สวัสดีเพื่อนๆทุกคน..วันนี้เจ้ถือว่าเป็นโอกาสดีขอฝึกเขียนรีวิวหน่อยละกัน..รีวิวกระทู้แรกผิดพลาดประการใดก็ขอขออภัยด้วยแล้วกันนะคะ ...คิดอยู่นานว่าจะรีวิวอะไรดีแต่สุดท้ายก็นึกออก ..ประกันรถยนต์แล้วกัน เอาที่ใช้บริการมาได้สักพักแระ ..เห็นว่าเข้าตา..ก็เลยหาข้อมูลมาฝากกัน บวกกับช่วงนี้เป็นช่วงที่หลายท่านประกันกำลังจะหมด..คิดว่าอาจจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อย
สมัยนี้อะไรๆมันก็ดูดี ดูงามไปซะหมดเนอะ ว่ากันมั้ยคะ? อยากจะทำอะไรก็ทำได้ เทคโนโลยีมันไปเร็วเหลือเกิน บางครั้งก็ตามไม่ค่อยจะทันกันหรอก ไม่เว้นแม้แต่ประกันรถยนต์ แข่งกันขาย แข่งกันทำการตลาดจนบางครั้งหูตาลายไปหมดตกลงค่ายไหนดี ค่ายไหนพัง ..แล้วจะเลือกอะไรดีล่ะ? สุดท้ายก็ต้องมาเปรียบเทียบกันยกใหญ่ เทียบแล้วเทียบอีก ก็ยังตัดสินใจไม่ได้ วันนี้เจ้เลย..อาสามารีวิวประกันเจ้านึงให้ฟัง..เป็นอะไรที่ใหม่ฝุดๆ สำหรับเทคโนโลยีบ้านเรา บางคนเคยเห็นโฆษณาบางคนไม่เคยเห็น แต่พอเจ้เห็นปุ๊ป ก็รู้เลยว่ามันต้องมีอะไรมากกว่านั้น จากนั้นก็ตัดสินใจลองเลย เพราะเจ้เป็นอินเทรน ตามติดเทคโนโลยีทุกฝีก้าวเลยทีเดียว (ปล.ไม่หรอกอันที่จริงประกันจะหมดแหละ 555++เลยอยากลองของใหม่ ก็คนมันวัยรุ่นอ่ะ)
เอาล่ะเลิกเวิ่นเว้อ มาเริ่มกันเลยนะทุกคน “ประกันรถเติมเงิน” เป็นประกันรถยนต์ของค่ายไทยวิวัฒน์ค่ะ แบรนด์เก๋ากึ๊กเลยคร้า คุณผู้ชม ..แม้แบรนด์จะดูเก่าแต่สินค้าของเค้าไม่เก่าอย่างที่คิดนะจ๊ะ..ชอบมีอะไรเหนือเมฆมาให้ตื่นเต้นกันตล๊อด ตลอดๆๆ หลายคนคงสงสัยว่ามันคืออร้ายยยยยย! ประกันรถเติมเงิน ..ทำไมต้องเติมเงินด้วยละ ประกันมันผ่อนได้หรอ ?...ก็อย่างที่บอกเจ้านี้เค้าเน้นขายน้อย ..ต่อยเบาๆ แบบเบาหวิวๆ เลยล่ะ ตามแพ็คเก็จความคุ้มครองแบบชั่วโมง! หาอะไรนะ ..คุ้มครองแบบชั่วโมงหรอ? เออ.คุณฟังไม่ผิดหรอกเจ้พูดถูกแล้ว เค้าขายกันเป็นชั่วโมงจ้า แบบนี้ก็ได้ด้วยหรอ? ตอบเลยว่าได้สิ .. ความคุ้มครองเค้าคิดเป็นชั่วโมงตามการใช้งานจริง แปลอีกอย่างก็คือ เวลาขับรถค่อยจ่ายประกัน..ถ้าไม่ขับก็ไม่ต้องจ่ายนาจา .. เหยยยยๆๆๆ แล้วมันจะดีหรอ ?? ก็นั่นนะสิ ..ก็เลยมารีวิวให้ฟังกันยังไงล่ะ ..แล้วมันดียังไง ?คืองี้นะ..