ทริปนี้เริ่มจากการที่เพื่อนๆอยากไปเที่ยวยุโรปมากบวกกับมีเพื่อนเรียนที่เยอรมันและที่สำคัญที่สุดคือตั๋วถูก 555+ แต่นั้นเงินก็ยังไม่พอสำหรับไปเที่ยว จนเวลาผ่านไปก่อนตัดสินใจไปเพียงแค่ 2 เดือน คือจองก่อนค่อยคิดหาทางทีหลัง พวกเราหาทุกทางทุกสายการบินที่ถูกที่สุดและไม่พักเครื่องนานเกินไป
จนได้แผนการเดินทางดังนี้
ขาไป = ไทย(air Asia) ---------------------------------------> มาเล (Turkish Airlines)------------------------------------>ปารีส CDG
(พักเครื่อง 10 ชม ออกไปเดินเล่นย่ายไชน่าทาว ) (พักเครื่อง2ชม.แต่กว่าจะผ่านด่านตรวจเล่นเอาเกือบไม่ทัน)
ขากลับก็เหมือนเดิม แต่แวะนอนที่มาเล 1 คืนเพื่อเที่ยวมาเล 1
สรุปค่าตั๋วไปกลับทั้ง ไทย----มาเล----ปารีส = 19,500 บาท. บินตรงช่วงโปรน่าจะมีถูกเช่นกันวันนั้นโชคร้ายที่ดันไม่มีเลย 555+
ช่วงที่ไปคือ 6-16 เมษายน 2017 อากาศกำลังเย็นสบายถึงเย็นมากในตอนกลางคืนสำหรับคนไทยนะ เพราะเพื่อนที่อยู่นั้นบอกร้อน ดีที่ไม่หลงเชื่อเอาเสื้อกันหนาวหนาๆไปด้วย 555+
แผนการเที่ยวของเรา
ปารีส--->สวิส---->เยอรมัน ปราสาทนอย----->Hallstatt Austria -----> Prague (Czech Republic) -----> Frankfurt -------> Cologne (Germany) ------>Luxembourg ------>ปารีส
6 Apr มาเล
7 Apr ปารีส Hôtel De La Paix
8 Apr สวิส Résidence Castel Club Leysin Parc ต้องขับรถขึ้นเขาแต่วิวสวยมาก
9 Apr สวิส 1,024 baht ห้องน้ำรวม
10 Apr Hallstatt Dormio Resort Obertraun (ที่นี้ราคามีบวกเพิ่มนะต้องดูดีๆ เราพลาดมาแล้ว จองมา 4,000 บาท แต่มีค่าบริการที่พักอื่นๆอีกสรุปแล้วจ่าย 12,000 บาท 555+ แต่สวยจิงอะไรจริงมี3ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ครัว1 นั่งเล่น สมราคาแหละ
11 Apr Prague
12 Apr Frankfurt A&O Frankfurt Galluswarte, Mainzer Landstraße, Frankfurt am Main, Deutschland
13 Apr Cologne+Luxembourg
14 Apr ขี้นเครื่องกลับตอนเช้า
15 Apr มาเล
16 Apr กลับไทยช่วงบ่าย
การเดินทาง โดยการเช่ารถขับ
พวกเราก็เครียดเรื่องการเดินทางอย่างมากเพราะว่าการนั่งรถไฟนั้นราคาแพงมากกกกกกกกก คนอื่นอาจจะว่าถูกก็ได้นะแต่เรางบจำกัดแหะๆ ตกคนล่ะหมื่นปลายๆถึงหลายหมื่น อันนี้ดูแค่คร่าวๆว่าแพงเลยเปลี่ยนแผนเป็นเช้ารถเพราะถูกกว่ามากกกกกกกก
เราเช่ารถจาก บ.Avis ที่อยู่ในปารีสซึ่งใกล้ที่พัก

