ผมเริ่มเป็นโรคกระเพาะ ประมาณเดือนตุลาคม 2558 หลังจากส่องกล้องกระเพาะอาหารคุณหมอท่านบอกว่ากระเพาะอาหารไม่มีแผล
ไม่มีเนื้อร้าย มีเพียงรอยแดงๆ ซึ่งอาจจะเป็นผลมาจากการกินยาแก้โรคกระเพาะ miracid ผลจากชิ้นเนื้อที่ตัดไปพิสูจน์ ปรากฎว่าไม่มีเชื้อ
Helicobacter pylori รักษาโดยการกินยา miracid ประมาณเดือนมิถุนายน 2559 โรคกระเพาะก็ยังไม่หายดีสักเท่าไหร่เลยครับ
เริ่มเป็นโรคกรดไหลย้อน รักษาโดยการกินยาตัวเดิม miracid บวกกับการมีวินัยในการกินอาหาร ปฎิบัคิตัวตามที่คุณหมอสั่ง
ต้นเดือนมีนาคม 2560 ไปหาคุณหมอคนใหม่ เนื่องจากมีอาการปวดท้องมากคล้ายตอนเป็นโรคกระเพาะใหม่ๆ โดยจะปวดบริเวณใต้ลิ้นปี่
และรอบสะดือ โดยมักจะเริ่มเป็นประมาณเวลาตีห้าของเช้าวันใหม่ และปวดไปเรื่อยๆแทบตลอดเวลา เป็นอย่างนี้มาประมาณ 5-6 เดือนครับ
เพียงแต่ช่วงก่อนอาการจะไม่ปวดมากปวดนานขนาดนี้ เวลาทานข้าวไปได้ประมาณครึ่งก้อนของข้าวนึ่งที่เห็นขายกันตามตลาดโดยทั่วๆไป
จะมีอาการแน่นหน้าอก ประมาณท้องอืดท้องเฟ้อขึ้นมาทันทีทันใด ผมเล่าให้คุณหมอท่านฟังเหมือนดั่งที่ผมพิมพ์ให้ทุกท่านอ่าน นี่แหล่ะครับ
คุณหมอท่านบอกว่าจะส่งไปทำ อัลตร้าซาวด์หานิ่วในถุงน้ำดี และไปส่องกล้องลำใส้ใหญ่เพื่อหามะเร็ง เพาะว่าผมอายุ 52 แล้วมีความเสี่ยง
ที่จะเป็นมะเร็ง ส่วนยายังคงเป็นตัวเดิมนั่นคือ miracid จากนั้นไปทำนัด อัลตร้าซาวด์ ทำนัดส่องกล้องลำใส้ใหญ่ ไปรับยาแล้วกับบ้านครับ
ปัญหาเริ่มเกิดตอนผมไปทำนัดกับพยาบาล...เมื่อพยาบาลบอกว่าให้ผมไปที่ชั้น.. เพื่อทำนัดส่องกล้องลำไส้เล็ก ผมก็เลยบอกกับพยาบาลว่า
คุณหมอท่านพูดกับผมว่า จะส่งไปส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่ คุณพยาบาลก็บอกผมว่าที่คุณหมอเขียนมาในใบทำนัดเป็นศัพย์ทางการแพทย์
มีความหมายว่า ส่องกล้องลำไส้เล็ก คราวนี้มีพยาบาลอีกหลายท่านมาช่วยดูต่างก็ยืนยันตามที่หมอเขียนในเอกสารว่า..ส่องกล้องลำไส้เล็ก
คุณพยาบาลยังบอกด้วยว่า ที่นี่ไม่เคยมีเคสส่งไปส่องกล้องเพื่อตรวจลำไส้ใหญ่
ผมเลยบอกว่า ในเมื่อคุณหมอบอกกับผมว่า จะส่งไปส่องกล้องลำไส้ใหญ่ แต่ตอนเขียนท่านเขียนลงไปในเอกสารว่า " ส่องกล้องลำไส้เล็ก "
