[CR][SR] matsumoto มีอะไรมากกว่าที่คิด ชมงานของศิลปิน Yayoi Kusama 14 วัน 9 เมืองในประเทศญี่ปุ่น ฉบับโตแล้วทำอะไรก็ได้ part 3

ต่อเนื่องจากสองกระทู้ก่อนหน้านี้นะคะ กระทู้นี้เป็นวันที่ 6 ในญี่ปุ่น เราจะมาแนะนำเมือง MATSUMOTO (มัตสึโมโต้) ซึ่งเป็นมืองในเขต NAGANO
เราออกเดินทางมาจากโตเกียวโดยเริ่มใช้ JR-PASS แบบ 7 วันเป็นวันแรกนะคะ ซึ่งเหตุผลที่เราซื้อ JR-PASS สามารถดูได้ในกระทู้ที่ 1 ค่ะ

กระทู้: 14 วัน 9 เมืองในประเทศญี่ปุ่น ฉบับโตแล้วทำอะไรก็ได้ part 1
https://pantip.com/topic/36337349
กระทู้: พาเที่ยว 21_21 design sight และ hitashi seaside park 14 วัน 9 เมืองในประเทศญี่ปุ่น ฉบับโตแล้วทำอะไรก็ได้ part 2
https://pantip.com/topic/36339438

DAY 6: เนื่องจากเราและเพื่อนๆออกไปนอนนอกเมืองกันมาทำให้พวกเราต้องนั่งย้อนกลับไปในโตเกียวเพื่อขึ้นรถไฟไปมัตสึโมโต้กัน ทุกคนกระเป๋าใบใหญ่มากก็ต้องหอบตะเลงๆกันไป

การเดินทาง เราจะเริ่มที่ TOKYO Station ซึ่งจะนั่ง Hokuriku-Shinkanzen ไปลงที่ NAGANO แล้วค่อยต่อShinanoไปลง MATSUMOTO Station
โดยทั้งหมดราคาประมาณ 3,xxx บาท แต่เราสามารถใช้ JR-PASS ได้ คือไม่ต้องเสียเงินเลย

บรรณยากาศระหว่างทางเป็นเมืองสลับกับวิว ถ้าช่วงที่นั่งชินคันเซนจะต้องเข้าอุโมงจะไม่ค่อยมีสัณญานทั้งโทรศัพและอินเตอร์เนต
เดินทางประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่งก็ถึง MATSUMOTO Station ที่นี่เราจองเป็นโรงแรมเพราะว่าราคาถูกกว่า Airbnb และมีจักรยานให้ยืมปั่นรอบๆเมืองได้
โรงแรมอยู่ห่างจากสถานีรถไฟด้วยการเดินประมาณ 10 นาที พอออกมาจากสถานีก็เดินไปโรงแรมเลยทันที
ที่นี่มีทั้งบรรยากาศความเป็นเมืองสมัยใหม่และสมัยเก่าปะปนกันไปแต่ว่าไม่รู้สึกขัดหูขัดตาเลย ที่สำคัญ Matsumoto เหมือนเป็นเมืองที่อยู่ในหุบเขา มีอากาศเย็นสบาย และไม่ว่าจะหันไปทางไหนเราจะเห็นภูเขาสีเขียวเสมอ

พอเอาของไปเก็บที่โรงแรมและเชคอินเสร็จเรียบร้อยแล้ว เราก็ออกมาเดินเล่นในเมืองกันโดยวันนี้เรามาถึงเย็นแล้ว เลยไม่ค่อยเหลือกิจกรรมให้ทำเท่าไหร่
เรายืมจักรยานมาปั่นเล้นระแวกโรงแรมและมื้อเย็นวันนี้พวกเราซื้ออาหารจากเซเว่นเข้ามาทานในห้อง พอตกดึกไม่มีอะไรทำก็เลยออกไปเดินเล่นในเซเว่นอีกรอบ

วันต่อมาเรามีแพลนว่าจะไปเดินเส้นทางธรรมชาติที่ Kamikochi กัน โดยการเดินทางใช้เวลานานเราจึงออกกันแต่เช้า เพื่อที่จะได้มีเวลากลับมาเดินเล่นในเมืองต่อด้วย

