กระทู้นี้ถูกตั้งขึ้นด้วยความที่เราหวังว่า กระทู้อันนี้จะสามารถเป็นประโยชน์ให้กับใครหลายๆคนที่สนใจในการดูแลสุขภาพ หรือเป็นอีกหนึ่งกระทู้ที่ทำให้คนที่ไม่สนใจเรื่องสุขภาพ “ฉุกคิด” มาดูแลตัวเองมากขึ้นค่ะ
ตอนนี้เราอายุ 43 ปีค่ะ ทำงานออฟฟิศทั่วไปนี่แหละ งานเราก็มีหนักบ้างเบาบ้างแล้วแต่วัน ทำงานมา 20 ปีละ ใช้ชีวิตมาหนัก แต่เราก็มั่นใจมาตลอดว่า เรายังแข็งแรงอยู่ไม่เป็นอะไรหรอก ไม่ค่อยสนใจเรื่องสุขภาพร่างกายและอาหารการกินเท่าไหร่ค่ะ เราชอบทานอาหารรสจัด ทอดๆ ปิ้งย่าง และพวกอาหารทะเลมากก แทบจะขับรถไปพัทยาทุกอาทิตย์เพราะอยากกินอาหารทะเล ส่วนเรื่องการออกกำลังกายนี่ไม่ต้องพูดถึง เราทำงานเป็นกะค่ะ นอนไม่ค่อยเป็นเวลา บางทีก็ทำโอ เวลาหยุดหรือไรงี้มักจะนอนอย่างเดียวเลยเพราะเหนื่อยมาก แต่แล้ววันนึงมันมีจุดเปลี่ยนค่ะ คือเราลุกขึ้นจากที่นอนแล้วรู้สึกว่าโลกหมุน ตอนแรกคิดว่าแค่หน้ามืด เพราะลุกเร็ว แต่พอนั่งพักอีกแป๊ปนึงก็ยังเป็นอยู่เลยรู้สึกว่าเป็นบ้านหมุนแน่ๆ ก็เลยโทรเรียกให้เพื่อนพาไปหาหมอค่ะ ทีนี้ตรวจไปตรวจมาก็พบว่าตัวเองมีหลายโรครุมเร้าค่ะ ตกใจมากเพราะคิดตลอดว่าตัวเองยังอายุไม่เท่าไหร่เลย สรุปว่าพักผ่อนน้อยและเครียดทำให้เป็นโรคบ้านหมุนค่ะ แต่ที่มากกว่านั้นคือไปตรวจเลือด แล้วหมอบอกว่าคอลเรสเตอรอลสูงมากก มีอาการโรคความดันและโรคหัวใจอ่อนๆ ช็อคไปเลยค่ะคือตกใจอ่ะ ไม่คิดว่าตัวเองจะเป็น
เรานั่งคุยกับเพื่อนค่ะ แล้วก็ตระหนักขึ้นมาได้ว่า เออจริงๆแล้วคนรุ่นๆเรา และสังคมสมัยนี้มันเริ่มเข้าสู่ยุคที่จะมีคนแก่มากกว่าวัยรุ่นแล้วนะ พวกเราก็ควรที่จะดูแลตัวเองบ้าง ไม่ใช่ใช้ชีวิตเหมือนตัวเองอายุที่ 20 กว่าๆตลอดเวลา พอมาสังเกตจริงๆเราก็รู้สึกได้ว่าหลังๆเราเริ่มเหนื่อยง่าย เดินขึ้นบันได 2 ชั้นก็เหนื่อยแล้ว ละหลังๆก็หน้ามืด จะเป็นลมบ่อยด้วย แต่เราเอาแต่ทำอะไรไม่รู้เลยมองข้ามมันไป
ดังนั้นเราจึงรวบรวมข้อมูลการดูแลตัวเองในด้านต่างๆมาให้ทุกคนค่ะ หวังว่าน่าจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อย และอยากให้กระทู้อันนี้เป็นกระทู้ที่มีหลายๆคนมาแชร์ความรู้และเคล็ดลับการดูสุขภาพกัน เราก็ยกเท่าที่เรารู้และหาข้อมูลมาให้ก่อนนะคะ เพราะเราก็พึ่งเริ่มต้นได้ไม่นาน มีอะไรผิดไปต้องขอโทษเอาไว้ล่วงหน้านะคะ