เมื่อเป็นเช่นนั้นผมเลยบอกว่า เอาแฟ้มมาเดี้ยวผมจะไปถามคุณหมอให้เพื่อความแน่นอน แต่เมื่อผมกับไปที่ห้องตรวจคุณหมอท่านกลับแล้ว
พยาบาลที่ทำนัดจึงให้ผมไปคุยกับคุณพยาบาลที่เคาน์เตอร์ใหญ่ คุณพยาบาลที่เคาน์เตอร์ใหญ่บอกว่าคุณหมอสั่ง " ส่องกล้องลำไส้เล็ก "
ผมยังคงยืนยันเช่นเดิมว่า...ผมได้ยินคุณหมอบอกผมว่า จะส่งผมไปส่องกล้องลำไส้ใหญ่ ในที่สุดคุณพยาบาลที่เคาน์เตอร์ใหญ่
บอกว่าถ้าอย่างนั้น จะโทรไปถามกับตัวคุณหมอเองเพื่อให้ท่านคอนเฟริมว่า ในเคสของผมท่านต้องการส่งไปที่ไหนกันแน่
ในที่สุดหลังจากคุณพยาบาล ได้คุยกับคุณหมอที่จะรักษาผมเป็นครั้งแรกได้ความว่า...ท่านสั่งส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่
*คุณหมอคนใหม่ ไม่ใช่ผมเปลี่ยนคุณหมอนะครับ เนื่องจากผมไปก่อนวันนัด จึงไม้ได้ตรวจกับคุณหมอคนเดิมน่ะครับ*
อีกไม่กี่วันก็จะถึงวันนัดส่องกล้องแล้ว แต่บอกตามตรงผมไม่สบายใจมากๆเลยครับ ไม่รู้ว่าจริงๆแล้วคุณหมอท่านต้องการอย่างไหนกันแน่
ท่านบอกกับผมว่า จะส่งไปส่องกล้องลำไส้ใหญ่ แต่ตอนท่านเขียนใบนัดให้พยาบาลเป็นภาษาอังกฤษ แปลได้ว่า " ส่องกล้องลำไส้เล็ก "
พอพยาบาลโทรไปถามให้ท่านคอนเฟริม กลายเป็นว่า...สั่งส่องกล้องลำไส้ใหญ่ หลายท่านอาจจะคิดว่าในเมื่อท่าน คอนเฟริมแล้วน่าจะจบ
มันอดคิดไม่ได้นะครับ วันนั้นไม่ได้มีผมไปตรวจคนเดียว และในขณะที่พยาบาลโทรไปถามท่าน ท่านไม่มีข้อมูลอะไรเกี่ยวกับผมสักอย่าง
เพาะแฟ้มยังอยู่ที่โต๊ะทำนัด ส่วนท่านออกไปจากห้องเป็นชั่วโมงแล้ว อีกทั้งผมไม่ใช่คนไข้เก่าของท่าน เพิ่งไปหาท่านครั้งนี้เป็นครั้งแรก
ท่านจะจำได้ไหมว่าคนที่คุณพยาบาลพูดถึง มาหาท่านนั้นมีอาการเช่นใดมาก่อน ต้องสั่งรักษาอย่างไร ในเมื่อวันนั้นคนไข้มากมายครับ
ผมเลยตัดสินใจไม่ถูกว่า...จะไปตามนัดเพื่อส่องกล้องลำไส้ใหญ่หรือเปล่า ถ้าผมไม่ไปตามนัดจะทำให้เสียโอกาสทองของชีวิตหรือไม่
เหตุที่ผมเขียนซะละเอียดยิบ...เผื่อว่าจะมีคุณหมอใจบุญมีเมตตาผ่านมาทางนี้ จะได้พอมีข้อมูลเพื่อชี้ทางสว่างให้กับผมบ้าง น่ะครับ