ราคารถที่เช่าก็ตามรุ่นตามขนาดเลย ของพวกเรางบน้อยก็ต้องคันเล็ก ตอนจองได้ Peugeot 208 or Similar ราคา 12,000 บาท/7 วัน
สามารถเข้าเว็บได้
https://www.avis.com/en/reservation/make-reservation หรือจะจองผ่าน Rentalcars.com ซึ่งมีภาษาไทยบอกด้วย แต่พอวันจริงได้ Yaris hybrid ที่มี GPS ติดมาด้วยซึ่งดีมากๆ
ส่วนประกันก็ซื้อแบบพื้นฐาน ดีนะที่ขับปลอดภัยไม่มีรอยใดๆ แต่ตอนใช้นี้อย่างกับขับกระบะ ลุยมากๆ555+
ถ้าได้รถที่มี GPS จะดีมากเพราะ GPS บ้านเค้าละเอียดเวอร์ มีบอกแม้กระทั่งช่วงนี้ห้ามขับเกินเท่าไหร่ตรงไหนมีกล้องจับความเร็ว อันนี้ไม่ได้ซื้อGPSเพิ่มนะมีติดมากับรถ แต่ส่วนตัวคิดว่าเปิด google map เอาก็ได้เพราะ3วันแรกยังใช้GPSไม่เป็น จนเพื่อนอีกคนมานั่งsetให้เก่งเวอร์ 555+
การจองรถถ้าหากรับและส่งต่างที่กันจะเสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม ของเราคืนที่ CDG ทำให้ต้องเสียเพิ่มแต่มันก็สะดวกสะบายอ่ะเนอะ
ส่วนค่าทางด่วนที่ฝรั่งเศษจะคล้ายบ้านเรารับบัตรและจ่ายตอนออก จำไม่ผิดประมาณ 23 ยูโร แล้วแต่ความไกลของระบะทาง
แต่ที่สวิสซื้อเป็นสติกเกอร์ที่เป็นรูปทางด่วงสีเขียว ซื้อตรงร้านขายของตรงแถวๆข้ามแดนไปสวิส แต่เอาจริงๆก็ยังไม่แน่ใจว่าเค้าจะตรวจยังไงเหมือนกัน
เพราะก็ไม่มีตำรวจเรียกตรวจเลย แต่ก็ปลอดภัยไว้ก่อน อันนี้ก็อ่านจากรีวิวที่อื่นแนะนำมา ส่วนที่เช็คและเยอรมันนี้ไม่ได้เสียค่าทางด่วนเลย
การขับรถให้พึ่งระวังอย่าลืมตัวขับเลนซ้ายเด็ดขาดเพราะอันตรายมาก เราก็มีเผลอเพราะมัวแต่หาที่พักจนเกือบแล้ว ดีที่รถไม่เยอะและขับมาแค่คันเดียว ที่ยุโรปจะมีวงเวียนเยอะแรกๆอาจจะ งง เหมือนเราเข้าซอยไหนหว่า ถ้าหากไม่แน่ใจให้เราวนในวงเวียนซักรอบก่อนก็ได้เราทำมาแล้ว 555+ แต่มันจะไม่หลงนะ การหลงทางเป็นเรื่องปกติ อย่าไปซีเรียสเดี๋ยวเสียบรรยากาศหมด ให้เราหาทางกลับรถใหม่ได้ โดยเฉพาะกลับรถในวงเวียนนี้ดีสุดแล้ว
ส่วนเรื่องปั๊มน้ำมันทุกเส้นทางจะมีปั๊มข้างทางเป็นระยะๆ แต่ให้ดีก็ไม่ควรเหลือน้อยเกินไปแล้วค่อยเติม เพราะเราไม่รู้ว่าปั๊มหน้าจะอยู่ไกลไหม
โดยเฉพาะช่วงเช็คไปแฟรงนี้ค่อนข้างไกลกว่าจะเจอปั๊มให้เติมไว้ให้เต็มถังจะดีกว่า
เราเริ่มออกเดินทางกันเลยดีกว่า
เริ่มจากปารีส
จากสนามบินเข้าในเมืองเรานั่ง Roissy bus จาก CDG มาลง Opera ที่ Opera เราจะสามารถต่อ Metro ไปตามสายต่างๆได้หรือใครจะแท็กซี่หรือ RERก็ได้ แต่เราเลือกนั่งบัส

t+ ticket และ t+ ticket carnet
– เป็นตั๋วเที่ยวเดียวของเมโทร
– ใช้ขึ้นเมโทรทุกสาย ขึ้นยาวแค่ไหน ต่อเมโทรกี่ครั้งก็ได้ภายในการเดินทางครั้งนั้น
– ซื้อได้ตามตู้อัตโนมัติและช่องจำหน่ายบัตร
สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บนี้ ขอบคุณทางเจ้าของเว็บด้วย
http://www.adrenalinerushdiaries.com/travel/%E0%B8%8A%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B9%8B%E0%B8%A7%E0%B8%A3%E0%B8%96%E0%B9%84%E0%B8%9F%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%9B%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%AA/
ปารีส
พอถึงที่พักเราก็เก็บของอาบน้ำและออกไปเดินเล่นกันที่ Sacré-Cœur เป็นเหมือนจุดชมวิวเมืองและเป็นที่พักผ่อนแบบชิวๆและมีโบรถ์อยู่ด้านใน


ต่อมาเรานั่งMetro มาลงสถานี Cite เพื่อไป Cathédrale Notre-Dame de Paris

และเดินขึ้นมาตามแม่น้ำแซน

Louvre Museum

Place de la Concorde

Arc de Triomphe

หอคอยไอเฟล เรานั่ง Metroมาลงที่ Trocadéro
จากนั้นเราก็นั่งmetroกลับที่พักด้วยร่างกายที่เหน็บหนาวและเท้าที่ระบมไปหมด
ก
ารเดินทางจากปารีสไปสวิส