เท่าที่เจ้สัมผัสมันมาตลอดระยะเวลาหลายๆเดือนเจ้คิดว่า มันเป็นผลิตภันฑ์ที่ถูกออกแบบมาเพื่อความคุ้มค่าของคนที่ใช้รถในปัจจุบันกันได้ตรงจุดดีเลยทีเดียว ตอบโจทย์มากสำหรับคนที่ใช้รถเพียงแค่ ไม่กี่ชั่วโมง หรือไม่เกิน 4-5 ชั่วโมงต่อวัน อย่างเช่นตัวเจ้เองเนี่ยแหละ ที่ขับรถเกือบทุกวัน แต่ก็แค่ขับไปจอดที่ทำงาน แล้วตอนเย็นก็ขับกลับบ้าน โดยเฉลี่ยก็ 2 – 3 ชั่วโมงต่อวัน ถ้าเปรียบเทียบค่าประกันรถยนต์ที่เราต้องจ่ายต่อปี ที่คิดความคุ้มครองเราเต็ม 24 ชั่วโมงต่อวันจำนวน 365 วัน กับการใช้รถจริงเพียงแค่ 3-4 ชั่วโมงต่อวัน บางวันก็จอดไว้เฉยๆ เจ้ว่ามันน่าสนตรงนี้แหละ !! จริงๆเจ้ว่ามันก็เป็นทางเลือกที่ดีตัวเลือกหนึ่งเลยแหละสำหรับคนวัยทำงานอย่างเราๆ ยิ่งคนที่บ้านมีรถเป็น 2-3 คันไม่ต้องคิดมาก นานๆที..เอาออกมาปัดฝุ่นแล้วเอาไปวิ่งในซอยบ้านนี่เจ้ว่ามันโครตรตรงประเด็นเลยล่ะ ลำพังซื้อแค่ พรบ. ก็คงไม่ไหว แล้วในเศรษฐกิจแบบนี้ด้วย เวลาจ่ายค่าประกันทีนึงกระเป๋าก็แห้งกรอบไปตามๆกัน ก็ต้องรัดเข็มขัดกันหน่อยล่ะ
จึงเกิดเป็นคำถามที่ว่า แล้วทำไม?ถึงจะต้องมาจ่ายเงินค่าประกันรถยนต์ ปีละหมื่นด้วยล่ะ โครตเปลืองเลยแบบสะสมทรัพย์ก็ไม่มีเหมือนประกันชีวิตที่จะได้เงินคืนตอนอายุ 60 แต่นี่คือจ่ายแล้วจ่ายเลย เพราะอย่างงี้ไงบริษัทประกันถึงรวยวันรวยคืน “ประกันรถเติมเงิน” มันเลยเข้ามามีบทบาทตรงนี้ไงล่ะ เจ๋งไปเลยใช่มั้ยละ ..แต่จะเจ๋งจริงอย่างที่บอกมั้ยต้องมาดูที่การใช้งานจริง มันได้ตามนั้นรึป่าว?
นี่คือแพ็กเก็จความคุ้มครองของประกันเติมเงิน “ไทยวิวัฒน์” ที่สามารถเลือกแพ็กเก็จตามการใช้งานจริงของรถเราได้ บางคนอยากรู้ว่ามันเป็นยังไงก็ลองใช้ไปก่อน เดือนนึง หรือบางคนเน้นประหยัดและคุ้มค่า ก็เลือกไปเลยจ้า แพ็คเก็จ 12 เดือน 960 ชม. หรือ 365 วัน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
อย่างเจ้เองประกันชั้น 1 HONDA CITY ทุนประกัน 400,000ซ่อมอู่เลือกแพ็คเก็จ 600ชม. ภายใน 180 วัน( 6 เดือน) เจ้จ่ายค่าประกันไป 4,200 บาท ถ้าคิดเป็นปีก็ 8,400 บาท แต่เมื่อเจ้เทียบกับรายปีเจ้ต้องจ่าย 15,800 บาทต่อปีและต้องจ่ายก้อนใหญ่ เจ้ว่าเจ้ยอมจ่ายแค่นี้พอ มันใช่อ่ะ!! สำหรับคนรายได้แบบเจ้ (รูปอาจจะไม่ชัดสักหน่อยน้า..พอดีที่บ้านไม่ค่อยมีไฟช่วงนี้ประหยัด อิอิๆ )
