ตกลงคนไทย "จน" จริงไหม? แล้วในประเทศที่เจริญแล้ว เขามองเรื่อง "สินค้าผ่อน" อย่างไรครับ?

กระทู้คำถาม
เห็นข่าว สปป. ลาว ทุกวันนี้คนซื้อรถส่วนตัวมาใช้มากขึ้น เพราะรัฐบาลลาวอนุญาตให้มีธุรกิจรับผ่อนของ ( ไฟแนนซ์ ) มากขึ้น ตามนี้ นาทีที่ 17.40 เป็นต้นไป

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
ถึงกระนั้น..ในข่าวก็บอกว่า แม้คนลาววันนี้จะซื้อรถด้วยวิธีผ่อนได้ ทำให้คนระดับล่างๆ สามารถเข้าถึงรถยนต์ได้ง่ายขึ้น แต่ค่านิยมคนลาวก็ยังนิยมซื้อด้วยเงินสดมากกว่า เพราะมองเป็นเรื่องของศักดิ์ศรี โดยใน สปป. ลาว รถป้ายเหลืองอักษรดำคือรถยังผ่อนไม่หมด ส่วนป้ายขาวอักษรดำคือผ่อนหมดแล้วหรือซื้อสด

--------------------------------------

ผมดูข่าวนี้แล้ว นึกถึงเมืองไทยครับ สมัยน้าแอ๊ด คาราบาว ( คนเดียวกับที่ Forbes เพิ่งจัดเข้าทำเนียบมหาเศรษฐีนั่นแหละ ) เขียนเพลง "ราชาเงินผ่อน" ขึ้นมาในปี 2527

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
แสดงว่าการผ่อนของมีมาตั้งแต่ยุคนั้น อีกเพลงที่พูดถึงสินค้าเงินผ่อนคือ "รักทรหด" ในปี 2531  

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
ส่วนอันนี้เป็นประวัติศาสตร์เศรษฐกิจไทยยุคต่างๆ ในทศวรรษที่ 2530's เศรษฐกิจไทยพุ่งกระฉูดที่สุด ( ก่อนจะล้มละลายในปี 2540 )

"..การขึ้นค่าเงินของญี่ปุ่นทำให้ญี่ปุ่นไม่สามารถผลิตสินค้าในประเทศและทำราคาที่แข่งขันในตลาดโลกได้ จึงต้องย้ายฐานการผลิตมายังประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชียเพื่อลดต้นทุนในการผลิต ซึ่งประเทศไทยเป็นเป้าหมายสำคัญของญี่ปุ่น ด้วยเหตุผลหลายอย่าง เช่น แรงงานราคาถูก บรรยากาศในการลงทุน และความสัมพันธ์ที่ดีกับคนญี่ปุ่นในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง

ทศวรรษ 2530 ไทยได้ประโยชน์อย่างมากจากการขยายฐานโรงงานของญี่ปุ่น และการผลิตสินค้าเพื่อส่งออก ไม่ว่าจะเป็นชิ้นส่วนสินค้าที่ส่งไปประกอบยังต่างประเทศ หรือตัวสินค้าที่เสร็จสมบูรณ์แล้ว นอกจากนี้ยังได้ประโยชน์จากภาคบริการโดยเฉพาะการท่องเที่ยว และรายได้จากแรงงานไทยในต่างประเทศ ตัวเลขการเติบโตของ GDP ไทยอยู่ในระดับ “สูงมาก” ช่วงต้นทศวรรษ (เติบโตระดับเลขสองหลักระหว่าง พ.ศ. 2531-2533)

ช่วงปลายของทศวรรษ 2530 กลุ่มทุนไทยหน้าใหม่ๆ หลายรายสามารถสะสมความมั่งคั่งจากการดำเนินธุรกิจชนิดใหม่ๆ เช่น อสังหาริมทรัพย์ โทรคมนาคม การเงิน จนกลายเป็นกลุ่มทุนเอกชนขนาดใหญ่ได้

อย่างไรก็ตาม การเติบโตของเศรษฐกิจที่ร้อนแรงในทศวรรษ 2530's กลับควบคุมไม่อยู่และเข้าสู่ภาวะฟองสบู่ในช่วงสิ้นทศวรรษ ประเทศไทยต้องยอมลอยตัวค่าเงินบาทอย่างเจ็บปวดใน พ.ศ. 2540 และกลายเป็นจุดเริ่มต้นของ “วิกฤตการณ์ต้มยำกุ้ง” ที่แพร่ระบาดไปทั่วเอเชีย.."