เริ่มจากอย่างแรกคือจะมาบอกถึง โรคที่อันตรายที่สามารถเป็นได้ง่าย และไม่ค่อยส่งผลให้เห็นในช่วงแรก จะเห็นก็ตอนเป็นหนักๆเลย อย่างโรคหัวใจ ความดัน ไขมันอุดตันในเส้นเลือด เบาหวาน ไต และมะเร็งค่ะ โรคร้ายแรงพวกนี้มักจะเกิดแบบเราไม่ทันได้ตั้งตัว มันเป็นการสะสมของการใช้ร่างกายมานานโดยไม่ดูแล ไม่บำรุงรักษา การทานอาหารที่ไม่มีประโยชน์ มีไขมันสูง อาหารรสจัด การทานน้ำน้อย ไม่ออกกำลังกาย ทุกอย่างมีผลไปหมดเลยค่ะดังนั้นหากเราอยากป้องกันโรคร้ายแรงดังกล่าวจำพวกนี้ควรปฏิบัติตัวดังนี้ค่ะ
1. อย่างแรกที่สำคัญที่สุดคือ การดูแลในเรื่องของอาหารการกิน ควรทานผักและผลไม้เป็นประจำ ลดการทานอาหารที่มีไขมันสูง อย่าง หมูสามชั้น ของทอดของมัน คือไม่ต้องเลิกก็ได้ ทานได้บ้างตามความอยากของเรา แต่ควรลดปริมาณลง ยิ่งอายุมากขึ้น ยิ่งควรลดลงมากขึ้นเรื่อยๆ อาหารที่มีคอลเรสเตอรอลสูงก็ควรลดให้มันน้อยลงเช่นกัน เพราะมันเป็นเหตุผลนึงที่จะทำให้ไขมันอุดตันเส้นเลือด อย่าง ตับห่าน ปลาหมึก กุ้ง หอยนางรม จากที่ชอบก็ลดๆลงบ้าง ต่อมาในเรื่องของรสชาติอาหาร ควรจะทานรสจัดให้น้อยลง ไม่ใช่เฉพาะหวานหรือเค็ม แต่อาหารรสจัดทุกอย่างไม่ส่งผลดีต่อร่างกาย ทำให้ร่างกายเราทำงานหนัก ดังนั้นลดได้ควรลดลงค่ะ อย่างแต่ก่อนเราชอบทานพริกน้ำปลามาก ทานกับข้าวก็อยู่ได้แล้ว แต่ตอนนี้ไม่ได้ ต้องลดลงมากๆเลยค่ะ
2. การดื่มน้ำ ปกติแล้วร่างกายคนเรามีความต้องการน้ำมากอยู่แล้ว และน้ำก็เป็นอีกหนึ่งในองค์ประกอบหลักของเลือดในร่างกายคนเรา การดื่มน้ำน้อยจะส่งผลหลายอย่างคือ ร่างกายขาดน้ำ ไตน้ำงานหนัก และอื่นๆอีกมากมาย การดื่มน้ำเยอะและเป็นเวลาจะช่วยหลายๆเรื่อง ทั้งการขับถ่าย การเผาผลาญพลังงาน การหล่อเลี้ยงความชุ่มชื้นของผิวพรรณ อีกทั้งการดื่มน้ำเยอะๆเป็นการยำรุงและดูแลร่างกายโดยไม่เสียเงินจำนวนมาก และทำได้ง่ายดายที่สุดอีกด้วย
