
อัมพวา ไปกันได้ง่ายๆ แค่18บาท ก็ถึงแล้ว!
18บาท.. ทำอะไรได้? อ๋อ!ไปอำพวาไง!!!!
กระทู้รีวิวทั้งหมดของพวกเรา
ฝากติดตามพวกเราด้วยนะครับ
⁃ Facebook :
https://www.facebook.com/lifewithmuay/
- Instragram : @Lifewithmuay
⁃ Youtube :
https://goo.gl/QKlQKg
เอ้า! เอาเรื่องจริงมาล้อเล่น
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ แค่18บาท จากกรุงเทพ ก็สามารถเดินทางไปถึงอัมพวาได้จริงๆนะ!
ตอนไปเองจริงๆก็แอบตกใจอยู่เหมือนกัน เพราะมันถูกม๊าก!!
สรุปการเดินทางฉบับย่อ.. เผื่อใครขี้กียจอ่าน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้นั่งรถไฟ สายวงเวียนใหญ่-มหาชัย ฟรี(เฉพาะคนไทย) 0บาท
นั่งเรือข้ามฟาก มหาชัย-ท่าฉลอม 3บาท
นั่งรถไฟสายบ้านแหลม-แม่กลอง ฟรี(เฉพาะคนไทย) 0บาท
แวะเที่ยวเล่นตลาดร่มหุบแปปนึง 0 บาท(ถ้าไม่กินอะไรนะ)
ต่อรถเมล(พัดลม) สายอัมพวา-บางนกแขวก 15บาท
แต๊แด๊น! ถึงอัมพวาแล้วจ้า!!!
(ส่วนถ้าใครกลัวลำบากก็มารถตู้ละกันนะ คนละ80บาทจ้า)
ถ้าใครพร้อมแล้วสำหรับฉบับเต็มก็ไปดูกันเล๊ย!

เริ่มต้นด้วยกันที่ สถานีรถไฟวงเวียนใหญ่
สายรถไฟนี้ไม่ใช่สายที่ต่อจากหัวลำโพงนะ ระวังไปผิดหละ
สายนี้เป็นสายที่แยกต่างหากออกมา การเดินทางไปสายนี้ง่ายๆเลยคือ เราสามารถขึ้น BTS ไปลงที่สถานีวงเวียนใหญ่แล้วต่อรถไปสถานีรถไฟหรือจะเดินก็ประมาณ12นาที(ดูgoogle mapเอา)

จากนั้นไปที่ช่องขายตั๋ว ยื่นบัตรประชาชนเพื่อแลกตั๋วรถไฟ
เพราะตอนที่เราไปคนไทยขึ้นฟรีจ้า!

ระหว่างทางตอนเช้าอากาศเย็นนนน ชาวบ้านก็มักจะใช้ชีวิตตามปกติ
จริงๆรถไฟก็เป็นการขนส่งที่อยู๋กับคนไทยมานานมากๆเลยนะ จนนับได้ว่าชาวบ้านที่อยู่ติดทางรถไฟจะมีวิถีชีวิตในอีกรูปแบบหนึ่งเลยก็ว่าได้







การเดินทางใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงก็มาถึงที่มหาชัยพอดี

ออกจากสถานีมหาชัย เดินทะลุไปทางตลาดเพื่อขึ้นเรือข้ามฟากไปสถานีรถไฟบ้านแหลมต่อ

ถ้ากลัวหาไม่เจอให้ถามชาวบ้านดูก็ได้ว่าเรือข้ามฟากไปทางไหน
จุดสังเกตชัดๆคือหอนาฬิกา เรือข้ามฟากจะอยู่บริเวณเดียวกับหอนาฬิกาเลย
ค่าเรือข้ามฟากอยู่ที่ คนละ 3 บาท เพื่อต่อไปยังรถไฟสายบ้านแหลม-แม่กลอง

ขึ้นได้ทั่งคนทั้งรถเลยนะ

ลงจากเรือแล้วเดินตออีกนิดไปยัง”สถานีรถไฟบ้านแหลม” นั่งรถไฟสายบ้านแหลม-แม่กลอง
เราจะไปที่ตลาดร่มหุบกันก่อน!!(เพราะมันผ่าน!)

เราสามารถรับตั๋วรถไฟ(ฟรีอีกแล้ว)จากสถานีบ้านแหลมได้ด้วยการยื่นบัตรประชาชนเพื่อแสดงความเป็นคนไทยได้เช่นกัน


ภาพบริเวณโดยรอบ

รถไฟมาแล้ว ขึ้นรถไฟกัน!

แต่มีป้าแวะมาขายไอติมกะทิ งั้นซื้อไอติมกะทิก่อนก็ได้ แฮ่!


นั่งรถไฟชมบรรยากาศข้างทางไปด้วย เพลินๆ ลมเย็นๆ แต่แดดร้อนๆ..

แล้วก็หลับด้วย..

