สวัสดีค่ะ นี่เป็นกระทู้สนทนากระทู้แรกของเรา(ปกติตั้งแต่กระทู้คำถาม)ถ้าผิดพลาดประการใดก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ..
ตอนนี้เรากำลังจะเข้ามหาลัยแล้ว และช่วงนี้เจอข่าวเด็กเบียวบ่อยมากค่ะ(ส่วนใหญ่จะเป็นพี่ๆในเฟสที่เจอ ส่วนตัวแทบไม่เคยเจอเลยค่ะ----) ยอมรับเลยนะคะว่าเคยเป็นเหมือนกัน และเป็นหนักค่ดๆ😂😂 เลยอยากจะมาแชร์ประสบการณ์การเป็นจูนิเบียวของเราให้ฟังค่ะ
ช่วงที่เราเริ่มเป็นเหมือนจะช่วงประมาณ ป.5ขึ้นป.6ได้ เริ่มแรกเลยคือเริ่มติดการ์ตูนค่ะแต่ก่อนแทบไม่ดูพวกการ์ตูนญี่ปุ่นเลย แต่ก็ลืมไปแล้วล่ะว่าทำไมถึงมาดู(ฮา) เรื่องแรกที่ติดและทำให้เราเริ่มออกอาการจูนิเบียวคือรีบอร์นค่ะ(ไม่เซ็นเซอร์ชื่อจะเป็นไรมั้ย---) เรารักการ์ตูนเรื่องนี้มากๆ จนถึงตอนนี้ก็ยังรักอยู่ แต่ก็ไม่ได้เห่อเท่าตอนนั้นแล้ว ตอนนั้นเหมือนจะถึงขั้นตั้งชื่อเพื่อนเป็นตัวละครในเรื่องเลย เราตั้งชื่อตัวเองเป็นโกคุเดระ (โคตรอาย555555) เพื่อนคนอื่นๆก็ตั้งไปตามที่คิดว่าเหมาะสม พอตอนเช้าไปโรงเรียนเจอเพื่อนคนหนึ่งที่เราตั้งให้เป็นเรียวเฮเราก็เรียก 'ไอ้หัวสนามหญ้า!' (omg ทำไปได้555555) อีกตอนที่คิดว่าแหลมากคือเราเจอเพื่อนที่ตั้งให้เป็นเบียงกี้ก็แหล ทำเป็นว่าปวดท้อง(ใครเคยดูรีบอร์นจะรู้ว่าทำไม) แล้วก็มโนไปว่าตัวเองมีพลังธาตุนู้นธาตุนี้อยู่ในตัว(ตามเนื้อเรื่อง) ป.6 นี่ยังเป็นแค่อาการเริ่มต้นเท่านั้นค่ะ...
อีกช่วงคือตอน ม.1 ม.2 ช่วงนี้จะเป็นช่วงที่อยู่ในโลกโซเชียลเลยค่ะ ม.1 ยังไม่เท่าไหร่ แค่ทำตัวนิ่งๆให้ตัวเองดูโดดเดี่ยวเฉยๆ(พวกเกรดอะไรพวกนี้ยังไม่ตก) จริงๆมันก็ช่วยเรื่องคนมาแกล้งได้ไม่น้อย เพราะชอบมีคนมาแกล้งมาแหย่เรา เมื่อเราทำเฉยๆใส่เขาก็เบื่อแล้วไม่ทำอีก
พอขึ้น ม.2 เท่านั้นแหละเจอเพื่อนใหม่(ตอนนี้ก็ค่อนข้างสนิทกัน)เพื่อนคนนี้เป็นคนชักนำเราเข้าสู่วงการบอทและโรลเพลย์ หลังจากนั้นก็เรียนรู้การเล่นบอทมาเรื่อยๆ ช่วงนี้จะเป็นช่วงที่เบียวหนักมากๆ ยอมรับเลยว่าตอนนั้นโคตรเป็นเด็กที่เอ่อ...แนวๆเรื่องทางเพศอะไรทำนองนั้นแหละ โพสต์ว่า 'อยากโดนกด' บ่อยมากกกกก อื่ม...ก็นะ แอบอายตัวเองตอนนั้นอยู่เหมือนกัน😂😂 แล้วคือเป็นช่วงที่รู้จักการ์ตูนวายใหม่ๆด้วย แหม่... แล้วเหมือนกลายเป็นช่วงที่(คิดว่า)เป็นจุดตกต่ำมากในชีวิตเลย เพราะตอนนั้นเป็นคนมีความรักในโลกออนไลน์ด้วย(ไปรักบอทเข้า---)ซึ่ง...