สวัสดีค่ะ
เรามีเรื่องกลุ้มใจมากๆที่อยากจะมาปรึกษาผู้รู้และขอคำแนะนำค่ะ
ขอเกริ่นยาวหน่อยก่อนว่า
เรามีธุรกิจร้านอาหารที่อิงกลุ่มนักท่องเที่ยวค่ะ
5 ปีที่เริ่มธุรกิจมา ธุรกิจค่อยๆเติบโตแต่ไม่หวือหวา เรียกว่ามีกิน มีเก็บ ไม่มีหนี้
สามีทำอาหารเองค่ะ เค้าค่อนข้างมีฝีมือและมีชื่อเสียงระดับนึง
เมื่อ2ปีก่อน มีโครงการอเวนิวนึงมาชวนไปเปิดสาขา โดยที่โครงการนี้เค้าเปิดมาแล้ว 3-4 สาขาแล้วในจังหวัด
เราก็ศึกษาเรื่องทำเล ความเป็นไปได้แล้ว เราจึงตกลงทำสัญญา
เรารอโครงการมาเกือบปี เค้ายังสร้างไม่เสร็จค่ะ เราก็ไม่รีบร้อนอะไร กะว่าจะเก็บเงินไปด้วย เผื่อเปิดร้าน
จนเมื่อต้นปี 2559 เค้ามาเร่งให้เราเข้าตกแต่งค่ะ โดยแจ้งว่าภายใน 14 กุมภานี้ โครงการจะเปิดแล้ว
เราเองก็รีบค่ะ กลัวไม่ทันตอนโครงการเปิด เอาเงินเก็บก้อนใหญ่ออกมา และกู้เงินมาเพิ่มอีกด้วยจำนวน 7 หลัก
เพียงเพราะเราคิดว่ามันคือการลงทุน
เดือนแล้วเดือนเล่าผ่านไป โครงการมีปัญหากับผู้รับเหมา แว่วๆว่าการก่อสร้างเปลี่ยนผู้รับเหมามาแล้ว 8 เจ้า
โครงการไม่เสร็จค่ะ ระหว่างนั้นเค้าก็พลัดเราไปเรื่อยๆ จากตอนแรกบอกว่าวาเลนไทน์ เราก็รีบเร่งช่างก่อสร้าง
ต้องจ่าย OT เพราะกลัวร้านไม่เสร็จทันโครงการ แต่เมื่อเวลามาถึงก็ไม่เสร็จ ไม่พร้อมเปิด เอ้อ....เราจ่ายอะไรไปหมดแล้ว
รวมถึงค่าโฆษณา การตลาด ค่าแรงเด็กที่จ้างมาเทรนด์ก่อนร้านเปิด เราก็ต้องเอาเงินมาจ่ายทั้งๆที่ร้านไม่เปิด เดือนมีนา เมษา พ.ค. ผ่านไป เข้าอีหรอบเดิมค่ะ เราต้องจ่ายเงินทิ้งกับค่าโฆษณา ค่าแรงทิ้งไปทุกๆเดือน
จนสุดท้ายเราก็ดันทุรังเปิดร้านในเดือน มิ.ย. ทั้งๆที่โครงการมันยังไม่เสร็จนั่นแหละค่ะ เพราะเราโฆษณาเต็มโปรแกรมไปแล้ว
เงินสายป่านใกล้จะขาดแล้ว เมื่อร้านเปิดไปได้ระยะนึง จนโครงการพร้อมเปิดเฟสแรก มีร้านอีก 2 ร้านตามมาเปิด ณ เวลานั้นมีร้านค้า 3 ร้านในโครงการ พร้อมตึกแถวรอบๆโครงการอีกหลายสิบห้องที่ไม่มีการเปิดดำเนินการใดๆ รวมถึงเฟสหลังที่ไม่ได้เปิด เพราะยังก่อสร้างไม่เสร็จ คาดว่ามีปัญหากับผู้รับเหมา
ร้านเราเปิดกิจการไปได้ 6 เดือน โดยมีลูกค้าไม่กี่โต๊ะต่อวันซึ่งล้วนเป็นลูกค้าของร้านแรกเราตามมาและที่มาจากการทำโฆษณาของเรา ไม่มีลูกค้า Wallk in นะคะ เพราะโครงการดูไม่เรียบร้อย เหมือนโครงการร้าง ไม่มีใครขับรถเข้ามาเท่าไหร่ เราจึงตัดสินใจหยุดค่ะ
