ทำไมผมรู้สึกว่า เวิร์คพ้อยท์ เดินเกมพลาดที่จัด The Mask Singer ซีซั่น 2 ติดกัน

ก็เข้าใจว่า เวิร์คพ้อยท์ เห็นกระแสซีซั่นแรกกำลังดี เลยน้ำขึ้นให้รีบตัก สร้างต่อเนื่องกันเลย เพื่อหวังดึงเรทติ้ง
แต่ผมกลับคิดว่า ด้วยกระแสที่แรงไปถึงจุดพีคแล้ว มันจะค่อยๆ ซาลงไปเอง
กลุ่มคนดูก็จะเริ่มเบื่อหรือชินชากับการถอดหน้ากากทุกสัปดาห์ตลอดปี สุดท้ายเรทติ้งก็จะลดลง กระแสก็ไม่เป็นที่พูดถึงอีกต่อไป

ในทางกลับกัน ถ้าเลิกเว้นระยะเป็นซีซั่นปีต่อปี มันจะทำให้คนดูรู้สึกรอ มีความคาดหวังจะเจอสิ่งใหม่ๆ ทุกปี แถมจะเกิดกระแสได้ทุกๆ ปี
แบบนี้น่าจะยืดอายุรายการได้อีกนาน

อย่างไรก็ตาม รายการประเภท การประกวดที่แบ่งออกเป็นซีซั่น มักจะมีอายุสั้น เป็นที่นิยมอยู่ไม่กี่ปี หลังจากนี้คนก้จะไม่สนใจมากนัก
ที่ยืนระยะได้นานก็คงจะเป็นเวที เดอะสตาร์ ที่สามารถเรียกกระแสได้ประมาณ 6 ปี รุ่นกัน ริท โตโน่ ซึ่งในปีหลังๆ คนก็แทบจำผู้เข้าประกวดไม่ได้ จนสุดท้ายต้องเว้นการจัด
The Voice ก็เช่นกันในซีซั่นแรกและสองสาม มีกระแสและเป็นที่พูดถึงอย่างมาก แต่พอเข้าปี4-5 คนก็จำแทบไม่ได้ว่าใครได้แชมป์
Thailand Got Talent รายการนี้ น่าจะดังแค่ปีแรกๆ ปีต่อๆ มาคนยังไม่รู้เลยว่าจะการประกวดไปแล้ว

ทั้งหมดนี้เป็นแค่ความหวังดีจากแฟนรายการที่อย่างเห็นรายการนี้อยู่ไปนานๆ เพราะความอยากรู้ของคนมันยังขายได้
ปีนีจะเริ่มซีซั่น 2 แล้ว จะเปลี่ยนคงไม่ทัน แต่หวังว่า จะเว้นระยะปี 3 เพื่อเรียกกระแสกลับมาอีกครั้ง

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่