รักเขาฝ่ายเดียวแล้วไปโมเมว่าเขาก็รักเรา โง่มาก อยากคุยโทรศัพท์กับเขา เติมเงินหมดไปหลายร้อย บางทีถ้าเขาบอกว่าเงินหมดก็สะเออะไปเติมให้เขาอีก หลงคิดว่าเขาจะรักเรา----ร้องห่มร้องไห้จะเป็นจะตาย เหมือนจะเป็นโรคซึมเศร้าเล็กน้อยด้วยมั้ง(ตกลงยังอยู่เรื่องเบียวใช่มั้ย555555) บางวันแทบไม่ได้กินข้าวเลย เคยมีคิดจะฆ่าตัวตายด้วยนะตอนนั้น แถมยังกรีดข้อมือตัวเองอีก เป็นอะไรที่สะเปะสะปะมากตอนนั้น เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย บางทีก็มโนว่าตัวเองเป็นสายโหด(ซึ่งไม่เคยตบตีกับใครเลยมาทั้งชีวิต..) วาดเลือด เขียนชื่อคนนู้นคนนี้ด้วยปากกาแดง วาดรูปคนเลือดอาบโหดๆด้วยคิดว่าคนอื่นมันจะกลัวตู...เปล๊า ตูเบียวไปเองทั้งนั้น55555555 ตอนนั้นมีการตั้งแก๊งขึ้นด้วย แจกแจงรายละเอียดแยกเป็นสาขาไปเลย ชวนคนอื่นมาร่วมด้วยอีก(เอาเข้าไป) มโนไปว่าโตขึ้นแก๊งเราจะเป็นแก๊งมาเฟียที่มีชื่อเสียงแบบวองโกเล่แฟมิลี่ ช่วยเหลือคนอื่น มีพลังวิเศษ มีแหวนประจำแก๊ง ออกแบบเสื้อ โลโก้ อะไรต่อมิอะไรอย่างดี คิดว่าตัวเองปีนนู่นข้ามนี่ได้(แบบจอมยุทธที่ตีลังกาได้หลบนู่นนี่ได้ไรงี้) แล้วคือเกรดตกรวดเลยตอนนั้น มัวแต่ไปสนใจอะไรก็ไม่รู้ จริงๆมันก็เรียนไม่ยากหรอก แต่เราไปคิดว่ามันยากเอง แม่ก็บอกว่าถ้าเราส่งงานครบก็ไม่ติด 0 ติด ร หรอก...แม่เจ้า โคตรโหลยโท่ยไร้ความรับผิดชอบมาก ม.2 เนี่ยแหละที่สุดๆแล้ว จากเกรด 3 กว่าๆ เหลือ 2 บางคนอาจจะมองว่ามันไม่เยอะ แต่จริงๆมันเยอะนะ
ม.3 แม่ก็ขอไว้ว่าปีสุดท้ายแล้วก็อย่าให้ติดอะไรอีกเลยนะ ปรากฏว่ามันก็ทำได้ อาการจูนิเบียวเหมือนจะเริ่มน้อยลง แต่ก็ยังไม่เท่าไหร่ ยังเป็นอยู่ในระดับกลางๆไม่เท่าตอนม.2 แต่เพราะการตัดสินใจด้วยความเบียวของตัวเองนี่แหละ เลยได้ไปเรียน กศน.(ขอแม่เองด้วยนะ---) แต่ก็ไม่ได้รู้สึกเสียดายอะไรนะ เพราะมันทำให้เราได้รู้จักสังคมที่เปิดกว้างมากขึ้น ได้คุยกับครอบครัวมากขึ้นด้วย ได้รู้อะไรมากมายที่ไม่เคยรู้มาก่อน
