เวลาตอนเดินไปเรียนหนังสือ ผมชอบใช้โทรศัพท์เปิดฟังเพลง ชอบฟังเพลงจากรายชื่อ The Official UK Top 40 Singles Chart ถ้าเพลงไหนไพเราะ ถูกใจก็จะพยายามไปหาอัลบัมเต็มของศิลปินคนนั้นฟัง บ้างก็จะไปเปิดยูทูปดูมิวสิควิดีโอ พบว่าถ้าฟังเพลงจาก UK Top 40 แล้ว เพลงใหม่ๆที่ฮิตกันในยูทูปจะแทบไม่พลาดเลย
วันหนึ่งฟังเพลงไปเรื่อยๆ ก็พบเพลงถูกใจอีกครั้ง ค้นในรายชื่อไปลองหามิวสิควิดีโอในยูทูป พอได้ลองเปิดเนื้อลองอ่านดู กับดูมิวสิควิดีโอ โอ้วนี่คือเพลงที่ไพเราะเพราะพริ้งจริงๆ
พอลองดูมิวสิควิดิโอครั้งแรก มันสวยจัง ดูครั้งที่สอง ครั้งต่อๆมา เริ่มเห็นอะไรบางอย่างที่ซ่อนอยู่ในมิวสิควิดีโอ...
เพลงนี้คือเพลง Chained To The Rhythm ของKaty Perry ไพเราะจริงๆ เอมวีก็ทำได้ดีภาพสวย แต่มันมีอะไรมากกว่านั้น...
ลองดูชื่อเพลง ลองดูเนื้อร้อง ลองดูเอ็มวีสังเกตเห็นสัญลักษณ์ต่างๆมากมายที่ซ่อนอยู่ในนั้น เอ๊ะหรือผมคิดไปเอง
ครุ่นคิดถึงเพลงนี้ตอนทำกิจกรรมต่างๆ นั่งคิดตรึกตรองบนโขดหิน เหม่อมองดูวิวผ่านกระจกตอนฝนตก นั่งคิดใคร่ครวญตอนไปนั่งตกปลา
แล้วก็พบว่า ผมไม่ได้คิดจินตนาการไปเอง มันมีอะไรซ่อนอยู่จริงๆ
กระทู้นี้มาฟังเพลงเล่นๆ แล้วก็มาอ่านเนื้อหาการวิเคราะห์ทางด้านสังคม ปรัชญาและวิทยาศาสตร์กันสนุกๆเพลินๆแล้วกัน
=====
จากเพลง Chained To The Rhythm ของKaty Perry ไปสู่ Allegory of the Cave ของPlato กับความจริงที่ซ่อนอยู่ในสิ่งที่ปรากฎ
ลองมาฟังเพลงเพราะๆดูเอมวีกัน
เพื่อที่จะให้เข้าใจเนื้อหา ความหมายของเพลงลองมาดู เนื้อร้องและคำแปลภาษาไทย ลองดูหลายๆที่ชอบการแปลของเว็บนี้มากที่สุด ขอขอบคุณและยกมาแปะไว้ดังนี้
เครดิต
https://rudetranslate.wordpress.com/2017/02/09/katy-perry-chained-to-the-rhythm/
เนื้อเพลงและคำแปลไทย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
Are we crazy?
ฟังดูบ้ามั้ยล่ะ
Living our lives through a lens
ใช้ชีวิตอยู่ในโลกแคบๆ ของพวกเรา
Trapped in our white-picket fence
ติดอยู่ในค่านิยมที่ถูกคนอื่นวางไว้
Like ornaments
เหมือนเป็นเครื่องประดับ
So comfortable, we live in a bubble, a bubble
ช่างแสนสบาย ใช้ชีวิตอยู่แต่ในความฝัน ความฝัน
So comfortable, we cannot see the trouble, the trouble
ช่างแสนสบาย จนมองไม่เห็นปัญหาตามมา ตามมา
Aren’t you lonely
คุณไม่โดดเดี่ยวหรอ
Up there in utopia
อยู่ในโลกอุดมคติของคุณ
Where nothing will ever be enough?