DAY 7: วันนี้ตื่นตั้งแต่ 6 โมงและรีบเดินไปสถานีรถไฟเพราะเป็นวันที่ทุกคนรอคอยมากถึงมากที่สุด
การเดินทาง นั่งรถไฟจาก Matsumoto Station ไปลงที่สถานี SHIN-SHIMASHIMA (ชิน-ชิมะชิมะ) ใช้เวลาประมาณ 30 นาที อันนี้เราใช้ JR-PASS วันที่ 2 ไม่ต้องจ่ายเงิน เย่ๆๆ
เรามีน้องๆนักเรียนแก๊งนี้ช่วยดูให้ตลอดเวลยว่าจะถึงชินชิมะชิมะรึยัง เค้าหันมอบอกตลอด เหลืออีก 3 สถานีนะ!! อันต่อไปนะ!! น่ารักมากๆเลย
พอเราถึง SHIN-SHIMASHIMA จะเห็นว่าเป็นสถานีที่เล็กมากมีที่แปะบัตรเข้า-ออกแค่ 1 อัน พอออกมาก็ต้องซื้อตั๋วสำหรับขึ้น BUS ซึ่งรถออกเป็นเวลา ควรซื้อทั้งไป-กลับ เพื่อความสะดวกและรวดเร็ว ควรสอบถามตารางรถ BUS จากที่พักหรือลองหาในอินเตอร์เนตดูก่อนจะได้เลือกเวลาขึ้นรถไฟตอนเช้าถูก ตอนเราไม่ได้เช็ค ต้องมานั่งรอรถกว่า 30 นาที และแถวนี้ไม่มีอะไรเลย เป็นถนนท่ามกลางภูเขา มีเพียงตู้กดน้ำและห้องให้นั่งรอเท่านั้น หลังจากขึ้นรถจะใช้เวลาอีก 1 ชั่วโมงและรถจะปล่อยเราลงตามจุดต่างๆ แนะนำให้ลงที่ TAISHO POND ซึ่งเป็นจุดที่เราเริ่มเดิน และไปสิ้นสุดที่บริเวณ KAPPA BRIDGE

พอลงรถก็พบกับอากาศเย็นที่ประทะเข้าที่หน้าเต็มๆ จุดนี้จะมีห้องน้ำ แนะนำว่าให้เข้าไว้ก่อนเลย ควรเตรียมทิชชู่ทั้งเปียกและแห้งมาด้วย

เราจะเห็นว่ามีวิวภูเขาที่มีหิมะอยู่ด้านบน และมีทะเลสาบ ซึ่งถ้าเดินไปตามทางของเค้าก็จะเห็นภูเขาลูกนี้ในหลายๆมุมพร้อมแม่น้ำหรือทะเลสาบ ทางไม่ลำบาก เป็นทางเดินไม้เรียบๆมีแค่บางช่วงที่เป็นหินแต่ก็เดินง่ายมาก ควรใส่รองเท้าที่เราถนัดเพราะต้องเดินเยอะ
น้ำใสและเย็นมาก เราเห็นคนที่นี่ชอบเล่นปาหินกันมากๆ

ถ้าเดินจริงๆใช้เวลาประมาณ 50 นาที แต่ถ้าถ่ายรูปด้วยก็อาจจะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง-2 ชั่วโมง
พอเดินมาถึง KAPPA-BRIDGE จะพบโซนขายอาหารและของฝาก สามารถจับจ่ายได้ตามใจชอบ เราหิวมากจากการเดินเลยจัดซะหน่อย
กรอบนอกฉ่ำใน
อากาศหนาวๆต้องคู่กับไอศครีมมมมมมมม
หลังจากพักผ่อนตามอัธยาศัยก็ถึงเวลากลับ โดยเราสามารถนำตั๋วรถ BUS ขากลับ ไปแลกที่นั่งได้ที่ Bus-Terminal โดยเดินมาจากKAPPA-BRIDGE ประมาณ 5 นาที ตรงนี้ก็ของกินเยอะเหมือนกัน พอถึงเวลานั่งรถเราก็นั่งกลับไปที่ Shin-shimashima เหมือนเดิมและกลับไปยัง Matsumoto Station

กลับมาถึงตอนบ่ายๆก็ต่อด้วยการเดินชมเมือง ระหว่างสถานีรถไฟกับที่พักเรามีถนนเส้นนึงเป็นบ้านโบราณโทนขาวๆสบายตามองเห็นวิวภูเขา
พวกเราก็เดินเล่นชิลๆ มีทั้งของกินเบาๆ และพวก Craft เซรามิก เครื่องประดับ ฯลฯ ถือว่าฆ่าเวลาได้ดี
ของเด็ดคือ ไอศครีมมตอเบอร์รี่แพนเค้ก ดีงามพระราม 8
ชอบมากๆจนต้องกลับมากินอีกครั้ง เนื้อไอศครีมมีเอกลักษณ์มากมีกลิ่นมอล์ตๆบอกไม่ถูก ดูรวมๆแล้วมีเสน่เหลือเกินๆๆๆๆรักๆๆๆ