3. การออกกำลังกาย การออกกำลังกายจะช่วยในเรื่องของการเผาผลาญพลังงาน การยืดเส้นยืดสายไม่ให้เป็นออฟฟิศซินโดรมได้ง่าย การออกกำลังกายให้เหมาะกับตัวเองจะทำให้คนเรามีสุขภาพที่แข็งแรง ตั้งแต่ภายในส่งผลออกมายังภายนอกด้วย ซึ่งสำหรับตัวเราแล้วเราชอบจะไปว่ายน้ำมากที่สุด การว่ายน้ำเป็นการออกกำลังกายที่ดีที่สุดเลยนะเท่าที่เราเคยอ่านมา คือช่วยบริหารทุกส่วนในร่างกาย และน้ำเป็นปัจจัยนึงที่ช่วยพยุงตัว มันไม่ทำให้การออกกำลังหนักจนเกินไป แม้กระทั่งผู้สูงอายุจริงๆก็ออกกกำลังกายในน้ำจะดีมาก เช่น พวกเดินในน้ำ ก็จะมีน้ำคอยช่วยพยุงไม่ให้ออกแรงมากจนเกินไป เป็นต้น ส่วนเหตุผลที่เราชอบการว่ายน้ำก็คือ เราว่ามันไม่รีบ ไม่ต้องไปแข่งกับใคร ใช้เวลาอยู่กับตัวเองดีค่ะ
4. การกินอาหารเสริม จริงๆแล้วการกินอาหารเสริมเราว่าเป็นสิ่งที่ดีนะ เพราะบางทีอาหารที่เรากินเข้าไปในแต่ละวันอ่ะ มันอาจจะได้สารอาหารไม่ครบถ้วน หรือไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย หรืออย่างเราอายุก็เริ่มเยอะขึ้นแล้ว พวกสารบางตัวที่ร่างกายเคยผลิตขึ้นได้เอง ตอนนี้มันอาจจะน้อยลงๆ รวมไปถึงพวกภูมิคุ้มกันอะไรแบบนี้ด้วย การเลือกอาหารเสริมที่เหมาะกับตัวเอง เราว่ามันขึ้นอยู่กับว่าตัวเราต้องการอะไร บำรุงอะไรหรือป้องกันอะไรเป็นพิเศษรึป่าว แล้วก็ลองหาข้อมูลเกี่ยวกับพวกวิตามินพวกนั้นดู อย่างให้เราแนะนำง่ายๆก็วิตามินซี ช่วยป้องกันหวัด ช่วยเรื่องผิวพรรณได้นิดหน่อย วิตามินบีรวม ช่วยเรื่องความเหนื่อยล้า อ่อนล้าของร่างกายหลังจากทำงานหนักหรือเครียด แคลเซียม ช่วยเรื่องของกระดูก แต่สำหรับเราตอนนี้เราทานอยู่ 3 ตัวค่ะ ตัวแรกเป็น Alerten คือตัวนี้ทานเพราะเพื่อนที่พาเราไปหาหมอนั่นแหละแนะนำมา มันช่วยในเรื่องของป้องกันโรคหัวใจ แล้วส่วนตัวเราทานยากลุ่มสแตตินอยู่ ซึ่งยาตัวนี้มันจะลดสารโคเอ็นไซม์คิวเทนนี้ที่มีความจำเป็นต่อพวกอวัยวะหลักๆในร่างกายลงไปค่ะ ทานอาหารเสริมตัวนี้มันจะเพิ่มโคเอ็นไซม์คิวเทนให้ร่างกายเราค่ะ ตัวที่2 คือ Cholezz ตัวนี้มันคือ Krill oil ให้โอเมก้ามากกว่าน้ำมันปลาทั่วไป จะเน้นช่วยในเรื่องของลดระดับไขมันในเลือด ปกป้องหัวใจ ข้อประมาณนี้ อันนี้เราหาข้อมูลเจอในเนตเลยลองกินดู เผื่อการหาหมอครั้งต่อไปจะสามารถลดตัวยาที่ต้องกินลงได้ (ตอนนี้เรากินยาหลายตัวมากเลยค่ะ ไม่ชอบเลย) ส่วนตัวสุดท้ายเราที่เรากินก็คือ วิตามินบีรวม Multi B ค่ะ คืออยากที่เราบอกว่าวิตามินบีรวมนี่ค่อนข้างดี เราอยากแนะนำให้คนที่ทำงานทุกคนกินนะ มันจะช่วยฟื้นฟูร่างกายอ่ะ จากที่เคยเหนื่อยง่าย อ่อนล้าก็ดีขึ้นเหมือนเพิ่มพลังให้กับเราได้ดีเลย อันนี้เรากินมาตั้งแต่ก่อนรู้ว่าตัวเองจะมีโรคประจำตัวอีกนะ แต่ก็กินๆหยุดๆ ตอนนี้กลับมากินประจำแล้ว เพราะสุขภาพป้องกันไว้ก่อน ดีกว่าต้องมานั่งรักษาแบบเราตอนนี้จริงๆค่ะ
5. อย่างสุดท้ายที่เราอยากแนะนำคือ การหาสิ่งที่ตัวเองชอบ และสามารถช่วยผ่อนคลายตัวเองจากความเครียดได้ค่ะ คือคุณหมอสอนเรามาเลยว่า โรคภัยต่างๆจะทำร้ายและแทรกซึมเข้ามาอยู่ในร่างกายคนเราได้ง่ายขึ้นมาก หากเรามีความเครียดติดตัวเป็นประจำ ความเครียดทำให้ร่างกายและภูมิคุ้มกันเราอ่อนแอลง อย่างที่หลายคนเคยได้ยินว่าคนที่เป็นมะเร็ง หรือโรคร้ายแรงต่างๆ ถ้ากำลังใจดี บางทีมันสามาถต่อชีวิตเค้าไปได้อีกหลายวัน หลายเดือน หลายปีเลย ดังนั้นการรักษาความสุขทาง “ใจ” ของเราก้เป็นเรื่องที่สำคัญ(มาก) คุณหมอแนะนำว่าให้หาสิ่งที่ตัวเองชอบทำ ทำแล้วมีความสุข ผ่อนคลาย เพื่อช่วยปลดปล่อยความเครียดที่เจอมาในแต่ละวันของเราค่ะ อย่างตัวเราๆจะชอบดูหนัง ทำอาหาร และปักครอสติส ทุกวันนี้เราก็พยายามหาเวลาที่ว่าง มานั่งทำเพื่อให้ตัวเองปลดปล่อยความเครียดที่เจอมาในชีวิต หรือบางทีก้ไปนั่งสมาธิที่วัดเลยค่ะ รู้สึกโล่งและสบายใจดี ถ้าใครไม่รู้ว่าทำยังไงถึงหายเครียด เราแนะนำลองเข้าวัดไปทำบุญ ฟังพระเทศน์ หรือนั่งสมาธิดูนะคะ แรกๆเราก็อึดอัดค่ะ ไม่ใช่ตัวเอง แต่พอทำบ่อยๆมันเริ่มชินและรู้สึกดีขึ้นค่ะ ตอนนี้ปล่อยวางเกือบทุกเรื่องได้หมดค่ะ พยายามใช้ชีวิตให้มีความสุขกับทุกๆวัน ยิ้มให้ตัวเองทุกวันตอนเช้าเพื่อสร้างสิ่งดีๆตั้งแต่เริ่มวันค่ะ ยังไงลองไปทำกันดูนะคะ เราว่ามันดีต่อ “ใจ” มากๆจริงๆค่ะ
อย่างที่บอกนะคะ เราอยากให้กระทู้นี้เป็นกระทู้ที่คนที่เข้ามาอ่านได้ประโยชน์อย่างแท้จริง รวมถึงช่วยจุประกายการดูแลตัวเองให้กับคนทุกอาชพ ทุกวัย ซึ่งหากใครที่มีวิธีการต่างๆที่ดีต่อ “ใจ” และกายที่แตกต่างจากที่เราพูดไปข้างต้น เราก็อยากให้มาแชร์ต่อๆกันค่ะ ยิ่งกระทู้นี้ได้รับความนิยมและบอกต่อกันมากเท่าไหร่ เราถือว่ายิ่งมีคนจะได้หันมาสนใจในเรื่องการการดูแลตัวเองมากขึ้นเท่านั้นค่ะ เรารอที่จะอ่านวิธีการดูแลตัวเองของทุกคนอยู่นะคะ
