[[[Spoil]]] - Baki dou ตอนที่ 154



หากชื่นชอบผลงานชิ้นนี้ กรุณาสนับสนุนฉบับลิขสิทธิ์
ของไทยออกเล่ม 13 แล้วครับ ส่วนทางฝั่งญี่ปุ่นก็ออกเล่ม 16 แล้วเช่นกัน

.
.
.
(เพื่อความเหมาะสม ขอสปอลย์เพียงผิวเผิน แต่ทุกคนสามารถเพิ่มเติมในคอมเมนท์ได้ครับ)
.
.
.

ความเดิมในตอนที่ 153
https://pantip.com/topic/36329993

โอเคครับ เริ่มกันเลย
ชื่อตอน "ก่อนตัดสินใจ"

ตอนที่แล้ว...
หน่วยกีกี้ล้มเหลวในการจัดการมูซาชิ
นั่นหมายถึงความขายขี้หน้าของนายกรัฐมนตรีอาเบะ
จึงได้สั่งการเรียกประชุมบุคคลที่เกี่ยวข้องโดยด่วน


มีโทกุกาวะด้วยแฮะ ตัวต้นเหตุ 555

.
.
.

อาเบะ : เราทุ่มกำลังตำรวจทั้งหมดที่มีแล้ว ยังจับคนเพียงคนเดียวไม่ได้ ถึงแม้ว่าหมอนั่นเป็นมนุษย์โคลนนิ่ง แต่เช็ดเข้!!! โคลนฯใครไม่โคลนฯ เสือnโคลนมูซาชิ... แล้วคิดดูนะ นี่คือศตวรรษที่ 21 แล้ว การสื่อสารมันไปไวมาก จะเกิดอะไรขึ้นถ้าทั่วโลกรู้ข่าวนี้ รับรองว่าญี่ปุ่นอยู่ไม่เป็นสุขแน่ ประเทศเราจะโดนหัวเราะเยาะ โดนรุมประนามไปอีกนาน


เห็นหน้าคนอื่นแล้วแฮะ มีใครมั่ง มาดูกันครับ

.
.
.

ผู้บังคับการตำรวจใหญ่ อุทสึมิ ชุนโซ
(ตำแหน่งน่าจะผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ)

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม อินาดะ มากิ

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

ผู้อำนวยการกองกำลังป้องกันตนเองภาคพื้นดิน ฮิอุระ อิซาโอะ
(น่าจะประมาณผู้บัญชาการทหารบก)

เลขานุการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ชิมูระ บุงโก

จริง ๆ พยายามเปรียบเทียบตัวจริงทั้ง 4 คน ทว่า... ถ้าตำแหน่งเกี่ยวกับตำรวจหรือทหารโดยตรง จะหาข้อมูลไม่พบจริง ๆ ครับ

.
.
.

อาเบะฟิวส์ขาด พูดออกมาว่า...
"นี่เราพยายามสร้างอาวุธมหาปะลัยอีกตัวใช่มั้ย!!!"

ทุกคนนั่งนิ่ง จินตนาการถึงอาวุธมหาปะลัย -*-

มีมันตัวเดียว ชีวิตก็ลำบากจะแย่แล้ว 555

.
.
.


โทกุกาวะจึงเสนอขึ้นว่า...
"หรือจะลองใช้กองกำลังป้องกันตนเองดูมั้ย คิดว่าไง?"
คุณอิซาโอะรีบบอกเลยว่า...
"ไม่ได้!! ถ้าใช้กำลังทหาร มันจะอธิบายกับประชาชนลำบาก"

ทหารญี่ปุ่นใส่ใจประชาชน...
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้


.
.
.


อุทสึมิ : "ถ้าตำรวจทำอะไรมูซาชิไม่ได้ งั้นผมนึกออกอยู่คนนึง
เป็นคนที่ตำรวจไม่มีปัญญาทำอะไรได้เหมือนกัน"


เอาจริง ๆ นะ ไม่เคยเห็นตำรวจทำอะไรใครในเรื่องนี้ได้เล้ย -*-

.
.
.

โทกุกาวะถามว่า : นี่ ๆ คนนั้นเป็นเฟรนส์ประเภทไหนเหรอ?
อุทสึมิตอบ : ตอนนี้ยังบอกไม่ได้ แต่เดี๋ยวก็รู้


.
.
.

ไม่ต้องเดี๋ยว เพราะเหมือนโทกุกาวะจะรู้แล้วว่าใคร


ชิมูระ : จะไปเชิญเค้าคนนั้นจริงๆ รึ!!!
อาเบะ : ใครงั้นเหรอ!!!!!!!


.
.
.

ภาพตัดมาที่สาขาใหญ่ของตระกูลยากูซ่าแห่งนึง

ที่แท้ อุทสึมิมาขอความช่วยเหลือจากฮานายามะ คาโอรุนี่เอง

ลูกรักเคย์สุเกะ รักขนาดที่ว่ามี spin-off ของตัวเอง

.
.
.

อุทสึมิ : ผมอยากให้คุณฮานายามะช่วยชาติสักครั้งได้มั้ยครับ?

ฮานายามะไม่พูดอะไร แต่มือกำโซฟาแน่นเชียว

ใช้คำพูดกำกวมกับคนนี้ เดี๋ยวได้ตายจริง ๆ หรอก ปัดโธ่ -*-

สปอลย์ตอนที่ 154 ก็มีเท่านี้ครับ!!!
=======================================

ศึกต่อไป มูซาชิ vs คาโอรุแน่นอน
และผมมั่นใจว่าคาโอรุแพ้แน่ แต่จะตายมั้ยต้องมาลุ้นครับ

.
.
.

.
.
.

วันนี้ขอแถมยาว ๆ จะเล่าประวัติของมูซาชิช่วงนึง
ที่คาดว่าน่าจะมีความสำคัญกับเนื้อเรื่องบทต่อไปครับผม


ช่วงปี ค.ศ. 1614 - 1615 ญี่ปุ่นมีสงครามครั้งใหญ่ระหว่าง 2 ตระกูล นั่นคือตระกูลโทโยโทมิ และตระกูลโทกุกาวะ (ตามประวัติศาสตร์รู้จักกันดีในชื่อ Siege of OSaka) โดยที่ฝั่งโทโยโทมิเป็นเจ้าของปราสาทโอซาก้า และฝั่งโทกุกาวะพยายามเข้ายึดครอง


ภาพวาดของฟรองซัวส์ คารอน บาทหลวงชาวฝรั่งเศส

.
.
.

สงครามการรบชิงปราสาทโอซาก้าแบ่งเป็น 2 ช่วง
1. ช่วงฤดูหนาวปี 1614
ฝั่งโทกุกาวะ นำโดยโทกุกาวะ อิเอยาสุ มีกำลังพล 164,000 นาย
ฝั่งโทโยโทมิ นำโดย โทโยโทมิ ฮิเดโยริ มีกำลังพล 120,000 นาย
การรบดำเนินไปจนถึงวันที่ 22 มกราคม 1615 ไม่มีผลแพ้ชนะ


แผนที่สงครามช่วงที่ 1 สีแดงคือโทกุกาวะ น้ำเงินคือโทโยโทมิ

.
.
.

2. ช่วงฤดูร้อนปี 1615
ต่อมาในเดือนเมษายน ทั้ง 2 ฝ่ายเปิดศึกกันต่อ
ฝั่งโทกุกาวะ นำโดยโทกุกาวะ อิเอยาสุ มีกำลังพล 150,000 นาย
ฝั่งโทโยโทมิ นำโดย โทโยโทมิ ฮิเดโยริ มีกำลังพล 60,000 นาย
ผลจบลงที่ตระกูลโทโยโทมิแพ้ราบคาบ


แผนที่สงครามช่วงที่ 2 "การรบที่เนินเขาเทนโนจิ"

.
.
.