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ในส่วนของความคุ้มครองนั้นก็เหมือนรายปีทุกอย่าง รถหาย ไฟไหม้ก็คุ้มครองเช่นกัน ( อันนี้เค้าบอกนะว่าคุ้มครอง 24 ชม. เพราะฉะนั้นถ้าหากรถจอดอยู่นิ่งๆ ไม่ได้เปิดประกัน เค้าก็คุ้มครองจ้า )เอ๊ะๆ ถ้าจอดอยู่ข้างถนน เรา ปิดประกันอยู่แล้วมีรถคันอื่นมาชน แบบนี้ประกันจะเคลมให้มั้ย ? สงสัยเหมือนกันใช่มั้ยละ เรื่องแบบนี้ก็ต้องหาข้อมูลกันหน่อย โดยทั่วไปแล้วถ้าเค้าชนเรา ประกันของฝ่ายคู่กรณีก็ต้องเป็นฝ่ายรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด แต่ถ้าหากว่าหาคู่กรณีไม่ได้จริงๆ หรือเกิดเหตุการณ์ชนแล้วหนี จากในตารางทางประกันเค้ารับเคลมให้แต่ต้องเสียค่าใช้จ่ายส่วนแรกกันไป
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
วิธีการใช้งาน ..สำหรับเจ้แล้ว..มันตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ ที่แบบว่าใหม่มากๆ สำหรับคนที่ Low เทคโนโลยีก็คงเข้าถึงยากหน่อย แต่ก็ต้องมาเรียนรู้กันไป เพราะสมัยนี้เวลาจะซื้อ ขาย หรือต่อประกัน เค้าก็ขายผ่านเว็บไซต์กันหมด แต่สำหรับพวกที่ไม่ถนัดกันจริ้งๆ อยากถามโน่นถามนี่ Call center02-200-7000เลยจ้า..เค้ายังรองรับอยู่ แต่อันที่น่าสนใจมากกว่าใครก็ตรงที่เค้าเปิด – ปิดประกันผ่านแอปพลิเคชั่นเนี่ยแหละ .พอขึ้นรถก็เปิด พอลงรถก็ปิด หรือจะต่อประกันก็สามารถทำได้ผ่านแอปพลิเคชั่นหมดเลย กรมธรรม์ก็ส่งผ่านแอปฯ นาจา ..ธรรมดาซะที่ไหน แล้วเวลาเคลมล่ะทำไง ? ก็เรียกพนักงานผ่านแอปฯ นี่แหละไม่ต้องเสียเวลาไปหาเบอร์โทร ไม่ต้องมานั่งบอกนะจ๊ะว่าอยู่ไหน ซอยอะไร เพราะเค้าทำงานกันผ่าน GPS อยู่ที่ไหนพนักงานก็รู้หมด..แถมยังบอกได้อีกว่าตอนนี้พนักงานมาถึงไหนแล้ว .โอ้ยมันฉลาดจริงๆ อีกหน่อยเทคโนโลยีพวกนี้คนไทยก็คงใช้กันหมดแล้วล่ะเจ้ว่านะ เพียงแต่ที่นี่เค้าเจ้าแรกเท่านั้น
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แล้วจ่ายตังค์ทางไหน? ก็ในแอปนั่นละค่า หรือที่เค้าเรียกว่าเติมเงินจ่ายผ่านแอปฯ ผ่านบัตรเครดิต หรือจะไปจ่ายผ่านเค้าเตอร์เซอร์วิส หรือจ่ายผ่านธนาคารก็ได้เช่นกัน แบบนี้เค้าเรียกว่าอะไรๆ มันก็ดูสะด๊วกๆ สะดวก จะพานให้คนขี้เกียจไปเลยก็ว่าได้ นับว่าเป็นประกันแนวใหม่ในมุมมองของเจ้คิดว่ามันน่าสนใจอยู่ไม่น้อย และเดี่ยวนี้คนไทยเองก็นับว่าเป็นประเทศอันดับต้นๆของโลกที่เข้าถึงเทคโนโลยีได้อย่างรวดเร็ว เจ้ว่าในอนาคตเราก็คงไม่ต้องเสียเงินกันให้มากเพราะมันจะมีตัวเลือกต่างๆ นาๆ มาให้เราเลือกกันมากโขววว อยู่ ..ประกันเติมเงินนี้ก็เช่นกัน
