต่ละคน บีจองฝั่งที่ตกแต่งแบบโบราณเพราะความชอบของพวกเราซึ่งมันก็ถูกใจพวกเราอย่างมากจริงๆ
ตลอดทางเดินนั้นเปลี่ยนจากพื้นกระเบื้องสีขาวสะอาดสวยงามเป็นพื้นไม้ขัดเงาวาวไปตลอดทางเดิน สองฝั่งกำแพงตกแต่งด้วยเครื่องปั้นดินเผาของสะสมหลายอย่าง เราเดินไปตามทางจนมาถึงห้องพักโดยมต้องนอนกับเอ ส่วนบีพักกับแฟนตัวเองตามปกติ
เราเก็บของเสร็จแล้วก็ไม่ได้พักก่อนเพราะเตรียมจะไปเดินเที่ยวที่ริมทะเลกัน เพราะในตอนกลางคืนนั้นเรากะว่าจะมาทำอะไรปิ้งย่างกินกันเพราะที่นี่มีเซอร์วิสในส่วนนี้ให้ด้วยแต่ต้องจ่ายเพิ่ม
ผมกับเอเดินออกมารอก่อนที่หน้าทางเดินเพราะแฟนของบีขออาบน้ำก่อน ด้วยความสงสัยผมจึงเดินไปทั่วๆบริเวณ ที่นี่นับว่าสวยมากในสายตาผมแต่รสนิยมของเจ้าของออกจะน่ากลัวไปสักหน่อยเพราะของที่นำมาตกแต่งนั้นเป็น ของเก่า ทั้งหมดทุกชิ้นดูมีอายุและประวัติของตัวเอง
ผมเดินผ่านเข้าไปในส่วนที่จัดไว้เพื่อโชว์ของสะสมโดยเฉพาะ ของสะสมนั้นไม่ได้มีความจำเพาะเจาะจงอะไร เรียกว่าอะไรที่ดูเป็นของเก่าก็ดูจะถูกใจเจ้าของไปหมด ผมเดินดูของไปทีละชิ้น ทุกชิ้นสวยงามและน่าชม
‘น้องชอบหรอครับ’ พี่พนักงานที่กำลังทำความสะอาดอยู่ตรงนั้นทักผม
‘ครับ ก็สวยดีนะพี่ ของเก่าหมดเลยรึเปล่า’ ผมตอบไปตามมารยาท พี่ดูใจดีด้วยก็เลยไม่ปฏิเสธที่จะคุย
ผมคุยกับพี่เขาได้สักครู่หนึ่งก็เริ่มได้ข้อมูลหลายอย่างอาจเพราะเป็นคนชอบของแนวๆนี้เหมือนกันจึงคุยกันได้ง่าย จากคำบอกเล่าของพี่พนักงานได้ความว่าเจ้าของที่นี่ชอบสะสมของเก่าแต่ก็ไม่อยากเอาไว้ที่บ้านเฉยๆเลยเอามาจัดตกแต่งที่นี่เสียเลย ตัวพี่เองก็ชอบเลยได้รับผิดชอบมาดูแลของพวกนี้นอกจากงานประจำ พี่เขาก็โอเคเพราะว่าชอบอยู่แล้วแถมได้เงินเพิ่มอีก
ผมคุยกับพี่เขาต่ออีกหน่อยถามนู่นถามนี่ไปเรื่อยว่าอันนี้อะไรอันนั้นอะไร พี่เขากำชับว่าห้ามจับเพราะเจ้าของค่อนข้างหวงในบางชิ้นที่ดูแล้วน่าจะแพง ผมก็ไม่ถือวิสาสะจับต้องอะไรเพียงแค่ดูเท่านั้น แล้วเอ บี แล้วก็แฟนของบีก็เดินมาทางที่ผมอยู่พอดี
ทั้งสามคนเดินเข้ามาตามผมแต่พอเห็นของสะสมที่วางเรียงรายไว้ตรงนั้นก็เกิดความสนใจจึงหยุดดูสักครู่หนึ่ง ผมกับพี่พนักงานมัวคุยกันจนไม่ได้สังเกตเห็นว่าแฟนของบีที่กำลังตื่นเต้นกับของสะสมนั้นได้ไปหยิบเอาสร้อยคอเก่าๆเส้นหนึ่งขึ้นมาทาบคอเล่นอวดให้บีดูอย่างสนุกสนาน
