ที่เที่ยวอาจจะไม่ครบ เพราะเที่ยวตามใจชอบมากๆ คือ ไปเฉพาะที่ที่อยากไป
งบประมาณอาจจะไม่ถูกมากเพราะแก่แล้ว ใช้เงินแก้ปัญหาบ้างเล็กน้อย ^ ^
รูปอาจจะไม่สวยมาก ถ่ายรูปไม่เก่ง
หัวข้ออาจจะสะเปะสะปะบ้าง เพราะโก๊ะได้หลายเรื่อง
และแชร์จากมุมมองของคนไปสองสามวัน ใครเชี่ยวชาญกว่านี้ แบ่งปันกันได้ อย่าด่าแรงเลยนะ
1. ทำเชงเก้งวีซ่า
เตรียมเอกสารเสร็จสรรพตามรีวิวทั้งหลายแหล่ จองคิวทางอินเตอร์เน็ตวันที่ 2 บร๊ะได้คิว 22
>> เตรียมตัวกันเนิ่นๆนิดนึง คิวยาวเหยียด อาจจะเป็นเพราะใกล้สงกรานต์
ตอนเตรียมเอกสารมั่นใจมาก เป๊ะ
มาตกม้าตายตรงปริ้นท์บุ๊กกิ้งเป็นภาษาไทย 555 แหม้ไม่มีใครเตือน
ตอนปริ้นท์ก็ไม่ได้คิดว่าทุกอย่างต้องเป็นภาษาอังกฤษหมด และอ่านรีวิวว่าเป็นเจ้าของกิจการไม่ต้องแปลเอกสารบริษัทก็ได้
แต่คนตรวจบอกแนะนำให้แปลนะ อืม แปลหน้างาน งานเข้าสิคุณขา
>> เสียค่าปริ้นท์และแปลหน้างานไปเบ็ดเสร็จพันกว่าบาท มือใหม่อย่าพลาดกันอีกเน้อ
>> นกแอร์ทำดิชั้นอึ้ง หาบุ๊คกิ้งภาษาอังกฤษไม่เจอ (จองตั๋วโปรแบบที่ไปขึ้นเครื่องที่ญี่ปุ่นของเอทิฮัด เลยต้องหาขาไปของที่อื่น)
คนตรวจยังยืนยัน ตั๋วต้องออกจากประเทศไทย และทุกอย่างต้องเป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น
เอาไงดีหว่า... แฟนบอกเธอตัดสินใจเลย...
เลยใช้หน้าภาษาไทยนั่นแหละ และเขียนโน้ตขยุกขยุยตรงหัวมุมประมาณนี้
To whom it may concerns,
I will fly from Thailand by Nok Air, unfortunately, no proper booking in English is available.
Hope you understand and thank you for your consideration.
Best regards,
XXX
สรุป 2 วัน ได้วีซ่ามาครอง เย้ ก็ไม่ยากอย่างที่คิด
2. ตั๋วโปรเอทิฮัด
ตอนแรกตั้งใจจะบินตรงสวิส แต่จองช้าตั๋วบินตรงช่วงที่ไปเกือบ 5 หมื่น
เอาวะ เช็ครูทราคางาม โตเกียว-อาบูดาบี-มิวนิค-ปารีส-อาบูดาบี-กรุงเทพ 15000 บาทเท่านั้น เอาอันนี้แหละ
>> บวกตั๋วไปญี่ปุ่น 7000 กับเดินทางระหว่างเมือง 7500 ก็ยังถูกกว่า แต่ก็เหนื่อยกว่าด้วย ตอนจองลืมคิด
ถ้าแพงกว่านิดหน่อยบางทีบินตรงอาจจะคุ้มกว่า แต่โชคดีช่วงที่บินแพงกว่าเยอะ แล้วสายการบินก็โอเค
เลือกเผื่อต่อเครื่องไว้ 2 ชั่วโมง คนต่อเครื่องที่อาบูดาบีเยอะมาก หลายสัญชาติ ทำการตลาดและจัดการ manage space บนเครื่องได้เจ๋งจริงๆ
บริการโดยรวม อาหารก็ดีนะ เสียอย่างเดียวภาษาแขกเยอะ
>> ตั๋วโปรจะได้โหลดกระเป๋าคนละใบ โหลดเพื่มเสีย 20 ยูโร ก็ต้องจัดกระเป๋าดีๆ โชคดีอีกใบถือขึ้นเครื่องได้
