
ทริปภูกระดึง..
ทริปนี้เริ่มต้นด้วยหมวยเห็นเพื่อนคนนึงใน Facebook เดินขึ้นยอดภูช่วงปลายปีพร้อมแชร์ภาพใบเมเปิ้ลสีแดง
หมวยหาข้อมูลทันทีว่าใบไม้สีแดงเนี่ยจะมีถึงตอนไหน ไปค่ะ เราต้องรีบไปกัน
เราตั้งใจว่าจะเที่ยวภูกระดึงกัน 3วัน2คืนแล้วกลับกรุงเทพเลย..
ทริปนี้เราได้รับการสนับสนุนการเดินทางจาก Dtac ให้ไปทดลองสัญญาณบนภูกระดึง มาถึงข้างบนภูไม่คิดว่าดีแทคจะมีสัญญาณถึง4ขีด บนเขาสูงขนาดนี้ ขอบคุณมากๆนะครับ/ค่ะ
#DTAC #Betternetwork
ตัดภาพมาหารู้ไม่ว่า ฟ้าฝนรอถล่มเราอยู่ที่นั่น
ราคาทริปนี้คร่าวๆ
รถบัสหมอชิต-ผานกเค้า 1220 บาท
ทานข้าวซื้อของร้านเจ้กิม 130 บาท
รถแดงเข้าอุทยาน 60 บาท
ค่าเข้าอุทยาน 80 บาท
ค่าเช้าที่กางเต้นท์ 60 บาท(2คืน)
ค่าป้ายลูกหาบขาขึ้น 5บาท
ค่ากินระหว่างเดินขึ้น 75 บาท
ค่าเช่าเต้นท์ 330 บาท(2คืน)
ค่าเครื่องนอน 240 บาท (2คืน)
ค่าลูกหาบ 510 บาท(17กิโล)
ค่าอาหารเที่ยง 190 บาท
ค่าจักรยานไปผาหมากดูด 120 บาท
ข้าวเหนียวปิ้ง 30 บาท
ค่าอาหารเย็น 400 บาท
ค่าอาบน้ำอุ่น 70 บาท(1คน)
ค่าป้ายลูกหาบขาลง 5 บาท
ค่าอาหารเช้า 140 บาท
ค่าPost card 10 บาท
ค่ากินระหว่างเดินลง 70 บาท
ค่าลูกหาบ 300 บาท
รถแดงไปท่ารถภูกระดึง 60 บาท
ค่ารถเข้าเมืองเลย 98 บาท
ค่าที่พัก 790 บาท
ค่าหมูกระทะ 400 บาท
ค่าเบียร์ 100 บาท
ค่าข้าวเปียกปากหมา 70 บาท
ค่าเสต็กเชฟว่าน 500 บาท
ค่าเครื่องขากลับ 1804 บาท
รวมทุกอย่าง 7867/2คน หรือคนละ 3934 บาท(ไม่รวมค่าเดินทางขากลับนะ)
หรือ ไม่รวมค่ากิน 5752/2คน หรือคนละ 2876 บาท

วันแรก 22.00 น
เรามาเริ่มต้นกันที่ บขส. ขนส่งหมอชิต หารถไปลงที่ผานกเค้า เราเลือกจะไปของ บ.SUN BUS เพราะยี่ห้ออื่นเต็ม ฮ่าๆๆ แต่พอไปนั่งเออสบายดีเหมือนกัน ราคาอยู่ที่คนละ 610 บาท

เท่าที่สังเกตุ เกินครึ่งคัน ไปผานกเค้าหมดเลย
รถออกเดินทางวิ่งยาวไม่แวะพัก นอนเล่นโทรศัพท์ดูยูทูปเป็นการเทสเน็ต 4G ลื่นๆไปในตัว จนเผลอหลับไป แป็บเดียวก็มาถึงร้านเจ้กิม

เวลา 4.30 ร้านเจ้กิม
เท่าที่เราอ่านมา ภาพในหัวของร้านเจ้กิมคือ ร้านของชำร้านเล็กๆ อยู่ระหว่างทางขึ้นดอย เล็กๆหน่อย แต่ภาพจริงคือ.. ใหญ่จัง

ที่เราต้องมาร้านเจ้กิมนี้เพราะเป็นจุดลงรถเพื่อจะต่อรถแดงไปยังทางทางขึ้นภูกระดึงในส่วนที่เป็นอุทยาน