ท้ายสุดนี้...ผมขอขอบคุณทุกท่านเป็นอย่างสูงครับ
เป็นกรดไหลย้อน ต้องส่องกล้องลำไส้ใหญ่ หรือลำไส้เล็กครับ
ไม่มีเนื้อร้าย มีเพียงรอยแดงๆ ซึ่งอาจจะเป็นผลมาจากการกินยาแก้โรคกระเพาะ miracid ผลจากชิ้นเนื้อที่ตัดไปพิสูจน์ ปรากฎว่าไม่มีเชื้อ
Helicobacter pylori รักษาโดยการกินยา miracid ประมาณเดือนมิถุนายน 2559 โรคกระเพาะก็ยังไม่หายดีสักเท่าไหร่เลยครับ
เริ่มเป็นโรคกรดไหลย้อน รักษาโดยการกินยาตัวเดิม miracid บวกกับการมีวินัยในการกินอาหาร ปฎิบัคิตัวตามที่คุณหมอสั่ง
ต้นเดือนมีนาคม 2560 ไปหาคุณหมอคนใหม่ เนื่องจากมีอาการปวดท้องมากคล้ายตอนเป็นโรคกระเพาะใหม่ๆ โดยจะปวดบริเวณใต้ลิ้นปี่
และรอบสะดือ โดยมักจะเริ่มเป็นประมาณเวลาตีห้าของเช้าวันใหม่ และปวดไปเรื่อยๆแทบตลอดเวลา เป็นอย่างนี้มาประมาณ 5-6 เดือนครับ
เพียงแต่ช่วงก่อนอาการจะไม่ปวดมากปวดนานขนาดนี้ เวลาทานข้าวไปได้ประมาณครึ่งก้อนของข้าวนึ่งที่เห็นขายกันตามตลาดโดยทั่วๆไป
จะมีอาการแน่นหน้าอก ประมาณท้องอืดท้องเฟ้อขึ้นมาทันทีทันใด ผมเล่าให้คุณหมอท่านฟังเหมือนดั่งที่ผมพิมพ์ให้ทุกท่านอ่าน นี่แหล่ะครับ
คุณหมอท่านบอกว่าจะส่งไปทำ อัลตร้าซาวด์หานิ่วในถุงน้ำดี และไปส่องกล้องลำใส้ใหญ่เพื่อหามะเร็ง เพาะว่าผมอายุ 52 แล้วมีความเสี่ยง
ที่จะเป็นมะเร็ง ส่วนยายังคงเป็นตัวเดิมนั่นคือ miracid จากนั้นไปทำนัด อัลตร้าซาวด์ ทำนัดส่องกล้องลำใส้ใหญ่ ไปรับยาแล้วกับบ้านครับ
ปัญหาเริ่มเกิดตอนผมไปทำนัดกับพยาบาล...เมื่อพยาบาลบอกว่าให้ผมไปที่ชั้น.. เพื่อทำนัดส่องกล้องลำไส้เล็ก ผมก็เลยบอกกับพยาบาลว่า
คุณหมอท่านพูดกับผมว่า จะส่งไปส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่ คุณพยาบาลก็บอกผมว่าที่คุณหมอเขียนมาในใบทำนัดเป็นศัพย์ทางการแพทย์
มีความหมายว่า ส่องกล้องลำไส้เล็ก คราวนี้มีพยาบาลอีกหลายท่านมาช่วยดูต่างก็ยืนยันตามที่หมอเขียนในเอกสารว่า..ส่องกล้องลำไส้เล็ก
คุณพยาบาลยังบอกด้วยว่า ที่นี่ไม่เคยมีเคสส่งไปส่องกล้องเพื่อตรวจลำไส้ใหญ่
ผมเลยบอกว่า ในเมื่อคุณหมอบอกกับผมว่า จะส่งไปส่องกล้องลำไส้ใหญ่ แต่ตอนเขียนท่านเขียนลงไปในเอกสารว่า " ส่องกล้องลำไส้เล็ก "