คงจะเป็นประโยชน์ต่อ “ใจ” และกายไม่ใช่น้อย
ตอนนี้เราอายุ 43 ปีค่ะ ทำงานออฟฟิศทั่วไปนี่แหละ งานเราก็มีหนักบ้างเบาบ้างแล้วแต่วัน ทำงานมา 20 ปีละ ใช้ชีวิตมาหนัก แต่เราก็มั่นใจมาตลอดว่า เรายังแข็งแรงอยู่ไม่เป็นอะไรหรอก ไม่ค่อยสนใจเรื่องสุขภาพร่างกายและอาหารการกินเท่าไหร่ค่ะ เราชอบทานอาหารรสจัด ทอดๆ ปิ้งย่าง และพวกอาหารทะเลมากก แทบจะขับรถไปพัทยาทุกอาทิตย์เพราะอยากกินอาหารทะเล ส่วนเรื่องการออกกำลังกายนี่ไม่ต้องพูดถึง เราทำงานเป็นกะค่ะ นอนไม่ค่อยเป็นเวลา บางทีก็ทำโอ เวลาหยุดหรือไรงี้มักจะนอนอย่างเดียวเลยเพราะเหนื่อยมาก แต่แล้ววันนึงมันมีจุดเปลี่ยนค่ะ คือเราลุกขึ้นจากที่นอนแล้วรู้สึกว่าโลกหมุน ตอนแรกคิดว่าแค่หน้ามืด เพราะลุกเร็ว แต่พอนั่งพักอีกแป๊ปนึงก็ยังเป็นอยู่เลยรู้สึกว่าเป็นบ้านหมุนแน่ๆ ก็เลยโทรเรียกให้เพื่อนพาไปหาหมอค่ะ ทีนี้ตรวจไปตรวจมาก็พบว่าตัวเองมีหลายโรครุมเร้าค่ะ ตกใจมากเพราะคิดตลอดว่าตัวเองยังอายุไม่เท่าไหร่เลย สรุปว่าพักผ่อนน้อยและเครียดทำให้เป็นโรคบ้านหมุนค่ะ แต่ที่มากกว่านั้นคือไปตรวจเลือด แล้วหมอบอกว่าคอลเรสเตอรอลสูงมากก มีอาการโรคความดันและโรคหัวใจอ่อนๆ ช็อคไปเลยค่ะคือตกใจอ่ะ ไม่คิดว่าตัวเองจะเป็น
เรานั่งคุยกับเพื่อนค่ะ แล้วก็ตระหนักขึ้นมาได้ว่า เออจริงๆแล้วคนรุ่นๆเรา และสังคมสมัยนี้มันเริ่มเข้าสู่ยุคที่จะมีคนแก่มากกว่าวัยรุ่นแล้วนะ พวกเราก็ควรที่จะดูแลตัวเองบ้าง ไม่ใช่ใช้ชีวิตเหมือนตัวเองอายุที่ 20 กว่าๆตลอดเวลา พอมาสังเกตจริงๆเราก็รู้สึกได้ว่าหลังๆเราเริ่มเหนื่อยง่าย เดินขึ้นบันได 2 ชั้นก็เหนื่อยแล้ว ละหลังๆก็หน้ามืด จะเป็นลมบ่อยด้วย แต่เราเอาแต่ทำอะไรไม่รู้เลยมองข้ามมันไป
ดังนั้นเราจึงรวบรวมข้อมูลการดูแลตัวเองในด้านต่างๆมาให้ทุกคนค่ะ หวังว่าน่าจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อย และอยากให้กระทู้อันนี้เป็นกระทู้ที่มีหลายๆคนมาแชร์ความรู้และเคล็ดลับการดูสุขภาพกัน เราก็ยกเท่าที่เรารู้และหาข้อมูลมาให้ก่อนนะคะ เพราะเราก็พึ่งเริ่มต้นได้ไม่นาน มีอะไรผิดไปต้องขอโทษเอาไว้ล่วงหน้านะคะ