เอาล่ะ พูดก็ดีก็ซะเยอะ !! แล้วข้อเสียล่ะ ทำไมจะไม่มี .. Nobody's perfect!! จริงมั้ยละ ถ้าพูดถึงความประหยัดนั้นไม่เถียงเลยสักคำเลย เพราะเมื่อเทียบกับเบี้ยรายปี มันก็ชัดเจนสุดๆ ตอบโจทย์มากๆ สำหรับคนที่ใช้รถไม่กี่ชั่วโมงต่อวัน และความเป็นจริงแล้วคนเราไม่มีใครขับรถตลอด 24 ชม. ก็ต้องมีกิน มีนอนกันบ้างล่ะ และยิ่งสมัยนี้อะไรก็ดูแพงไปหมด ใครซื้อรถก็ถือว่ามีค่าเสื่อม ต้องจ่ายโน่นจ่ายนี่ ค่าน้ำมันเอย ค่าซ่อมเอย ไหนจะของตกแต่งอีกล่ะ จำเป็นทั้งนั้นเลย มีแต่ค่าใช้จ่ายเกินสุด “ประกันรถเติมเงิน” แม้มันจะเป็นประกันรถอินเทรนด์ ล้ำสมัย แต่ข้อเสียก็มีไม่น้อยที่ล้อมากับพฤติกรรมของผู้ขับขี่ ยอมรับว่าที่ผ่านมาตอนแรกๆ เจ้เองก็มีปัญหามากๆ กับความขี้ลืมของตัวเองมันเลยเป็นข้อเสีย ถ้าไม่ลืมเปิด ก็ลืมปิด อันนี้ฝากถึงไทยวิวัฒน์ถ้าได้เข้ามาอ่าน ..ฝากช่วยไปคิดต่อด้วยนะ ว่าสำหรับคนขี้ลืมอย่างเจ้เนี่ยจะแก้ยังไง ..อยากจะใช้ต่อมันก็ติดตรงนี้แหละ แม้เค้าจะมีตั้งเวลาอัตโนมัติ หรือมีการเตือน ทุก 6 ชม.บางทียุ่งๆ เจ้ก็ลืมเหมือนกัน แต่พอใช้ไปเรื่อยๆก็ชินนะ เพราะเจ้ติดมือถือตลอดเวลาอยู่แล้ว แต่ถ้ารีบมากเจ้ก็มีลืมบ้างแก้ไม่หายสักที เอาเป็นว่าอย่าให้เจ้ทำอะไรมากไปกว่านี้เลยมันเหนื่อยสุดๆ แค่จ่ายตังค์ก็เหนื่อยแล้วละจ้า
สุดท้าย ! ฝากไว้สำหรับใครที่สนใจก็อย่าลืมศึกษากันให้ดีก่อนตัดสินใจ แม้ว่าราคาเบี้ยจะไม่สูง แบ่งจ่ายเป็นเป็นรายเดือนได้ตามแพ็คเก็จของเค้า ไม่ต้องเสียเงินก้อนใหญ่ๆ เหมือนประกันรายปี แต่ก็ต้องเช็คดีๆ เพราะบางทีเจ้เองอาจข้อมูลไม่ครบ ก็รู้เท่าที่ตัวเองรู้ตามที่ใช้จริงอ่ะนะ ..ของอะไรใช้แล้วดีก็อยากมาบอก เผื่อจะเป็นประโยชน์กัน แต่สำหรับเจ้เองส่วนตัวแล้วชอบและยังคงใช้ต่อ เพราะถ้าเปรียบเทียบข้อดี ข้อเสียแล้วถึงแม้มันจะติดอยู่นิดนึง นิดนึงจริงๆ และการใช้งานไม่ได้ยากอย่างที่คิดไว้ เจ้ว่ามันคุ้มทีเดียวแหละ ถ้าแลกกับการต้องเสียค่าประกันปีละหมื่นกว่าหรือสองหมื่น และต้องจ่ายเงินก้อนใหญ่ๆ ที่ทำให้ใจหายว๊าฟ ที่สำคัญความคุ้มครองไม่ต่างกัน มันก็โอเคมากๆเลยนะ เอาล่ะ!!วันนี้เจ้เม้าส์มอยมาพอสมควรก็คงจะต้องลากันก่อน ไว้วันหน้ามีอะไรใหม่ๆ..เจ้จะมาเล่าใหม่แล้วกันนะจ๊ะ