โผล่มาอีกทีก็ตลาดร่มหุบแล้วจ้า! ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง(สถานนีแม่กลองสุดสายเลยนะ)
ขณะที่เราเข้าสถานีรถไฟ ก็จะผ่านตลาดร่มหุบ เราก็เจะเห็นพ่อค้าแม่ค้ายืนหุบร่มอยู่ระหว่างเข้าสถานี(เพราะเราอยู่บนรถไฟ)


ในระหว่าที่รถไฟจอดรอออกจากสถานี(สักพักนึง) แม่ค้าก็จะกางตลาดออกมาขายอีกครั้ง
จากนั้นเราก็ลงรถไฟเดินไปรอจังหวันที่รถไฟจะออกจากสถานี เราก็ยืนหาทำเลเหมาะๆ จะได้รอดูตลาดร่มหุบกันสมใจ
พอได้ยิน หวูดรถไฟ พ่อค้าแม่ค้าก็เริ่มทำการพับร่ม เก็บของ เตรียมให้รถไฟผ่าน

แว๊บบ! เก็บละจ้า

และแล้วรถไฟก็มาแล้วจ้า..
รอรถไฟไป แล้วเดินเล่นอีกนิด แล้วหารถต่อไปยังอัมพวากัน

เราเลือกที่จะเดินทางด้วยรถเมล์ของที่นี่เลย แท๊แด่! หน้าตาแบบนี้เลยที่เดียว
รถพัดลม ความร้อนไม่ต้องพูดถึง.. ร้อนมาก ราคา15บาทเท่านั้น อย่าลืมแจ้งพี่คนขับว่าลงตรงตลาดน้ำอัมพวาด้วยนะ

ลุงคนขับรถเมล์..

นั่งแว๊บนึงก็ถึงแล้วจ้า.. อัมพวาาาาาาา เป็นไงหละ 18 บาทก็ถึงจริงๆนะ!

จัดการเดินหาที่พัก
เราได้พักกันที่บ้านรักอัมพวา ราคาห้องละ 1200บาท รวมอาหารเช้าเย็น


บรรยากาศโดยรอบ..
จัดการเก็บของ เดินถ่ายรูปอีกนิดหน่อยแล้วไปไหว้พระกัน!

ที่อัมพวาจะมีบริการเรือนำเที่ยวออกเป็นรอบๆ ไปทั้งหมด 5 วัด ค่านั่งเรือคนละ 50 บาทออกเป็นรอบๆ
มีให้บริการหลายๆเจ้า ซึ่งก็น่าจะเหมือนกันหมด







และยังมีเรือชมหิ่งห้อยด้วยนะ ค่าบริการคนละ 60 บาท ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
แต่เรือชมหิ่งห้อยต้องมาช่วงมืดไปแล้ว ซึ่งเราก็ไปมาทั้งสองที่เลย
เราไปไหว้พระเสร็จจึงกลับมาทานอาหาร ทานเสร็จก็ถึงเวลาไปชมหิ่งห้อยพอดี หิ่งห้อยช่วงที่เราไปถือว่ามีเยอะมากกกกกกกกกก แต่เสียดาย เราถ่ายรูปมาให้ดูไม่ได้จริงๆ ไว้ไปดูเองนะจ๊ะ

วาร์ปมารุ่งเช้าอีกวันหนึ่ง..

ที่พักเราจะมีให้ใส่บาตรตอนเช้าด้วย เค้าจะถามเราตั้งแต่ตอนเช็คอินแล้วว่าจะใส่บาตรด้วยมั้ย(คิดเพิ่มไป120บาทต่อครั้ง)

จะมีพระแจวเรือมารับบิณฑบาตรที่หน้าชาญเลย

กลับไปนอนแล้วลมาทานอาหารเช้า เสร็จแล้ว เราก็ว่าจะไปเที่ยวต่อ

เราตัดสินใจไปที่โบสถ์ที่เรียกว่า อาสนวิหารแม่พระบังเกิด บางนกแขวก โดยการนั่งรถเมล์แบบเมื่อวานไปคนละ15 บาทเช่นเดิม ร้อนเหมือนเดิม!!!!!

ตอนขึ้นอย่าลืมบอกพี่คนขับว่าลงตรงหน้าอาสนวิหารแม่พระบังเกิดนะจ๊ะ เดี๋ยวเลยนะเฮ่ย

ถึงด้านหน้าก็เจอเจ้าหน้าที่ปฎิบัติงานอย่างเคร่งครัดเลย

โบสถ์นี้งสร้างขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2433 เลยนะ มีความเก่าแก่และสวยงามอย่างมาก



จากนั้นเราจึงกลับมาที่ตลาดน้ำบางน้อย ตลาดนี้มีความคล้ายตลาดน้ำอัมพวา แต่จะมีความเงียลสงบอยู่มาก

ที่นี่มีอาหารโบราณที่ชื่อ “โรตีแต้จิ๋ว” ที่หลายคนบอกว่าต้องลองทาน
เป็นแผ่นเป้งข้างในใส้ถั่ว งา และน้ำตาล
แบบนี้..

สำหรับเรา เราวว่ามันออกจะหวานๆไปหน่อยแหละ.. เดินเล่นนู้นนี่อีกนิด แล้วกลับไปยังตลาดอัมพวาซื้อของฝากกันอีกนิดพร้อมกลับบ้านแล้ว

เรานั่งมอไซไปเพราะขี้เกียจรอ ก็..30บาท

ตลาดอัมพวาในวันนู้น..