เราถึง Lausanne ค่ำๆ วิวที่เห็นคือเขาหลายๆลูกซ้อนกันตื่นตาตื่นใจมากๆและทะเลสาบน้ำใสมากด้วยเราถ่ายรูปจน 3 ทุ่มจึงขับต่อไปยังที่พัก


ง่วงมากไว้มาต่อพรุ้งนี้ค่ำๆ
[CR] Review ขับรถท่องยุโรปแบบ งงๆ 6 ประเทศ ภายใน8วันและงบจำกัดมากกกก
จนได้แผนการเดินทางดังนี้
ขาไป = ไทย(air Asia) ---------------------------------------> มาเล (Turkish Airlines)------------------------------------>ปารีส CDG
(พักเครื่อง 10 ชม ออกไปเดินเล่นย่ายไชน่าทาว ) (พักเครื่อง2ชม.แต่กว่าจะผ่านด่านตรวจเล่นเอาเกือบไม่ทัน)
ขากลับก็เหมือนเดิม แต่แวะนอนที่มาเล 1 คืนเพื่อเที่ยวมาเล 1
สรุปค่าตั๋วไปกลับทั้ง ไทย----มาเล----ปารีส = 19,500 บาท. บินตรงช่วงโปรน่าจะมีถูกเช่นกันวันนั้นโชคร้ายที่ดันไม่มีเลย 555+
ช่วงที่ไปคือ 6-16 เมษายน 2017 อากาศกำลังเย็นสบายถึงเย็นมากในตอนกลางคืนสำหรับคนไทยนะ เพราะเพื่อนที่อยู่นั้นบอกร้อน ดีที่ไม่หลงเชื่อเอาเสื้อกันหนาวหนาๆไปด้วย 555+
แผนการเที่ยวของเรา
ปารีส--->สวิส---->เยอรมัน ปราสาทนอย----->Hallstatt Austria -----> Prague (Czech Republic) -----> Frankfurt -------> Cologne (Germany) ------>Luxembourg ------>ปารีส
6 Apr มาเล
7 Apr ปารีส Hôtel De La Paix
8 Apr สวิส Résidence Castel Club Leysin Parc ต้องขับรถขึ้นเขาแต่วิวสวยมาก
9 Apr สวิส 1,024 baht ห้องน้ำรวม
10 Apr Hallstatt Dormio Resort Obertraun (ที่นี้ราคามีบวกเพิ่มนะต้องดูดีๆ เราพลาดมาแล้ว จองมา 4,000 บาท แต่มีค่าบริการที่พักอื่นๆอีกสรุปแล้วจ่าย 12,000 บาท 555+ แต่สวยจิงอะไรจริงมี3ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ครัว1 นั่งเล่น สมราคาแหละ
11 Apr Prague
12 Apr Frankfurt A&O Frankfurt Galluswarte, Mainzer Landstraße, Frankfurt am Main, Deutschland
13 Apr Cologne+Luxembourg
14 Apr ขี้นเครื่องกลับตอนเช้า
15 Apr มาเล
16 Apr กลับไทยช่วงบ่าย
การเดินทาง โดยการเช่ารถขับ
พวกเราก็เครียดเรื่องการเดินทางอย่างมากเพราะว่าการนั่งรถไฟนั้นราคาแพงมากกกกกกกกก คนอื่นอาจจะว่าถูกก็ได้นะแต่เรางบจำกัดแหะๆ ตกคนล่ะหมื่นปลายๆถึงหลายหมื่น อันนี้ดูแค่คร่าวๆว่าแพงเลยเปลี่ยนแผนเป็นเช้ารถเพราะถูกกว่ามากกกกกกกก
เราเช่ารถจาก บ.Avis ที่อยู่ในปารีสซึ่งใกล้ที่พัก
สามารถเข้าเว็บได้ https://www.avis.com/en/reservation/make-reservation หรือจะจองผ่าน Rentalcars.com ซึ่งมีภาษาไทยบอกด้วย แต่พอวันจริงได้ Yaris hybrid ที่มี GPS ติดมาด้วยซึ่งดีมากๆ
ส่วนประกันก็ซื้อแบบพื้นฐาน ดีนะที่ขับปลอดภัยไม่มีรอยใดๆ แต่ตอนใช้นี้อย่างกับขับกระบะ ลุยมากๆ555+
ถ้าได้รถที่มี GPS จะดีมากเพราะ GPS บ้านเค้าละเอียดเวอร์ มีบอกแม้กระทั่งช่วงนี้ห้ามขับเกินเท่าไหร่ตรงไหนมีกล้องจับความเร็ว อันนี้ไม่ได้ซื้อGPSเพิ่มนะมีติดมากับรถ แต่ส่วนตัวคิดว่าเปิด google map เอาก็ได้เพราะ3วันแรกยังใช้GPSไม่เป็น จนเพื่อนอีกคนมานั่งsetให้เก่งเวอร์ 555+