มือใหม่ไปญี่ปุ่น-เยอรมัน-สวิส-ฝรั่งเศส-อาบูดาบี
งบประมาณอาจจะไม่ถูกมากเพราะแก่แล้ว ใช้เงินแก้ปัญหาบ้างเล็กน้อย ^ ^
รูปอาจจะไม่สวยมาก ถ่ายรูปไม่เก่ง
หัวข้ออาจจะสะเปะสะปะบ้าง เพราะโก๊ะได้หลายเรื่อง
และแชร์จากมุมมองของคนไปสองสามวัน ใครเชี่ยวชาญกว่านี้ แบ่งปันกันได้ อย่าด่าแรงเลยนะ
1. ทำเชงเก้งวีซ่า
เตรียมเอกสารเสร็จสรรพตามรีวิวทั้งหลายแหล่ จองคิวทางอินเตอร์เน็ตวันที่ 2 บร๊ะได้คิว 22
>> เตรียมตัวกันเนิ่นๆนิดนึง คิวยาวเหยียด อาจจะเป็นเพราะใกล้สงกรานต์
ตอนเตรียมเอกสารมั่นใจมาก เป๊ะ
มาตกม้าตายตรงปริ้นท์บุ๊กกิ้งเป็นภาษาไทย 555 แหม้ไม่มีใครเตือน
ตอนปริ้นท์ก็ไม่ได้คิดว่าทุกอย่างต้องเป็นภาษาอังกฤษหมด และอ่านรีวิวว่าเป็นเจ้าของกิจการไม่ต้องแปลเอกสารบริษัทก็ได้
แต่คนตรวจบอกแนะนำให้แปลนะ อืม แปลหน้างาน งานเข้าสิคุณขา
>> เสียค่าปริ้นท์และแปลหน้างานไปเบ็ดเสร็จพันกว่าบาท มือใหม่อย่าพลาดกันอีกเน้อ
>> นกแอร์ทำดิชั้นอึ้ง หาบุ๊คกิ้งภาษาอังกฤษไม่เจอ (จองตั๋วโปรแบบที่ไปขึ้นเครื่องที่ญี่ปุ่นของเอทิฮัด เลยต้องหาขาไปของที่อื่น)
คนตรวจยังยืนยัน ตั๋วต้องออกจากประเทศไทย และทุกอย่างต้องเป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น
เอาไงดีหว่า... แฟนบอกเธอตัดสินใจเลย...
เลยใช้หน้าภาษาไทยนั่นแหละ และเขียนโน้ตขยุกขยุยตรงหัวมุมประมาณนี้
To whom it may concerns,
I will fly from Thailand by Nok Air, unfortunately, no proper booking in English is available.
Hope you understand and thank you for your consideration.
Best regards,
XXX
สรุป 2 วัน ได้วีซ่ามาครอง เย้ ก็ไม่ยากอย่างที่คิด
2. ตั๋วโปรเอทิฮัด
ตอนแรกตั้งใจจะบินตรงสวิส แต่จองช้าตั๋วบินตรงช่วงที่ไปเกือบ 5 หมื่น
เอาวะ เช็ครูทราคางาม โตเกียว-อาบูดาบี-มิวนิค-ปารีส-อาบูดาบี-กรุงเทพ 15000 บาทเท่านั้น เอาอันนี้แหละ
>> บวกตั๋วไปญี่ปุ่น 7000 กับเดินทางระหว่างเมือง 7500 ก็ยังถูกกว่า แต่ก็เหนื่อยกว่าด้วย ตอนจองลืมคิด
ถ้าแพงกว่านิดหน่อยบางทีบินตรงอาจจะคุ้มกว่า แต่โชคดีช่วงที่บินแพงกว่าเยอะ แล้วสายการบินก็โอเค
เลือกเผื่อต่อเครื่องไว้ 2 ชั่วโมง คนต่อเครื่องที่อาบูดาบีเยอะมาก หลายสัญชาติ ทำการตลาดและจัดการ manage space บนเครื่องได้เจ๋งจริงๆ
บริการโดยรวม อาหารก็ดีนะ เสียอย่างเดียวภาษาแขกเยอะ
>> ตั๋วโปรจะได้โหลดกระเป๋าคนละใบ โหลดเพื่มเสีย 20 ยูโร ก็ต้องจัดกระเป๋าดีๆ โชคดีอีกใบถือขึ้นเครื่องได้