เริ่มจากอย่างแรกคือจะมาบอกถึง โรคที่อันตรายที่สามารถเป็นได้ง่าย และไม่ค่อยส่งผลให้เห็นในช่วงแรก จะเห็นก็ตอนเป็นหนักๆเลย อย่างโรคหัวใจ ความดัน ไขมันอุดตันในเส้นเลือด เบาหวาน ไต และมะเร็งค่ะ โรคร้ายแรงพวกนี้มักจะเกิดแบบเราไม่ทันได้ตั้งตัว มันเป็นการสะสมของการใช้ร่างกายมานานโดยไม่ดูแล ไม่บำรุงรักษา การทานอาหารที่ไม่มีประโยชน์ มีไขมันสูง อาหารรสจัด การทานน้ำน้อย ไม่ออกกำลังกาย ทุกอย่างมีผลไปหมดเลยค่ะดังนั้นหากเราอยากป้องกันโรคร้ายแรงดังกล่าวจำพวกนี้ควรปฏิบัติตัวดังนี้ค่ะ
1. อย่างแรกที่สำคัญที่สุดคือ การดูแลในเรื่องของอาหารการกิน ควรทานผักและผลไม้เป็นประจำ ลดการทานอาหารที่มีไขมันสูง อย่าง หมูสามชั้น ของทอดของมัน คือไม่ต้องเลิกก็ได้ ทานได้บ้างตามความอยากของเรา แต่ควรลดปริมาณลง ยิ่งอายุมากขึ้น ยิ่งควรลดลงมากขึ้นเรื่อยๆ อาหารที่มีคอลเรสเตอรอลสูงก็ควรลดให้มันน้อยลงเช่นกัน เพราะมันเป็นเหตุผลนึงที่จะทำให้ไขมันอุดตันเส้นเลือด อย่าง ตับห่าน ปลาหมึก กุ้ง หอยนางรม จากที่ชอบก็ลดๆลงบ้าง ต่อมาในเรื่องของรสชาติอาหาร ควรจะทานรสจัดให้น้อยลง ไม่ใช่เฉพาะหวานหรือเค็ม แต่อาหารรสจัดทุกอย่างไม่ส่งผลดีต่อร่างกาย ทำให้ร่างกายเราทำงานหนัก ดังนั้นลดได้ควรลดลงค่ะ อย่างแต่ก่อนเราชอบทานพริกน้ำปลามาก ทานกับข้าวก็อยู่ได้แล้ว แต่ตอนนี้ไม่ได้ ต้องลดลงมากๆเลยค่ะ
2. การดื่มน้ำ ปกติแล้วร่างกายคนเรามีความต้องการน้ำมากอยู่แล้ว และน้ำก็เป็นอีกหนึ่งในองค์ประกอบหลักของเลือดในร่างกายคนเรา การดื่มน้ำน้อยจะส่งผลหลายอย่างคือ ร่างกายขาดน้ำ ไตน้ำงานหนัก และอื่นๆอีกมากมาย การดื่มน้ำเยอะและเป็นเวลาจะช่วยหลายๆเรื่อง ทั้งการขับถ่าย การเผาผลาญพลังงาน การหล่อเลี้ยงความชุ่มชื้นของผิวพรรณ อีกทั้งการดื่มน้ำเยอะๆเป็นการยำรุงและดูแลร่างกายโดยไม่เสียเงินจำนวนมาก และทำได้ง่ายดายที่สุดอีกด้วย