ม.ปลาย กศน.(พอดีมันเรียนแค่ 2 ปี แยกม.4-6 ไม่ถูก) ช่วงที่เข้ามาเรียนใหม่ๆยังมีความเบียวอยู่ เคยโดนพี่ในนั้น(อายุน่าจะ 20 หรือ 30+ แล้วนี่แหละ) มาแต๊ะอั๋ง! กลายเป็นว่ามาสะกิดต่อมเบียวเรา! วาดรูปเลือดแล้วเขียนว่า 'I hate you' ให้เขาเห็นเพราะไปเบียวเองว่าเขาโง่ภาษาอังกฤษ!!! แล้วคิดว่าเขาจะกลัว! เขาเห็นเลยไม่มายุ่งกับเราอีก(แต่ก็มาคุยบ้างนิดหน่อย) อีกเรื่องหนึ่งคือในไลน์ มีรุ่นพี่ที่เรียนห้องเดียวกันทักมาถามว่าชื่ออะไร กินข้าวยัง ก็ไปเบียวอีกว่าเขาจะมาจีบเรา เราก็กลัว(ไม่รู้ทำไมถึงกลัว---) ตอบกลับเขาไปว่า 'เสื-อก' โอ้แม่เจ้า รู้สึกผิดแรงมาก จริงๆพี่แกเป็นคนดีนะ ตอนนี้ก็ทำเนียนๆไว้ก่อน พอจบแล้วจะไปขอโทษเขา...(นั่งทำใจมาตั้งเกือบปี)
ปัจจุบันนี้ก็คิดว่าน่าจะยังมีอาการจูนิเบียวอ่อนๆอยู่ แต่ก็ไม่ได้แสดงออกมาทางคำพูดหรือท่าทางมากนัก เก็บไว้ในใจพอ ตอนนี้ก็ยังเล่นบอทอยู่ แล้วก็เล่นคอมมูด้วย แต่ไม่ได้เน้นเซ็กส์เหมือนตอนเป็นจูนิเบียวแรงๆ เราเน้นเฮฮาสนุกสนานกับการสวมบทบาท บางทีก็พูดคุยโดยไม่สวมบทบาทเหมือนกัน เรื่องมโนว่าตัวเองมีพลังก็หายไปละ กลับมาอยู่กับความเป็นจริง จากที่ชอบมองโลกในแง่ร้ายกลายเป็นคนมองโลกในแง่ดีซะงั้น เป็นพวกที่คิดว่าอะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด โคตรโลกสวย5555555 เรื่องกรีดข้อมืออะไรแบบนี้ก็เปลี่ยนละ เปลี่ยนมาเป็นคนซาดิสม์แทน(ฮา) เห็นคัตเตอร์คมๆไม่ได้ อยากลองเอามาปาดเล่นที่หลังมือ(แต่ปาดเบาๆนะ) ถ้าเลือดออกก็เลือดออก ถ้าไม่เลือดออกก็ดีไป5555555
ก็อยากฝากถึงคนที่พบเจอเด็กจูนิเบียวด้วยนะคะว่าอย่าไปถือเด็กๆนักเลย แต่ถ้าทางนั้นเริ่มก่อนก็...ตามแต่จะพิจารณาเลยค่ะ55555555 ตอนนี้เราเองก็มีเพื่อนในไลน์อยู่คนหนึ่งเหมือนกันที่เป็นจูนิเบียวอยู่(นางอายุน้อยกว่า) นางมักจะมองโลกในแง่ร้ายเสมอ แล้วก็มโนว่าชีวิตตัวเองมันแย่ พ่อแม่ไม่เข้าใจ(ซึ่งเรามองว่านางไม่เข้าใจพ่อแม่มากกว่า) เราก็คอยให้กำลังใจให้คำปรึกษามาตลอด ก็พอช่วยได้บ้างนะ เราไม่อยากให้เขาคิดฆ่าตัวตาย เพราะในกรณีเด็กบางคนเบียวมากๆจนฆ่าตัวตายก็มี(เราก็เคยคิดนะ แต่ไม่กล้าทำ กลัว😂😂😂)
ใครที่มีประสบการณ์เป็นจูนิเบียวหรืออะไรก็ตามที่เกี่ยวข้องมาเล่าสู่กันฟังได้นะคะ ถ้าเราพิมพ์อะไรที่ไม่เหมาะสม หรือพิมพ์ผิด หรือออกทะเล(ฮา)ไปก็บอกได้นะคะ เดี๋ยวจะแก้ให้
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ
เล่าประสบการณ์การเป็นจูนิเบียว...