ยกเลิกสัญญาพร้อมหนี้ค่าเช่าอีก 2 เดือน ทำหนังสือยอมรับสภาพหนี้ แล้วขอผ่อนหนี้ พร้อมทั้งถอนตัวออกมา เลพนักงานส่วนนึงออก และคนเก่าแก่ก็เอากลับมาทำที่ร้านเดิม จนถึงทุกวันนี้โครงการก็เงียบอยู่เหมือนเดิม ทั้งๆที่ทำเลดีมาก
อ้อ ลืมบอกค่ะ มีพนักงานบางส่วนไม่ยอมออกจากงานด้วยค่ะ ขอร้องให้ออกก็ไม่ออก และทุกคนพร้อมใจลดเงินเดือนตัวเองเพื่อเฉลี่ยๆให้ค่าแรงต่อเดือนของเราน้อยลง แหม่....ไม่รู้จะรักเราขนาดนั้นทำไม
เอ้า.....ก็เลี้ยงๆกันไป พร้อมหนี้สินที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ก้อนใหญ่
หลังจากปิดร้านไปได้ไม่ถึงอาทิตย์ก็เกิดเรื่องค่ะ
พ่อสามีเกิดเป็นเส้นเลือดในสมองอุดตันค่ะ ไปเจอท่านเจอช้า และส่งโรงพยาบาลใกล้เคียงแล้วเค้ารับอาการไม่ได้ค่ะ ต้องส่งต่อไปยัง รพ.เอกชนชื่อดังของจังหวัด รักษาไป 18 วัน ค่ารักษา 1,9xx,xxx บาทค่ะ ขอทำเรื่องย้ายไป รพ.รัฐ ทันที่ที่อาการของพ่อย้ายได้ เพื่อใช้สิทธิ์บัตรทองค่ะ
แม่สามี ซึ่งแยกทางกับพ่อสามีมานานแล้ว เค้าช่วยค่ารักษามาล้านนึงค่ะ และส่วนที่เหลือเราก็ขายรถ ดึงเงินธุรกิจออกมาจ่ายค่ะ
ค่าใช้จ่ายมันไม่จบสิ้นแค่นั้นนะคะ ค่าดูแลตอนอยู่ รพ.รัฐ นอนหลายเดือนค่ะ ค่าใช้จ่ายดูแลคนไข้ติดเตียงเยอะมากๆค่ะ
เงินธุรกิจที่ดึงมาไม่พอค่ะ ต้องไปกู้หนี้นอกระบบ เพราะ เราขอกู้ตามแบ้งค์อื่นๆก็ไม่ได้แล้วเพราะมีหนี้ก้อนใหญ่อยู่แล้ว
ตั้งแต่มีหนี้นอกระบบมา เราหมุนเงินไม่ทันเลยค่ะ หนี้พอกไปเรื่อยๆเพราะต้นไม่ลด จ่ายไปแต่ดอกโหดมาก
จนสามเดือนให้หลังมานี้ มันฉุดให้เราไม่สามารถจ่ายหนี้ในระบบได้แล้วค่ะ อีกอย่าง ช่วงนี้เศรษฐกิจแย่มากๆ การท่องเที่ยวในจังหวัดเราซบเซาสุดๆ
เราไม่สามารถหาเงินมาจ่ายหนี้นอกระบบได้ค่ะ ยืมเพื่อน ญาติ พี่น้อง มาทั่วแล้ว เราแค่อยากปิดหนี้นอกระบบให้ได้ค่ะ ลำพังหนี้ในระบบเราสามารถหามาจ่ายได้ แต่หนี้นอกระบบต้นไม่ลด ดอกแพงไปเรื่อยๆ เราควรทำอย่างไรดีคะ ไปหากู้ในระบบก็ไม่ได้แล้ว
อยากปรึกษาผู้มีความรู้ทางด้านการเงินค่ะ ว่าสถานการณ์แบบนี้เราควรทำอย่างไรดีคะ
ตอนนี้เศรษฐกิจก็นิ่งเงียบ เรียกว่าดิ่งลงเหว จะขยับขยายไปทำอย่างอื่นก็ไม่มีทุน ชวนสามีไปทำงานต่างประเทศหาเงินใช้หนี้ เพราะอาชีพเค้าค่อนข้างเงินดี แต่เค้าทิ้งพ่อไปไม่ได้ค่ะ
ใครมีทางออกดีๆ แนะนำมาได้เลยนะคะ
ปล.ขอนอกเรื่องนิดนึงนะคะ
เค้าว่ากันว่าเศรษฐกิจจะแย่ไปเรื่อยๆหากบ้านเราไม่มีการเลือกตั้งจริงเหรอคะ
ขอบคุณค่ะ
แก้ไขเว้นวรรคใหม่ ไล่แก้คำผิดค่ะ
