อุบัติเหตุบนท้องถนนมีคนตาย(วัยรุ่นตีกันเมาขาดสติ)ล้วนมีต้นเหตุมาจากเหล้าเบียร์แต่ทำไมถึงไม่เคยห้ามขายเหล้าซักทีครับ?

ห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงเทศกาลสงกรานต์และห้ามเด็กอายุต่ำกว่า18ปีดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
                 คือห้ามขายเหล้าในที่นี้หมายถึงซื้อมาเก็บมาตุนดื่มที่บ้านได้ นำเหล้าไปเปิดที่ร้านอาหารตามผับตามบาร์ได้(แต่ห้ามร้านค้าผับบาร์ขายเหล้า-เบียร์)เพื่อป้องกันคนดื่มเหล้าดื่มสุราอย่างไม่มีลิมิต และห้ามเด็กอายุต่ำกว่า18ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพราะเยวชนกลุ่มนี้ยังไม่บรรลุนิติภาวะ เป็นวัยรุ่นที่อยู่ในช่วงคึกคะนอง(สุ่มเสี่ยงต่อการถูกชักจูงก่อเหตุทะเลาะวิวาท)แต่เห็นหลายๆคนกลับมองว่าวิธีนี้เป็นเรื่องตลก!!ขบขัน!!
                  จริงอยู่ครับห้ามขายเหล้าคนก็ลักลอบซื้อขายอยู่ดี แต่วิธีนี้ไม่ใช่วิธีที่ห้ามคนตายแต่อาจจะช่วยลดจำนวนดีกรีและลดจำนวนคนดื่มให้ลดน้อยลงได้บ้าง ซึ่งก็ยังดีกว่าการไม่ทำอะไรเลย....
               แปลกใจทำไมเวลาพูดถึงเรื่องนี้อ้างบางคนอ้างแต่เศรษฐกิจอ้างเงินสะพัดทั้งที่ความเป็นจริงเงินสะพัดไม่ได้เกี่ยวกับเหล้าเบียร์ แต่เกี่ยวกับการจับจ่ายใช้สอยของประชาชนในการเดินทางกลับภูมิลำเนาต่างหากและคนที่ได้ประโยชน์จากการขายเหล้าเบียร์ก็มีแค่ผู้ประกอบการร้านค้า.....
                             ฉนั้นการห้ามจำหน่ายเหล้าเบียร์แค่3วัน(สงกรานต์)ไม่ใช่เป็นการละเมิดสิทธิ์แต่เพื่อลดการกินหรือดื่มอย่างไม่มีลิมิต เพราะคนที่จะกินจริงๆก็ซื้อเก็บซื้อตุนไว้กินที่บ้านอยู่แล้ว ซึ่งร้านเหล้าก็ได้ขายเหล้าก่อนหน้านี้อยู่แล้ว(จะมามีข้ออ้างไม่ได้)เพราะอุบัติเหตุส่วนหนึ่งที่หลายๆคนมองไปข้ามก็เกิดจากการเมาแล้วขับรถออกไปซื้อเหล้า
              ถึงวิธีนี้ถึงจะห้ามคนตายไม่ได้แต่ผมเชื่อว่าคงช่วยลดจำนวนคนตายให้ลดน้อยลงบ้างล่ะ1-2คนก็ยังดี(ไม่ใช่เพิ่มขึ้นๆทุกปีแบบนี้)แล้วก็มาห้ามคนนั่งท้ายรถกระบะห้ามนั่งแคปทั้งที่ต้นเหตุและสาเหตุที่แท้จริงคือเหล้าและเบียร์ที่ทำให้คนขาดสติเมามายแบบไร้ขีดจำกัดจนเป็นต้นเหตุของการทะเลาะวิวาทบนท้องถนน......เพราะการซื้อขายเหล้าเบียร์อย่างไร้ขีดจำกัด!!
             ปีหน้าอยากให้ร้านค้าผู้ประกอบการณ์ห้ามขายเหล้าช่วง3วันสงกรานต์(และควรคาดโทษให้หนักถึงขนาดเพิกถอนใบอนุญาติจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์) และควรเพิ่มโครงการหมวกกันน็อก100%(ไม่ใส่ยึดรถ)  อันนี้สำคัญมากเพราะสาเหตุการตายส่วนใหญ่มากจากรถมอเตอร์ไซค์และที่สำคัญคนส่วนใหญ่เวลาถึงเทศกาลสงกรานต์ไม่ชอบสวมใส่หมวกกันน็อค
     วิธีนี้ถึงจะเป็นการแก้ไขปัญหาที่ไม่ตรงจุดนัก(เพราะปัญหาที่แท้จริงเกิดจากจิตสำนึกของตัวบุคคล)และวินัยการจราจรและการเคารพกฏหมาย
          แต่ก็ควรลองนำเอามาใช้ดูบ้าง ไม่ใช่มองเป็นแค่เรื่องตลก(เพราะถ้าวันใดวันหนึ่งคนที่เรารักต้องจากไปมันอาจไม่ใช่เรื่องตลก) ถือซ่ะว่าก็ยังดีกว่าการไม่ทำอะไรเลยเพราะอย่างน้อยๆ ก็อาจจะช่วยลดจำนวนคนตายลดลงได้บ้าง..........ก็ยังดี
           ปล.ฝากไปถึงผู้มีส่วนเกี่ยวข้องหรือหน่วยงานรัฐด้วยน่ะครับเรื่องอุบัติเหตุมีผู้เสียชีวิตมันไม่ใช่เรื่องตลก ฉนั้นจะรณรงค์หรือทำโฆษณาอะไรอย่าทำให้มันดูตลก แต่ควรทำให้คนกลัวโดยการกระตุ้นจิตสำนึกของประชาชน!!
      ลองทำโฆษณาซักชิ้นหนึ่ง เช่นยายแก่ๆที่เฝ้านั่งรอการกลับบ้านของลูกหลาน แต่สิ่งที่ต้องพบเจอคือรถฉุกเฉินที่กำลังขนศพลูกกลับมาบ้านพร้อมน้ำตาของพ่อแม่!! ถ้าจะกระตุ้นจิตสำนึกของคนเรื่องแบบนี้อย่าทำให้มันเป็นเรื่องตลก.....
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่