ตอนนี้เรากำลังจะเข้ามหาลัยแล้ว และช่วงนี้เจอข่าวเด็กเบียวบ่อยมากค่ะ(ส่วนใหญ่จะเป็นพี่ๆในเฟสที่เจอ ส่วนตัวแทบไม่เคยเจอเลยค่ะ----) ยอมรับเลยนะคะว่าเคยเป็นเหมือนกัน และเป็นหนักค่ดๆ😂😂 เลยอยากจะมาแชร์ประสบการณ์การเป็นจูนิเบียวของเราให้ฟังค่ะ
ช่วงที่เราเริ่มเป็นเหมือนจะช่วงประมาณ ป.5ขึ้นป.6ได้ เริ่มแรกเลยคือเริ่มติดการ์ตูนค่ะแต่ก่อนแทบไม่ดูพวกการ์ตูนญี่ปุ่นเลย แต่ก็ลืมไปแล้วล่ะว่าทำไมถึงมาดู(ฮา) เรื่องแรกที่ติดและทำให้เราเริ่มออกอาการจูนิเบียวคือรีบอร์นค่ะ(ไม่เซ็นเซอร์ชื่อจะเป็นไรมั้ย---) เรารักการ์ตูนเรื่องนี้มากๆ จนถึงตอนนี้ก็ยังรักอยู่ แต่ก็ไม่ได้เห่อเท่าตอนนั้นแล้ว ตอนนั้นเหมือนจะถึงขั้นตั้งชื่อเพื่อนเป็นตัวละครในเรื่องเลย เราตั้งชื่อตัวเองเป็นโกคุเดระ (โคตรอาย555555) เพื่อนคนอื่นๆก็ตั้งไปตามที่คิดว่าเหมาะสม พอตอนเช้าไปโรงเรียนเจอเพื่อนคนหนึ่งที่เราตั้งให้เป็นเรียวเฮเราก็เรียก 'ไอ้หัวสนามหญ้า!' (omg ทำไปได้555555) อีกตอนที่คิดว่าแหลมากคือเราเจอเพื่อนที่ตั้งให้เป็นเบียงกี้ก็แหล ทำเป็นว่าปวดท้อง(ใครเคยดูรีบอร์นจะรู้ว่าทำไม) แล้วก็มโนไปว่าตัวเองมีพลังธาตุนู้นธาตุนี้อยู่ในตัว(ตามเนื้อเรื่อง) ป.6 นี่ยังเป็นแค่อาการเริ่มต้นเท่านั้นค่ะ...
อีกช่วงคือตอน ม.1 ม.2 ช่วงนี้จะเป็นช่วงที่อยู่ในโลกโซเชียลเลยค่ะ ม.1 ยังไม่เท่าไหร่ แค่ทำตัวนิ่งๆให้ตัวเองดูโดดเดี่ยวเฉยๆ(พวกเกรดอะไรพวกนี้ยังไม่ตก) จริงๆมันก็ช่วยเรื่องคนมาแกล้งได้ไม่น้อย เพราะชอบมีคนมาแกล้งมาแหย่เรา เมื่อเราทำเฉยๆใส่เขาก็เบื่อแล้วไม่ทำอีก
พอขึ้น ม.2 เท่านั้นแหละเจอเพื่อนใหม่(ตอนนี้ก็ค่อนข้างสนิทกัน)เพื่อนคนนี้เป็นคนชักนำเราเข้าสู่วงการบอทและโรลเพลย์ หลังจากนั้นก็เรียนรู้การเล่นบอทมาเรื่อยๆ ช่วงนี้จะเป็นช่วงที่เบียวหนักมากๆ ยอมรับเลยว่าตอนนั้นโคตรเป็นเด็กที่เอ่อ...แนวๆเรื่องทางเพศอะไรทำนองนั้นแหละ โพสต์ว่า 'อยากโดนกด' บ่อยมากกกกก อื่ม...ก็นะ แอบอายตัวเองตอนนั้นอยู่เหมือนกัน😂😂 แล้วคือเป็นช่วงที่รู้จักการ์ตูนวายใหม่ๆด้วย แหม่... แล้วเหมือนกลายเป็นช่วงที่(คิดว่า)เป็นจุดตกต่ำมากในชีวิตเลย เพราะตอนนั้นเป็นคนมีความรักในโลกออนไลน์ด้วย(ไปรักบอทเข้า---)ซึ่ง...