ถนนเลียบ-นที ที่เราอ่านว่า เลีย-บน-ที 55555555555555555555555555555555555555

ขากลับเราเลือกที่จะกลับรถตู้ ด้วยเพราะเราต้องรีบกลับไปทำธุระ ราคาอยู่ที่80บาทต่อคนเท่านั้น ลงตรงสถานีขนส่งสายใต้เก่าเลยจ้า

กลับแล่วจ้าาา บ๊ายบ่ายยย
[CR] Life with Muay : อัมพวา ไปกันได้ง่ายๆ แค่18บาท ก็ถึงแล้ว!
อัมพวา ไปกันได้ง่ายๆ แค่18บาท ก็ถึงแล้ว!
18บาท.. ทำอะไรได้? อ๋อ!ไปอำพวาไง!!!!
ฝากติดตามพวกเราด้วยนะครับ
⁃ Facebook :https://www.facebook.com/lifewithmuay/
- Instragram : @Lifewithmuay
⁃ Youtube : https://goo.gl/QKlQKg
เอ้า! เอาเรื่องจริงมาล้อเล่น
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ แค่18บาท จากกรุงเทพ ก็สามารถเดินทางไปถึงอัมพวาได้จริงๆนะ!
ตอนไปเองจริงๆก็แอบตกใจอยู่เหมือนกัน เพราะมันถูกม๊าก!!
สรุปการเดินทางฉบับย่อ.. เผื่อใครขี้กียจอ่าน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
สายรถไฟนี้ไม่ใช่สายที่ต่อจากหัวลำโพงนะ ระวังไปผิดหละ
สายนี้เป็นสายที่แยกต่างหากออกมา การเดินทางไปสายนี้ง่ายๆเลยคือ เราสามารถขึ้น BTS ไปลงที่สถานีวงเวียนใหญ่แล้วต่อรถไปสถานีรถไฟหรือจะเดินก็ประมาณ12นาที(ดูgoogle mapเอา)
เพราะตอนที่เราไปคนไทยขึ้นฟรีจ้า!
จริงๆรถไฟก็เป็นการขนส่งที่อยู๋กับคนไทยมานานมากๆเลยนะ จนนับได้ว่าชาวบ้านที่อยู่ติดทางรถไฟจะมีวิถีชีวิตในอีกรูปแบบหนึ่งเลยก็ว่าได้
จุดสังเกตชัดๆคือหอนาฬิกา เรือข้ามฟากจะอยู่บริเวณเดียวกับหอนาฬิกาเลย
ค่าเรือข้ามฟากอยู่ที่ คนละ 3 บาท เพื่อต่อไปยังรถไฟสายบ้านแหลม-แม่กลอง
เราจะไปที่ตลาดร่มหุบกันก่อน!!(เพราะมันผ่าน!)
ขณะที่เราเข้าสถานีรถไฟ ก็จะผ่านตลาดร่มหุบ เราก็เจะเห็นพ่อค้าแม่ค้ายืนหุบร่มอยู่ระหว่างเข้าสถานี(เพราะเราอยู่บนรถไฟ)
จากนั้นเราก็ลงรถไฟเดินไปรอจังหวันที่รถไฟจะออกจากสถานี เราก็ยืนหาทำเลเหมาะๆ จะได้รอดูตลาดร่มหุบกันสมใจ
พอได้ยิน หวูดรถไฟ พ่อค้าแม่ค้าก็เริ่มทำการพับร่ม เก็บของ เตรียมให้รถไฟผ่าน
รอรถไฟไป แล้วเดินเล่นอีกนิด แล้วหารถต่อไปยังอัมพวากัน
รถพัดลม ความร้อนไม่ต้องพูดถึง.. ร้อนมาก ราคา15บาทเท่านั้น อย่าลืมแจ้งพี่คนขับว่าลงตรงตลาดน้ำอัมพวาด้วยนะ
เราได้พักกันที่บ้านรักอัมพวา ราคาห้องละ 1200บาท รวมอาหารเช้าเย็น
จัดการเก็บของ เดินถ่ายรูปอีกนิดหน่อยแล้วไปไหว้พระกัน!
มีให้บริการหลายๆเจ้า ซึ่งก็น่าจะเหมือนกันหมด
แต่เรือชมหิ่งห้อยต้องมาช่วงมืดไปแล้ว ซึ่งเราก็ไปมาทั้งสองที่เลย
เราไปไหว้พระเสร็จจึงกลับมาทานอาหาร ทานเสร็จก็ถึงเวลาไปชมหิ่งห้อยพอดี หิ่งห้อยช่วงที่เราไปถือว่ามีเยอะมากกกกกกกกกก แต่เสียดาย เราถ่ายรูปมาให้ดูไม่ได้จริงๆ ไว้ไปดูเองนะจ๊ะ
เป็นแผ่นเป้งข้างในใส้ถั่ว งา และน้ำตาล
แบบนี้..
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น