ปล.กระทู้นี้เกิดจากประสบการณ์จริง ไม่อิงโฆษณา ไม่ขาย ไม่เชื่อไม่ต้องซื้อ ไปพิสูจน์กันเอาเองแสดงความคิดเห็นได้แต่อย่าด่าแรงนาจา ..เดี่ยวกระทู้จะโดนอุ้ม ลับหายปายย กราบ..จากใจคนเขียนรีวิวครั้งแรก
[CR] [CR] [Review] ล้วงไส้ ..ทะลวงพุง! "ประกันรถเติมเงิน" ไทยวิวัฒน์ มันเจ๋งจริงรึป่าว? ... by เจ้เอง
สมัยนี้อะไรๆมันก็ดูดี ดูงามไปซะหมดเนอะ ว่ากันมั้ยคะ? อยากจะทำอะไรก็ทำได้ เทคโนโลยีมันไปเร็วเหลือเกิน บางครั้งก็ตามไม่ค่อยจะทันกันหรอก ไม่เว้นแม้แต่ประกันรถยนต์ แข่งกันขาย แข่งกันทำการตลาดจนบางครั้งหูตาลายไปหมดตกลงค่ายไหนดี ค่ายไหนพัง ..แล้วจะเลือกอะไรดีล่ะ? สุดท้ายก็ต้องมาเปรียบเทียบกันยกใหญ่ เทียบแล้วเทียบอีก ก็ยังตัดสินใจไม่ได้ วันนี้เจ้เลย..อาสามารีวิวประกันเจ้านึงให้ฟัง..เป็นอะไรที่ใหม่ฝุดๆ สำหรับเทคโนโลยีบ้านเรา บางคนเคยเห็นโฆษณาบางคนไม่เคยเห็น แต่พอเจ้เห็นปุ๊ป ก็รู้เลยว่ามันต้องมีอะไรมากกว่านั้น จากนั้นก็ตัดสินใจลองเลย เพราะเจ้เป็นอินเทรน ตามติดเทคโนโลยีทุกฝีก้าวเลยทีเดียว (ปล.ไม่หรอกอันที่จริงประกันจะหมดแหละ 555++เลยอยากลองของใหม่ ก็คนมันวัยรุ่นอ่ะ)
เอาล่ะเลิกเวิ่นเว้อ มาเริ่มกันเลยนะทุกคน “ประกันรถเติมเงิน” เป็นประกันรถยนต์ของค่ายไทยวิวัฒน์ค่ะ แบรนด์เก๋ากึ๊กเลยคร้า คุณผู้ชม ..แม้แบรนด์จะดูเก่าแต่สินค้าของเค้าไม่เก่าอย่างที่คิดนะจ๊ะ..ชอบมีอะไรเหนือเมฆมาให้ตื่นเต้นกันตล๊อด ตลอดๆๆ หลายคนคงสงสัยว่ามันคืออร้ายยยยยย! ประกันรถเติมเงิน ..ทำไมต้องเติมเงินด้วยละ ประกันมันผ่อนได้หรอ ?...ก็อย่างที่บอกเจ้านี้เค้าเน้นขายน้อย ..ต่อยเบาๆ แบบเบาหวิวๆ เลยล่ะ ตามแพ็คเก็จความคุ้มครองแบบชั่วโมง! หาอะไรนะ ..คุ้มครองแบบชั่วโมงหรอ? เออ.คุณฟังไม่ผิดหรอกเจ้พูดถูกแล้ว เค้าขายกันเป็นชั่วโมงจ้า แบบนี้ก็ได้ด้วยหรอ? ตอบเลยว่าได้สิ .. ความคุ้มครองเค้าคิดเป็นชั่วโมงตามการใช้งานจริง แปลอีกอย่างก็คือ เวลาขับรถค่อยจ่ายประกัน..ถ้าไม่ขับก็ไม่ต้องจ่ายนาจา .. เหยยยยๆๆๆ แล้วมันจะดีหรอ ?? ก็นั่นนะสิ ..ก็เลยมารีวิวให้ฟังกันยังไงล่ะ ..แล้วมันดียังไง ?คืองี้นะ..