เมื่อเป็นเช่นนั้นผมเลยบอกว่า เอาแฟ้มมาเดี้ยวผมจะไปถามคุณหมอให้เพื่อความแน่นอน แต่เมื่อผมกับไปที่ห้องตรวจคุณหมอท่านกลับแล้ว
พยาบาลที่ทำนัดจึงให้ผมไปคุยกับคุณพยาบาลที่เคาน์เตอร์ใหญ่ คุณพยาบาลที่เคาน์เตอร์ใหญ่บอกว่าคุณหมอสั่ง " ส่องกล้องลำไส้เล็ก "
ผมยังคงยืนยันเช่นเดิมว่า...ผมได้ยินคุณหมอบอกผมว่า จะส่งผมไปส่องกล้องลำไส้ใหญ่ ในที่สุดคุณพยาบาลที่เคาน์เตอร์ใหญ่
บอกว่าถ้าอย่างนั้น จะโทรไปถามกับตัวคุณหมอเองเพื่อให้ท่านคอนเฟริมว่า ในเคสของผมท่านต้องการส่งไปที่ไหนกันแน่
ในที่สุดหลังจากคุณพยาบาล ได้คุยกับคุณหมอที่จะรักษาผมเป็นครั้งแรกได้ความว่า...ท่านสั่งส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่
*คุณหมอคนใหม่ ไม่ใช่ผมเปลี่ยนคุณหมอนะครับ เนื่องจากผมไปก่อนวันนัด จึงไม้ได้ตรวจกับคุณหมอคนเดิมน่ะครับ*
อีกไม่กี่วันก็จะถึงวันนัดส่องกล้องแล้ว แต่บอกตามตรงผมไม่สบายใจมากๆเลยครับ ไม่รู้ว่าจริงๆแล้วคุณหมอท่านต้องการอย่างไหนกันแน่
ท่านบอกกับผมว่า จะส่งไปส่องกล้องลำไส้ใหญ่ แต่ตอนท่านเขียนใบนัดให้พยาบาลเป็นภาษาอังกฤษ แปลได้ว่า " ส่องกล้องลำไส้เล็ก "
พอพยาบาลโทรไปถามให้ท่านคอนเฟริม กลายเป็นว่า...สั่งส่องกล้องลำไส้ใหญ่ หลายท่านอาจจะคิดว่าในเมื่อท่าน คอนเฟริมแล้วน่าจะจบ
มันอดคิดไม่ได้นะครับ วันนั้นไม่ได้มีผมไปตรวจคนเดียว และในขณะที่พยาบาลโทรไปถามท่าน ท่านไม่มีข้อมูลอะไรเกี่ยวกับผมสักอย่าง
เพาะแฟ้มยังอยู่ที่โต๊ะทำนัด ส่วนท่านออกไปจากห้องเป็นชั่วโมงแล้ว อีกทั้งผมไม่ใช่คนไข้เก่าของท่าน เพิ่งไปหาท่านครั้งนี้เป็นครั้งแรก
ท่านจะจำได้ไหมว่าคนที่คุณพยาบาลพูดถึง มาหาท่านนั้นมีอาการเช่นใดมาก่อน ต้องสั่งรักษาอย่างไร ในเมื่อวันนั้นคนไข้มากมายครับ
ผมเลยตัดสินใจไม่ถูกว่า...จะไปตามนัดเพื่อส่องกล้องลำไส้ใหญ่หรือเปล่า ถ้าผมไม่ไปตามนัดจะทำให้เสียโอกาสทองของชีวิตหรือไม่
เหตุที่ผมเขียนซะละเอียดยิบ...เผื่อว่าจะมีคุณหมอใจบุญมีเมตตาผ่านมาทางนี้ จะได้พอมีข้อมูลเพื่อชี้ทางสว่างให้กับผมบ้าง น่ะครับ
ท้ายสุดนี้...ผมขอขอบคุณทุกท่านเป็นอย่างสูงครับ