กาลครั้งหนึ่ง มีหนูน้อยคนนึงชื่อเด็กหญิง B เติบโตในครอบครัว มีฐานะค่อนข้างมีตังค์ พ่อแม่เลี้ยงดูด้วยความตามใจอยากได้ของเล่นอะไรก็ ได้ตามที่หวังดังใจแล้วมี้พี่น้อง 2 คน เด็กหญิง บี เป็นน้องคนสุดท้อง ตั้งแต่เด็กหญิงคนนี้เติบโตมา ทุกๆวันก็เต็มไปด้วยขนมของกินดีๆ ของเล่นดีๆเด็กแถวนั้นบ้างหลังก็ไมไ่ด้เคยได้เล่นของเล่นแบบเด็กหญิงได้เล่นด้วยซ้ำ เพราะตอนนั้นบ้านเด็กน้อยได้มีฐานะดีกว่า เกือบทุกหลังในหมู่บ้าน แต่ในความสมบูรณ์แบบมันไมไ่ด้อยู่กับไปตลอดหรอ และในความสมบรูณ์แบบมันก็มักจะมีความด้อยของมัน เด็กหญิงมักจะมีความคิดว่าแม่รักลูกไม่เท่า ทุกครั้งเด็กหญิงเล่นอะไรแม่จะพูดว่าให้พี่ไปเถอะ หนูเล่นอย่างอื่นแทน จนหนูน้อยเริ่มย่างก้าววัยรุ่นหนูน้อยจะเป็นเด็กที่รับรู้ทุกอย่างในครอบครัวว่าเราถึงขั้นวิกฤตของครอบครัวฐานะจากหน้ามือเป็นหลังมือ มีฐานนะที่หากินไปวันๆ สมบัติที่มีก็ขายใช้หนี้การพนันของพ่อ แล้วก็ บลาๆๆ พี่ก็เต็มหนุ่มอยากจะมีโทรศัทพ์มีรถมอเตอร์ไซร์ แม่ก็ด้วยรักแม่ก็ต้องไปยืมตังค์ มาซื้อให้พี่ ส่วนหนูบี ก็อยากมีเหมือนกันแต่ด้วยที่เห็นฐานะตอนนี้เห็นแม่ทำงานหนัก เลยเงียบแล้วหาวิธีซื้อด้วยตัวเองตอนนั้น หนู บีอายุได้ 13 ขวบกำลังขึ้น ม.1 งานที่ทำก็ ไปหาขี้ยางตามสวนยางที่แม่กรีดบ้างตามสวนคนอื่นบ้างตอนนั้นน้ำยางกี่โลก็20บาท บ้างวันได้5 โล แต่โฑดนหักราคาจากแม่ค้าคนกลาง แต่หนูน้อยก็ดีใจ มีคนจ้างขุดดินใส่ถุงดำเพื่อจะนำมาใส่ต้นกล้า ของยางพารา ตอนนั้นเด็กหญิงมีตังค์เท่าไรก็ให้แม่ ถึงแม่บอกว่ายืม บ้างก็ได้กลับ บ้างก็ไม่ไ่ด้กลับแต่ก็รู้ว่าแม่ไม่ทัน เลยไม่คิดอะไร หนู บี ก็อยากได้โทรศัพท์แต่ตังค์ที่ได้มาก็เอามาซื้อกับข้าวบ้าง เลยก็ไมไ่ด้ซื้อซักทีเพราะต้องเก็บใว้บาง บ้างส่วนยามที่บ้านไม่มีตังค์ซื้อไรกินจะได้เอาตังค์ส่วนนี้ไปใช้ หนูบีกินได้หมดข้าวเปล่าปลาเค็มก็กินได้ ส่วนพี่ชายไม่เคยอยู่บ้านก็ไปเที่ยวขับรถแถวนั้นนี้ พอตังค์หมดก็ค่อยกลับมาเอาตังค์แม่ บ้างก็ตังค์เรา บ้างพี่ก็ไปนอนบ้านเพื่อน