เราก็การล้างหน้าล้างตา เข้าห้องน้ำ ทานข้าวกันที่นี่เลย ที่นี่จะมีข้าวราดแกงขาย
ราคาอาหารอยู่ที่ กับข้าว2อย่าง35บาท กับข้าว3 อย่าง45บาท
ก็จัดกันมาคนละจาน

ทานข้าวไปรอเวลาไปจนหกโมงกว่าๆ ป้าที่ร้านเจ้กิมก็บอกว่าให้ไปขึ้นรถได้แล้ว เพราะถ้าสาย คนจะไม่ค่อยมีแล้วจะต้องเหมารถแดงไปต่อเอง

เวลา 6.15 ขึ้นรถแดงไปอุทยาน
เรามาถึงรถเป็น2คนสุดท้ายของคันพอดี

ค่ารถอยู่ที่คนละ 30บาท(10คนรถออก) แต่ถ้าคนจะเหมาก็คันละ 300 บาทนะ
รถก็ขับเข้าซอยไปเรื่อยๆ สัก 15 นาทีก็ถึง

เวลา 6.30 อุทยานแห่งชาติภูกระดึง
มาถึงด้วยความคึกและเต็มไปด้วยพลัง เห็นคนนั่งรอเต็มไปหมด เหมือนอุทยานจะเริ่มเปิดลงทะเบียนให้คนขึ้นประมาณ 7.00 น.
แต่สักพักคนก็เริ่มลุกไปต่อแถวรอ เราสองคนก็ลุกไปต่อบ้าง

แถวจะมีหลายทาง ลงทะเบียนมาแล้วหรือคนยังไม่ลงมา
สำหรับเราไม่ได้ลงทะเบียนมา เรามาเข้าช่องซ้ายสุดก่อน เป็นการจองที่กางเต้นท์ ราคาอยู่ที่หลังละ30บาท/คืน เราเลือก2คืน
จากนั้นไปต่อแถวที่แถวลงทะเบียนเข้าอุทยาน ราคาคนไทย ผู้ใหญ่คนละ 40บาท เด็ก20บาท ชาวต่างชาติผู้ใหญ่400 เด็ก200 ราคาอย่างโหดดดดดด!
แต่เราคนไทย2คน80บาทครับ
หลังจากนั้นไปเลือกเต้นท์กับพวกเครื่องนอนข้างบนเอา

จากนั้นสัมภาระเรานี่จะยังไงหละ..
ลูกหาบสิค้าบไม่ไหวหรอก
ที่นี่จะมีลูกหาบให้บริการ ราคากิโลละ30บาท คือเราจะนำสัมภาระไปชั่งตรงบริเวณตีนเขา แล้วจะได้ใบรับสัมภาระมา(ราคา5บาท) แล้วเค้าก็จะแบกขึ้นไปให้เรา ราคาเท่าไหร่ไปจ่ายข้างบน จากนั้นเดินตัวปลิวขึ้นไปได้เลย

เคยอ่านคนที่ขึ้นภูนี้มาก่อน ทุกคนบ่นโอดโอยกันเยอะมาก ส่วนทางเราอะหรอ หึหึ คิดในใจ เราแปปเดียวก็ถึงปะว้า ไม่เห็นจะยากอะไร
ไปสิเดินกัน ก่อนขึ้นก็แวะถ่ายรูปทั้งหมดแปปนึง

ด่านเราจะมีทั้งหมด 10 ด่าน ตอนยืนดูมันก็เฉยๆนะ ไม่คิดว่าจะไกลอะไรมากหรอก ไปเดินๆๆๆๆ

1กิโลแรก ปางกกค่า-ซำแฮก ก่อนเรามา มีคนบอกเราว่า ซึกแฮกอ่ะโหดสุดแล้ว ถ้าผ่านซำนี้ไปได้ สบายแล้วแหละ
อ่ะเดิน 1กิโลแรก อย่างชันนนนนน! ชันมาก ผ่านมาได้เล่นเอาเหนื่อยหอบ แต่ก็คิดใดในใจ ผ่านมาแล้วจากนี้ก็สบายละแหละ

ระหว่างจุดพักซำแต่ละซำจะมีร้านอาหารร้านน้ำ ห้องน้ำให้ใช้บริการด้วยนะ ป้าทุกคนกวักมือเรียกอย่างสดใส ราคาก็บวกเพิ่มไป5-10บาท แต่ให้เค้าเถอะ เค้าให้ลูกหาบแบกมาทั้งนั้น..
เรามีแวะซ้ำน้ำซื้อลูกชิ้นนึ่งกินกันไปบ้าง หมดไป75 บาท

