========================= เรื่องของทุกข์ และ การปลดทุกข์ ========================

"ลุง...เข้าวัดฟังเทศน์ฟังธรรมมั่งป่ะ"
"รัยฟะ เมิงเห็นกุแก่แล้วรึไง"
"ไม่ได้ว่าลุงแก่ แต่เห็นว่า ลุงอายุเยอะแล้ว ก็เลยถามดู"...

คำสนทนาปราศรัยที่เคยได้ยินผ่านหูบ่อยครั้ง...มันก็เลยเกิดความสงสัยว่า...

ทำไมคนเข้าวัดฟังเทศน์ฟังธรรม มักจะต้องเป็นผู้สูงอายุ
เป็นคนแก่หงำเหงอะ คนแก่ไม่มีคุณภาพ คนแก่สารพัดแก่ฯ

คนเหล่านี้มักจะเป็นคนสมควรเข้าวัด ?

น่าแปลกใจเหมือนกันนะเนี่ย...แล้วคนหนุ่ม คนสาวล่ะ...
ไปไหน ?...

น่าคิด...คิดแล้วก็มองหาเรื่อง (หาเรื่องที่มันเป็นต้นเรื่องของความคิดอ่ะนะ)...ก็พอมองเห็นอยู่ประปราย

คนแก่น่ะไม่ต้องพูดถึง เพราะเป็นวัยที่ว่าง วัยอยากไปสวรรค์
ก็ต้องพี่งพระ ทำบุญสุนทานไปเรื่อยเปื่อย แต่ก็มีเหมือนกัน ฟังเทศน์ฟังธรรม ฟังพระสอนธรรมะ
เสร็จแล้ว กลับบ้าน แต่ดันเดินสะดุดหัวกะไดศาลา

ธรรมะที่ฟังมา เอากลับไม่ถึงบ้านซักที...

ส่วนคนหนุ่มสาวเข้าวัด ก็ต่อเมื่อถูกมรสุมรุมล้อม ชีวิตมีแต่ความขมขื่น เป็นทุกข์...
เข้าวัดเพื่อปลดทุกข์ (การระบายไม่ออกก็ถือว่าเป็นความทุกข์อย่างหนึ่งเหมือนกัน)...

หลวงพ่อช่วยด้วย หลวงตาช่วยที ทุกข์เหลือเกิน

หลวงพ่อ หลวงตา หลวงน้าหลวงปู่ ก็ช่วยขจัดปัดเป่า ให้ศีลให้พร
รดน้ำมนต์ขจัดเสนียดยิ้มให้ผ่านพ้นไป เคาะหัวโป๊กๆ สามที....

จบสิ้นกระขบวนการ...ปลดทุกข์...


ทุกข์จึงเข้าวัด
ทุกข์จึงหาพระ

พระ...วัด...จึงเป็นที่ปลดทุกข์ของชาวประชาเช่นนี้แลแฮ....แฮ่...!!
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่