‘เห้ยน้อง! ห้ามจับครับ ถ้าเสียหายพี่ลำบากเลยนะ’ พี่พนักงานตะโกนอย่างตกใจทันทีที่มองไปเห็น
‘ขอโทษค่ะๆ’ แฟนของบีรีบวางของในมือไว้ที่เดิม
ด้วยความตกใจและรีบร้อนจนไม่ระมัดระวังของในมือจึงร่วงลงไปกับพื้นอย่างจัง พวกเราหน้าซีดกันไปตามๆกันเพราะคิดว่าน่าจะเกิดความเสียหายขึ้น แต่คนที่ตกใจกว่าและรีบวิ่งเข้าไปคือพี่พนักงานคนเดิม
พี่พนักงานหยิบสร้อยคอทองเหลือเก่าๆเส้นนั้นข้นมาในทันทีหันซ้ายหันขวาเพราะกลัวว่าถ้าใครมาเห็นเข้าแกคงต้องรับผิดชอบเรื่องในครั้งนี้แน่ๆ เมื่อสำรวจดูความเสียหายของสร้อยเส้นนั้นแล้วก็พบว่าตรงที่เป็นพลอยนั้นมีส่วนหนึ่งหลุดหายไป ผมรีบเดินเข้าไปดูแต่ก็ไม่สามารถสังเกตเห็นจุดที่เสียหายไปนั้นของสร้อยเส้นนี้ได้เลย
พี่พนักงานบอกว่ามันเป็นแค่จุดเล็กๆถ้าไม่สังเกตจริงๆไม่คุ้นเคยจะไม่รู้หรอก แต่เจ้านายของแกเนี่ยเป็นคนละเอียดแล้วก็หวงของมากไม่น่าจะหลุดรอดสายตาไปได้ ตอนนี้แฟนของบีเริ่มมีน้ำตาคลอให้เห็นเพราะกลัวว่าตัวเองจะต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น
พี่พนักงานหน้านิ่วคิ้วขมวดอยู่ไม่นานก็เสนอความคิดว่า ถ้าให้พวกเรารับผิดชอบเนี่ยอย่างไรเสียพี่เขาก็ต้องโดนไปด้วยเพราะดูแลข้าวของไม่ดี ข้อเสนอของพี่เขาคือให้พวกเราช่วยกันตามหาพลอยที่มันหลุดหายไปให้เจอโดยที่พี่เขาจะไปดูลาดเลาว่าวันนี้เจ้านายเข้ามาที่โรงแรมหรือเปล่า
เรารีบหากันอย่างเต็มที่เพียงไม่นานเราก็เจอพลอยชิ้นนั้นที่กระเด็นไปอยู่ใต้ตู้หลังหนึ่ง เมื่อพี่พนักงานกลับมาก็ดูดีใจมากแล้วบอกว่าวันนี้เจ้านายไม่ได้เข้ามา พี่เขาจะเอาสร้อยเส้นนี้ไปซ่อมกับนายช่างด้านของเก่าเจ้าหนึ่งที่เป็นเจ้าประจำของนายแก น่าจะไม่มีปัญหาอะไร เราได้ร่วมทุนค่าซ่อมให้กับพี่เขาไปด้วยเพราะมันเป็นความผิดของพวกผม
เราออกมาเที่ยวข้างนอกกันเพื่อรอให้ถึงตอนค่ำ แฟนของบีตอนนี้เริ่มกลับมาปกติแล้วหลังจากที่พี่พนักงานโทรมาบอกว่าทุกอย่างเรียบร้อยดีแล้วไม่น่าจะมีปัญหาอะไรตามมาแน่นอน
เราไปเที่ยวฆ่าเวลากันจนเย็นก็กลับเข้ามาที่พักพร้อมกับอาหารทะเลและเครื่องดื่มพอที่จะสังสรรค์กันได้ทั้ง 4 คน เราเอาของทั้งหมดไปวางไว้ตรงที่ที่โรงแรมจัดไว้ให้เพื่อจัดปาร์ตี้ จากนั้นเราก็เดินกลับมาที่ห้องพักเพื่ออาบน้ำเปลี่ยนชุดกันให้สบายตัวพร้อมกับมองหาพี่พนักงานคนเดิม