ที่ทุกอย่างไม่เคยเพียงพอกับความต้องการ
Happily numb
มีความสุขจอมปลอม
So comfortable, we live in a bubble, a bubble
ช่างแสนสบาย ใช้ชีวิตอยู่แต่ในความฝัน ความฝัน
So comfortable, we cannot see the trouble, the trouble
ช่างแสนสบาย จนมองไม่เห็นปัญหาตามมา ตามมา
Aha, look so good
อะฮ่า ช่างดูดีเหลือเกิน
So put your rose-colored glasses on
เชิญมองทุกอย่างให้โลกสวยต่อไป
And party on
แล้วปาร์ตี้ไม่สนใคร
Turn it up, it’s your favorite song
เร่งเสียงสิ นี่เพลงโปรดของคุณเลยนะ
Dance, dance, dance to the distortion
แด๊น แด๊น แด๊น ไปกับความบิดเบี้ยวของสังคม
Come on, turn it up, keep it on repeat
มาสิ เร็วไว เปิดให้ดังขึ้น ตั้งให้มันวนลูปไปเลย
Stumbling around like a wasted zombie
ดิ้นพล่านๆ ไปรอบเมืองเหมือนเป็นซอมบี้ไร้ค่า
Yeah, we think we’re free
เย้ คิดซะว่าพวกเรามีชีวิตอิสระ
Drink, this one is on me
ดื่มกินซะ มื้อนี้ชั้นจ่ายเอง
We’re all chained to the rhythm
สุดท้ายพวกเราก็ถูกจองจำอยู่ในจังหวะ
To the rhythm
จองจำอยู่ในจังหวะ
To the rhythm
จองจำอยู่ในจังหวะ
Turn it up, it’s your favorite song
เร่งเสียงสิ นี่เพลงโปรดของคุณเลยนะ
Dance, dance, dance to the distortion
แด๊น แด๊น แด๊น ไปกับความบิดเบี้ยวของสังคม
Come on, turn it up, keep it on repeat
มาสิ เร็วไว เปิดให้ดังขึ้น ตั้งให้มันวนลูปไปเลย
Stumbling around like a wasted zombie
ดิ้นพล่านๆ ไปรอบเมืองเหมือนเป็นซอมบี้ไร้ค่า
Yeah, we think we’re free
เย้ คิดซะว่าพวกเรามีชีวิตอิสระ
Drink, this one is on me
ดื่มกินซะ มื้อนี้ชั้นจ่ายเอง
We’re all chained to the rhythm
สุดท้ายพวกเราก็ถูกจองจำอยู่ในจังหวะ
To the rhythm
จองจำอยู่ในจังหวะ
To the rhythm
จองจำอยู่ในจังหวะ
Are we tone deaf?
พวกคุณมองไม่เห็นปัญหาหรอ
Keep sweeping it under the mat
หรือเอาแต่ซุกปัญหามันไว้ใต้พรม
Thought we can do better than that
ชั้นคิดว่าพวกเราน่าจะทำมันได้ดีกว่านี้นะ
I hope we can
หวังว่าจะทำได้
So comfortable, we live in a bubble, a bubble
ช่างแสนสบาย ใช้ชีวิตอยู่แต่ในความฝัน ความฝัน
So comfortable, we cannot see the trouble, the trouble
ช่างแสนสบาย จนมองไม่เห็นปัญหาตามมา ตามมา
Aha, So put your rose-colored glasses on
อะฮ่า เชิญสวมแว่นตาสีโลกสวยเข้าไป
And party on
แล้วปาร์ตี้ไม่สนใคร
Turn it up, it’s your favorite song
เร่งเสียงสิ นี่เพลงโปรดของคุณเลยนะ
Dance, dance, dance to the distortion
แด๊น แด๊น แด๊น ไปกับความบิดเบี้ยวของสังคม
Come on, turn it up, keep it on repeat
มาสิ เร็วไว เปิดให้ดังขึ้น ตั้งให้มันวนลูปไปเลย
Stumbling around like a wasted zombie
ดิ้นพล่านๆ ไปรอบเมืองเหมือนเป็นซอมบี้ไร้ค่า
Yeah, we think we’re free
เย้ คิดซะว่าพวกเรามีชีวิตอิสระ
Drink, this one is on me
ดื่มกินซะ มื้อนี้ชั้นจ่ายเอง
We’re all chained to the rhythm
สุดท้ายพวกเราก็ถูกจองจำอยู่ในจังหวะ