เราจะหาทางออกจากหนี้ที่ท่วมหัวในสภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ได้อย่างไร เครียดมากค่ะ
เรามีเรื่องกลุ้มใจมากๆที่อยากจะมาปรึกษาผู้รู้และขอคำแนะนำค่ะ
ขอเกริ่นยาวหน่อยก่อนว่า
เรามีธุรกิจร้านอาหารที่อิงกลุ่มนักท่องเที่ยวค่ะ
5 ปีที่เริ่มธุรกิจมา ธุรกิจค่อยๆเติบโตแต่ไม่หวือหวา เรียกว่ามีกิน มีเก็บ ไม่มีหนี้
สามีทำอาหารเองค่ะ เค้าค่อนข้างมีฝีมือและมีชื่อเสียงระดับนึง
เมื่อ2ปีก่อน มีโครงการอเวนิวนึงมาชวนไปเปิดสาขา โดยที่โครงการนี้เค้าเปิดมาแล้ว 3-4 สาขาแล้วในจังหวัด
เราก็ศึกษาเรื่องทำเล ความเป็นไปได้แล้ว เราจึงตกลงทำสัญญา
เรารอโครงการมาเกือบปี เค้ายังสร้างไม่เสร็จค่ะ เราก็ไม่รีบร้อนอะไร กะว่าจะเก็บเงินไปด้วย เผื่อเปิดร้าน
จนเมื่อต้นปี 2559 เค้ามาเร่งให้เราเข้าตกแต่งค่ะ โดยแจ้งว่าภายใน 14 กุมภานี้ โครงการจะเปิดแล้ว
เราเองก็รีบค่ะ กลัวไม่ทันตอนโครงการเปิด เอาเงินเก็บก้อนใหญ่ออกมา และกู้เงินมาเพิ่มอีกด้วยจำนวน 7 หลัก
เพียงเพราะเราคิดว่ามันคือการลงทุน
เดือนแล้วเดือนเล่าผ่านไป โครงการมีปัญหากับผู้รับเหมา แว่วๆว่าการก่อสร้างเปลี่ยนผู้รับเหมามาแล้ว 8 เจ้า
โครงการไม่เสร็จค่ะ ระหว่างนั้นเค้าก็พลัดเราไปเรื่อยๆ จากตอนแรกบอกว่าวาเลนไทน์ เราก็รีบเร่งช่างก่อสร้าง
ต้องจ่าย OT เพราะกลัวร้านไม่เสร็จทันโครงการ แต่เมื่อเวลามาถึงก็ไม่เสร็จ ไม่พร้อมเปิด เอ้อ....เราจ่ายอะไรไปหมดแล้ว
รวมถึงค่าโฆษณา การตลาด ค่าแรงเด็กที่จ้างมาเทรนด์ก่อนร้านเปิด เราก็ต้องเอาเงินมาจ่ายทั้งๆที่ร้านไม่เปิด เดือนมีนา เมษา พ.ค. ผ่านไป เข้าอีหรอบเดิมค่ะ เราต้องจ่ายเงินทิ้งกับค่าโฆษณา ค่าแรงทิ้งไปทุกๆเดือน
จนสุดท้ายเราก็ดันทุรังเปิดร้านในเดือน มิ.ย. ทั้งๆที่โครงการมันยังไม่เสร็จนั่นแหละค่ะ เพราะเราโฆษณาเต็มโปรแกรมไปแล้ว
เงินสายป่านใกล้จะขาดแล้ว เมื่อร้านเปิดไปได้ระยะนึง จนโครงการพร้อมเปิดเฟสแรก มีร้านอีก 2 ร้านตามมาเปิด ณ เวลานั้นมีร้านค้า 3 ร้านในโครงการ พร้อมตึกแถวรอบๆโครงการอีกหลายสิบห้องที่ไม่มีการเปิดดำเนินการใดๆ รวมถึงเฟสหลังที่ไม่ได้เปิด เพราะยังก่อสร้างไม่เสร็จ คาดว่ามีปัญหากับผู้รับเหมา
ร้านเราเปิดกิจการไปได้ 6 เดือน โดยมีลูกค้าไม่กี่โต๊ะต่อวันซึ่งล้วนเป็นลูกค้าของร้านแรกเราตามมาและที่มาจากการทำโฆษณาของเรา ไม่มีลูกค้า Wallk in นะคะ เพราะโครงการดูไม่เรียบร้อย เหมือนโครงการร้าง ไม่มีใครขับรถเข้ามาเท่าไหร่ เราจึงตัดสินใจหยุดค่ะ