รักเขาฝ่ายเดียวแล้วไปโมเมว่าเขาก็รักเรา โง่มาก อยากคุยโทรศัพท์กับเขา เติมเงินหมดไปหลายร้อย บางทีถ้าเขาบอกว่าเงินหมดก็สะเออะไปเติมให้เขาอีก หลงคิดว่าเขาจะรักเรา----ร้องห่มร้องไห้จะเป็นจะตาย เหมือนจะเป็นโรคซึมเศร้าเล็กน้อยด้วยมั้ง(ตกลงยังอยู่เรื่องเบียวใช่มั้ย555555) บางวันแทบไม่ได้กินข้าวเลย เคยมีคิดจะฆ่าตัวตายด้วยนะตอนนั้น แถมยังกรีดข้อมือตัวเองอีก เป็นอะไรที่สะเปะสะปะมากตอนนั้น เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย บางทีก็มโนว่าตัวเองเป็นสายโหด(ซึ่งไม่เคยตบตีกับใครเลยมาทั้งชีวิต..) วาดเลือด เขียนชื่อคนนู้นคนนี้ด้วยปากกาแดง วาดรูปคนเลือดอาบโหดๆด้วยคิดว่าคนอื่นมันจะกลัวตู...เปล๊า ตูเบียวไปเองทั้งนั้น55555555 ตอนนั้นมีการตั้งแก๊งขึ้นด้วย แจกแจงรายละเอียดแยกเป็นสาขาไปเลย ชวนคนอื่นมาร่วมด้วยอีก(เอาเข้าไป) มโนไปว่าโตขึ้นแก๊งเราจะเป็นแก๊งมาเฟียที่มีชื่อเสียงแบบวองโกเล่แฟมิลี่ ช่วยเหลือคนอื่น มีพลังวิเศษ มีแหวนประจำแก๊ง ออกแบบเสื้อ โลโก้ อะไรต่อมิอะไรอย่างดี คิดว่าตัวเองปีนนู่นข้ามนี่ได้(แบบจอมยุทธที่ตีลังกาได้หลบนู่นนี่ได้ไรงี้) แล้วคือเกรดตกรวดเลยตอนนั้น มัวแต่ไปสนใจอะไรก็ไม่รู้ จริงๆมันก็เรียนไม่ยากหรอก แต่เราไปคิดว่ามันยากเอง แม่ก็บอกว่าถ้าเราส่งงานครบก็ไม่ติด 0 ติด ร หรอก...แม่เจ้า โคตรโหลยโท่ยไร้ความรับผิดชอบมาก ม.2 เนี่ยแหละที่สุดๆแล้ว จากเกรด 3 กว่าๆ เหลือ 2 บางคนอาจจะมองว่ามันไม่เยอะ แต่จริงๆมันเยอะนะ
ม.3 แม่ก็ขอไว้ว่าปีสุดท้ายแล้วก็อย่าให้ติดอะไรอีกเลยนะ ปรากฏว่ามันก็ทำได้ อาการจูนิเบียวเหมือนจะเริ่มน้อยลง แต่ก็ยังไม่เท่าไหร่ ยังเป็นอยู่ในระดับกลางๆไม่เท่าตอนม.2 แต่เพราะการตัดสินใจด้วยความเบียวของตัวเองนี่แหละ เลยได้ไปเรียน กศน.(ขอแม่เองด้วยนะ---) แต่ก็ไม่ได้รู้สึกเสียดายอะไรนะ เพราะมันทำให้เราได้รู้จักสังคมที่เปิดกว้างมากขึ้น ได้คุยกับครอบครัวมากขึ้นด้วย ได้รู้อะไรมากมายที่ไม่เคยรู้มาก่อน