To the rhythm
จองจำอยู่ในจังหวะ
To the rhythm
จองจำอยู่ในจังหวะ
Turn it up, it’s your favorite song
เร่งเสียงสิ นี่เพลงโปรดของคุณเลยนะ
Dance, dance, dance to the distortion
แด๊น แด๊น แด๊น ไปกับความบิดเบี้ยวของสังคม
Come on, turn it up, keep it on repeat
มาสิ เร็วไว เปิดให้ดังขึ้น ตั้งให้มันวนลูปไปเลย
Stumbling around like a wasted zombie
ดิ้นพล่านๆ ไปรอบเมืองเหมือนเป็นซอมบี้ไร้ค่า
Yeah, we think we’re free
เย้ คิดซะว่าพวกเรามีชีวิตอิสระ
Drink, this one is on me
ดื่มกินซะ มื้อนี้ชั้นจ่ายเอง
We’re all chained to the rhythm
สุดท้ายพวกเราก็ถูกจองจำอยู่ในจังหวะ
To the rhythm
จองจำอยู่ในจังหวะ
To the rhythm
จองจำอยู่ในจังหวะ
It is my desire
นี่คือปรารถนาจากกู
Break down the walls to connect, inspire
พังกำแพงลงแล้วร่วมกันจุดประกายความหวัง
Ay, up in your high place, liars
เอ้ สูงให้เท่ากบาลของ ไอ้คน
Time is ticking for the empire
เวลายังคงหมุนไปเพื่อประเทศชาติ
The truth they feed is feeble
ความจริงที่พวกมันป้อนให้กูนั้นบิดเบือน
As so many times before
เหมือนหลายๆ ครั้งที่ผ่านมา
They greed over the people
พวกแม่งกระหายความโลภ
They stumbling and fumbling
กำลังกระสับกระส่ายและกระอักกระอ่วน
And we’re about to riot
และพวกกูกำลังจะก่อจราจล
They woke up, they woke up the lions
พวกมันรู้มั้ยว่าเผลอปลุกเจ้าป่าเข้าให้แล้ว
(Woo!)
(วู้ววว!)
เร่งเสียงสิ นี่เพลงโปรดของคุณเลยนะ
Dance, dance, dance to the distortion
แด๊น แด๊น แด๊น ไปกับความบิดเบี้ยวของสังคม
Come on, turn it up, keep it on repeat
มาสิ เร็วไว เปิดให้ดังขึ้น ตั้งให้มันวนลูปไปเลย
Stumbling around like a wasted zombie
ดิ้นพล่านๆ ไปรอบเมืองเหมือนเป็นซอมบี้ไร้ค่า
Yeah, we think we’re free
เย้ คิดซะว่าพวกเรามีชีวิตอิสระ
Drink, this one is on me
ดื่มกินซะ มื้อนี้ชั้นจ่ายเอง
We’re all chained to the rhythm
สุดท้ายพวกเราก็ถูกจองจำอยู่ในจังหวะ
To the rhythm
จองจำอยู่ในจังหวะ
To the rhythm
จองจำอยู่ในจังหวะ
Turn it up
เร่งเสียงสิ
Turn it up
เร่งเสียงสิ
It goes on, and on, and on
ให้มันวนไป วนไป วนไป
It goes on, and on, and on
ให้มันวนไป วนไป วนไป
It goes on, and on, and on
ให้มันวนไป วนไป วนไป
‘Cause we’re all chained to the rhythm
สุดท้ายพวกเราก็ถูกจองจำอยู่ในจังหวะ
==========================
มิวสิควิดีโอเริ่มต้นด้วยเคทีเดินเข้าไปในสวนสนุกที่ชื่อว่า Oblivia มีคนจำนวนมากเข้าไปเล่นในสวนสนุกแห่งนี้ สวนสนุกนี้ดูทันสมัย สีสันสดใส ดั่งอยู่ในโลกอนาคต ทุกคนดูมีความสุขกันมาก หลายคนถือกล้องมาถ่ายเซลฟี ถ่ายรูปกันเต็มไปหมด
มีเครื่องเล่นที่ชื่อวา The Great American Dream Drop มีคนเข้าๆไปเล่นจำนวนมาก ระหว่างที่เคทีตื่นตะลึงในความสวยงามอยู่นั้น เธอไปเดินเล่นแล้วเจอดอกกุหลาบสีแดง เธอจึงก้มไปดม ปรากฎว่า มีหนามแหลมที่มนิ้วเธอเลือดออก ใบหน้าของเธอเหมือนกำลังตระหนักอะไรบางอย่างที่ซ่อนอยู่ในสวนสนุกนี้เป็นครั้งแรก
