รานิเอรี่ เตรียมบินมาไทยเจรจาคุมทีมชาติไทย

เคลาดิโอ รานิเอรี อดีตผู้จัดการทีมผู้นำเลสเตอร์ ซิตี้ คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก เตรียมเดินทางมาประเทศไทย เพื่อเข้าพบ พลตำรวจเอก สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ในการเจรจาเข้ารับตำแหน่งหัวหน้าผู้ฝึกสอนฟุตบอลทีมชาติไทยคนใหม่

ฟ็อกซ์สปอร์ต สื่อกีฬาชื่อดัง รายงานข่าวว่า เคลาดิโอ รานิเอรี อดีตผู้จัดการทีมผู้นำเลสเตอร์ ซิตี้ สร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกเมื่อฤดูกาลที่แล้ว เตรียมเดินทางมาประเทศไทย เพื่อพบกับ พลตำรวจเอก สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย เพื่อเจรจาในการเข้ารับตำแหน่งหัวหน้าผู้ฝึกสอนฟุตบอลทีมชาติไทยคนใหม่ แทนที่ของ ซิโก้ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ที่ประกาศยุติบทบาทเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว อย่างไรก็ตามยังไม่มีกำหนดและวันเวลาที่ชัดเจนว่า รานิเอรี่ จะเดินทางมายังประเทศไทยเมื่อใด

สำหรับ รานิเอรี่ แม้จะนำเลสเตอร์ คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกเมื่อฤดูกาลที่แล้ว แต่ในฤดูกาลนี้กลับสร้างผลงานได้อย่างย่ำแย่จนเลสเตอร์ ต้องดิ้นรนหนีการตกชั้น ก่อนที่สุดท้ายจะถูกเลสเตอร์ ไล่ออกจากตำแหน่ง และขณะนี้ก็ยังไม่ได้รับงานคุมทีมใด


ส่วนเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา เรเน่ มูเลนสตีน อดีตมือขวาของเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน อดีตผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ก็ได้เดินทางเข้าพบ พลตำรวจเอก สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เพื่อเสนอเป็นตัวเลือกในการนั่งกุนซือคนใหม่ของทีมชาติไทย เช่นกัน

สำหรับ มูเลนสตีน วัย 53 ปี ที่เคยเป็นมือขวาของ เฟอร์กูสัน ช่วงปี 2007-2013 จะกลายเป็นรายที่ 2 ที่เข้ามาถึงที่ทำการของสมาคมฯ ต่อจาก วินฟรีด เชเฟอร์ อดีตกุนซือทีมชาติไทย, โชคทวี พรหมรักษ์ ที่เคยทำฟุตบอลทีมชาติไทยคว้าแชมป์ซีเกมส์ปี 2014 นั้นเอง

ขณะที่ พลตำรวจเอก สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ออกยืนยันว่า โค้ชเฮง วิทยา เลาหกุล ประธานฝ่ายพัฒนาเทคนิค มีบทบาทต่อการทำงานของสมาคมกีฬาฟุตบอล และไม่ใช่เสือกระดาษเหมือนกับที่ ซิโก้ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง อดีตโค้ชทีมชาติไทยให้สัมภาษณ์เมื่อวานนี้

ขณะที่ KBU SPORT POLL จากมหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต รายงานผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลที่สนใจฟุตบอลไทยอย่างต่อเนื่อง โดยกลุ่มตัวอย่างมีอายุตั้งแต่ 15 ปี ขึ้นไปจำนวน 1,121 คน ในประเด็น “ปฏิรูปบอลไทยก่อนไปบอลโลก” ปรากฎว่า ในหัวข้อว่า ปัจจุบันหัวหน้าผู้ฝึกสอนควรเป็นคนไทยหรือชาวต่างชาติ ร้อยละ 48.56 เห็นควรว่าเป็นชาวต่างชาติ รองลงมาร้อยล่ะ 46.98 ควรเป็นคนไทย และ ร้อยล่ะ 4.46 ไม่แสดงความคิดเห็น

ส่วนด้าน การบริหารจัดการที่จะนำไปสู่ความสำเร็จ ร้อยละ 29.05 บอกว่าควรเริ่มจากผู้บริหารสมาคมฯมีวิสัยทัศน์ รองลงมาร้อยละ 26.69 ระบุว่าควรวางระบบการพัฒนาฟุตบอลขั้นพื้นฐานในระดับเยาวชนทั่วประเทศอย่างเป็นระบบต่อเนื่อง และ ร้อยละ 19.33 บอกว่าควรพัฒนาผู้ฝึกสอนในทุกระดับอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง

ปิดท้าย ด้านคุณลักษณะของหัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมฟุตบอลทีมชาติไทย ร้อยละ 24.48 บอกว่าควรเป็นผู้นำที่มีความรู้และประสบการณ์ในระดับนานาชาติ รองลงมา ร้อยละ 22.64 มีชื่อเสียงและประสบความสำเร็จในเกมระดับชาติ และ ร้อยละ 19.21 มีแผนงานการพัฒนานักกีฬาอย่างเป็นรูปธรรม

ที่มาจาก https://www.youtube.com/watch?v=ho1nV0Zf0HQ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่