การจองรถถ้าหากรับและส่งต่างที่กันจะเสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม ของเราคืนที่ CDG ทำให้ต้องเสียเพิ่มแต่มันก็สะดวกสะบายอ่ะเนอะ
ส่วนค่าทางด่วนที่ฝรั่งเศษจะคล้ายบ้านเรารับบัตรและจ่ายตอนออก จำไม่ผิดประมาณ 23 ยูโร แล้วแต่ความไกลของระบะทาง
แต่ที่สวิสซื้อเป็นสติกเกอร์ที่เป็นรูปทางด่วงสีเขียว ซื้อตรงร้านขายของตรงแถวๆข้ามแดนไปสวิส แต่เอาจริงๆก็ยังไม่แน่ใจว่าเค้าจะตรวจยังไงเหมือนกัน
เพราะก็ไม่มีตำรวจเรียกตรวจเลย แต่ก็ปลอดภัยไว้ก่อน อันนี้ก็อ่านจากรีวิวที่อื่นแนะนำมา ส่วนที่เช็คและเยอรมันนี้ไม่ได้เสียค่าทางด่วนเลย
การขับรถให้พึ่งระวังอย่าลืมตัวขับเลนซ้ายเด็ดขาดเพราะอันตรายมาก เราก็มีเผลอเพราะมัวแต่หาที่พักจนเกือบแล้ว ดีที่รถไม่เยอะและขับมาแค่คันเดียว ที่ยุโรปจะมีวงเวียนเยอะแรกๆอาจจะ งง เหมือนเราเข้าซอยไหนหว่า ถ้าหากไม่แน่ใจให้เราวนในวงเวียนซักรอบก่อนก็ได้เราทำมาแล้ว 555+ แต่มันจะไม่หลงนะ การหลงทางเป็นเรื่องปกติ อย่าไปซีเรียสเดี๋ยวเสียบรรยากาศหมด ให้เราหาทางกลับรถใหม่ได้ โดยเฉพาะกลับรถในวงเวียนนี้ดีสุดแล้ว
ส่วนเรื่องปั๊มน้ำมันทุกเส้นทางจะมีปั๊มข้างทางเป็นระยะๆ แต่ให้ดีก็ไม่ควรเหลือน้อยเกินไปแล้วค่อยเติม เพราะเราไม่รู้ว่าปั๊มหน้าจะอยู่ไกลไหม
โดยเฉพาะช่วงเช็คไปแฟรงนี้ค่อนข้างไกลกว่าจะเจอปั๊มให้เติมไว้ให้เต็มถังจะดีกว่า
เราเริ่มออกเดินทางกันเลยดีกว่า
เริ่มจากปารีส
จากสนามบินเข้าในเมืองเรานั่ง Roissy bus จาก CDG มาลง Opera ที่ Opera เราจะสามารถต่อ Metro ไปตามสายต่างๆได้หรือใครจะแท็กซี่หรือ RERก็ได้ แต่เราเลือกนั่งบัส
t+ ticket และ t+ ticket carnet
– เป็นตั๋วเที่ยวเดียวของเมโทร
– ใช้ขึ้นเมโทรทุกสาย ขึ้นยาวแค่ไหน ต่อเมโทรกี่ครั้งก็ได้ภายในการเดินทางครั้งนั้น
– ซื้อได้ตามตู้อัตโนมัติและช่องจำหน่ายบัตร
สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บนี้ ขอบคุณทางเจ้าของเว็บด้วย
http://www.adrenalinerushdiaries.com/travel/%E0%B8%8A%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B9%8B%E0%B8%A7%E0%B8%A3%E0%B8%96%E0%B9%84%E0%B8%9F%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%9B%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%AA/
ปารีส
พอถึงที่พักเราก็เก็บของอาบน้ำและออกไปเดินเล่นกันที่ Sacré-Cœur เป็นเหมือนจุดชมวิวเมืองและเป็นที่พักผ่อนแบบชิวๆและมีโบรถ์อยู่ด้านใน
ต่อมาเรานั่งMetro มาลงสถานี Cite เพื่อไป Cathédrale Notre-Dame de Paris
และเดินขึ้นมาตามแม่น้ำแซน
Place de la Concorde
จากนั้นเราก็นั่งmetroกลับที่พักด้วยร่างกายที่เหน็บหนาวและเท้าที่ระบมไปหมด
การเดินทางจากปารีสไปสวิส
ง่วงมากไว้มาต่อพรุ้งนี้ค่ำๆ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น