ทุกคนต่างก็กำลังสนุกสนานเพลิดเพลินกับการเล่นเครื่องเล่น เปรียบเหมือนทุกคนต่างกำลังใช้ชีวิตเพลิดเพลินในสังคม โดยลืมดูข้อเท็จจริงว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น เพราะต่างก็สนุกกับการใช้ชีวิต จึงลืมตรวจสอบชีวิตของตนเองและลืมตั้งคำถามต่อสังคมต่อสิ่งที่กำลังทำอยู่ว่าสิ่งที่กำลังดำเนินไปถูกต้องเหมาะสมหรือไม่
เคทีและอีกหลายคนไปนั่งเครื่องเล่นโรลเรอโคสเตอร์ เป็นที่นั่งคู่ชายและหญิงต่างนั่งแยกกันคนละข้าง เครื่องเล่นเคลื่อนที่ไปตามรางหมุนวนไปอย่างรวดเร็วทุกคนมีความสุขกันมาก ผ่านอุโมงค์มีรูปอมยิ้ม รูปกดไลท์ นี่อาจตีความได้ว่าทุกคนกำลังสนุกกับการใช้ชีวิต ตามแบบที่คนอื่นชื่มชมบอกว่าดี เหมือนในโซเชียล เราอัพรูปไปเที่ยวในที่สวยงามแล้วเพื่อนๆต่างก็มากดไลท์ชื่นชมกันมาก จะเห็นอีกอย่างว่ารางก็เป็นรูปหัวใจ
พอคะแนนออกมาทั้งที่นั่งขบวนเดียวกัน ผู้ชายกลับมีคะแนนสูงกว่าฝั่งของผู้หญิงมาก มีเครื่องเล่นชื่อ bombs away! นี่อาจหมายถึงนโยบายต่างประเทศของสหรัฐอเมริกา มีขนมที่ทรงคล้ายกับควันรูปเห็ดจากระเบิดนิวเคลียร์ขายอยู่ในสวนสนุก
มีเครื่องเล่นแบบลู่วิ่งกลมๆของพนูแฮมสเตอร์ที่คนต่อแถวไปเล่นกัน อีกฉากมีรูปสารติดไฟสีสันสวยงามในบีกเกอร์ อันนี้น่าจะหมายถึงเรื่องพลังงานน้ำมัน อีกฉากมีเหมือนเป็นโรงหนังให้ทุกคนใส่แว่นมาดูหนัง ตรงนี้เคทีเริ่มตระหนักอย่างชัดเจนแล้วว่าเธอแตกต่างจากคนอื่น เธอไม่เข้ากับ ไม่เหมือนกับกลุ่มพวกที่นั่งดูหนังด้วยกัน เธอมีสีหน้าชัดเจนแสดงถึงความอึดอัด แปลกแยก แล้วทุกคนก็ลุกมาเต้นกันเหมือนหุ่นยนต์ที่ไม่มีจิตวิญญาณ
ย้อนกลับไปที่เครื่องเล่นลู่วิ่ง ทุกคนต่อแถวยาวที่จะเล่น เครื่องเล่นนี้อาจหมายถึงการใช้ชีวิตแบบ American dream แต่ทุกคนที่ไปเล่นในเครื่องเล่นนี้ล้วนแต่พ่ายแพ้ ล้มลงมา แล้วก็ถึงตาของเคที เธอได้ไปวิ่งเล่นในเครื่องนี้ กำลังวิ่งเล่นไปเรื่อยๆ สุดท้ายแม้เธอจะไม่หกล้มเหมือนคนอื่นแต่เธอเลือกที่จะหยุดวื่งแล้วก็จ้องมองมาที่เราเหมือนเธอต้องการจะบอกอะไรเราบางอย่าง แล้วมิวสิควิดีโอก็จบลง
อันนี้คือ Chained To The Rhythm คือติดตรึงไว้โดยจังหวะเพลง แต่เมื่อสองพันกว่าปีมาแล้วก็มีแนวคิดหนึ่งโดยนักปรัชญาที่ชื่อว่าเพลโต
พูดถึงเรื่อง Allegory of the Cave นักโทษถูกล่ามโซ่ไว้ติดในถ้ำ วันนี้เราจะมาพูดถึงเรื่องเหล่านี้กัน
===========
"ถูกใจช่วยกดบวก กดถูกใจด้วยนะคะ เดี๋ยวพี่ จขกท จะมาเขียนต่อค่ะ"
-Katy Perry
==จากเพลง Chained To The Rhythm ของKaty Perry ไปสู่ Allegory of the Cave ของPlato กับความจริงที่ซ่อนอยู่ในสิ่งที่ปรากฎ==
วันหนึ่งฟังเพลงไปเรื่อยๆ ก็พบเพลงถูกใจอีกครั้ง ค้นในรายชื่อไปลองหามิวสิควิดีโอในยูทูป พอได้ลองเปิดเนื้อลองอ่านดู กับดูมิวสิควิดีโอ โอ้วนี่คือเพลงที่ไพเราะเพราะพริ้งจริงๆ
พอลองดูมิวสิควิดิโอครั้งแรก มันสวยจัง ดูครั้งที่สอง ครั้งต่อๆมา เริ่มเห็นอะไรบางอย่างที่ซ่อนอยู่ในมิวสิควิดีโอ...