ที่มา : http://www.siamintelligence.com/development-of-thai-economy/

ที่แน่ๆ สมัยนั้นคงอู้ฟู่มาก รถกระบะที่วันนี้มีดราม่าห้ามนั่งแค็บ-นั่งท้ายกระบะ ทศวรรษ 2530's ก็มียอดขายในประเทศไทยสูงเป็นอันดับ 2 ของโลก

"..นอกจากนี้ รายงานของธนาคารโลกประจำปี 2538 ระบุว่า ในรอบ 10 ปี (2528-2538) เศรษฐกิจไทยเติบโตสูงที่สุดในโลก ขณะที่การบริโภคภายในประเทศสะท้อนความฟุ้งเฟ้อของสังคมไทยแบบสุดขีด เห็นได้จากยอดขายสินค้าต่างๆ เช่น สุราแบล็ค เลเบิลขายดีที่สุดในโลก รถยนต์เมอร์เซเดส เบนซ์ ขายดีเป็นอันดับ 4 ของโลกรองจากจีน สหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่น รถปิกอัพขายดีเป็นอันดับ 2 ของโลก นักท่องเที่ยวไทยใช้เงินในต่างประเทศต่อคนมากกว่านักท่องเที่ยวจากต่างประเทศมาเที่ยวเมืองไทยถึง 28.67%.."

ที่มา : http://www.m.thai.ac/news/show/29173

------------------------------------

ดูๆ แล้วคนไทยน่าจะชอบซื้อสินค้าเงินผ่อนมาก ผมเกิด 2528 โตมาจำความได้ก็ได้ยินคำว่า "คนที่มี credit คือคนที่เชื่อถือได้" ที่หมายความว่าของผ่อนผ่อนไปเถอะถ้ามีปัญญา อย่าอายที่จะซื้อผ่อนถ้ามันต้องใช้ อะไรแบบนี้ แล้วก็ได้ยินข่าวมาตลอดจนทุกวันนี้ว่าคนไทยเป็นหนี้สินเชื่อสูงมากโดยเฉพาะบัตรเครดิต

แต่ก็เคยได้ยินว่า ในประเทศที่เจริญแล้วและเศรษฐกิจแข็ง เขาไม่ชอบสินค้าเงินผ่อน เช่น คนเยอรมนี

"ส่วนใหญ่ชาวเยอรมันมักจะใช้ชิวิตบนความแน่นอน มั่นคง ปลอดภัย ไม่สร้างหนี้

บัตรเครดิตมักไม่เป็นที่นิยม สำหรับชาวเยอรมัน แต่มักจะจ่ายเงินสด หรือบัตรเดบิต ตัดเงินในบัญชี (EC-Karte) ในการจับจ่าย

ที่อยู่อาศัย มักเป็นไปตามกำลังทรัพย์ และแตกต่างกันไปตามแต่ละพื้นที่ บางคนอาจนิยมซื้อบ้านจากเงินเก็บที่มี หรือทำงานสะสมเงินเพื่อปลูกบ้าน หลังพออยู่สบาย หากมีห้องเหลือ หรือลูกๆ ย้ายออกไปอยู่เอง มักเปิดห้องให้เช่า บ้านส่วนใหญ่จะแยกเป็นสัดส่วน มีส่วนที่เป็นส่วนตัว และมีส่วนที่ใช้ร่วมกันระหว่างเจ้าของกับผู้เช่า เช่น ทางเดินบันได ทางเข้า สวนบางส่วน ห้องใต้ดิน ห้องซักผ้า

การเช่าที่อยู่อาศัย ยังคงเป็นเรื่องปกติ สำหรับชาวเยอรมัน อาจเช่ายาวเป็นสิบๆ ปี แม้บางคนชอบที่จะซื้อบ้านเป็นของตัวเอง แต่หลายๆ คนก็ยังนิยมเช่าบ้าน ด้วยเหตุผลหลายๆ ด้าน ทั้งย้ายเมืองไปเรียนต่อ ไปทำงาน ยังไม่พร้อมลงหลักปักฐาน หรือปัจจัยเรื่องเงินเก็บ เป็นต้น