ในตอนนั้นเราไม่เจอพี่เขาได้แต่เดินไปตรงชั้นวางสร้อยเส้นนั้นที่เราทำตก เมื่อเดินไปถึงก็เห็นว่าสร้อยได้ถูกนำกลับมาวางไว้ที่เดิมแล้วในสภาพี่ดูไม่ออกเลยว่ามันแตกต่างจากเดิมตรงไหน เราเดินกลับห้องด้วยความสบายใจ
หลังจากอาบน้ำเปลี่ยนชุดเสร็จเราก็ออกมาพร้อมๆกันแล้วก็มองหาพี่พนักงานคนเดิมอีกครั้งแต่ก็ยังไม่เจอ เราจึงตัดใจแล้วเดินกลับไปตรงสนามหญ้าด้านหลังโรงแรมที่ใกล้ๆกับชายหาด
เราสังสรรค์กันอย่างสนุกสนานเพราะบรรยากาศที่เป็นใจลมเย็นๆจากทะเลโชยมาตลอดเวลา ไม่มีเสียงรถเสียงมอเตอร์ไซด์ขับผ่านไปมาให้รำคาญ ในคืนนั้นมีแค่สองสามกลุ่มเท่านั้นที่มาปาร์ตี้ตรงบริเวณนี้ ระหว่างที่เรากำลังสนุกนั้นเอก็เหลือบไปเห็นพี่พนักงานที่กำลังเดินตรงมาทางนี้พอดี
เอตะโกนเรียกให้พี่เขามานั่งสนุกด้วยกันเป็นการตอบแทนที่ช่วยเหลือพวกเรา ตอนแรกๆพี่เขาก็ปฏิเสธเพราะเกรงใจแล้วยิ่งเราเป็นลูกค้าด้วยแต่ด้วยความทู่ซี้ของไอ้เอพี่เขาก็ต้องยอมแพ้แล้วมานั่งกินด้วยกันโดยบอกว่าจะขอดื่มแค่แก้วเดียวพอวันนี้เหนื่อยแล้วอยากกลับไปนอน
ของรัก...นักสะสม
เรื่องนี้เกิดขึ้นตอนที่ผมได้ไปเที่ยวต่างจังหวัดกับเพื่อนเก่าของผมในช่วงปิดเทอมของมหาวิทยาลัย เพื่อนกลุ่มนี้ไม่ได้เรียนที่เดียวกันแต่ก็ยังคงติดต่อกันเสมอ เราสนิทกันมาตั้งแต่เด็กๆจนถึงตอนนี้เรามักจะนัดเจอกันเป็นปกติในช่วงวันหยุดยาวหรือช่วงเทศกาลต่างๆ
ปกติพวกเราจะนัดเจอกันที่บ้านของเพื่อนคนหนึ่งในกลุ่ม แต่ครั้งนั้นเราว่างมากกว่าทุกครั้งเลยนัดกันว่าอยากจะไปเที่ยวต่างจังหวัดกันหลังจากที่ไม่ได้ไปมานาน โดยขับกันไปเองเหมือนที่เราเคยไปกัน
เรามารวมตัวกันที่บ้านของเพื่อนคนนั้นก่อน เราทำอาหารกินกันอย่างสนุกสนานเพราะพวกเราชอบทำอาหารกันอยู่แล้วจนเวลาดึกๆหน่อยเราก็เริ่มออกเดินทางกันโดยที่ในคืนนั้นเราไม่ได้ดื่มแอลกอฮอล์กันเลยเพราะรู้ดีว่าต้องขับรถ แถมตำรวจยังเข้มขึ้นกว่าแต่ก่อน
เรานัดกันจะไปเที่ยวทะเลจึงขับรถลงใต้ไปยังที่ที่แพลนกันไว้ ตลอดการเดินทางเราผลัดกันขับผลัดกันปลุกชวนคุยกันไปตลอดทางอย่างสนุกสนานในวันนั้นเราเดินทางไปทั้งหมด 4 คน มี ผม เอ บี และแฟนของบี