เพลงนี้คือเพลง Chained To The Rhythm ของKaty Perry ไพเราะจริงๆ เอมวีก็ทำได้ดีภาพสวย แต่มันมีอะไรมากกว่านั้น...
ลองดูชื่อเพลง ลองดูเนื้อร้อง ลองดูเอ็มวีสังเกตเห็นสัญลักษณ์ต่างๆมากมายที่ซ่อนอยู่ในนั้น เอ๊ะหรือผมคิดไปเอง
ครุ่นคิดถึงเพลงนี้ตอนทำกิจกรรมต่างๆ นั่งคิดตรึกตรองบนโขดหิน เหม่อมองดูวิวผ่านกระจกตอนฝนตก นั่งคิดใคร่ครวญตอนไปนั่งตกปลา
แล้วก็พบว่า ผมไม่ได้คิดจินตนาการไปเอง มันมีอะไรซ่อนอยู่จริงๆ
กระทู้นี้มาฟังเพลงเล่นๆ แล้วก็มาอ่านเนื้อหาการวิเคราะห์ทางด้านสังคม ปรัชญาและวิทยาศาสตร์กันสนุกๆเพลินๆแล้วกัน
=====
จากเพลง Chained To The Rhythm ของKaty Perry ไปสู่ Allegory of the Cave ของPlato กับความจริงที่ซ่อนอยู่ในสิ่งที่ปรากฎ
ลองมาฟังเพลงเพราะๆดูเอมวีกัน
เพื่อที่จะให้เข้าใจเนื้อหา ความหมายของเพลงลองมาดู เนื้อร้องและคำแปลภาษาไทย ลองดูหลายๆที่ชอบการแปลของเว็บนี้มากที่สุด ขอขอบคุณและยกมาแปะไว้ดังนี้
เครดิต
https://rudetranslate.wordpress.com/2017/02/09/katy-perry-chained-to-the-rhythm/
เนื้อเพลงและคำแปลไทย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
==========================
มิวสิควิดีโอเริ่มต้นด้วยเคทีเดินเข้าไปในสวนสนุกที่ชื่อว่า Oblivia มีคนจำนวนมากเข้าไปเล่นในสวนสนุกแห่งนี้ สวนสนุกนี้ดูทันสมัย สีสันสดใส ดั่งอยู่ในโลกอนาคต ทุกคนดูมีความสุขกันมาก หลายคนถือกล้องมาถ่ายเซลฟี ถ่ายรูปกันเต็มไปหมด
มีเครื่องเล่นที่ชื่อวา The Great American Dream Drop มีคนเข้าๆไปเล่นจำนวนมาก ระหว่างที่เคทีตื่นตะลึงในความสวยงามอยู่นั้น เธอไปเดินเล่นแล้วเจอดอกกุหลาบสีแดง เธอจึงก้มไปดม ปรากฎว่า มีหนามแหลมที่มนิ้วเธอเลือดออก ใบหน้าของเธอเหมือนกำลังตระหนักอะไรบางอย่างที่ซ่อนอยู่ในสวนสนุกนี้เป็นครั้งแรก
ทุกคนต่างก็กำลังสนุกสนานเพลิดเพลินกับการเล่นเครื่องเล่น เปรียบเหมือนทุกคนต่างกำลังใช้ชีวิตเพลิดเพลินในสังคม โดยลืมดูข้อเท็จจริงว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น เพราะต่างก็สนุกกับการใช้ชีวิต จึงลืมตรวจสอบชีวิตของตนเองและลืมตั้งคำถามต่อสังคมต่อสิ่งที่กำลังทำอยู่ว่าสิ่งที่กำลังดำเนินไปถูกต้องเหมาะสมหรือไม่