การกู้เงินมาสร้างบ้าน ไม่เป็นที่นิยมในหมู่ชาวเยอรมันนัก โดยเฉพาะชาวชเวบิช (Schwäbisch) ในรัฐ รัฐบาเดน-เวือร์ทเทมแบร์ก (Baden Würrtemberg) กับสำนวน "Schaffe, schaffe, Häusle baue" ซึ่งหมายถึง ทำงานเพื่อจะสร้างบ้านหลังน้อยๆ"


ที่มา : http://mausmoin.com/tag/%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%A2%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%99/

ก็อย่างที่ทราบกันละครับว่าเยอรมันแบก EU ทั้งกลุ่มไว้ วินัยการเงินคนชาตินี้แข็งมาก ไม่พังไม่เละไปกับประเทศอื่นๆ

( จริงๆ มีคนรู้จักไปทำงานที่สวีเดน เขาก็บอกคนสวีเดนไม่ชอบสินค้าเงินผ่อน ชอบซื้อสดมากกว่าและใช้จนครบอายุ ไม่เปลี่ยนใหม่ๆ แบบบ้านเรา ----> แต่อันนี้ผมหาข้อมูลไม่ได้ ใครเคยไปก็มาบอกทีว่าจริงไหม? )

-----------------------------------

แล้วตกลงสรุปคนไทยจนจริงไหม? พอรัฐบาลจะทำนั่นทำนี่ ตั้งแต่ยกเลิกจุดผ่อนผันแผงลอย ( แผงลอยในเขตจุดผ่อนผันคือขายได้แบบถูกกฎหมายนะครับ ไม่ต้องจ่ายส่วยอะไรทั้งนั้น ) ย้ายวินรถตู้จากอนุสาวรีย์ชัยไปสถานีขนส่ง เก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ขึ้น VAT ( ภาษีมูลค่าเพิ่ม ) เก็บภาษีสินค้าที่ผสมน้ำตาลมากๆ หรือล่าสุดกับนโยบายห้ามนั่งในแค็บ-ท้ายกระบะ หรือก่อนหน้านี้ที่ห้ามมอเตอร์ไซค์ขึ้นสะพาน-ลอดอุโมงค์ หรือสมัยรัฐบาลก่อนหน้าที่ตำรวจเสนอจำกัดอายุรถยนต์ส่วนตัว

ทั้งหมดที่ว่ามานี่ เกือบทุกเรื่องใน ปท.เจริญแล้วเขาทำหมด ( จริงๆ ปท. พวกนั้น ไม่มีรถตู้ สองแถว รถกระป๋อง วินมอไซค์ด้วยซ้ำ เพราะไม่ปลอดภัย ) พอบ้านเราไม่ว่ารัฐบาลไหนแตะเรื่องพวกนี้ เสียงบ่นเสียงโวยวายลอยมาทันที "อย่ารังแกคนจน" "เห็นใจคนหาเช้ากินค่ำบ้าง" "คนไทยทั่วไปไม่ได้รวยเหมือนนักการเมืองหรือข้าราชการในรัฐบาลนะ" ฯลฯ อะไรประมาณนี้ แต่อีกมุม ถ้าเป็นการพูดคุยแบบไม่เป็นทางการ ไม่ได้ออกสื่อ เราจะได้ยินเรื่องเล่าทำนอง ขับแท็กซี่บ้าง แม่ค้าแผงลอยบ้าง เกษตรกรบ้าง คนงานระดับทั่วไปบ้าง มีเงินเก็บพอสมควร ปลูกบ้าน ตจว. ได้ ผ่อนรถได้ ส่งลูกเรียน ม.เอกชนได้

ก็เข้าใจละว่าหลายคนซื้อสินค้าเงินผ่อน บ้านบ้างรถบ้างมือถือบ้าง ข้าราชการก็เป็น มนุษย์ออฟฟิศเอกชนก็เป็น ใครๆ ก็เป็น แต่เมื่อใครถามก็บอกจน

ตกลงทุกท่านคิดว่าคนไทยจนจริงไหม? และอยากทราบว่าใน ปท. อื่นๆ ที่เจริญแล้ว ( หรืออาจจะเป็น ปท. กำลังพัฒนา-ด้อยพัฒนาก็ได้ถ้าใครมีประสบการณ์ไปอยู่มา ) เขามีมุมมองเกี่ยวกับการซื้อสินค้าเงินผ่อนอย่างไรครับ?
แก้ไขข้อความเมื่อ
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่