เราค่อยๆขับไปตามทางเรื่อยๆแวะตามที่ที่เราอยากแวะตลอดทางเพราะเวลาที่มีเหลือเฟือเราไม่ได้อยากจะไปเที่ยวทะเลอะไรกันขนาดนั้นเอาตรงๆคือแค่อยากไปนั่งเอาบรรยากาศเปลี่ยนที่กินกันเท่านั้น
เรามาถึงที่พักที่บีเป็นคนจองไว้ล่วงหน้า ที่พักของเราเป็นโรงแรมที่ตกแต่งแบบสมัยใหม่ผสมกับวัฒนธรรมพื้นบ้านเก่าๆ ตัวโรงแรมนั้นถูกตกแต่งด้วยกระเบื้องสวยงามดูแล้ใหม่มากโซฟาประตูด้านหน้าดูหรูหรากว่าที่คิดไว้เพราะราคานั้นก็ไม่ได้แพงมากหรืออาจเพราะเราไม่ได้ไปในช่วงที่ผู้คนนิยมเที่ยวหรือเปล่าก็ไม่แน่ใจ
เรามัวชื่นชมกับด้านหน้าของโรงแรมจนไม่ได้สังเกตเห็นว่ารอบนอกนั้นตกแต่งไปด้วยต้นไม้หลายชนิดคล้ายกับบ้านสวนผมไม่รู้ว่ามันจะเรียกว่ารีสอร์ทได้ไหมแต่ในสายตาผมดูเหมือนโรงแรมมากกว่า เราเช็คอินเข้าที่พักด้วยความรวดเร็ว เมื่อเดินผ่านตามทางมาจากหน้าเคาน์เตอร์ก็เห็นว่าโรงแรมนี้แบ่งออกเป็นส่วนๆเป็นตึกต่างๆอีก
ห้องที่เราจองไว้นั้นอยู่ที่ปีกด้านหนึกของที่พักซึ่งแยกออกจากอีกฝั่งการตกแต่งนั้นต่างกันโดยสิ้นเชิงเหมือนเตรียมไว้สำหรับรสนิยมของผู้เข้าพักแต่ละคน บีจองฝั่งที่ตกแต่งแบบโบราณเพราะความชอบของพวกเราซึ่งมันก็ถูกใจพวกเราอย่างมากจริงๆ
ตลอดทางเดินนั้นเปลี่ยนจากพื้นกระเบื้องสีขาวสะอาดสวยงามเป็นพื้นไม้ขัดเงาวาวไปตลอดทางเดิน สองฝั่งกำแพงตกแต่งด้วยเครื่องปั้นดินเผาของสะสมหลายอย่าง เราเดินไปตามทางจนมาถึงห้องพักโดยมต้องนอนกับเอ ส่วนบีพักกับแฟนตัวเองตามปกติ
เราเก็บของเสร็จแล้วก็ไม่ได้พักก่อนเพราะเตรียมจะไปเดินเที่ยวที่ริมทะเลกัน เพราะในตอนกลางคืนนั้นเรากะว่าจะมาทำอะไรปิ้งย่างกินกันเพราะที่นี่มีเซอร์วิสในส่วนนี้ให้ด้วยแต่ต้องจ่ายเพิ่ม
ผมกับเอเดินออกมารอก่อนที่หน้าทางเดินเพราะแฟนของบีขออาบน้ำก่อน ด้วยความสงสัยผมจึงเดินไปทั่วๆบริเวณ ที่นี่นับว่าสวยมากในสายตาผมแต่รสนิยมของเจ้าของออกจะน่ากลัวไปสักหน่อยเพราะของที่นำมาตกแต่งนั้นเป็น ของเก่า ทั้งหมดทุกชิ้นดูมีอายุและประวัติของตัวเอง
ผมเดินผ่านเข้าไปในส่วนที่จัดไว้เพื่อโชว์ของสะสมโดยเฉพาะ ของสะสมนั้นไม่ได้มีความจำเพาะเจาะจงอะไร เรียกว่าอะไรที่ดูเป็นของเก่าก็ดูจะถูกใจเจ้าของไปหมด ผมเดินดูของไปทีละชิ้น ทุกชิ้นสวยงามและน่าชม
‘น้องชอบหรอครับ’ พี่พนักงานที่กำลังทำความสะอาดอยู่ตรงนั้นทักผม