เคทีและอีกหลายคนไปนั่งเครื่องเล่นโรลเรอโคสเตอร์ เป็นที่นั่งคู่ชายและหญิงต่างนั่งแยกกันคนละข้าง เครื่องเล่นเคลื่อนที่ไปตามรางหมุนวนไปอย่างรวดเร็วทุกคนมีความสุขกันมาก ผ่านอุโมงค์มีรูปอมยิ้ม รูปกดไลท์ นี่อาจตีความได้ว่าทุกคนกำลังสนุกกับการใช้ชีวิต ตามแบบที่คนอื่นชื่มชมบอกว่าดี เหมือนในโซเชียล เราอัพรูปไปเที่ยวในที่สวยงามแล้วเพื่อนๆต่างก็มากดไลท์ชื่นชมกันมาก จะเห็นอีกอย่างว่ารางก็เป็นรูปหัวใจ
พอคะแนนออกมาทั้งที่นั่งขบวนเดียวกัน ผู้ชายกลับมีคะแนนสูงกว่าฝั่งของผู้หญิงมาก มีเครื่องเล่นชื่อ bombs away! นี่อาจหมายถึงนโยบายต่างประเทศของสหรัฐอเมริกา มีขนมที่ทรงคล้ายกับควันรูปเห็ดจากระเบิดนิวเคลียร์ขายอยู่ในสวนสนุก
มีเครื่องเล่นแบบลู่วิ่งกลมๆของพนูแฮมสเตอร์ที่คนต่อแถวไปเล่นกัน อีกฉากมีรูปสารติดไฟสีสันสวยงามในบีกเกอร์ อันนี้น่าจะหมายถึงเรื่องพลังงานน้ำมัน อีกฉากมีเหมือนเป็นโรงหนังให้ทุกคนใส่แว่นมาดูหนัง ตรงนี้เคทีเริ่มตระหนักอย่างชัดเจนแล้วว่าเธอแตกต่างจากคนอื่น เธอไม่เข้ากับ ไม่เหมือนกับกลุ่มพวกที่นั่งดูหนังด้วยกัน เธอมีสีหน้าชัดเจนแสดงถึงความอึดอัด แปลกแยก แล้วทุกคนก็ลุกมาเต้นกันเหมือนหุ่นยนต์ที่ไม่มีจิตวิญญาณ
ย้อนกลับไปที่เครื่องเล่นลู่วิ่ง ทุกคนต่อแถวยาวที่จะเล่น เครื่องเล่นนี้อาจหมายถึงการใช้ชีวิตแบบ American dream แต่ทุกคนที่ไปเล่นในเครื่องเล่นนี้ล้วนแต่พ่ายแพ้ ล้มลงมา แล้วก็ถึงตาของเคที เธอได้ไปวิ่งเล่นในเครื่องนี้ กำลังวิ่งเล่นไปเรื่อยๆ สุดท้ายแม้เธอจะไม่หกล้มเหมือนคนอื่นแต่เธอเลือกที่จะหยุดวื่งแล้วก็จ้องมองมาที่เราเหมือนเธอต้องการจะบอกอะไรเราบางอย่าง แล้วมิวสิควิดีโอก็จบลง
อันนี้คือ Chained To The Rhythm คือติดตรึงไว้โดยจังหวะเพลง แต่เมื่อสองพันกว่าปีมาแล้วก็มีแนวคิดหนึ่งโดยนักปรัชญาที่ชื่อว่าเพลโต
พูดถึงเรื่อง Allegory of the Cave นักโทษถูกล่ามโซ่ไว้ติดในถ้ำ วันนี้เราจะมาพูดถึงเรื่องเหล่านี้กัน
===========
"ถูกใจช่วยกดบวก กดถูกใจด้วยนะคะ เดี๋ยวพี่ จขกท จะมาเขียนต่อค่ะ"
-Katy Perry