เด็กหญิง บี เลยเล่นแชร์เพราะได้โทรศัพท์ตอนนั้นรุ่นจอสีเป็นอะไรที่เท่มากกำลังฮิต จำได้ว่าได้แชร์4000 กว่า เอาไปซื้อโทรศัทพ์ กับเสื้อผ้าเพราะหนูบีไม่ค่อยมีเสื้อผ้าหรอ ไม่ว่าหนูบี มีตังคืเท่าไรที่เก็บใว้แม่ก็จะขอตังค์จากหนูบี ให้พี่ชายหมด แม่ว่าหนูบี อยู่แต่บ้านไม่ได้ออกไปข้างนอกเหมือนพี่ ไม่เปนไรหรอ หนูบีก็คิดนะน้อยใจแม่รักเราหรือเปล่า เราหามาเหนื่อยเดินหาขี้ยาง ตามสวน เสี่ยงงู สัตว์นานา ตอนหนูบีไปส่วนมากจะไปกับแม่บ้างหรือย่า หรือคนเดียว บ้างครั้ง บ้างก็มีเก็บลูกยางพาราเอาไปขาย เก็บไม่มากหรอไม่กล้าไปสวนไกลๆ แต่เพื่อนข้างบ้านดีหน่อยครอบครัวเขาไปทั้งครอบครัวเพื่อนเลยเก็บได้เยอะกว่า หนูบีไม่ค่อยเสื้อผ้าสวยๆใส่หรอ ไม่ค่อยไปเที่ยวไหนข้างนอกหรอ วันๆๆอยู่บ้านเลยเป็นเด็กเก็บกด หน่อยๆ มีไรชอบแก้ด้วยตัวเอง ถ้าไม่ได้จริงก็ต้องขอความช่วยเหลือคนอื่น แต่พอหนู บี จะเข้าม ม.2 แม่ก็ได้มีน้อง 1 คน หนูบี ก็มีหน้าที่เพิ่มก็เลี้ยงน้อง ตั้งแต่เช็ค ขี้ เยี่ยว เหมือนแม่นมว่าได้ ทำให้ไม่ได้ค่อยหารายได้เข้าตัวเท่าไร จนน้องได้สามขวบ แม่ก็แอบพาน้องไปต่างประเทศเพราะแม่ได้งานทำแถวนั้นแล้วมีป้าค่อยช่วยเลี้ยงดูน้อง เราก็เรียนมอ 4 สอบเข้าได้สาขา วิทย คณิต เพราะเกรดถึงพอดี ได้อยู่ห้อง ควีน ห้อง 2 รองจากห้อง คิง เรียนไปเกรดก็ปานกลางติดกับบ้า ผญ หนูบี โตมาเป็นทอมนะ คิคิคิ แต่ก็มี ผช มาจีบบ้าง แต่หนูบี ไม่ชอบ เลยคบกับแฟนคนแรก เลย ตอนหนูดีการเรียนแย่มากนะ จากเด็กเรียนสามกว่าได้ หนึ่งกว่า เป็นเพราะทำตัวเองด้วย พอขึ้ยมอหก ก็ได้เลิกกับแฟน แถมเกรดก็ดีขึ้นเป็น 2.70แหน่ๆ ดีขึ้นเยอะ ก็อยากใช้ชีวิตที่ห่างบ้านเลยมาสอบมหาลัยแห่งหนึ่งที่กทม มาคนเดียวด้วย ครั้งแรกด้วยหาห้องไรเองไปมอด้วยตัวเอง หนูบีก็กลัวแรกๆที่มาอยู่แต่ก็ ทำเพื่ออนาคต ต้องเอาตัวรอดให้ได้ ทุกปิดเทอมใหญ่หนูบีจะทำงาน ช่วงปิดเทอมตลอดมีตังค์ก็ให้แม่ ซื้อของให้พ่อบ้าง แม่โทรมาขอบ้าง จนเรียนจบ ......ยังมีอีกเนื้อหา
นิทานเด็กขี้น้อยใจ