‘ครับ ก็สวยดีนะพี่ ของเก่าหมดเลยรึเปล่า’ ผมตอบไปตามมารยาท พี่ดูใจดีด้วยก็เลยไม่ปฏิเสธที่จะคุย
ผมคุยกับพี่เขาได้สักครู่หนึ่งก็เริ่มได้ข้อมูลหลายอย่างอาจเพราะเป็นคนชอบของแนวๆนี้เหมือนกันจึงคุยกันได้ง่าย จากคำบอกเล่าของพี่พนักงานได้ความว่าเจ้าของที่นี่ชอบสะสมของเก่าแต่ก็ไม่อยากเอาไว้ที่บ้านเฉยๆเลยเอามาจัดตกแต่งที่นี่เสียเลย ตัวพี่เองก็ชอบเลยได้รับผิดชอบมาดูแลของพวกนี้นอกจากงานประจำ พี่เขาก็โอเคเพราะว่าชอบอยู่แล้วแถมได้เงินเพิ่มอีก
ผมคุยกับพี่เขาต่ออีกหน่อยถามนู่นถามนี่ไปเรื่อยว่าอันนี้อะไรอันนั้นอะไร พี่เขากำชับว่าห้ามจับเพราะเจ้าของค่อนข้างหวงในบางชิ้นที่ดูแล้วน่าจะแพง ผมก็ไม่ถือวิสาสะจับต้องอะไรเพียงแค่ดูเท่านั้น แล้วเอ บี แล้วก็แฟนของบีก็เดินมาทางที่ผมอยู่พอดี
ทั้งสามคนเดินเข้ามาตามผมแต่พอเห็นของสะสมที่วางเรียงรายไว้ตรงนั้นก็เกิดความสนใจจึงหยุดดูสักครู่หนึ่ง ผมกับพี่พนักงานมัวคุยกันจนไม่ได้สังเกตเห็นว่าแฟนของบีที่กำลังตื่นเต้นกับของสะสมนั้นได้ไปหยิบเอาสร้อยคอเก่าๆเส้นหนึ่งขึ้นมาทาบคอเล่นอวดให้บีดูอย่างสนุกสนาน
‘เห้ยน้อง! ห้ามจับครับ ถ้าเสียหายพี่ลำบากเลยนะ’ พี่พนักงานตะโกนอย่างตกใจทันทีที่มองไปเห็น
‘ขอโทษค่ะๆ’ แฟนของบีรีบวางของในมือไว้ที่เดิม
ด้วยความตกใจและรีบร้อนจนไม่ระมัดระวังของในมือจึงร่วงลงไปกับพื้นอย่างจัง พวกเราหน้าซีดกันไปตามๆกันเพราะคิดว่าน่าจะเกิดความเสียหายขึ้น แต่คนที่ตกใจกว่าและรีบวิ่งเข้าไปคือพี่พนักงานคนเดิม
พี่พนักงานหยิบสร้อยคอทองเหลือเก่าๆเส้นนั้นข้นมาในทันทีหันซ้ายหันขวาเพราะกลัวว่าถ้าใครมาเห็นเข้าแกคงต้องรับผิดชอบเรื่องในครั้งนี้แน่ๆ เมื่อสำรวจดูความเสียหายของสร้อยเส้นนั้นแล้วก็พบว่าตรงที่เป็นพลอยนั้นมีส่วนหนึ่งหลุดหายไป ผมรีบเดินเข้าไปดูแต่ก็ไม่สามารถสังเกตเห็นจุดที่เสียหายไปนั้นของสร้อยเส้นนี้ได้เลย
พี่พนักงานบอกว่ามันเป็นแค่จุดเล็กๆถ้าไม่สังเกตจริงๆไม่คุ้นเคยจะไม่รู้หรอก แต่เจ้านายของแกเนี่ยเป็นคนละเอียดแล้วก็หวงของมากไม่น่าจะหลุดรอดสายตาไปได้ ตอนนี้แฟนของบีเริ่มมีน้ำตาคลอให้เห็นเพราะกลัวว่าตัวเองจะต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น
