[CR] ทริปเขื่อนเชี่ยวหลาน...กับพยาบาลสายฮา

            การเดินทางของพวกเราจึงเริ่มขึ้น โดยการเลือกจองแพภูตะวัน ที่มีจุดเด่นคือ ห้องพักสไตล์แคปซูล โอบล้อมด้วยธรรมชาติที่สวยงาม ในเพ็กเกท 2 วัน 1คืน ราคาคนละ2800 บาท รวมค่าใช้จ่ายทุกอย่าง (ค่าที่พัก ค่าอาหาร ค่าเข้าชมอุทยาน ค่าเรือรับส่ง+นำเที่ยว) ถ้าจำกันได้ที่นี่เป็นอีกหนึ่งโลเคชั่น ในละครลมซ้อนรัก ที่มีพระ-นาง คือ ณเดชและแต้ว

จุดนัดพบของพวกเราคือ สำนักงานของ แพภูตะวัน วันนี้เรานัดใส่เสื้อทีมด้วย สวยชิมั้ยล่ะ!!

       เมื่อมาพร้อมกันและลงทะเบียนเรียบร้อยแล้วก็เริ่มด้วยขึ้นรถตู้ของแพ เพื่อไปลงเรือ ไปแพภูตะวัน ซึ่งอยู่ภายในเขื่อนเชี่ยวหลาน ระหว่างนั่งเรือก็ได้ชมวิวทิวทัศน์ ของเขื่อน ทำให้พวกเราตื่นเต้นมาก

เมื่อมาถึงแพ ก็เก็บของเข้าห้องพัก เตรียมตัวเดินทางกันต่อ แต่ก่อนเดินทาง (กองทัพต้องเดินด้วยท้อง) เราก็เริ่มอาหารมื้อเที่ยงกันก่อน

         ช่วงบ่ายรีบจับจองที่นั่งบนเรือ เพื่อออกเดินทางไปดูถ้ำปะการัง เมื่อไปถึงมองไปทางไหนก็เห็นแต่ป่า จึงถามเจ้าหน้าที่ว่า ไหนล่ะคะถ้ำปะการัง เลยได้คำตอบว่า ต้องเดินป่าไปอีก รวมระยะทาง ไป กลับ 3 กิโลเมตร พวกเรารวบรวมพลังแล้วลุยกันต่อ ไปจนเจอ แพไม้ไผ่ เราก็เปลี่ยนเส้นทางไปขึ้นแพไม่ไผ่ แพเลื่อนออกจากฝังช้าๆ ไปตามผิวน้ำ บรรยากาศรอบๆเต็มไปด้วยสีเขียวของต้นไม้ที่สะท้อนลงน้ำ เย็นสบายตา (เหมือนที่เขาบอกว่า ทุกการเดินทางจุดหมายไม่สำคัญเท่ากับเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างทาง) ชมบรรยากาศไม่นาน ถึงจุดหมายของเรา ถ้ำปะการัง ที่มีอายุเป็นร้อยๆปี ดูเก่าแกมีเรื่องราวและสวยงามมาก

        ช่วงเย็นกลับถึงที่พัก พวกเราก็รีบถอดเสื้อผ้า (อุ้ยเปลี่ยนก็พอ) แล้วจับจองเรือคายัคพร้อมเสื้อชูชีพ มาพายเล่น แต่เดี๋ยวก่อนนะ!! ก่อนลงพายเรือเพื่อนๆบอกแอนต้องเหนื่อยหน่อยนะ เพราะแอนพายเรือเป็นคนเดียวในกลุ่ม แอนก็เลยต้องจัดไป พายเรือวนไปจ้า ส่วนเพื่อนที่ยังไม่ลงเรือ ก็โพสท่าถ่ายรูปกันบนที่พัก ถ่ายกันไปถ่ายกันมา ก็อยากมารูปรวม เลยพยายามตั้งกล้องถ่าย 10 กว่าช็อต เลยได้รูปกลุ่มมาจ้า

       เล่นน้ำจนเพลีย มองไปรอบๆอีกทีฟ้าก็เริ่มมืดแล้ว ถึงเวลาอาหารเย็น พวกเราก็จัดเต็มเลยจ้า ปลาตัวโตๆ แกงอร่อยๆ พวกเราขอเติมกันหลายรอบเลย อาหารขอแพอร่อยมาก

      ช่วงค่ำพวกเราก็มานั่งดูลม ชมวิวกันที่ระเบียงห้องพัก บรรยากาศดีมากมองขึ้นไปบนฟ้ามีดวงดาวนับไม่ถ้วน นั่งฟังเสียงลม เสียงนก เสียงสัตว์ป่า และตบท้ายด้วยการนั่งจับเข่าคุยกันตามประสาเพื่อนสนิทที่นานๆได้เจอกันที่ (ฟ้าเริ่มมืดแล้วแยกย้ายกันไปนอน อิอิ)

       เช้าวันใหม่เรามีนัดล่องเรือส่องสัตว์ยามเช้า ก่อนจะไปก็นั่งจิบโอวัลตินร้อนๆ มองหมอกและไอน้ำบนผิวน้ำ ได้ยินเสียงชะนีร้องลั่นมาจากป่าใหญ่ ถึงเวลาเราก็ล่องเรือไปตามเขื่อน วิวดีมาก อากาศสดชื่น แต่เสียดายไม่ได้เห็นกระทิง พระเอกของเรา แต่ไม่เป็นไรแค่นี้ก็คุ้มมากแล้วชีวิต Slow Lift  พวกเราเชื่อแล้ว “เขื่อนเชี่ยวหลาน” สวยสมคำล่ำลือจริงๆ