3. การออกกำลังกาย การออกกำลังกายจะช่วยในเรื่องของการเผาผลาญพลังงาน การยืดเส้นยืดสายไม่ให้เป็นออฟฟิศซินโดรมได้ง่าย การออกกำลังกายให้เหมาะกับตัวเองจะทำให้คนเรามีสุขภาพที่แข็งแรง ตั้งแต่ภายในส่งผลออกมายังภายนอกด้วย ซึ่งสำหรับตัวเราแล้วเราชอบจะไปว่ายน้ำมากที่สุด การว่ายน้ำเป็นการออกกำลังกายที่ดีที่สุดเลยนะเท่าที่เราเคยอ่านมา คือช่วยบริหารทุกส่วนในร่างกาย และน้ำเป็นปัจจัยนึงที่ช่วยพยุงตัว มันไม่ทำให้การออกกำลังหนักจนเกินไป แม้กระทั่งผู้สูงอายุจริงๆก็ออกกกำลังกายในน้ำจะดีมาก เช่น พวกเดินในน้ำ ก็จะมีน้ำคอยช่วยพยุงไม่ให้ออกแรงมากจนเกินไป เป็นต้น ส่วนเหตุผลที่เราชอบการว่ายน้ำก็คือ เราว่ามันไม่รีบ ไม่ต้องไปแข่งกับใคร ใช้เวลาอยู่กับตัวเองดีค่ะ
4. การกินอาหารเสริม จริงๆแล้วการกินอาหารเสริมเราว่าเป็นสิ่งที่ดีนะ เพราะบางทีอาหารที่เรากินเข้าไปในแต่ละวันอ่ะ มันอาจจะได้สารอาหารไม่ครบถ้วน หรือไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย หรืออย่างเราอายุก็เริ่มเยอะขึ้นแล้ว พวกสารบางตัวที่ร่างกายเคยผลิตขึ้นได้เอง ตอนนี้มันอาจจะน้อยลงๆ รวมไปถึงพวกภูมิคุ้มกันอะไรแบบนี้ด้วย การเลือกอาหารเสริมที่เหมาะกับตัวเอง เราว่ามันขึ้นอยู่กับว่าตัวเราต้องการอะไร บำรุงอะไรหรือป้องกันอะไรเป็นพิเศษรึป่าว แล้วก็ลองหาข้อมูลเกี่ยวกับพวกวิตามินพวกนั้นดู อย่างให้เราแนะนำง่ายๆก็วิตามินซี ช่วยป้องกันหวัด ช่วยเรื่องผิวพรรณได้นิดหน่อย วิตามินบีรวม ช่วยเรื่องความเหนื่อยล้า อ่อนล้าของร่างกายหลังจากทำงานหนักหรือเครียด แคลเซียม ช่วยเรื่องของกระดูก แต่สำหรับเราตอนนี้เราทานอยู่ 3 ตัวค่ะ ตัวแรกเป็น Alerten คือตัวนี้ทานเพราะเพื่อนที่พาเราไปหาหมอนั่นแหละแนะนำมา มันช่วยในเรื่องของป้องกันโรคหัวใจ แล้วส่วนตัวเราทานยากลุ่มสแตตินอยู่ ซึ่งยาตัวนี้มันจะลดสารโคเอ็นไซม์คิวเทนนี้ที่มีความจำเป็นต่อพวกอวัยวะหลักๆในร่างกายลงไปค่ะ ทานอาหารเสริมตัวนี้มันจะเพิ่มโคเอ็นไซม์คิวเทนให้ร่างกายเราค่ะ ตัวที่2 คือ Cholezz ตัวนี้มันคือ Krill oil ให้โอเมก้ามากกว่าน้ำมันปลาทั่วไป จะเน้นช่วยในเรื่องของลดระดับไขมันในเลือด ปกป้องหัวใจ ข้อประมาณนี้ อันนี้เราหาข้อมูลเจอในเนตเลยลองกินดู เผื่อการหาหมอครั้งต่อไปจะสามารถลดตัวยาที่ต้องกินลงได้ (ตอนนี้เรากินยาหลายตัวมากเลยค่ะ ไม่ชอบเลย) ส่วนตัวสุดท้ายเราที่เรากินก็คือ วิตามินบีรวม Multi B ค่ะ คืออยากที่เราบอกว่าวิตามินบีรวมนี่ค่อนข้างดี เราอยากแนะนำให้คนที่ทำงานทุกคนกินนะ มันจะช่วยฟื้นฟูร่างกายอ่ะ จากที่เคยเหนื่อยง่าย อ่อนล้าก็ดีขึ้นเหมือนเพิ่มพลังให้กับเราได้ดีเลย อันนี้เรากินมาตั้งแต่ก่อนรู้ว่าตัวเองจะมีโรคประจำตัวอีกนะ แต่ก็กินๆหยุดๆ ตอนนี้กลับมากินประจำแล้ว เพราะสุขภาพป้องกันไว้ก่อน ดีกว่าต้องมานั่งรักษาแบบเราตอนนี้จริงๆค่ะ