เท่าที่เจ้สัมผัสมันมาตลอดระยะเวลาหลายๆเดือนเจ้คิดว่า มันเป็นผลิตภันฑ์ที่ถูกออกแบบมาเพื่อความคุ้มค่าของคนที่ใช้รถในปัจจุบันกันได้ตรงจุดดีเลยทีเดียว ตอบโจทย์มากสำหรับคนที่ใช้รถเพียงแค่ ไม่กี่ชั่วโมง หรือไม่เกิน 4-5 ชั่วโมงต่อวัน อย่างเช่นตัวเจ้เองเนี่ยแหละ ที่ขับรถเกือบทุกวัน แต่ก็แค่ขับไปจอดที่ทำงาน แล้วตอนเย็นก็ขับกลับบ้าน โดยเฉลี่ยก็ 2 – 3 ชั่วโมงต่อวัน ถ้าเปรียบเทียบค่าประกันรถยนต์ที่เราต้องจ่ายต่อปี ที่คิดความคุ้มครองเราเต็ม 24 ชั่วโมงต่อวันจำนวน 365 วัน กับการใช้รถจริงเพียงแค่ 3-4 ชั่วโมงต่อวัน บางวันก็จอดไว้เฉยๆ เจ้ว่ามันน่าสนตรงนี้แหละ !! จริงๆเจ้ว่ามันก็เป็นทางเลือกที่ดีตัวเลือกหนึ่งเลยแหละสำหรับคนวัยทำงานอย่างเราๆ ยิ่งคนที่บ้านมีรถเป็น 2-3 คันไม่ต้องคิดมาก นานๆที..เอาออกมาปัดฝุ่นแล้วเอาไปวิ่งในซอยบ้านนี่เจ้ว่ามันโครตรตรงประเด็นเลยล่ะ ลำพังซื้อแค่ พรบ. ก็คงไม่ไหว แล้วในเศรษฐกิจแบบนี้ด้วย เวลาจ่ายค่าประกันทีนึงกระเป๋าก็แห้งกรอบไปตามๆกัน ก็ต้องรัดเข็มขัดกันหน่อยล่ะ
จึงเกิดเป็นคำถามที่ว่า แล้วทำไม?ถึงจะต้องมาจ่ายเงินค่าประกันรถยนต์ ปีละหมื่นด้วยล่ะ โครตเปลืองเลยแบบสะสมทรัพย์ก็ไม่มีเหมือนประกันชีวิตที่จะได้เงินคืนตอนอายุ 60 แต่นี่คือจ่ายแล้วจ่ายเลย เพราะอย่างงี้ไงบริษัทประกันถึงรวยวันรวยคืน “ประกันรถเติมเงิน” มันเลยเข้ามามีบทบาทตรงนี้ไงล่ะ เจ๋งไปเลยใช่มั้ยละ ..แต่จะเจ๋งจริงอย่างที่บอกมั้ยต้องมาดูที่การใช้งานจริง มันได้ตามนั้นรึป่าว?
นี่คือแพ็กเก็จความคุ้มครองของประกันเติมเงิน “ไทยวิวัฒน์” ที่สามารถเลือกแพ็กเก็จตามการใช้งานจริงของรถเราได้ บางคนอยากรู้ว่ามันเป็นยังไงก็ลองใช้ไปก่อน เดือนนึง หรือบางคนเน้นประหยัดและคุ้มค่า ก็เลือกไปเลยจ้า แพ็คเก็จ 12 เดือน 960 ชม. หรือ 365 วัน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
อย่างเจ้เองประกันชั้น 1 HONDA CITY ทุนประกัน 400,000ซ่อมอู่เลือกแพ็คเก็จ 600ชม. ภายใน 180 วัน( 6 เดือน) เจ้จ่ายค่าประกันไป 4,200 บาท ถ้าคิดเป็นปีก็ 8,400 บาท แต่เมื่อเจ้เทียบกับรายปีเจ้ต้องจ่าย 15,800 บาทต่อปีและต้องจ่ายก้อนใหญ่ เจ้ว่าเจ้ยอมจ่ายแค่นี้พอ มันใช่อ่ะ!! สำหรับคนรายได้แบบเจ้ (รูปอาจจะไม่ชัดสักหน่อยน้า..พอดีที่บ้านไม่ค่อยมีไฟช่วงนี้ประหยัด อิอิๆ )