ระหว่างทางขึ้น เราก็จะเดินสวนไม่ก็จะมีลูกหาบแซงเราไปตลอดเวลา
นับถือจริงๆ อยากจะลงไปคุกเข่าขอบูชา บางคนแบกเตาแก๊สขึ้นไปสองข้าง
ร่างกายทำด้วยอะไร สุดยอดมากลำพังเราเอาตัวเปล่าเราขึ้นไป ขาจะหลุดอยู่แล้ว..
แอบเห็นลูกหาบบางคนตรงไหล่ที่ใช้หาบของ ผิดรูปไปแล้วด้วย
แต่ก็นับถือเค้าจริงๆ งานสุจริต ที่ทำเยอะได้เยอะ ทำน้อยได้น้อย ที่ต้องแลกมาด้วยสุขภาพ

หลังจากนั้นขึ้นสู่ซำบอน.. ด่านที่หลอกให้ตายใจชัดๆ

เอาวะ เค้าบอกว่าผ่านซำแฮกมาแล้วสบาย สบายจริงด้วยเว่ย เดินไปสักพักก็ถึงขั้นต่อไป

ซำแคร่...

มันเริ่มชันขึ้นโคตรๆ ใจดีสู้เสือต่อไป คงสบายแล้ว..

ที่ไหนได้!!!! มันชันขึ้นเรื่อยๆ ชันยาวไปเรื่อยๆๆๆๆๆๆ
เดียวมาต่อครับ
[SR] Life With Muay : พาไปลุย ภูกระดึง ทดสอบความอึด
ทริปภูกระดึง..
ทริปนี้เริ่มต้นด้วยหมวยเห็นเพื่อนคนนึงใน Facebook เดินขึ้นยอดภูช่วงปลายปีพร้อมแชร์ภาพใบเมเปิ้ลสีแดง
หมวยหาข้อมูลทันทีว่าใบไม้สีแดงเนี่ยจะมีถึงตอนไหน ไปค่ะ เราต้องรีบไปกัน
เราตั้งใจว่าจะเที่ยวภูกระดึงกัน 3วัน2คืนแล้วกลับกรุงเทพเลย..
ทริปนี้เราได้รับการสนับสนุนการเดินทางจาก Dtac ให้ไปทดลองสัญญาณบนภูกระดึง มาถึงข้างบนภูไม่คิดว่าดีแทคจะมีสัญญาณถึง4ขีด บนเขาสูงขนาดนี้ ขอบคุณมากๆนะครับ/ค่ะ
#DTAC #Betternetwork
ตัดภาพมาหารู้ไม่ว่า ฟ้าฝนรอถล่มเราอยู่ที่นั่น
ราคาทริปนี้คร่าวๆ
รถบัสหมอชิต-ผานกเค้า 1220 บาท
ทานข้าวซื้อของร้านเจ้กิม 130 บาท
รถแดงเข้าอุทยาน 60 บาท
ค่าเข้าอุทยาน 80 บาท
ค่าเช้าที่กางเต้นท์ 60 บาท(2คืน)
ค่าป้ายลูกหาบขาขึ้น 5บาท
ค่ากินระหว่างเดินขึ้น 75 บาท
ค่าเช่าเต้นท์ 330 บาท(2คืน)
ค่าเครื่องนอน 240 บาท (2คืน)
ค่าลูกหาบ 510 บาท(17กิโล)
ค่าอาหารเที่ยง 190 บาท
ค่าจักรยานไปผาหมากดูด 120 บาท
ข้าวเหนียวปิ้ง 30 บาท
ค่าอาหารเย็น 400 บาท
ค่าอาบน้ำอุ่น 70 บาท(1คน)
ค่าป้ายลูกหาบขาลง 5 บาท
ค่าอาหารเช้า 140 บาท
ค่าPost card 10 บาท
ค่ากินระหว่างเดินลง 70 บาท
ค่าลูกหาบ 300 บาท
รถแดงไปท่ารถภูกระดึง 60 บาท
ค่ารถเข้าเมืองเลย 98 บาท
ค่าที่พัก 790 บาท
ค่าหมูกระทะ 400 บาท
ค่าเบียร์ 100 บาท
ค่าข้าวเปียกปากหมา 70 บาท
ค่าเสต็กเชฟว่าน 500 บาท
ค่าเครื่องขากลับ 1804 บาท
รวมทุกอย่าง 7867/2คน หรือคนละ 3934 บาท(ไม่รวมค่าเดินทางขากลับนะ)