5. อย่างสุดท้ายที่เราอยากแนะนำคือ การหาสิ่งที่ตัวเองชอบ และสามารถช่วยผ่อนคลายตัวเองจากความเครียดได้ค่ะ คือคุณหมอสอนเรามาเลยว่า โรคภัยต่างๆจะทำร้ายและแทรกซึมเข้ามาอยู่ในร่างกายคนเราได้ง่ายขึ้นมาก หากเรามีความเครียดติดตัวเป็นประจำ ความเครียดทำให้ร่างกายและภูมิคุ้มกันเราอ่อนแอลง อย่างที่หลายคนเคยได้ยินว่าคนที่เป็นมะเร็ง หรือโรคร้ายแรงต่างๆ ถ้ากำลังใจดี บางทีมันสามาถต่อชีวิตเค้าไปได้อีกหลายวัน หลายเดือน หลายปีเลย ดังนั้นการรักษาความสุขทาง “ใจ” ของเราก้เป็นเรื่องที่สำคัญ(มาก) คุณหมอแนะนำว่าให้หาสิ่งที่ตัวเองชอบทำ ทำแล้วมีความสุข ผ่อนคลาย เพื่อช่วยปลดปล่อยความเครียดที่เจอมาในแต่ละวันของเราค่ะ อย่างตัวเราๆจะชอบดูหนัง ทำอาหาร และปักครอสติส ทุกวันนี้เราก็พยายามหาเวลาที่ว่าง มานั่งทำเพื่อให้ตัวเองปลดปล่อยความเครียดที่เจอมาในชีวิต หรือบางทีก้ไปนั่งสมาธิที่วัดเลยค่ะ รู้สึกโล่งและสบายใจดี ถ้าใครไม่รู้ว่าทำยังไงถึงหายเครียด เราแนะนำลองเข้าวัดไปทำบุญ ฟังพระเทศน์ หรือนั่งสมาธิดูนะคะ แรกๆเราก็อึดอัดค่ะ ไม่ใช่ตัวเอง แต่พอทำบ่อยๆมันเริ่มชินและรู้สึกดีขึ้นค่ะ ตอนนี้ปล่อยวางเกือบทุกเรื่องได้หมดค่ะ พยายามใช้ชีวิตให้มีความสุขกับทุกๆวัน ยิ้มให้ตัวเองทุกวันตอนเช้าเพื่อสร้างสิ่งดีๆตั้งแต่เริ่มวันค่ะ ยังไงลองไปทำกันดูนะคะ เราว่ามันดีต่อ “ใจ” มากๆจริงๆค่ะ
อย่างที่บอกนะคะ เราอยากให้กระทู้นี้เป็นกระทู้ที่คนที่เข้ามาอ่านได้ประโยชน์อย่างแท้จริง รวมถึงช่วยจุประกายการดูแลตัวเองให้กับคนทุกอาชพ ทุกวัย ซึ่งหากใครที่มีวิธีการต่างๆที่ดีต่อ “ใจ” และกายที่แตกต่างจากที่เราพูดไปข้างต้น เราก็อยากให้มาแชร์ต่อๆกันค่ะ ยิ่งกระทู้นี้ได้รับความนิยมและบอกต่อกันมากเท่าไหร่ เราถือว่ายิ่งมีคนจะได้หันมาสนใจในเรื่องการการดูแลตัวเองมากขึ้นเท่านั้นค่ะ เรารอที่จะอ่านวิธีการดูแลตัวเองของทุกคนอยู่นะคะ