สืบเนื่องจากกระทู้นี้
https://pantip.com/topic/36330720 ที่เราสัญญาว่าจะเอารูปสถานที่สำคัญต่างๆในเมืองมาให้ดู เรามาคิดๆดู พวกรูป White House, Capital Building, Washington Monument, etc. คงเคยมีคนมารีวิวไปแล้ว เราเลยจะพาไปดู International Spy Museum ดีกว่า เป็นพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมทุกอย่างเกี่ยวกับสายลับเอาไว้ที่นี่ (ถ้ารูปใหญ่เกินไป ขอโทษด้วยนะคะ)
ไปดูกันเลยดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง รูปแรกนี้เป็น Rollover Camera ค่ะ พวกสายลับในยุค 1960 จะใช้เจ้ากล้องตัวนี้ในการถ่ายภาพเอกสารสำคัญต่างๆ โดยการกลิ้งผ่านเอกสารที่ต้องการเก็บภาพ กล้องก็จะส่งภาพนั้นๆไปยังแผ่นฟิล์มที่อยู่ในตัวกล้อง ซื่งสามารถเก็บภาพเอกสารได้ถึง 40 หน้า
สมัยก่อนที่ยังไม่มีโดรนแบบสมัยนี้ เขาใช้กล้องติดกับตัวนกพิราบ แล้วปล่อยให้บินขึ้นไปเหนือฐานทัพของฝ่ายตรงข้าม กล้องก็จะถ่ายภาพไปเรื่อยๆจนกว่านกจะบินไปยังที่หมายค่ะ ถ้าเป็นเดี๋ยวนี้คงใช้โดรนถ่ายวิดีโอแบบไลฟ์สดกันเลย ทันใจกว่า 555
ในปี 1970 สหรัฐได้ติดตั้งเครื่องดักฟังไว้ในขอนไม้ปลอม แล้วเอาตั้งไปไว้ในป่าใกล้กรุงมอสโคว์ เพื่อตรวจจับเรดาร์และสัณญาณการสื่อสารของ Missile System ของโซเวียต จากนั้นสัณญาณจะถูกส่งไปยังดาวเทียมแล้วส่งต่อไปยังฐานในสหรัฐ ด้านบนของขอนไม้อาจจะดูทึบแสงแต่จริงๆแล้วแสงอาทิตย์สามารถผ่านลงไปเพื่อชาร์ตโซล่าเซลแบตเตอรี่ของตัวเครื่องดักฟังได้
ในปี 1946 นักเรียนจากโซเวียตได้มอบตราสัญลักษณ์ของประเทศสหรัฐที่แกะสลักจากไม้ให้แก่ท่านทูตสหรัฐ ซึ่งท่านทูตได้นำไปติดไว้บนผนัง ภายหลังในปี 1952 มันถูกค้นพบว่ามีเครื่องดังฟังซ่อนอยู่ เครื่องดักฟังถูก activate (ขออภัย..นึกคำไทยที่เหมาะๆไม่ออก) ด้วยคลื่นความถี่สูงจากรถตู้ที่จอดใกล้กับสถานทูตนั่นเอง
Weekend Trip ณ กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. - ตอนที่ 2 International Spy Museum
ไปดูกันเลยดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง รูปแรกนี้เป็น Rollover Camera ค่ะ พวกสายลับในยุค 1960 จะใช้เจ้ากล้องตัวนี้ในการถ่ายภาพเอกสารสำคัญต่างๆ โดยการกลิ้งผ่านเอกสารที่ต้องการเก็บภาพ กล้องก็จะส่งภาพนั้นๆไปยังแผ่นฟิล์มที่อยู่ในตัวกล้อง ซื่งสามารถเก็บภาพเอกสารได้ถึง 40 หน้า
สมัยก่อนที่ยังไม่มีโดรนแบบสมัยนี้ เขาใช้กล้องติดกับตัวนกพิราบ แล้วปล่อยให้บินขึ้นไปเหนือฐานทัพของฝ่ายตรงข้าม กล้องก็จะถ่ายภาพไปเรื่อยๆจนกว่านกจะบินไปยังที่หมายค่ะ ถ้าเป็นเดี๋ยวนี้คงใช้โดรนถ่ายวิดีโอแบบไลฟ์สดกันเลย ทันใจกว่า 555
ในปี 1970 สหรัฐได้ติดตั้งเครื่องดักฟังไว้ในขอนไม้ปลอม แล้วเอาตั้งไปไว้ในป่าใกล้กรุงมอสโคว์ เพื่อตรวจจับเรดาร์และสัณญาณการสื่อสารของ Missile System ของโซเวียต จากนั้นสัณญาณจะถูกส่งไปยังดาวเทียมแล้วส่งต่อไปยังฐานในสหรัฐ ด้านบนของขอนไม้อาจจะดูทึบแสงแต่จริงๆแล้วแสงอาทิตย์สามารถผ่านลงไปเพื่อชาร์ตโซล่าเซลแบตเตอรี่ของตัวเครื่องดักฟังได้
ในปี 1946 นักเรียนจากโซเวียตได้มอบตราสัญลักษณ์ของประเทศสหรัฐที่แกะสลักจากไม้ให้แก่ท่านทูตสหรัฐ ซึ่งท่านทูตได้นำไปติดไว้บนผนัง ภายหลังในปี 1952 มันถูกค้นพบว่ามีเครื่องดังฟังซ่อนอยู่ เครื่องดักฟังถูก activate (ขออภัย..นึกคำไทยที่เหมาะๆไม่ออก) ด้วยคลื่นความถี่สูงจากรถตู้ที่จอดใกล้กับสถานทูตนั่นเอง