พี่พนักงานหน้านิ่วคิ้วขมวดอยู่ไม่นานก็เสนอความคิดว่า ถ้าให้พวกเรารับผิดชอบเนี่ยอย่างไรเสียพี่เขาก็ต้องโดนไปด้วยเพราะดูแลข้าวของไม่ดี ข้อเสนอของพี่เขาคือให้พวกเราช่วยกันตามหาพลอยที่มันหลุดหายไปให้เจอโดยที่พี่เขาจะไปดูลาดเลาว่าวันนี้เจ้านายเข้ามาที่โรงแรมหรือเปล่า
เรารีบหากันอย่างเต็มที่เพียงไม่นานเราก็เจอพลอยชิ้นนั้นที่กระเด็นไปอยู่ใต้ตู้หลังหนึ่ง เมื่อพี่พนักงานกลับมาก็ดูดีใจมากแล้วบอกว่าวันนี้เจ้านายไม่ได้เข้ามา พี่เขาจะเอาสร้อยเส้นนี้ไปซ่อมกับนายช่างด้านของเก่าเจ้าหนึ่งที่เป็นเจ้าประจำของนายแก น่าจะไม่มีปัญหาอะไร เราได้ร่วมทุนค่าซ่อมให้กับพี่เขาไปด้วยเพราะมันเป็นความผิดของพวกผม
เราออกมาเที่ยวข้างนอกกันเพื่อรอให้ถึงตอนค่ำ แฟนของบีตอนนี้เริ่มกลับมาปกติแล้วหลังจากที่พี่พนักงานโทรมาบอกว่าทุกอย่างเรียบร้อยดีแล้วไม่น่าจะมีปัญหาอะไรตามมาแน่นอน
เราไปเที่ยวฆ่าเวลากันจนเย็นก็กลับเข้ามาที่พักพร้อมกับอาหารทะเลและเครื่องดื่มพอที่จะสังสรรค์กันได้ทั้ง 4 คน เราเอาของทั้งหมดไปวางไว้ตรงที่ที่โรงแรมจัดไว้ให้เพื่อจัดปาร์ตี้ จากนั้นเราก็เดินกลับมาที่ห้องพักเพื่ออาบน้ำเปลี่ยนชุดกันให้สบายตัวพร้อมกับมองหาพี่พนักงานคนเดิม
ในตอนนั้นเราไม่เจอพี่เขาได้แต่เดินไปตรงชั้นวางสร้อยเส้นนั้นที่เราทำตก เมื่อเดินไปถึงก็เห็นว่าสร้อยได้ถูกนำกลับมาวางไว้ที่เดิมแล้วในสภาพี่ดูไม่ออกเลยว่ามันแตกต่างจากเดิมตรงไหน เราเดินกลับห้องด้วยความสบายใจ
หลังจากอาบน้ำเปลี่ยนชุดเสร็จเราก็ออกมาพร้อมๆกันแล้วก็มองหาพี่พนักงานคนเดิมอีกครั้งแต่ก็ยังไม่เจอ เราจึงตัดใจแล้วเดินกลับไปตรงสนามหญ้าด้านหลังโรงแรมที่ใกล้ๆกับชายหาด
เราสังสรรค์กันอย่างสนุกสนานเพราะบรรยากาศที่เป็นใจลมเย็นๆจากทะเลโชยมาตลอดเวลา ไม่มีเสียงรถเสียงมอเตอร์ไซด์ขับผ่านไปมาให้รำคาญ ในคืนนั้นมีแค่สองสามกลุ่มเท่านั้นที่มาปาร์ตี้ตรงบริเวณนี้ ระหว่างที่เรากำลังสนุกนั้นเอก็เหลือบไปเห็นพี่พนักงานที่กำลังเดินตรงมาทางนี้พอดี
เอตะโกนเรียกให้พี่เขามานั่งสนุกด้วยกันเป็นการตอบแทนที่ช่วยเหลือพวกเรา ตอนแรกๆพี่เขาก็ปฏิเสธเพราะเกรงใจแล้วยิ่งเราเป็นลูกค้าด้วยแต่ด้วยความทู่ซี้ของไอ้เอพี่เขาก็ต้องยอมแพ้แล้วมานั่งกินด้วยกันโดยบอกว่าจะขอดื่มแค่แก้วเดียวพอวันนี้เหนื่อยแล้วอยากกลับไปนอน