ยกเลิกสัญญาพร้อมหนี้ค่าเช่าอีก 2 เดือน ทำหนังสือยอมรับสภาพหนี้ แล้วขอผ่อนหนี้ พร้อมทั้งถอนตัวออกมา เลพนักงานส่วนนึงออก และคนเก่าแก่ก็เอากลับมาทำที่ร้านเดิม จนถึงทุกวันนี้โครงการก็เงียบอยู่เหมือนเดิม ทั้งๆที่ทำเลดีมาก
อ้อ ลืมบอกค่ะ มีพนักงานบางส่วนไม่ยอมออกจากงานด้วยค่ะ ขอร้องให้ออกก็ไม่ออก และทุกคนพร้อมใจลดเงินเดือนตัวเองเพื่อเฉลี่ยๆให้ค่าแรงต่อเดือนของเราน้อยลง แหม่....ไม่รู้จะรักเราขนาดนั้นทำไม
เอ้า.....ก็เลี้ยงๆกันไป พร้อมหนี้สินที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ก้อนใหญ่
หลังจากปิดร้านไปได้ไม่ถึงอาทิตย์ก็เกิดเรื่องค่ะ
พ่อสามีเกิดเป็นเส้นเลือดในสมองอุดตันค่ะ ไปเจอท่านเจอช้า และส่งโรงพยาบาลใกล้เคียงแล้วเค้ารับอาการไม่ได้ค่ะ ต้องส่งต่อไปยัง รพ.เอกชนชื่อดังของจังหวัด รักษาไป 18 วัน ค่ารักษา 1,9xx,xxx บาทค่ะ ขอทำเรื่องย้ายไป รพ.รัฐ ทันที่ที่อาการของพ่อย้ายได้ เพื่อใช้สิทธิ์บัตรทองค่ะ
แม่สามี ซึ่งแยกทางกับพ่อสามีมานานแล้ว เค้าช่วยค่ารักษามาล้านนึงค่ะ และส่วนที่เหลือเราก็ขายรถ ดึงเงินธุรกิจออกมาจ่ายค่ะ
ค่าใช้จ่ายมันไม่จบสิ้นแค่นั้นนะคะ ค่าดูแลตอนอยู่ รพ.รัฐ นอนหลายเดือนค่ะ ค่าใช้จ่ายดูแลคนไข้ติดเตียงเยอะมากๆค่ะ
เงินธุรกิจที่ดึงมาไม่พอค่ะ ต้องไปกู้หนี้นอกระบบ เพราะ เราขอกู้ตามแบ้งค์อื่นๆก็ไม่ได้แล้วเพราะมีหนี้ก้อนใหญ่อยู่แล้ว
ตั้งแต่มีหนี้นอกระบบมา เราหมุนเงินไม่ทันเลยค่ะ หนี้พอกไปเรื่อยๆเพราะต้นไม่ลด จ่ายไปแต่ดอกโหดมาก
จนสามเดือนให้หลังมานี้ มันฉุดให้เราไม่สามารถจ่ายหนี้ในระบบได้แล้วค่ะ อีกอย่าง ช่วงนี้เศรษฐกิจแย่มากๆ การท่องเที่ยวในจังหวัดเราซบเซาสุดๆ
เราไม่สามารถหาเงินมาจ่ายหนี้นอกระบบได้ค่ะ ยืมเพื่อน ญาติ พี่น้อง มาทั่วแล้ว เราแค่อยากปิดหนี้นอกระบบให้ได้ค่ะ ลำพังหนี้ในระบบเราสามารถหามาจ่ายได้ แต่หนี้นอกระบบต้นไม่ลด ดอกแพงไปเรื่อยๆ เราควรทำอย่างไรดีคะ ไปหากู้ในระบบก็ไม่ได้แล้ว
อยากปรึกษาผู้มีความรู้ทางด้านการเงินค่ะ ว่าสถานการณ์แบบนี้เราควรทำอย่างไรดีคะ
ตอนนี้เศรษฐกิจก็นิ่งเงียบ เรียกว่าดิ่งลงเหว จะขยับขยายไปทำอย่างอื่นก็ไม่มีทุน ชวนสามีไปทำงานต่างประเทศหาเงินใช้หนี้ เพราะอาชีพเค้าค่อนข้างเงินดี แต่เค้าทิ้งพ่อไปไม่ได้ค่ะ
ใครมีทางออกดีๆ แนะนำมาได้เลยนะคะ
ปล.ขอนอกเรื่องนิดนึงนะคะ
เค้าว่ากันว่าเศรษฐกิจจะแย่ไปเรื่อยๆหากบ้านเราไม่มีการเลือกตั้งจริงเหรอคะ
ขอบคุณค่ะ
แก้ไขเว้นวรรคใหม่ ไล่แก้คำผิดค่ะ