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ในส่วนของความคุ้มครองนั้นก็เหมือนรายปีทุกอย่าง รถหาย ไฟไหม้ก็คุ้มครองเช่นกัน ( อันนี้เค้าบอกนะว่าคุ้มครอง 24 ชม. เพราะฉะนั้นถ้าหากรถจอดอยู่นิ่งๆ ไม่ได้เปิดประกัน เค้าก็คุ้มครองจ้า )เอ๊ะๆ ถ้าจอดอยู่ข้างถนน เรา ปิดประกันอยู่แล้วมีรถคันอื่นมาชน แบบนี้ประกันจะเคลมให้มั้ย ? สงสัยเหมือนกันใช่มั้ยละ เรื่องแบบนี้ก็ต้องหาข้อมูลกันหน่อย โดยทั่วไปแล้วถ้าเค้าชนเรา ประกันของฝ่ายคู่กรณีก็ต้องเป็นฝ่ายรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด แต่ถ้าหากว่าหาคู่กรณีไม่ได้จริงๆ หรือเกิดเหตุการณ์ชนแล้วหนี จากในตารางทางประกันเค้ารับเคลมให้แต่ต้องเสียค่าใช้จ่ายส่วนแรกกันไป
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
วิธีการใช้งาน ..สำหรับเจ้แล้ว..มันตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ ที่แบบว่าใหม่มากๆ สำหรับคนที่ Low เทคโนโลยีก็คงเข้าถึงยากหน่อย แต่ก็ต้องมาเรียนรู้กันไป เพราะสมัยนี้เวลาจะซื้อ ขาย หรือต่อประกัน เค้าก็ขายผ่านเว็บไซต์กันหมด แต่สำหรับพวกที่ไม่ถนัดกันจริ้งๆ อยากถามโน่นถามนี่ Call center02-200-7000เลยจ้า..เค้ายังรองรับอยู่ แต่อันที่น่าสนใจมากกว่าใครก็ตรงที่เค้าเปิด – ปิดประกันผ่านแอปพลิเคชั่นเนี่ยแหละ .พอขึ้นรถก็เปิด พอลงรถก็ปิด หรือจะต่อประกันก็สามารถทำได้ผ่านแอปพลิเคชั่นหมดเลย กรมธรรม์ก็ส่งผ่านแอปฯ นาจา ..ธรรมดาซะที่ไหน แล้วเวลาเคลมล่ะทำไง ? ก็เรียกพนักงานผ่านแอปฯ นี่แหละไม่ต้องเสียเวลาไปหาเบอร์โทร ไม่ต้องมานั่งบอกนะจ๊ะว่าอยู่ไหน ซอยอะไร เพราะเค้าทำงานกันผ่าน GPS อยู่ที่ไหนพนักงานก็รู้หมด..แถมยังบอกได้อีกว่าตอนนี้พนักงานมาถึงไหนแล้ว .โอ้ยมันฉลาดจริงๆ อีกหน่อยเทคโนโลยีพวกนี้คนไทยก็คงใช้กันหมดแล้วล่ะเจ้ว่านะ เพียงแต่ที่นี่เค้าเจ้าแรกเท่านั้น
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แล้วจ่ายตังค์ทางไหน? ก็ในแอปนั่นละค่า หรือที่เค้าเรียกว่าเติมเงินจ่ายผ่านแอปฯ ผ่านบัตรเครดิต หรือจะไปจ่ายผ่านเค้าเตอร์เซอร์วิส หรือจ่ายผ่านธนาคารก็ได้เช่นกัน แบบนี้เค้าเรียกว่าอะไรๆ มันก็ดูสะด๊วกๆ สะดวก จะพานให้คนขี้เกียจไปเลยก็ว่าได้ นับว่าเป็นประกันแนวใหม่ในมุมมองของเจ้คิดว่ามันน่าสนใจอยู่ไม่น้อย และเดี่ยวนี้คนไทยเองก็นับว่าเป็นประเทศอันดับต้นๆของโลกที่เข้าถึงเทคโนโลยีได้อย่างรวดเร็ว เจ้ว่าในอนาคตเราก็คงไม่ต้องเสียเงินกันให้มากเพราะมันจะมีตัวเลือกต่างๆ นาๆ มาให้เราเลือกกันมากโขววว อยู่ ..ประกันเติมเงินนี้ก็เช่นกัน