ศึกครั้งนี้ มูซาชิได้เข้าร่วมสงครามโดยอยู่ฝั่งตระกูลโทโยโทมิ... นักวิชาการญี่ปุ่นยุคหลังมีความเชื่อว่า ช่วงท้ายของสงครามนั้น มูซาชิได้ย้ายไปอยู่ฝั่งโทกุกาวะแทน (อาจโดนโทกุกาวะ อิเอยาสุซื้อตัว เพราะช่วงที่มูซาชิตระเวณประลองดาบไปทั่ว ได้ทำความรู้จักคนตระกูลโทกุกาวะหลายคน หรืออาจเป็นเพราะตัวมูซาชิเองเห็นว่าฝ่ายโทโยโทมิแพ้แน่ เลยแปรพักต์เสียเอง)

หลังจากที่ฮิเดโยริทำการเซปปุคุ 切腹 (ฮาราคีรี) ในปราสาท สงครามก็จบลง คนของโทโยโทมิที่มีชีวิตรอดจากสงครามครั้งนั้นได้หนีไปใช้ชีวิตในป่า เป็นโจรป่าออกปล้นฆ่าชาวบ้านสม่ำเสมอ... ส่วนมูซาชินั้นไปอยู่กับ โอกะซาวาระ ทาดานาโอะ เพื่อสร้างปราสาท Akashi Castle อยู่หลายปี


ภาพวาดสงครามชิงปราสาทโอซาก้า ไม่ปรากฏชื่อผู้วาด

.
.
.

ในปีต่อมา ซึ่งคือปีค.ศ. 1616 กลุ่มโทโยโทมิที่เป็นโจรป่า ยังคงออกปล้นและฆ่าเหมือนเดิม จนกระทั่งถึงคิวของตระกูลฮานายามะ... ทว่าก่อนหน้านี้ไม่กี่วัน หัวหน้าตระกูลฮานายามะได้ให้การช่วยเหลือนักพนันพเนจรคนนึง (สมัยนั้น การช่วยเหลือแบบนี้ถือเป็นบุญคุณที่สามรถตายแทนกันได้)

ค่ำคืนนั้น... คนตระกูลฮานายามะทุกคนถูกฆ่าหมด เหลือแค่เด็กที่เป็นทายาทตระกูลฮานายามะเพียง 1 คนที่ชื่อ ฮานายมะ ยากิระ

นักพนันพเนจรเห็นดังนั้น และไม่สามารถยอมให้ทายาทเพียงคนเดียวของตระกูลนี้ตายได้ จึงได้เอาระฆังขนาดใหญ่ครอบยากิระและแบกไว้บนบ่า ยืนรับคมดาบโจรป่าโทโยโทมิจนตัวตาย... ฝั่งโจรป่าเห็นถึงความเด็ดเดี่ยว จึงเว้นชีวิตยากิระไว้


เรื่องนี้ถูกเล่าต่อ ๆ กันมาในตระกูลฮานายามะ...  และเพื่อเป็นการให้เกียรติแก่ชายคนนี้ ตระกูลฮานายามะจึงตั้งกฏข้อสำคัญที่ว่า "ผู้ใดที่ขึ้นเป็นหัวหน้าตระกูลทุกรุ่น จะต้องได้รับการสัก บุรุษผู้ยืนหยัด ที่แผ่นหลังของตนทุกรุ่นเสมอไป"


=============================================

พูดถึงคาโอรุกับมูซาชิแล้วเนี่ย...
ความสัมพันธ์ระหว่างบุรุษยืนหยัดกับมูซาชิ... น่าสนใจกว่าผลการสู้ของทั้ง 2 คนนี้อีกนะครับ

โปรดติดตามตอนต่อไปครับ!!!
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่