หรือ ไม่รวมค่ากิน 5752/2คน หรือคนละ 2876 บาท
เรามาเริ่มต้นกันที่ บขส. ขนส่งหมอชิต หารถไปลงที่ผานกเค้า เราเลือกจะไปของ บ.SUN BUS เพราะยี่ห้ออื่นเต็ม ฮ่าๆๆ แต่พอไปนั่งเออสบายดีเหมือนกัน ราคาอยู่ที่คนละ 610 บาท
รถออกเดินทางวิ่งยาวไม่แวะพัก นอนเล่นโทรศัพท์ดูยูทูปเป็นการเทสเน็ต 4G ลื่นๆไปในตัว จนเผลอหลับไป แป็บเดียวก็มาถึงร้านเจ้กิม
เท่าที่เราอ่านมา ภาพในหัวของร้านเจ้กิมคือ ร้านของชำร้านเล็กๆ อยู่ระหว่างทางขึ้นดอย เล็กๆหน่อย แต่ภาพจริงคือ.. ใหญ่จัง
ราคาอาหารอยู่ที่ กับข้าว2อย่าง35บาท กับข้าว3 อย่าง45บาท
ก็จัดกันมาคนละจาน
เรามาถึงรถเป็น2คนสุดท้ายของคันพอดี
รถก็ขับเข้าซอยไปเรื่อยๆ สัก 15 นาทีก็ถึง
มาถึงด้วยความคึกและเต็มไปด้วยพลัง เห็นคนนั่งรอเต็มไปหมด เหมือนอุทยานจะเริ่มเปิดลงทะเบียนให้คนขึ้นประมาณ 7.00 น.
แต่สักพักคนก็เริ่มลุกไปต่อแถวรอ เราสองคนก็ลุกไปต่อบ้าง
สำหรับเราไม่ได้ลงทะเบียนมา เรามาเข้าช่องซ้ายสุดก่อน เป็นการจองที่กางเต้นท์ ราคาอยู่ที่หลังละ30บาท/คืน เราเลือก2คืน
จากนั้นไปต่อแถวที่แถวลงทะเบียนเข้าอุทยาน ราคาคนไทย ผู้ใหญ่คนละ 40บาท เด็ก20บาท ชาวต่างชาติผู้ใหญ่400 เด็ก200 ราคาอย่างโหดดดดดด!
แต่เราคนไทย2คน80บาทครับ
หลังจากนั้นไปเลือกเต้นท์กับพวกเครื่องนอนข้างบนเอา
ลูกหาบสิค้าบไม่ไหวหรอก
ที่นี่จะมีลูกหาบให้บริการ ราคากิโลละ30บาท คือเราจะนำสัมภาระไปชั่งตรงบริเวณตีนเขา แล้วจะได้ใบรับสัมภาระมา(ราคา5บาท) แล้วเค้าก็จะแบกขึ้นไปให้เรา ราคาเท่าไหร่ไปจ่ายข้างบน จากนั้นเดินตัวปลิวขึ้นไปได้เลย
ไปสิเดินกัน ก่อนขึ้นก็แวะถ่ายรูปทั้งหมดแปปนึง
อ่ะเดิน 1กิโลแรก อย่างชันนนนนน! ชันมาก ผ่านมาได้เล่นเอาเหนื่อยหอบ แต่ก็คิดใดในใจ ผ่านมาแล้วจากนี้ก็สบายละแหละ
เรามีแวะซ้ำน้ำซื้อลูกชิ้นนึ่งกินกันไปบ้าง หมดไป75 บาท
นับถือจริงๆ อยากจะลงไปคุกเข่าขอบูชา บางคนแบกเตาแก๊สขึ้นไปสองข้าง
ร่างกายทำด้วยอะไร สุดยอดมากลำพังเราเอาตัวเปล่าเราขึ้นไป ขาจะหลุดอยู่แล้ว..
แอบเห็นลูกหาบบางคนตรงไหล่ที่ใช้หาบของ ผิดรูปไปแล้วด้วย
แต่ก็นับถือเค้าจริงๆ งานสุจริต ที่ทำเยอะได้เยอะ ทำน้อยได้น้อย ที่ต้องแลกมาด้วยสุขภาพ
เดียวมาต่อครับ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น