เอาล่ะ พูดก็ดีก็ซะเยอะ !! แล้วข้อเสียล่ะ ทำไมจะไม่มี .. Nobody's perfect!! จริงมั้ยละ ถ้าพูดถึงความประหยัดนั้นไม่เถียงเลยสักคำเลย เพราะเมื่อเทียบกับเบี้ยรายปี มันก็ชัดเจนสุดๆ ตอบโจทย์มากๆ สำหรับคนที่ใช้รถไม่กี่ชั่วโมงต่อวัน และความเป็นจริงแล้วคนเราไม่มีใครขับรถตลอด 24 ชม. ก็ต้องมีกิน มีนอนกันบ้างล่ะ และยิ่งสมัยนี้อะไรก็ดูแพงไปหมด ใครซื้อรถก็ถือว่ามีค่าเสื่อม ต้องจ่ายโน่นจ่ายนี่ ค่าน้ำมันเอย ค่าซ่อมเอย ไหนจะของตกแต่งอีกล่ะ จำเป็นทั้งนั้นเลย มีแต่ค่าใช้จ่ายเกินสุด “ประกันรถเติมเงิน” แม้มันจะเป็นประกันรถอินเทรนด์ ล้ำสมัย แต่ข้อเสียก็มีไม่น้อยที่ล้อมากับพฤติกรรมของผู้ขับขี่ ยอมรับว่าที่ผ่านมาตอนแรกๆ เจ้เองก็มีปัญหามากๆ กับความขี้ลืมของตัวเองมันเลยเป็นข้อเสีย ถ้าไม่ลืมเปิด ก็ลืมปิด อันนี้ฝากถึงไทยวิวัฒน์ถ้าได้เข้ามาอ่าน ..ฝากช่วยไปคิดต่อด้วยนะ ว่าสำหรับคนขี้ลืมอย่างเจ้เนี่ยจะแก้ยังไง ..อยากจะใช้ต่อมันก็ติดตรงนี้แหละ แม้เค้าจะมีตั้งเวลาอัตโนมัติ หรือมีการเตือน ทุก 6 ชม.บางทียุ่งๆ เจ้ก็ลืมเหมือนกัน แต่พอใช้ไปเรื่อยๆก็ชินนะ เพราะเจ้ติดมือถือตลอดเวลาอยู่แล้ว แต่ถ้ารีบมากเจ้ก็มีลืมบ้างแก้ไม่หายสักที เอาเป็นว่าอย่าให้เจ้ทำอะไรมากไปกว่านี้เลยมันเหนื่อยสุดๆ แค่จ่ายตังค์ก็เหนื่อยแล้วละจ้า
สุดท้าย ! ฝากไว้สำหรับใครที่สนใจก็อย่าลืมศึกษากันให้ดีก่อนตัดสินใจ แม้ว่าราคาเบี้ยจะไม่สูง แบ่งจ่ายเป็นเป็นรายเดือนได้ตามแพ็คเก็จของเค้า ไม่ต้องเสียเงินก้อนใหญ่ๆ เหมือนประกันรายปี แต่ก็ต้องเช็คดีๆ เพราะบางทีเจ้เองอาจข้อมูลไม่ครบ ก็รู้เท่าที่ตัวเองรู้ตามที่ใช้จริงอ่ะนะ ..ของอะไรใช้แล้วดีก็อยากมาบอก เผื่อจะเป็นประโยชน์กัน แต่สำหรับเจ้เองส่วนตัวแล้วชอบและยังคงใช้ต่อ เพราะถ้าเปรียบเทียบข้อดี ข้อเสียแล้วถึงแม้มันจะติดอยู่นิดนึง นิดนึงจริงๆ และการใช้งานไม่ได้ยากอย่างที่คิดไว้ เจ้ว่ามันคุ้มทีเดียวแหละ ถ้าแลกกับการต้องเสียค่าประกันปีละหมื่นกว่าหรือสองหมื่น และต้องจ่ายเงินก้อนใหญ่ๆ ที่ทำให้ใจหายว๊าฟ ที่สำคัญความคุ้มครองไม่ต่างกัน มันก็โอเคมากๆเลยนะ เอาล่ะ!!วันนี้เจ้เม้าส์มอยมาพอสมควรก็คงจะต้องลากันก่อน ไว้วันหน้ามีอะไรใหม่ๆ..เจ้จะมาเล่าใหม่แล้วกันนะจ๊ะ
ปล.กระทู้นี้เกิดจากประสบการณ์จริง ไม่อิงโฆษณา ไม่ขาย ไม่เชื่อไม่ต้องซื้อ ไปพิสูจน์กันเอาเองแสดงความคิดเห็นได้แต่อย่าด่าแรงนาจา ..เดี่ยวกระทู้จะโดนอุ้ม ลับหายปายย กราบ..จากใจคนเขียนรีวิวครั้งแรก