(ช่วงต่อไปนี้เริ่มไร้สาระ ส่วนตัวมากใครไม่อินข้ามเลยๆๆๆ)
หลังจากนั้นเราไปเดินห้างกัน ที่นี่มี PARCO นะยูววววว LUSH ก็มี MUJI ก็มา MHL ก็ยังมีไปจนถึง ABC MART ไม่ธรรมดาเลยจริงๆจนเดินๆไปก็ไปเจอซุปเปอร์มาร์เกตที่นึงที่แบบ พระเจ้า ! มีขนมทุกแบบที่ตามหา ประทับใจมากจนกิดการซื้อแบบดึงสติไม่อยู่
ของเด็ดเบอร์ 1: ป๊อกกี้รสผักดอง รสนี้อร่อยมากจริงๆเอาไปให้เพื่อนคนนึงชิมตอนมารอบก่อนแล้วเพื่อนติดใจมากจนรอบนี้มาซื้อด้วยตัวเอง เป็นของดีที่มีแค่เมืองนี้เท่านั้น
ของเด็ดเบอร์ 2: ขอโทษด้วยที่ไม่มีรูป ฮือๆ มันคือโดรายากิไส้แอปเปิ้ลเป็นร้านในเมืองที่ขายชีสเค๊กด้วย แต่ในซุปเปอร์ก็มีขาย ใครไปลองหาดูน้า

กลับมาที่ช่วงมีสาระ

DAY 8: วันนี้เราจะต้องออกเดินทางไปยังเมือง KANAZAWA ซึ่งในตอนเช้าพวกเราจะไปดูงานของศิลปินคนโปรดของพวกเราที่ Matsumotoshi Museum
ตื่นเต้นมากจนไม่รู้จะตื่นเต้นยังไง ทั้งๆที่เป็นครั้งที่ 2 แล้วแต่ก็ยังตื่นเต้นอยู่ดี เราออกจากโรงแรมพร้อมเชค์เอาท์ประมาณเกือบๆ 10 โมง โดยยืมจักรยานของโรงแรมปั่นไปมิวเซียม
ด้านหน้าเป็นแบบนี้ ท้าาาาด้าาาาา  คุณป้า YAYIO KUSAMA มาเองเลยๆๆๆ ด้านหน้าเป็นแบบนี้
ด้านนอกมีตู้กดและของต่างๆที่ทำร่วมกับคุณป้า
ต้องซื้อบัตรเข้าชมก่อนนะจ้ะๆโดยบัตรที่ซื้อจะสามารถชมงานของ Yayoi Kusama ซึ่งจะมีอยู่ตลอดปีแต่งานที่โชว์จะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ และสามารถชมนิทรรศการอื่นๆใน museum ได้ สามารถดูรายละเอียดได้ในเว็บของ Matsumotoshi Museum
ด้านในถูกออกแบบและตกแต่งอย่างดี ค่อนข้างใช้ความเงียบ
มาดูด้านในกันดีกว่า

มีห้องฟักทอง จริงๆมีห้องปลาหมึกด้วย เสียดายไม่มีรูปสวยๆเลย
ต่อมาเป็นห้องที่เข้าไปได้ทีละ 5 คนและเค้าจะปิดประตูแล้วไฟด้านในก็จะเปลี่ยนสีไปเรื่อยๆ ตอนอยู่ข้างในรู้สึกเหมือนเราอยู่ในอะไรไม่รู้ รู้สึกประทับใจมาก รู้สึกเหมือนไม่ได้ยืนอยู่บนพื้น เหมือนเราลอยได้

หลังจากนั้นพวกเราก็กลับไปที่โรงแรมและเดินไปขึ้นรถไฟเพื่อไป KANAZAWA ต่อ ติดตามในกระทู้ต่อไปน้าาาาาา

ปล. ที่สถานีรถไฟ Matsumoto Station มีห้างชื่อ Midori และมี Starbuck ถ้าไปก่อนเวลารถไฟซักพักก็ไปนั่งเล่นเดินเล่นชิลๆได้เลย
อันนี้รส cheese cake ฟินใช้ได้แต่ที่นี่ไม่ยอมทำแบบหวานน้อยให้ คือสูตรไหรสูตรนั้น อีกอย่างคือ ยังเทใจให้อันที่เป็นสตอเบอร์รี่มากกว่า

สำหรับใครที่ชื่นชอบธรรมชาติ ที่นี่ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวคือ tateyama kurobe alpine ซึ่งการเดินทางเราจะต้องนั่งจาก Matsumoto หรือ Kanazawa ไปลงที่สถานี TOYAMA ใช้ JR-PASS อีกเช่นเคย จากนั้นต่อรถ BUS ไปลงที่ Tetayama Station และขึ้นกระเช้าต่อไปบนเขา
ช่วงที่เราไปด้านบนมีหิมะปกคลุม
สูงและหนาวมาก
อยู่ใกล้ท้องฟ้าแบบนี้เลย สามารถนั่งกินอุด้งร้อนๆตรงนี้ได้ บรรยากาศดีมาก

นอกจากนี้ยังมี MATSUMOTO CASTLE ด้วย คนไม่เยอะเท่าโอซาก้าแต่บรรยากาศสูสี
ชื่อสินค้า:   เที่ยวญี่ปุ่น
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
**SR - Sponsored Review : ผู้เขียนรีวิวนี้ไม่ได้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง แต่มีผู้สนับสนุนสินค้าหรือบริการนี้ให้แก่ผู้เขียนรีวิว โดยที่ผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนอื่นใดในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่