ม.ปลาย กศน.(พอดีมันเรียนแค่ 2 ปี แยกม.4-6 ไม่ถูก) ช่วงที่เข้ามาเรียนใหม่ๆยังมีความเบียวอยู่ เคยโดนพี่ในนั้น(อายุน่าจะ 20 หรือ 30+ แล้วนี่แหละ) มาแต๊ะอั๋ง! กลายเป็นว่ามาสะกิดต่อมเบียวเรา! วาดรูปเลือดแล้วเขียนว่า 'I hate you' ให้เขาเห็นเพราะไปเบียวเองว่าเขาโง่ภาษาอังกฤษ!!! แล้วคิดว่าเขาจะกลัว! เขาเห็นเลยไม่มายุ่งกับเราอีก(แต่ก็มาคุยบ้างนิดหน่อย) อีกเรื่องหนึ่งคือในไลน์ มีรุ่นพี่ที่เรียนห้องเดียวกันทักมาถามว่าชื่ออะไร กินข้าวยัง ก็ไปเบียวอีกว่าเขาจะมาจีบเรา เราก็กลัว(ไม่รู้ทำไมถึงกลัว---) ตอบกลับเขาไปว่า 'เสื-อก' โอ้แม่เจ้า รู้สึกผิดแรงมาก จริงๆพี่แกเป็นคนดีนะ ตอนนี้ก็ทำเนียนๆไว้ก่อน พอจบแล้วจะไปขอโทษเขา...(นั่งทำใจมาตั้งเกือบปี)
ปัจจุบันนี้ก็คิดว่าน่าจะยังมีอาการจูนิเบียวอ่อนๆอยู่ แต่ก็ไม่ได้แสดงออกมาทางคำพูดหรือท่าทางมากนัก เก็บไว้ในใจพอ ตอนนี้ก็ยังเล่นบอทอยู่ แล้วก็เล่นคอมมูด้วย แต่ไม่ได้เน้นเซ็กส์เหมือนตอนเป็นจูนิเบียวแรงๆ เราเน้นเฮฮาสนุกสนานกับการสวมบทบาท บางทีก็พูดคุยโดยไม่สวมบทบาทเหมือนกัน เรื่องมโนว่าตัวเองมีพลังก็หายไปละ กลับมาอยู่กับความเป็นจริง จากที่ชอบมองโลกในแง่ร้ายกลายเป็นคนมองโลกในแง่ดีซะงั้น เป็นพวกที่คิดว่าอะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด โคตรโลกสวย5555555 เรื่องกรีดข้อมืออะไรแบบนี้ก็เปลี่ยนละ เปลี่ยนมาเป็นคนซาดิสม์แทน(ฮา) เห็นคัตเตอร์คมๆไม่ได้ อยากลองเอามาปาดเล่นที่หลังมือ(แต่ปาดเบาๆนะ) ถ้าเลือดออกก็เลือดออก ถ้าไม่เลือดออกก็ดีไป5555555
ก็อยากฝากถึงคนที่พบเจอเด็กจูนิเบียวด้วยนะคะว่าอย่าไปถือเด็กๆนักเลย แต่ถ้าทางนั้นเริ่มก่อนก็...ตามแต่จะพิจารณาเลยค่ะ55555555 ตอนนี้เราเองก็มีเพื่อนในไลน์อยู่คนหนึ่งเหมือนกันที่เป็นจูนิเบียวอยู่(นางอายุน้อยกว่า) นางมักจะมองโลกในแง่ร้ายเสมอ แล้วก็มโนว่าชีวิตตัวเองมันแย่ พ่อแม่ไม่เข้าใจ(ซึ่งเรามองว่านางไม่เข้าใจพ่อแม่มากกว่า) เราก็คอยให้กำลังใจให้คำปรึกษามาตลอด ก็พอช่วยได้บ้างนะ เราไม่อยากให้เขาคิดฆ่าตัวตาย เพราะในกรณีเด็กบางคนเบียวมากๆจนฆ่าตัวตายก็มี(เราก็เคยคิดนะ แต่ไม่กล้าทำ กลัว😂😂😂)
ใครที่มีประสบการณ์เป็นจูนิเบียวหรืออะไรก็ตามที่เกี่ยวข้องมาเล่าสู่กันฟังได้นะคะ ถ้าเราพิมพ์อะไรที่ไม่เหมาะสม หรือพิมพ์ผิด หรือออกทะเล(ฮา)ไปก็บอกได้นะคะ เดี๋ยวจะแก้ให้
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